ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 16
ตอนที่ 16 ส่วนลึกสุดของดันเจี้ยนนรกเยือกแข็ง : เมืองเยือกแข็ง
“เทพีแห่งปีศาจองค์ที่สี่แห่งขุมนรกที่นําพาความตาย “ดาร์คโคลด์” ข้ารับใช้แห่งนายท่านขออัญเชิญให้ท่านเปิดพื้นที่ พาพวกเราสู่อ้อมอกของท่าน จงเปิดออกเถิด ขุมนรกน้ำแข็ง”
ก็อบลินมีดท่องคาถาประหลาด จากนั้น แสงสีน้ำเงินเข้มก็สว่างออกจากรอยร้าวที่มีไอเย็นนั้น
ตัวอักษรสีดํานับไม่ถ้วนลอยออกมาจากด้านใน วนอ้อมจุดศูนย์กลางของรอยร้าว แล้วสายฟ้า สีดํานับไม่ถ้วนก็โลดเต้นวูบไหวออกจากตัวอักษรอย่างต่อเนื่อง จนค่อยๆ ก่อตัวกันเป็นแนวเวทมนตร์สีดําขนาดใหญ่
จากนั้น พลังโจมตีอันแข็งแกร่งก็ออกมาจากแนวเวทมนตร์ แนวเวทมนตร์จึงหมุนวนรอบประตูเทเลพอร์ต
ทําไมผมถึงรู้ว่ามันเป็นประตูเทเลพอร์ตน่ะเหรอ จะดูยังไงมันก็คือประตูเทเลพอร์ตนี้ อย่างแรกคือมันเป็นทางเข้าออก ยิ่งกว่านั้นรูปทรงนี้เป็นรูปร่างของประตูเทเลพอร์ตแบบในเกมร้อยเปอร์เซ็น
บ้าเอ๊ย..ไม่มีความแปลกใหม่เลย
แจ้งเตือน กําลังจะเทเลพอร์ตสู่ชั้นลึกสุดของดันเจี้ยนนรกเยือกแข็ง สถานะ : ปกติ
เมื่อเห็นข้อความบนกระดานแจ้งเตือน ผมก็ฉีกยิ้ม
“เอาละ ประตูเปิดออกแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”
ก็อบลินมืดพูดไปด้วย จากนั้นก็เดินเข้าไปเป็นคนแรก
“เป็นไงครับ ปรับตัวกับร่างกายได้แล้วเหรอ”
ผมถามมิสสโนว์มันสเตอร์
“อืม พอใช้ได้ มีแค่ประสาทสัมผัสที่ดูเหมือนถดถอยลงไม่น้อย ในฐานะที่ข้าเป็นนักธนู ดูแล้วคงอีกนานถึงจะฟื้นฟูความสามารถเดิมได้”
“จะว่าไป ร่างกายอันเดดเป็นแบบนั้นพวกผีดิบอะไรแบบนั้นจริงเหรอ”
“ใช่แล้ว แต่ในฐานะเอลฟ์ที่บริสุทธิ์ที่สุด สุดท้ายเอลฟ์หิมะอย่างข้าก็กลายเป็นอันเดด มันช่างเป็นการเสียดสีจริงๆ”
“มันไม่เป็นไรสักนิด ผมว่า คุณก็ยังเป็นเอลฟ์หิมะอยู่ดี”
นี่เป็นความจริง เพราะในฉายาของมิสสโนว์มันสเตอร์มีแค่คําว่า “เอลฟ์อันเดด” เพิ่มขึ้นมา แต่ฉายาเอลฟ์หิมะอันเดิมก็ยังไม่หายไป
อีกทั้ง บนชื่อของอีกฝ่ายยังมีอักษร เออร์วิน” อยู่ในวงเล็บอีกด้วย ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าระบบเป็นยังไง
“งั้นหรือ…ฮ่าๆๆ งั้นข้าก็เป็นเอลฟ์หิมะที่ผิวคล้ำที่สุดแล้ว”
“ผิวสีข้าวสาลีก็ดูดีออก ผมชอบผู้หญิงแข็งแรงนะ….อ่า ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น ผมแค่อธิบายคร่าวๆ คร่าวๆ น่ะ!”
