ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่ - ตอนที่ 31
ทุกคนมองไปที่ ไป๋หวู่เฉินด้วยความตกใจจนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
”เข้าใจกฎแห่งสวรรค์และโลก”
จ้าว ชานเฮอยังคงนิ่งนอนใจที่สามารถฝ่าด่านระดับความว่างเปล่าได้ แต่เมื่อได้ยินเช่นนี้หัวใจของเขาก็ขมขื่นขึ้น
นี่ต้องเป็นระดับไหนกัน จึงจะมีเจ้าสมบัติที่จะสัมผัสกฎแห่งสวรรค์และโลกได้
”ครั้งหนึ่งข้าเคยเห็นมันในหนังสือโบราณข้าได้ยินมาว่ามีปราชญ์บรรลุเหนือระดับอมตะ ข้าคิดว่านี่เป็นวิธีการนักปราชญ์คนนั้นใช้” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เดา
ไป๋หวู่เฉินพยักหน้า “ระดับของหลี่กงซีไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถเทียบได้”
ทุกคนถอนหายใจและเดินต่อไปที่ภูเขา
เมื่อพวกเขาเดินไปถึงที่ประตูของลานหลี่เหนียนฟ่านของ เฉิงฮวง และ ลั่วซือหยูก็หดเล็กลงด้วยความกลัวอย่างกระทันหันและร่างกายของพวกเขาสั่นสะเทือนราวกับว่าพวกเขาถูกตรึง
สายตาของพวกเขาจ้องมองไปที่จี้หยกที่ประตู
”ท่านพ่อนี่มันไม่ใช่ … ” ลั่วซือหยูกลืนน้ำลายและพูดด้วยความไม่อยากเชื่อ
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม“ ไม่ผิดหรอก จี้หยกนี้น่าจะเป็นจี้หยกอันนั้น
”นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ!” ลั่วซือหยูตกใจ
ไป๋หวู่เฉินกล่าวด้วยความประหลาดใจ: “เจ้าสามารถเห็นได้ว่าจี้หยกนี้พิเศษเพียงใด?”
ถ้าไม่ได้เห็นจี้หยกนี้เปลี่ยนเป็นนกฟีนิกซ์ไป๋หวู่เฉินคงไม่รู้ว่าจี้หยกนี้ยอดเยี่ยมมาก
ถ้ามองผ่านๆดูเหมือนมันจะเป็นแค่จี้หยกธรรมดา
”ข้าจะไม่ปกปิด เจ้านิกายไป๋จี้หยกนี้เดิมทีเป็นของขวัญจากลูกสาวตัวน้อยที่มอบให้ปรมาจารย์หลี่” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์กล่าว “มันเป็นเพียงจี้หยกธรรมดาสำหรับป้องกันร่างกายเท่านั้น”
”อะไร?!”
ไป๋หวู่เฉินกรีดร้องใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
นี่ไม่ได้หมายความว่าปรมาจารย์หลี่เปลี่ยนจี้หยกธรรมดาให้กลายเป็นเครื่องราง?
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อุทาน: “ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าปรมาจารย์หลี่จะมีวิธีการเช่นนี้จริงๆ ข้าคิดว่ามันต่ำต้อยเกินไป เพียงแค่ทำบางอย่างเล็กๆน้อยๆปรมาจารย์ก็สามารถทำให้จี้หยกธรรมดาเต็มไปด้วยวิถีเต๋าได้”
”มันมีมากว่าวิถีเต๋า แต่จี้หยกนี้ไม่ใช่ของธรรมดาอีกต่อไป!”
