ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 8
ตอนที่ 8 ดันเจี้ยนนรกเยือกแข็งชั้นที่หนึ่ง
อย่างที่คิดไว้ เมื่อเดินหน้าได้ไม่ถึงห้านาที ทางแยกแรกก็ปรากฏตรงหน้าพวกผม พอคิดดูแล้วก็ถูก ถ้าดันเจี้ยนสามารถเดินจนสุดทางได้ ก็คงไม่เรียกดันเจี้ยนแต่เป็นหายนะมากกว่า
แต่ผมมองไม่เห็นสิ่งเปรียบเทียบอะไรในดันเจี้ยนเลย นอกจากบางอย่างไกลๆ ที่ดูคลุมเครือจนไม่รู้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างหรือบันได ก็ไม่รู้ว่าต้องไปทางไหนแล้ว แล้วไม่รู้ว่าทําไมแถวนี้ถึงมีแต่หมอกควัน จนให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใน Silent hixx
มินิแมพก็มองไม่เห็นตําแหน่งทางออก บ้าเอ๊ย ยังไงก็ให้แผนที่หรือเนวิเกเตอร์สักหน่อยสิ ไม่งั้นจะเล่นยังไงล่ะ
“ไปทางซ้ายเถอะ ทางนั้นดูเหมือนมีบางอย่างอยู่”
ผมพูดแบบนี้
“ทางขวาต่างหาก นายไม่รู้เหรอว่าการออกแบบดันเจี้ยนทั่วไปมักทําให้คนรู้สึกเหมือนเป้าหมายอยู่ตรงหน้า แต่ความจริงจะต้องเดินเป็นวงกลม”
อาร์ย่าปฏิเสธทันที
“ที่นี่หนาวเกินไป ฉันไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว”
“…”
ผมถอนหายใจ แล้วหยิบเสื้อคลุมหนังหมีออกมาจากแหวนเก็บของ
“ใส่มันสิ”
“นายนายกลายเป็นโกดังเสื้อผ้าแล้วเหรอ”
“เธอพูดแบบนี้… เธอคิดว่าชุดนี้ไม่แพงเหรอ”
“…”
อาร์ย่ามองดู และยังคงรับชุดไปสวม
“จะว่าไปนายไม่หนาวเหรอ”
อาร์ย่าสวมชุดพลางถาม
“ตั้งแต่เรียนเวทสายน้ำแข็ง ฉันก็เหมือนไม่ค่อยรู้สึกหนาวเท่าไร”
ผมไม่ได้เลือกอาชีพนักเวทสายน้ำแข็งแท้ๆ แต่ความรู้สึกไม่กลัวหนาวกลับเป็นเรื่องจริงหรือขอแค่เรียนรู้เวทนี้ก็ต้านทานความหนาวได้แล้วเหรอ
“อืม…งั้นก็ดี ในเมื่อนายอยากไปทางนี้ งั้นเราก็ไปกันเถอะ”
อาร์ย่าพูดขึ้นทันที
“อืม ยังไงเราก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเวลาอยู่แล้วนี่”
“ก็จริง ยังไงเราก็ไม่หิวตายอยู่แล้ว”
พูดไป อาร์ย่าก็เริ่มเดินไปทางซ้าย
“นายยืนเหม่ออยู่ทําไม”
“อ้อ ไปเดี๋ยวนี้แหละ”
ผมรีบตามไป
“เธอว่า สิ่งที่ดูเหมือนดันเจี้ยนนี้ เป็นของที่อยู่บนโลกนี้อยู่แล้ว หรือเป็นสิ่งที่มาจากโลกเรา”
“โลกเราเหรอ”
อาร์ย่ามองผมด้วยความแปลกใจ
“นายคิดว่าสิ่งนี้มาจากโลกเราเหรอ”
“อืม ไม่รู้ว่าเธอเคยเจอเดลหรือเปล่า ฉันกับเขาเคยเข้าไปในดันเจี้ยนด้วยกัน มันเป็นดันเจี้ยนที่ทําให้ฉันออกจากอาณาจักรเชอร์ฟามาถึงสถาบันได้ในนั้น พวกฉันเจอกับดันเจี้ยนที่ดูเหมือนโรงพยาบาลในชั้นนึ่ง”