แย่แล้ว เกือบพูดว่าผมชอบผู้หญิงเล่นกีฬาออกไปซะแล้ว
“ฮ่าๆๆ”
มิสสโนว์มันสเตอร์หัวเราะอย่างคึกคัก
“ถ้าไม่ใช่ว่าเจ้ามีแฟนแล้ว ไม่แน่ข้าคงจัดการเจ้าแน่”
“แฟนเหรอ”
ยัยนี่พูดอะไรเนี่ย ผมไม่มีอะไรแบบนั้นมาตั้งหลายชาติแล้ว…ถ้าให้พูดจริงๆ ผมก็มีคู่หมั้นอยู่คนหนึ่งนะ
“อย่างนี้นี่เอง เป็นแบบนี้นี่เอง…แหม แบบนี้ก็น่าสนใจสิ”
จู่ๆ อีกฝ่ายก็พูดจาแปลกๆ
“แหม…เป็นแบบนี้ต่อไปก็พอ เอาละ พวกเราไปกันเถอะ”
“อ่า…ก็ได้”
ยัยนี่ ทําไมถึงทําให้ผมรู้สึก…
ได้กลิ่นอายของอันตรายล่ะ
“ที่นี่คือ.ขุมนรกเหรอ”
จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าสมองไม่ทํางาน
แค่มาถึงขุมนรก จู่ๆ ผมก็รู้สึกวี่วามจนอยากจะคว่ำโต๊ะ
นี่มันล้อเล่นอะไรกัน นี่คือนรกเหรอ หรือว่าราชาปีศาจองค์ปัจจุบันเป็นคนที่มาจากโลกผม!!
“ลุงออร์แลนโด”
“อย่าเรียกข้าว่าลุง! ข้าไม่ได้แก่ขนาดนั้น!”
ฮะ คุณล้ออะไรผมเนี่ย คุณไม่ได้แก่ขนาดนั้น คุณคอยดูมิสสโนว์มันสเตอร์อยู่ในนี้มาหกร้อยกว่าปีแท้ๆ คุณก็ต้องแก่กว่าผมมากเลยสิ!
ผมเพิ่งอายุเท่าไรเอง! ตัวเลขคนละหลักกับพวกคุณเลยด้วยซ้ำ!
“ก็ได้ ออร์แลนโด”
“ไร้มารยาทเกินไปแล้ว! เรียกข้าว่าพี่ออร์แลนโด!”
เฮ้ๆๆ คุณแก่กว่าผมอย่างน้อยหกร้อยหกสิบห้าปี เรียกแบบนั้นไม่ได้หรอกมั้ง
แต่ช่างเถอะ ยังไงยุ่งกับสิ่งมีชีวิตอัศจรรย์อย่างก็อบลินก็ไม่มีประโยชน์
“ก็ได้ พี่ออร์แลนโด ผมขอถามหน่อย ทําไมโลกปีศาจถึงดูทันสมัยขนาดนี้ล่ะ”
ใช่แล้ว คําว่าทันสมัยเป็นคําที่ครอบคลุมทิวทัศน์ทุกอย่างที่ผมเห็นในตอนนี้
ตําแหน่งในตอนนี้ของเราอยู่ในจุดที่ดูเหมือนจตุรัส และด้านหลังคือประตูเทเลพอร์ต ที่มีสิ่งมีชีวิตเดินออกมาจากในนั้นอยู่ตลอด
ส่วนด้านข้าง ก็มีอาคารสูงนับไม่ถ้วนกับฝูงชนเดินไปมา…อ่า ไม่สิ จะเรียกว่าฝูงชนไม่ได้ แต่เป็นฝูงอสุรกายต่างหาก แต่มันคืออสุรกายแบบไหนผมก็อธิบายไม่ถูก มันมีทั้งปีศาจ ก็อบลิน มนุษย์จิ้งจอก มนุษย์นก ผู้วิเศษ และลูกครึ่งออร์ค ที่ดูแล้วทําให้ผมรู้สึกถึงกลิ่นอายในวันฮาโลวีน
สิ่งสําคัญคืออาคารสูงเหล่านั้น! อาคารสูง! ผมเข้าใจผิดหรือเปล่า! พวกคุณสร้างสูตรคอนกรีตเสริมเหล็กได้ไง แล้วเอาอิฐมาจากไหน ขุมนรกควรมีซากปรักหักพังกับลาวาที่ไหลไปทั่วทุกที่ไม่ใช่เหรอ!
