ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 21
ตอนที่ 21 วิกฤตชีวิต
ต้องยอมรับว่า ผมไม่ค่อยชินกับข้อมูลฉายาที่เหมือนกับระบบผิดพลาดแบบนี้จริงๆ
เหมือนกับตอนที่คุณกำลังเล่นเกม แล้วจู่ๆ ก็เห็นคนที่มีสัญลักษณ์ (ไม่อาจแสดง) เหนือศีรษะเดินผ่านไป คุณก็คงละสายตาไม่ได้หรอกใช่ไหม
ถ้าคุณไม่เป็น งั้นผมก็ทำได้แค่พูดเบาๆ ว่า “ขอโทษที ผมเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำน่ะ”
แต่คนตรงหน้าเป็นเทพีปีศาจเพศหญิงระดับบอสชัดๆ และผมก็ไม่ได้โง่จนฝืนใช้สกิลดูคุณสมบัติหรอก ไม่งั้นคงเหมือนรนหาที่ตายชัดๆ
อีกทั้งถึงใช้สกิลก็อาจจะมองไม่เห็นอยู่ดี เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ อีกฝ่ายไม่ได้มีเครื่องหมายคำถาม แต่เป็นคำว่าไม่อาจแสดงแปลว่าอีกฝ่ายอยู่นอกขอบเขตการตรวจสอบของผม
น่ากลัวจัง ผมใช้สูตรโกงได้ไหมเนี่ย
“ผมก็เป็นเกียรติเช่นกัน”
ผมยิ้มพลางตอบ ผมไม่กล้าขยับตัวส่งเดช เพราะผมไม่รู้จักธรรมเนียมในขุมนรกแม้แต่น้อย หากเผลอไปแตะต้องสิ่งที่ไม่ควรแตะคงจบเห่แน่
แต่ยังไงซะที่นี่มีแค่ไม่กี่คนที่เอาชนะผมได้…
เอ่อ คุณว่าไงนะ ผมคืนชีพได้งั้นเหรอ
นั่นมันตอนอยู่ในเมือง ผมไม่รู้ว่าถ้าอยู่ข้างนอกผมจะคืนชีพที่ไหนหรืออาจออกไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ! ตอนที่เข้ามาก็เห็นแจ้งเตือนว่าที่นี่เป็น พื้นที่ส่วนกลาง แล้วนี่ มันไม่ได้อยู่บนแผนที่เมืองซะหน่อย!
ก็ได้ ผมตื่นตระหนกเกินไป ผมมาจัดการปัญหาทางนี้ก่อนจะดีกว่า
จะว่าไป เทพีปีศาจก็ใจกว้างยกธนูที่ชื่อว่าออร์คิดให้มิสสโนว์มันสเตอร์ ถึงเอลฟ์มืดพนักงานต้อนรับจะกำลังห่ออาวุธอยู่ แต่สายตาของมิสสโนว์มันสเตอร์ก็ไม่ละไปจากสิ่งของเลยแต่ว่า…
มันเป็นสิ่งที่ใช้หัวใจคริสตัลของผมไปแลกเปลี่ยน แล้วทำไมผมถึงไม่ได้อะไรเลยล่ะ
แต่ถ้าให้ผมเอ่ยปากตอนนี้ก็คงขายหน้าแย่ ผมไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนโลภไม่รู้จักพอหรอกนะ
“อืม…เทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับเทวดาแห่งความเสื่อมและเอลฟ์แล้วยังคล้ายกับมนุษย์อีกด้วย การได้เห็นตัวจริงในวันนี้ช่างเยี่ยมจริงๆ…เอ่อ ขอโทษที พอดีเผ่าพันธุ์ของเจ้าล้วนเป็นพวกประหลาดที่เอาแต่เก็บตัวอยู่ในปราสาททุกวัน และข้าก็เพิ่งเป็นเทพีปีศาจได้ไม่นาน ไม่เคยเข้าร่วมสงครามครั้งก่อน จึงไม่เคยเห็นเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายที่มีสมญาว่า “เงาแห่งสงคราม” มาก่อน”