“โรงพยาบาลเหรอ”
สีหน้าของอาร์ย่าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ จากนั้นเธอก็เท้าคางครุ่นคิด
“โรงพยาบาลถึงจะใช้ห้องพยาบาลในสถาบันนายมาอ้างอิงไม่ได้ แต่ฉันก็เคยไปโรงพยาบาลของจริงในโลกนี้ มันถูกตกแต่งแบบธรรมดามาก เพราะยังไงซะบนโลกนี้ก็ใช้เวทมนตร์ก็แก้ปัญหาได้หลายเรื่อง”
“ไม่ๆๆ ถึงจะธรรมดายังไง แต่โรงพยาบาลบนโลกนี้ก็คงไม่มีคําอย่าง “ทางออกฉุกเฉิน” หรอก
“ทางออกฉุกเฉิน” เหรอ จะว่าไปดันเจี้ยนพวกนี้ก็ประหลาดจริงๆ แหละ”
“…”
เดินไปเรื่อยๆ จู่ๆ ผมก็เห็นบางอย่างตรงหน้า
“หืม นายเป็นอะไร”
อาร์ย่าเห็นผมหยุดกะทันหันเลยถามขึ้น
“คือ…นั่น…ดูเหมือนจะเป็นดันเจี้ยนจริงๆ นะ…”
“ฮะ นายพูดอะไร ถ้าไม่ใช่ดันเจี้ยนจะเป็นอะไร”
“ไม่ เธอดูสิ ริมทางเดินฝั่งตรงข้ามมีบางอย่างด้วย”
ผมชี้ไปทางนั้น
ที่หัวมุมทางเดินตรงหน้า มีกล่องสมบัติสีทองกําลังนอนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น
ใช่แล้ว กล่องสมบัติสีทอง มันคือกล่องสมบัติแวววับน่าชมดูแบบที่อยู่ในดันเจี้ยน
พระเจ้า มีของที่น่ารักขนาดนี้อยู่ที่นี่ด้วย!
ผมยังไม่ทันชื่นชมเสร็จ อาร์ย่าก็เร่งความเร็วไปยังกล่องสมบัติ แล้วเปิดมันอย่างช่ำชอง!
“เฮ้ๆๆ อย่าขโมยไปหมดนะ!”
ผมรีบพุ่งตัวเข้าไป เพิ่งไปถึงกล่องสมบัติ ก็เห็นกล่องสมบัติสว่างวาบ แล้วหายไปในอากาศ
“ พระเจ้า เธอเหลือไว้ให้ฉันสักหน่อยก็ได้”
“จริงๆ เลย ก็แค่น้ำยา HP สองขวดเอง”
อาร์ย่าหยิบขวดน้ำยาโยนทิ้งไปทันที
“นายคิดว่ามันจะเป็นของดีอะไรเหรอ”
“เป็นไปไม่ได้หรอก..กล่องสมบัติอันเบ้อเร่อกลับมีแค่น้ำยา HP สองขวด มันหลอกลวงกันเกินไปแล้วแต่ว่า มันไม่ใช่เรื่องดีอะไร”
“ทําไมล่ะ น้ำยาเพิ่มเลือดไม่คุ้มเงินเหรอ”
“เปล่า ตามปกติแล้วสถานที่ที่มีน้ำยาเพิ่มเลือด มักเป็นที่ให้ตีมอนสเตอร์”
“…”
เพิ่งสิ้นเสียง เสียงดังสนั่นก็ดังมาจากทางเดินตรงหน้า จากนั้น เสียงฝีเท้าที่ต่อเนื่องกันจนทําให้พื้นเริ่มสั่นสะเทือนก็ดังตามมาไม่ขาดสาย แล้วสัตว์ประหลาดที่สูงห้าเมตรกว่าก็ปรากฏตัวอยู่ตรงสุดทางเดิน
“ดันเจี้ยนน่ะ เป็นสถานที่ใช้อัพเลเวลที่ดีเลยไม่ใช่เหรอ”
อาร์ย่าชักดาบคู่ออกมา เปลวไฟสีแดงก็ปกคลุมทั่วทั้งดาบในทันที
“ไม่งั้นก็น่าเบื่อแย่สิ”
“ถึงจะเป็นงั้น แต่อีกฝ่ายเป็นถึงมอนสเตอร์เลเวล 25 เชียวนะ…”
“เลเวลไม่สูง แต่ทําไมค่าประสบการณ์เยอะล่ะ”
พูดจบ อาร์ย่าก็เร่งความเร็วพุ่งเข้าไปหามอนสเตอร์ทันที!