สาเหตุที่ทําให้ผมคิดว่าตัวเองไม่ได้เดินผิดทาง ก็เพราะบนถนนไม่ได้มีรถยนต์แต่เป็นรถม้า!
ถ้าพวกอาร์ย่ามาเห็นคงตกใจแน่ๆ มันเกินคําว่ามหัศจรรย์ไปแล้ว และไปถึงขั้นไม่สมเหตุสมผลต่างหาก!
แล้วยังมีท้องฟ้าที่เป็นสีดํา พร้อมสายฟ้าที่สว่างวาบอยู่ตลอด ซึ่งเป็นสาเหตุเดียวที่ผมคิดว่าที่นี่คือขุมนรก
“ทันสมัยหรือ อ้อๆ ใช่แล้ว ท่านราชาปีศาจเคยใช้คํานี้อธิบายเช่นกัน แหม จะบอกให้ว่าหลายสิบปีก่อนขุมนรกไม่ได้มีหน้าตาแบบนี้หรอก แต่เพราะราชาปีศาจองค์ใหม่ได้ออกคําสั่งตั้งแต่ครองบัลลังก์ ให้ทําขุมนรกให้ “ทันสมัย” เจ้ามานรกเป็นครั้งแรก แล้วทําไมถึงรู้ได้”
“เรื่องนั้นน่ะ คงเพราะผมอาจรู้จักราชาปีศาจของคุณน่ะสิ”
อืม คงบอกว่าพวกเรามาจากโลกเดียวกันไม่ได้หรอก
“ว่าไงนะ! เจ้า…”
“ผมก็ไม่แน่ใจ คุณไม่ต้องเดาสุ่มหรอก เอาละ ก่อนอื่น พวกเราต้องทําอะไร”
“เรื่องนั้น…ให้ข้าคิดดูก่อน เจ้าเป็นเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตาย จัดอยู่ในชนกลุ่มน้อย…”
“เฮ้ๆๆ คุณเอาคําว่าชนกลุ่มน้อยมาจากไหน”
ยังไม่รอให้เขาพูดจบ ผมก็พ่นออกมาทันที
“อ้อ เจ้ารู้คํานี้จริงด้วย มันก็เป็นพระราชกฤษฎีกาใหม่ของราชาปีศาจองค์ปัจจุบันเช่นกัน พระองค์บอกว่าต้องคุ้มครองผลประโยชน์ของชนกลุ่มน้อยบางส่วน และรักษาความหลากหลายของสายพันธุ์เอาไว้ ราชาปีศาจช่างสมกับเป็นราชาปีศาจ เขาช่างรอบรู้มาก”
“ฮ่าๆๆ…ใช่แล้ว…”
หมอนั่นทําเหมือนพวกคุณเป็นสัตว์ไง! ถึงรักษาความหลากหลายของสายพันธุ์ไว้
แล้วยังมีชนกลุ่มน้อยอะไรนี่อีกถึงหมอนี่จะเบื่อแค่ไหนก็ไม่ต้องทําแบบนี้ก็ได้นี่
“เอาละ อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย พวกเจ้าคนหนึ่งเพิ่งกลายเป็นอันเดด ส่วนอีกคนก็เป็นเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายที่อยู่มานานแค่ไหนไม่รู้กลับยังไม่เคยมาที่ขุมนรก จะว่าอย่างไรดีล่ะ ไปทําบัตรประชาชนก่อนแล้วกัน”
ผมรู้สึกว่ามุมปากกําลังกระตุก
“บัตรประชาชนนี้คงใช้โดยสารรถบัสกับรถไฟฟ้าใต้ดินไม่ได้หรอกมั้ง”
ออร์แลนโดมองผมอย่างประหลาดใจ
“เจ้าหมายถึงแท็กซี่มังกรบกหรือ ใช้ได้อยู่แล้ว เพราะบนบัตรประชาชนมีคริสตัลจําแนกตัวตนไง”
“เอาเถอะ ผมเข้าใจแล้ว”
ผมอยากเป็นตัวแทนของมนุษย์โลกมาเก็บค่าสิทธิบัตรจากคุณจริงๆ
“ฟังดูไม่เลวเลยนี่! ไปกันเถอะๆ!”