“ผมไม่ได้สนใจหรอก คุณแค่มองผมเป็นอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งก็พอ”
“แน่นอน เจ้าดูแตกต่างกับเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายที่เพื่อนข้าอธิบายไว้อย่างสิ้นเชิง เอาล่ะ ที่นี่ไม่ใช่ที่จะมาพูดคุย พวกเราไปที่ห้องข้างบนแล้วค่อยว่ากันดีกว่า”
“ครับ”
พูดจบ เธอก็หมุนตัวไปยังพนักงานต้อนรับคนนั้น
“ห่อเรียบร้อยแล้วช่วยส่งไปที่ชั้นบนสุดด้วย”
“เจ้าค่ะ”
“งั้น เชิญมากับข้า”
พูดจบ อีกฝ่ายก็พาเด็กปีศาจน้อยเดินไปยังที่ที่ดูเหมือนกับลิฟต์
ใช่แล้ว มันคือลิฟต์ พระเจ้า ที่นี่ไม่ใช่ปราสาทหรอกเหรอ ถ้าใส่ใจเรื่องบรรยากาศ ก็อย่าติดตั้งลิฟต์สิ
แต่ว่า ผมก็ไม่อยากขึ้นบันไดไปเหมือนกัน
เมื่อเข้าไปในลิฟต์ มิสสโนว์มันสเตอร์ที่อยู่ข้างๆ ก็ทอดถอนใจในความอัศจรรย์ของ ลิฟต์ไม่หยุด แต่ว่าผมกลับไม่ได้ผ่อนคลายแบบนั้น
เพราะผมยิ่งรู้สึกว่าสถานการณ์ของผมดูอันตรายยิ่งขึ้น
ตอนแรกยังคิดว่าสถานะของเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายจะเป็นประโยชน์ไม่น้อย แต่ว่าดูจากความเข้าใจในตอนนี้ มันเหมือนกับคนที่อยู่เผ่าพันธุ์เดียวกับผมกลับไม่ชอบออกจากบ้านสักเท่าไร
หรือจะเป็นพวกติดบ้านกันหมด
เป็นไปไม่ได้ มีตั้งหกร้อยกว่าคนเชียวนะ จับกลุ่มกันแค่ห้าคนก็พอแล้ว มันจำเป็นต้องมีถึงหกร้อยคนที่ไหน พวกคุณเป็นองค์กรขุดทองคำหรือไง อินเทอร์เน็ตไม่ติดขัดเหรอ
แต่แน่นอน ยิ่งกว่านั้นที่นี่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ตด้วย
จากการวิเคราะห์สถานการณ์ในการเล่นเกมนับไม่ถ้วนของผม สิ่งที่เป็นไปได้ที่สุดก็คือ ถึงเผ่าพันธุ์ผมจะเก่งกาจแค่ไหน แต่กลับอ่อนแอมากหรือหวาดกลัวบางอย่างจนไม่กล้าออกไป
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง นั่นก็แย่แล้ว
ผมเที่ยวบอกตัวตนของผมกับคนอื่นไปทั่วจะไม่เป็นไรจริงเหรอ
ผมรู้สึกเป็นห่วงตัวเองขึ้นมาแล้วสิ
ยิ่งกว่านั้น
ถึงเป็นแค่การพบหน้า แล้วทำไมเทพปีศาจองค์นี้ถึงต้องกระตือรือร้นต่อผมจังเทพีปีศาจควรเป็นบอสในดันเจี้ยนไม่ใช่เหรอ หรือเธอเป็นแค่คนโง่ที่เบื่อจนต้องเดินเล่นไปทั่ว
มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกอันตรายเข้าไปอีก
ในขณะนั้นเอง จู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงการแจ้งเตือน
มันทำให้ผมตกใจสะดุ้งโหยง
ล่อเล่นอะไรเนี่ย! แถวนี้มีคนข้ามมิติด้วยเหรอ
ผมรีบเปิดเมนู และบนนั้นก็มีข้อความของคนที่ชื่อว่า “ชีริว ลูซิเฟอร์” ส่งมา