รอยยิ้มที่บิดเบี้ยวอยู่ที่ลนปากของไป๋หวูเฉินแ เขาเล่าเรื่องที่ปีศาจดาบถูกฆ่าอีกครั้ง
เฉิงฮวง และ ลั่วซือหยูอ้าปากกว้างและพูดไม่ออก
จี้หยกธรรมดาที่มีดีแค่ป้องกันร่างกายถูกเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปรียบได้กับอาวุธอมตะไร้พ่าย
จ้าว ชานเฮอเตือนว่า: “จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทำไมเจ้าไม่ดูคู่กลอนที่อยู่ถัดจากจี้หยก?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฉิงฮวง และ ลั่วซือหยูก็มองไปที่กลอนคู่นั้น
ทันใดนั้นเสียงแห่งวิถีเต๋าที่แข็งแกร่งก็พัดใส่ใบหน้าของเขา
มันดูเหมือนทำให้พวกเขากลับเป็นมนุษย์อีกครั้ง มนุษย์ที่พยายามค้นหาวิธีที่จะฝึกตนเพื่อความเป็นอมตะ เพื่อที่จะมีชีวิตที่ยืนยาว
มันมีเพียงสิบคำ แต่มีมันมรคำคล้องจองไม่รู้จบ
ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
”เทพเซียน นี่คือเทพเซียน!”
ริมฝีปากของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สั่นสะท้าน ความสามารถที่เปลี่ยนหินเป็นทองและเปลี่ยนขยะให้เป็นสมบัติ มันคือพลังของเหล่าเทพเซียน
หลังจากปรับความคิดของเขา จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสงบอารมณ์ของเขา ลั่วซือหยูจึงเคาะประตู
”ปรมาจารย์หลี่ ท่านอยู่ที่บ้านหรือเปล่า” ลั่วซือหยูตะโกนออมาด้วยความเคารพ
เอี๊ยดดดดดด
หลี่ เหนียนฟ่าน เปิดประตูและมองออกไปที่ข้างนอก
แปลกใจเล็กน้อย: “ทำไม พวกเจ้าถึงมาที่นี่ด้วยกัน?”
วันนี้เป็นวันอะไร ผู้คนที่เขาไม่ค่อยรู้จักมาหาไม่ขาดสาย
“พวกเราบังเอิญพบกันอยู่ที่เชิงเขา” ไป๋หวูเฉินยิ้ม
ลั่วซือหยูแนะนำ: “อาจารย์หลี่นี่คือพ่อของข้า”
พ่อของ ลั่วซือหยูไม่ใช่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แห่งราชวงศ์เฉียนหลงเซียนเหรอ เขามาเยี่ยมตัวเขาเองในฐานะมนุษย์จริงๆหรือ?
มันจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและรับรองความปลอดภัยของข้าที่นี่ขึ้นอีกหน่อย
หลี่ เหนียนฟ่าน ยิ้มและกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับ เข้ามาเถอะ”
“ หลี่กงซี,
พวกเราพบว่าที่นี่อัสนีบาตฟาดหลายครั้งเรากังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของท่านเราจึงรีบมา หลิน ชิงหยุนกล่าว
”อัสนีบาตานั่นไม่ใช่เรื่องดีจริงๆ!” ใบหน้าของหลี่เหนียนฟานมืดลงและขมวดคิ้ว: “ข้าไม่เป็นอะไร แต่มันยังทำร้ายผู้บริสุทธิ์บางคนมันไม่แยแสกับชีวิตมนุษย์ธรรมดา คนผู้นี้ช่างน่าเกลียดชังจริงๆ!”
คำพูดเหล่านี้ฟังดูเหมือนฟ้าร้องในหูของทุกคนทำให้พวกเขาหายใจไม่ออกและพวกเขาก็ขนลุกไปทั่วร่างกาย
วันนั้นสายฟ้าผ่าลงมาคือเต๋าแห่งสวรรค์ กล้าด่าทอต่อเต๋าแห่งสวรรค์แบบนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา หลี่ กงซี คิดว่าเต๋าแห่งสวรรค์คืออะไรกัน!
พวกเขาเม้มปากและไม่กล้าแม้แต่จะพูด
พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างระมัดระวังและพบว่าไม่มีเมฆบนท้องฟ้า
พวกเขาถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกและหดคออย่างอ่อนแรง
ไม่ว่าจะเป็น หลี่ กงซี หรือ เต๋าแห่งสวรรค์ พวกเขาล้วนเป็นผู้ยิ่งใหญ่
ไม่มีใครสามารถต่อต้านได้!