ใช่แล้ว เวลาการอัพเลเวลมาถึงแล้ว!
องครักษ์น้ำแข็งโอเนีย สายน้ำแข็ง เวทมนตร์ กายภาพ เลเวล 25
องครักษ์ระดับต้นแห่งดันเจี้ยนนรกเยือกแข็ง หน่วยคุ้มกันดันเจี้ยน พลังป้องกันสูง
ไม่รู้จริงๆ ว่าทําไมสิ่งที่เหมือนกับมังกรบกถึงมีชื่อที่ฟังดูน่ารักแบบ “โอเนีย” มันเป็นมังกรบกสี่ขา มีเกล็ดสีครามขรุขระทั้งตัว และมีดวงตาสีข้างที่ประกายแวววับชัดๆ
มันทําให้คนอื่นเห็นแล้วรู้สึกอยากต่อยสักหมัดจริงๆ
เสียงกระทบโลหะดังขึ้นไม่หยุด อาร์ย่าก็เริ่มปะทะกับเจ้านั่นแล้ว
ดาบเปลวไฟสองเล่มฟันไปบนเกล็ดสีครามอย่างต่อเนื่อง จนสะเก็ดไฟกระเด็นราวกับหยาดฝน
แม้จะสร้างความเสียหายไม่มาก แต่ความเร็วของอาร์ย่าก็ทําให้โอนิยาไม่สามารถโจมตีอาร์ย่าได้
เอาเถอะ ในเมื่อเธอลงแรงขนาดนี้แล้ว ฉันก็เสียเวลาไม่ได้
“อาร์เคน บทลงโทษ กางเขนฉีกขาด!”
กางเขนสีแดงขนาดใหญ่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ขณะเดียวกันก็ตามมาด้วยเสียงระฆังในโบสถ์
“แทงมันซะ!”
กางเขนแทงทะลุร่างกายของโอนิยาทันที เกล็ดของอีกฝ่ายก็ละลายแล้วหายไปช้าๆ
อาร์ย่าฉวยโอกาสโน้มตัว แล้วดาบคู่ไขว้ไว้ที่หน้าอก
“อาร์เคน เกลียวไขว้แดนชําระ!”
เงาสีแดงสว่างวาบ ร่างกายของโอนิย่าก็ถูกสับเป็นสองท่อน
องครักษ์แห่งน้ำแข็งโอเนียถูกกําจัด ได้รับค่าประสบการณ์ 100,000 ได้รับไอเทม : เกล็ดมังกรน้ำแข็ง (ระดับต้น)
“ที่แท้นายก็ใช้เวทสายเพลิงได้ด้วย”
เมื่อการต่อสู้สิ้นสุด อาร์ย่าก็วิ่งเข้ามาถามผม
“อืม อาชีพของฉันคือนักเวท แต่ไม่ได้กําหนดว่าเป็นสายไหน”
“นายมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ สะดวกจัง!”
“ไม่ได้สะดวกเลย…แต่ว่า ความยุ่งยากของเรายังไม่สิ้นสุดนะ”
ผมชี้ไปที่ข้างหลังเธอ ที่มีโอนิย่าสองตัวกําลังจ้องพวกเราอย่างถถึงทิ้งอยู่ที่ไม่ไกล
“ฮึ่ม! ไปกัน!”
“ไปอยู่แล้ว!”