เดี๋ยวก่อน
ลูซิเฟอร์งั้นเหรอ
หรือว่าหมอนี่คือ…คนที่เรียกว่าเป็นราชาปีศาจพิคโกโร่งั้นเหรอ
ผมเปิดกล่องข้อความโดยไม่ให้เป็นที่สังเกต พอเห็นตัวอักษรแถวหนึ่ง จู่ๆ ผมก็รู้สึกวู่วามจนอยากจะทุบหน้าจอ
ถ้าไม่ใช่เพราะมันคือหน้าจอเสมือนจริง ผมคงทุบมันไปแล้ว
“โย่ว เป็นเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายสนุกไหม เคยโดนคนชำแหละหรือเปล่า”
นายอำฉันเหรอ มีคนคุยกันครั้งแรกด้วยประโยคแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย
“นายเป็นใคร ราชาปีศาจเหรอ”
“แสนรู้”
“แสนรู้แม่แกสิ ชื่อก็บอกว่าลูซิเฟอร์อยู่ชัดๆ คิดว่าจะปิดบังได้เหรอ”
“ก็จริงนะ อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย พูดเรื่องนายก่อนดีกว่า นายน่ะ ในฐานะที่นายเป็นสายพันธุ์ล้ำค่า กลับพาเอลฟ์มาเดินชี้ชั่วในขุมนรกอีก นายกำลังหาที่ตายอยู่นะ นายต้องรู้ว่า ใจกลางร่างกายเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายเป็นถึงวัตถุดิบที่สำคัญที่สุดในการสร้างน้ำยาคืนชีพ “ชีวิตที่สอง” เชียว มันไม่เหมือนกับยาคืนชีพทั่วไป เพราะหลังคืนชีพจะไม่กลายเป็นอันเดดไง ยิ่งกว่านั้นมันยังเป็นผลกับทุกคนด้วย ตอนนี้นายรู้แล้วใช้ไหมว่านายมีอันตรายแค่ไหน”
ฉันคิดว่าฉันมีอันตรายพอแล้วนะ นายยังอ่านสีหน้าที่ซีดจนไม่รู้จะซีดยังไงไม่ออกเหรอ
บ้าเอ๊ย เทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายมีการตั้งค่าแบบนี้ด้วยเหรอ ทำไมผมถึงไม่รู้นะ! เรื่องแบบนี้ควรเขียนไว้บนคู่มือหน่อยสิ มาล้อผมเล่นด้วยสถานการณ์แบบตอนนี้ทำไม
ตัวเลขบนลิฟต์ใกล้จะถึงชั้นบนสุด ผมก็รู้สึกเหมือนชีวิตผมเริ่มนับถอยหลัง
“แล้วฉันต้องทำไง! ตอนนี้ “ดาร์คโคลด์” อยู่ข้างๆ ฉัน ถึงฉันจะหนีก็คงทำไม่ได้หรอก!”
“ดาร์คโคลด์เหรอ…คนนั้นเป็นเสี้ยนหนามนิดหน่อยจริงๆ ถึงเธอจะเป็นเทพีปีศาจองค์ใหม่ แต่ก็มีเลเวลถึง 86 การเอาชนะนายคงเหมือนกับการดื่มน้ำเลยละมั้ง”
“86…”
ขอโทษที ผมไม่ควรไปบุกเบิกแผนที่ในส่วนที่เกินเลเวลเลย ผมคิดว่าผมอยากกลับบ้านเร็วขึ้นหน่อย แต่ดูเหมือนผมจะฆ่าตัวตายไม่ได้ เพราะผมไม่สามารถสร้างความเสียหายในตัวเอง!
ยิ่งกว่านั้นมิสสโนว์มันสเตอร์ก็ยังอยู่ ผมคงไม่อาจทิ้งเธอแล้วหนีไปได้
“เอาละๆ ตอนนี้ฉันกำลังไปหานายโดยเร็วที่สุด หวังว่าจะไปทันนะ แต่จำไว้ว่านายต้องเลี้ยงข้าวฉันด้วย”
พูดจบ เขาก็ตัดขาดการติดต่อ ส่วนผมก็มาถึงชั้นบนสุด แล้วประตูลิฟต์ก็เปิดออกช้าๆ