ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย [ 农女致富记 ] - บทที่ 1321 ฉือโถวเป็นเจ้าของร้าน
บทที่ 1321 ฉือโถวเป็นเจ้าของร้าน
บทที่ 1321 ฉือโถวเป็นเจ้าของร้าน
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า “ข้าเกรงว่าการไปเมืองหลวงครั้งนี้คงจะใช้เวลาไม่น้อย”
ลุงจางและป้าจางชำเลืองมองกันและกัน สายตาของพวกเขาดูไม่ค่อยเต็มใจนัก “แล้วเจ้าเตรียมตัวจะไปเมื่อใด”
“เมื่อจัดการเรื่องทุกอย่างพร้อมก็จะออกเดินทางทันที” ตามที่กู้เสี่ยวหวานบอกว่าจัดการเรื่องทุกอย่างแล้วนางค่อยไป ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับลุงจางและป้าจาง
“ท่านลุง ท่านป้า ถ้าข้าไปที่เมืองหลวง ข้าฝากให้ท่านทั้งสองช่วยดูที่นาและสวนกู้ด้วย” มีที่ดินหลายสิบหมู่ ในอนาคตการเก็บค่าเช่า เรื่องการทำไร่ทำนา ทั้งหมดต้องได้รับการดูแลจากลุงและป้าจาง กู้เสี่ยวหวานกังวลมากว่าพวกเขาจะไม่สามารถจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้
ในอนาคต ฉือโถวจะยุ่งอยู่กับกิจการของจ้านจิ่นฝู เพราะตอนนี้ยังหาคนที่เหมาะสมกว่านี้ไม่ได้จริง ๆ
“เสี่ยวหวาน เจ้าไปอย่างสบายใจเถอะ เรื่องที่บ้าน ข้ากับลุงจางจะเป็นคนช่วยจัดการเอง อีกอย่างฉือโถวก็ยังอยู่ เจ้าไม่มีอะไรต้องกังวล” ป้างจางพูดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับกู้เสี่ยวหวาน
“ใช่ เสี่ยวหวาน ไม่ต้องห่วง เจ้าวางใจเถอะ ที่บ้านยังมีพวกข้าอยู่ เจ้าไปอย่างสบายใจเถอะ” ลุงจางก็รีบพูด “ก็เหลือแค่ฉือโถวนั่นแหละ กลัวอย่างเดียวว่าจะไม่กล้าเป็นเจ้าของร้าน”
ฉือโถวไม่เคยเรียนรู้การจัดการหรือการเป็นผู้นำ แล้วร้านจิ่นฝูเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่
ถ้าร้านจิ่นฝูเป็นร้านเล็ก ๆ ก็คงไม่เท่าไร แต่กุญแจสำคัญคือ ตอนนี้ในเมืองหลิวเจียมีร้านจิ่นฝูแห่งนี้เพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่เป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ เจ้าของร้านอาหารเล็ก ๆ จำนวนมากที่อยู่ข้างหลัง ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่เกลียดร้านจิ่นฝูและคอยแต่ภาวนาให้ร้านจิ่นฝูเกิดเรื่องไม่ดี
หากร้านอาหารนี้ถูกส่งมอบให้กับฉือโถว ฉือโถวที่ไม่เคยเข้าใจสิ่งเหล่านี้จะจัดการกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับร้านจิ่นฝูได้อย่างไร
ลุงจางและป้าจางเองก็กังวลมากเช่นกัน “ใช่ เสี่ยวหวาน ข้ากลัวว่าฉือโถวจะไม่เห็นด้วย ข้ากับลุงจางก็กังวลมากเช่นกัน ร้านจิ่นฝูกำลังเป็นไปได้ด้วยดีภายใต้การดูแลของเจ้า หากมันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นภายใต้การดูแลของฉือโถวล่ะ…”
พวกข้าจะกล้าสู้หน้ากู้เสี่ยวหวานได้อย่างไร
กู้เสี่ยวหวานเห็นความกังวลบนใบหน้าของคนทั้งสอง จึงรีบพูดว่า “ท่านลุงกับท่านป้าไม่ต้องกังวลไป ข้าจะไปหาพี่ฉือโถวเพื่อโน้มน้าวใจเขา นอกจากนี้การจัดการร้านอาหารก็ไม่ยาก พี่ฉือโถวเขาแค่ไม่กล้าพูด แต่เขาเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบ ตอนนี้ร้านจิ่นฝูมาถูกทางแล้ว ตราบเท่าที่มีการจัดการที่ดี มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกอย่างร้านจิ่นฝูนั้นมีแต่คนที่มีอายุ พี่ฉือโถวเองก็เคยทำงานร้านอาหารมาก่อน ข้าเชื่อว่ามันจะราบรื่น”
อย่างไรก็ตาม เมื่อกู้เสี่ยวหวานไปพูดเรื่องที่จะให้เขาเป็นเจ้าของร้านจิ่นฝู ฉือโถวก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก “เสี่ยวหวาน ข้า…”
ใบหน้าของฉือโถวเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ “เสี่ยวหวาน ข้าคงรับไว้ไม่ได้หรอก ข้าคงทำไม่ได้ ข้า…”
ฉือโถวส่ายหัว น้ำเสียงของเขาสั่นเครือและปฏิเสธที่จะยอมรับเรื่องนี้
กู้เสี่ยวหวานรู้ดีถึงความกังวลของฉือโถว และเมื่อรู้ว่าเขาไม่เห็นด้วย นางจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่ฉือโถว ถ้าท่านกังวลว่าจะไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ไม่เป็นไร มันไม่มีอะไรน่ากังวล เกาจื่อและหลี่พ่างจื่อจะช่วยท่านเอง ก่อนจากไปข้าจะพาท่านไปปรับตัวให้เข้ากับงานในร้านอาหาร ท่านไม่ต้องกังวลว่าจะไม่เก่งเลย”