ขณะเดียวกันพวกเขาก็ยิ่งแน่ใจในใจของพวกเขาว่าปรมาจารย์หลี่มาจากสวรรค์จริง ๆ ไม่เช่นนั้นจะกล้าพูดกับ เต๋าแห่งสวรรค์ได้อย่างไรและ เต๋าแห่งสวรรค์ก็ไม่ตอบสนองเลย
”ปุ้ดๆ”
ละอองน้ำที่ผุดออกมาที่ฝาหม้อทำให้เกิดเสียงดัง
หลี่ เหนียนฟ่าน ทิ้งทุกคนไว้ข้างหลังทันทีและรีบวิ่งไป
มีความสุขบนใบหน้าของเขา “ในที่สุดก็พร้อมแล้ว”
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และคนอื่น ๆ ติดตามหลี่ เหนียนฟ่าน จมูกของพวกเขาขยับเล็กน้อยและได้กลิ่นยาแปลก ๆ ซึ่งทำให้วิญญาณของพวกเขาสดชื่นและใบหน้าของพวกเขาก็เปล่งประกาย
กลิ่นยานี่ … แปลกมาก!
พวกเขาอยู่ในระดับความว่างเปล่าและยาโอสถทั่วๆไปไม่มีผลใด ๆ กับพวกเขาเลย และกลิ่นหอมของยานี้ทำให้พวกเขารู้สึกสบายจากภายในสู่ภายนอก เพียงอย่างเดียวนี้สามารถจัดเป็นยาวิเศษได้อย่างแน่นอน
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จ้าว ชานเฮอต้องการที่จะแอบเข้าไปในหม้อยาเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน
อย่างไรก็ตามเมื่อสติสัมปชัญญะของเขาสัมผัสกับหม้อยามันก็เหมือนกับวัวที่เคยเล่นนโคลนกำลังลงทะเลและมันก็ถูกกลืนหายไปในพริบตา!
”!”
จ้าว ชานเฮอตะคอกและรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย
เขามองไปที่หม้อยาด้วยความกลัวใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความน่ากลัว
ไป๋หวู่เฉินถาม: “ชายชรา จ้าว เจ้าเป็นอะไรไป?”
“ หม้อยานั่น … อย่างน้อยก็ต้องเป็นอุปกรณ์ระดับเทพ!” จ้าว ชานเฮอกล่าวอย่างขมขื่น:“ ข้าอดไม่ได้ที่จะอยากเห็นว่าผู้เชี่ยวชาญปรุงยาชนิดใดและจิตสำนึกทางวิญญาณก็ถูกกลืนหายไปครึ่งหนึ่งในทันที”
”อะไร?”
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฉิงฮวง และ ไป๋หวู่เฉินพยายามอย่างระมัดระวังและพบว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
พวกเขาจ้องมองไปที่หม้อยา หม้อยานี้ดูธรรมดามาก แต่ถ้ามองดีๆ จะมีกลิ่นอายโบราณชนิดหนึ่งไหลออกมาและมันมีบรรยากาศที่เป็นเหมือนพงไพรซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว
“ ใช่แล้วสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญใช้จะธรรมดาได้อย่างไร?” ไป๋หวู่เฉินนึกขึ้นมาทันทีเขานึกถึงเครื่องฟอกอากาศและเครื่องกรองน้ำอันไหนมันกก็น่าเหลือเชื่อ
ลั่วซือหยูถามด้วยเสียงต่ำ “ท่าน หลี่ ยานี้ท่านทำให้ใคร …?”
”เมื่อข้าออกไปข้างนอกข้าพบคนที่ได้รับบาดเจ็บจากฟ้าผ่าดังนั้นข้าจึงช่วยและกลับมา” หลี่ เหนียนฟ่าน กล่าว
เขาหยิบขวดยาเทใส่ชามยาจากนั้นแล้วเดินไปที่ห้อง
หลี่ เหนียนฟ่าน พูดขึ้นอย่างกะทันหัน: “ยังไงก็ตามพวกเจ้าก็เข้ามาด้วย บางทีพวกเจ้าอาจจะช่วยได้”
คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ฝึกตนพลังอมตะบางทีอาจมีวิธีรักษาที่ดี
ไป๋หวู่เฉินและคนอื่น ๆ มองหน้ากันและเดินตามไปทีละก้าว