มิสสโนว์มันสเตอร์กลับดูตื่นเต้นอย่างยิ่ง ดวงตาทั้งสองมองทุกที่ด้วยความเป็นประกาย
“เฮ้อ ก็ได้”
ผมถอนหายใจ แล้วถามก็อบลินมืด
“พวกเราไปกันเถอะ แต่ว่า…ผมอยากถามหน่อย ถึงคุณจะว่างมาก ก็ไม่ควรช่วยพวกเราสิ คุณมีอะไรปิดบังผมกันแน่”
“เรื่องนั้นหรือ…ในเมื่อเจ้าถาม งั้นข้าก็ไม่ควรปิดบัง ก่อนที่จะไปทําบัตรประชาชน เราไปหาที่นั่งคุยกันก่อนแล้วกัน อย่างไรซะที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ที่ควรพูดคุย”
“ได้เลย”
“ร้านกาแฟที่ราชาปีศาจเปิดก็ไม่เลว พวกเราไปที่นั่นกันเถอะ”
ผมพยักหน้า แต่ในใจกลับคิดว่า
คุณไปเอาเมล็ดกาแฟมาจากไหนเนี่ย!
มองกาแฟตรงหน้า จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าผมงี่เง่าเกินไป
ที่นี่เป็นโลกเวทมนตร์นี่ แม้แต่ยาเพิ่มเลือดยังมีเลย แล้วนับประสาอะไรกับของอย่างกาแฟล่ะ
ดูจากสีและกลิ่นก็เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง แต่เขาผลิตออกมายังไงกันนะ
ยิ่งกว่านั้นดื่มแล้วยังสดชื่นอีกด้วย หรือจะใช้วัตถุดิบที่สร้างจากยาโด๊ป
“ไม่เลวใช่ไหม มันสร้างขึ้นจากสูตรที่ฝ่าบาทเสนอให้ ไม่นานก็เป็นที่นิยมในเผ่าปิศาจ”
“งั้นเหรอ ฮ่าๆๆๆ
แม้ไม่รู้ว่าราชาปีศาจเป็นใคร แต่ผมพูดได้แค่คุณชนะแล้ว
“เอาละๆ คุณทําเพื่อ…”
“เพื่อให้มีผู้ช่วยที่แข็งแกร่งขึ้นไง!”
อีกฝ่ายฉีกยิ้ม
“ผมรู้ แต่พวกเราไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คุณคิด”
“เป็นเพราะเจ้าอยู่ในแผ่นดินมนุษย์ ดังนั้นเจ้าในฐานะเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายจึงไม่อาจใช้ศักยภาพได้ แต่ว่า…เทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกปีศาจ ขอแค่เจ้าหาพวกพ้องของเจ้าพบ แล้วขอความช่วยเหลือ ข้าว่าไม่นานเจ้าคงกลายเป็นกําลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งแน่”
“อย่างนี้นี่เอง ผมเข้าใจแล้ว”
ผมพยักหน้า ก็แปลว่าเขาจะช่วยผมหาคนอื่นที่เป็นเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายเหรอ
เยี่ยมเลย นอกจากเวทมนตร์แล้ว ถ้าได้เรียนรู้สกิลเผ่าพันธุ์ก็คงไม่เลว!
“มันไม่ใช่ปัญหา อย่างไรผมก็ไม่สนใจอยู่แล้ว แล้วมิสสโนว์มันสเตอร์ล่ะ”
“ข้าหรือ ไม่เป็นไรหรอก เค้กนี้อร่อยทีเดียว กินสักชิ้นไหม”
“เอ่อ…คุณกินไปเถอะ”
มองเด็กสาวที่กําลังกินอย่างมีความสุข ผมก็ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แล้วมองไปทางออร์แลน
“เอาละ ตอนนี้ผมยังมีอีกคําถาม”
“อ้อ อะไรล่ะ”
“ราชาปีศาจชื่ออะไรเหรอ”
“เรื่องนั้น..ใช่แล้ว เจ้าไม่รู้ก็ปกติ ราชาปีศาจองค์ปัจจุบันใช้การเข่นฆ่าเพื่อขึ้นตําแหน่ง พระองค์ชื่อว่า “พิคโกโร่ ลูซิเฟอร์”
บ้าเอ๊ย นายดูดราก้อนบอลมากไปแล้ว! แถมยังเป็นราชาปีศาจพิคโกโร่อีก!