“ข้ารู้แค่วิธีทำไร่ทำนา ข้าทำอย่างอื่นไม่ได้จริง ๆ” ฉือโถวรู้ว่าเขาไม่เข้าใจสิ่งต่าง ๆ ในร้านอาหาร ตอนนี้กิจการของร้านอาหารดีมาก และมีผู้คนมากมายเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงของร้านจิ่นฝู เขาทำไม่ได้และรู้สึกละอายใจกับร้านจิ่นฝู เขาจะอธิบายเรื่องนี้กับกู้เสี่ยวหวานอย่างไรดี
“พี่ฉือโถว ข้าต้องเดินทางไปยังเมืองหลวง ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะกลับมา แล้วใครจะดูแลร้านจิ่นฝูนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะสร้างร้านจิ่นฝูให้มาถึงวันนี้ได้ ท่านอยากเห็นร้านนี้ล้มไม่เป็นท่าหรือ”
ฉือโถวเป็นคนจิตใจอ่อนไหว เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานพูดเช่นนี้ เขาจะกล้าคัดค้านคำพูดของกู้เสี่ยวหวานได้อย่างไร จึงรีบพูดว่า “เอาล่ะ เช่นนั้นเจ้าก็พาข้าไปเรียนรู้สิ่งนี้ก่อน ถ้าข้าทำได้ข้าก็จะทำ แต่ถ้าข้าทำไม่ได้ ข้าก็จะไม่ขอรับไว้”
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ง่าย แต่ก็มีช่องว่างสำหรับการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับการปฏิเสธโดยที่ยังไม่ได้ลองลงมือทำ เมื่อเห็นว่าฉือโถวใจอ่อน กู้เสี่ยวหวานจึงรีบพยักหน้าเห็นด้วย “ได้ ๆๆ เช่นนั้นตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ท่านไปที่ร้านจิ่นฝูกับข้า”
หลังจากวันที่ตกลงกันแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็พาฉือโถวไปที่ร้านจิ่นฝูทุกวันเพื่อศึกษาทุกสิ่งภายในร้าน และเพื่อไม่ให้กู้เสี่ยวหวานผิดหวัง ฉือโถวก็เรียนรู้อย่างจริงจังเช่นกัน
แม้ว่าฉือโถวจะเรียนรู้ได้ช้ามาก แต่ก็ดีกว่าเมื่อก่อนที่เริ่มมากจากกระดาษเปล่าแผ่นหนึ่ง
กู้เสี่ยวหวานใส่ใจในการสอนมาก และฉือโถวก็ใส่ใจในการเรียนรู้มาก เขาเรียนทั้งที่ร้านจิ่นฝูและเรียนที่บ้านด้วย ฟ่านหลิง ลุงจาง และป้าจาง ทุกคนเห็นสิ่งนี้ในสายตาของพวกเขา และต่างก็มีความสุขกับมัน
ต่อมากู้เสี่ยวหวานพยายามให้ฉือโถวไปร้านจิ่นฝูเพื่อจัดการสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ฉือโถวสามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องง่าย ๆ ซึ่งทำให้กู้เสี่ยวหวานรู้สึกโล่งใจมาก
“ดูเหมือนว่าวิสัยทัศน์ของข้าจะดีจริง ๆ พี่ฉือโถวเป็นเจ้าของร้านได้ดี” ฉือโถวระมัดระวังและกระตือรือร้นกับตำแหน่งผู้ดูแลร้านอาหารนี้มาก ยิ่งเวลาผ่านไป ข้อดีของเขาจะถูกเปิดเผยอย่างเต็มที่
“แล้วเจ้าจะไปเมืองหลวงเมื่อใด” ฉินเย่จือเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานมีความสุข จึงปรากฏรอยยิ้มเลศนัยบนใบหน้า
“เมื่อพี่ฉือโถวสามารถเริ่มต้นกับร้านจิ่นฝูได้ พวกเราก็จะออกเดินทางทันที คงใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือน” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างหนักแน่น
ครึ่งเดือน…
นั่นก็เพียงพอแล้วเช่นกัน
ฉินเย่จือคลี่ยิ้ม ดวงตาเรียวยาวคู่นั้นเปล่งประกายแวววับ
นิ้วเรียวยกถ้วยชาตรงหน้าขึ้นมาจิบ
รสชาติของชาหลันเสวี่ยนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
ดูเหมือนว่าในช่วงเวลานี้ทุกคนจะยุ่งกับงานมาก ฉินเย่จือออกไปก่อนเวลาและกลับดึกทุกวัน ไม่รู้ว่าเขายุ่งอยู่กับอะไร กู้เสี่ยวหวานเองก็อยู่กับการสอนงานฉือโถว ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีเวลาดูแลฉินเย่จือ
กู้ฟางสี่และกู้เสี่ยวอี้กำลังยุ่งอยู่กับการจัดสัมภาระเดินทาง ทุกคนในครอบครัวต่างยุ่งและมีงานของตัวเองที่ต้องทำกันหมด
วันนี้กู้เสี่ยวหวานไม่ได้ไปร้านจิ่นฝูกับฉือโถว เนื่องจากนางกำลังเก็บของอยู่กับกู้ฟางสี่ที่บ้าน ฟ่านหลิงเองก็เข้ามาช่วยด้วยเช่นกัน แต่จู่ ๆ กู้หนิงผิงก็วิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก “ท่านพี่ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพี่ฉือโถว”
………………………………………………….