ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 26
ตอนที่ 26 Update
“อ๊า ไม่ได้หลับสบายแบบนี้มาตั้งนานแน่ะ”
แค่ตื่นลืมตาขึ้นมา ก็พบว่าเวลานับถอยหลังตรงหน้ายังไม่สิ้นสุด ยิ่งกว่านั้นยังเหลือเวลาอีกประมาณห้านาที่ด้วย
ดูเหมือนช่วงนี้จะไม่ได้หลับจริงๆเลย สุดท้ายกลับหลับได้ไม่นานเอง
แต่หลังจากมองเวลานับถอยหลังอยู่สักพัก ผมก็รู้สึกผิดปกติ
ทําไมเวลาไม่นับถอยหลังล่ะ
“เฮ้ๆๆ! นี่มันอะไรเนี่ย”
“เพราะอยากพูดอะไรกับเจ้าหน่อยน่ะสิ”
จู่ๆทั่วทั้งที่โล่งก็สว่างขึ้น ที่โล่งสีดําสนิทก็กลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์ไม่จริงน่า มันไม่ใช่สีขาวบริสุทธิ์ มันคือเมฆต่างหาก!
ผมรีบมองลงข้างล่าง ก็ตกใจสะดุ้งโหยงในพริบตา
มองผ่านพื้นใสใต้เท้าที่ไม่รู้ว่าสร้างจากวัสดุอะไร ภาพรวมของเกือบทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าผม! แม่น้ําทุกสายบนนั้นตรงกับบนแผนที่ที่ผมเคยเห็นในห้องสมุดเลย!
ผมอยู่กลางอากาศเหรอ
“ตกใจหรือ ข้าคอยดูพวกเจ้าอยู่ที่นี่ตลอด”
“ “โลก” เหรอ”
ผมหมุนตัวมองไปยังต้นตอของเสียง ก็เห็นรูปร่างกึ่งโปร่งแสงยืนอยู่ข้างหลัง
“นี่คุณ…”
“ข้าคิดว่ารูปแบบใดก็ไม่อาจแสดงถึงการมีอยู่ของข้าได้ ดังนั้นข้าจึงสร้างรูปลักษณ์ของข้าออกมาอย่างเรียบง่าย”
“ผมหมายถึงวิธีการพูดของคุณดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย มันฟังดูไม่สุภาพขนาดนั้นแล้ว ดูดีขึ้นเยอะ”
“ภาษาเป็นเพียงวิธีการส่งผ่านข้อมูลรูปแบบหนึ่ง ตามความเข้าใจต่อโลกใบนี้ ข้าจึงคิดว่าไวยากรณ์แบบนี้เป็นประโยชน์ในการสื่อสารมากกว่า”
“พวกเราไม่ต้องถูกปรัชญากันได้ไหม”
“ข้าคิดว่าคําพูดของข้าเป็นเพียงการอธิบายคร่าวๆ ไม่เกี่ยวข้องกับปรัชญาแม้แต่น้อย ถ้าพูดถึงปรัชญาที่แท้จริง ก็ควรเป็น…”
“โอเค หยุดเถอะ!”
ผมยื่นมือไปขวางเขาไม่ให้พูดต่อไป ไม่งั้นเรื่องที่ควรทําคงถูกข้อมูลกองเบ้อเร้อทับถมลงไปแน่
“ในเมื่อพวกเราพบกันแบบนี้แล้ว งั้นเพื่อการสื่อสารที่ดียิ่งขึ้น คุณเปลี่ยนเป็นคนจะไม่ดีกว่าเหรอ”
“แต่ตอนนี้เจ้าเป็นเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตาย”
“ตอนแรกก็เคยเป็นคนนี่ ยิ่งกว่านั้นผมคิดว่าคนดูสื่อสารง่ายกว่าอีก อ้อใช่แล้ว เปลี่ยนเป็นผู้หญิงสิ จะเป็นรูปลักษณ์แบบไหนก็ได้ ขอแค่น่ารักก็พอ”
“ในเมื่อเจ้าพูดแบบนี้”
ร่างกายของอีกฝ่ายสว่างวาบ ธาตุนับไม่ถ้วนก็ค่อยๆ เติมเต็มร่างกายของมัน แล้วเงาร่างก็ค่อยๆดูชัดเจนขึ้น
เดี๋ยวสิ ร่างกายนี้…ทําไมถึงมีแต่สีเนื้อล่ะ! เดี๋ยวก่อน!
“รอผมเดียว!”
เพิ่งยื่นมือจะไปห้ามมัน ร่างกายของอีกฝ่ายกลับส่องแสงสว่าง ตามด้วยบางอย่างนุ่มนิ่มที่ปะทะเข้ากับมือผม
หลังจากแสงสว่าง เด็กสาวตาสีดําก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ และมือผมก็กําลังจับบนหน้าอกของเธออยู่
ใช่แล้ว ตอนนี้เจ้านั่นเป็นเด็กสาวแล้ว ใช่แล้ว หน้าอกของเจ้านี่อยู่ในมือผม
จู่ๆก็รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ จากนั้นผมก็รู้สึกมีบางอย่างไหลออกจากรูจมูก
สัมผัสนี้มัน..สมจริงจังเลย..
“หัวใจเจ้าเต้นในค่าที่ไม่ปกติ แล้วยังมีสถานะเลือดไหลด้วย เจ้าเป็นอะไร”
อีกฝ่ายจับมือผมออกจากหน้าอกของเธอ จากนั้นก็ยื่นมืออีกข้างออกมา ทิชชูแผ่นหนึ่งก็ปรากฏบนมือเธอ
จากนั้นเธอก็เข้ามาเช็ดเลือดกําเดาให้ผม
พรืด!
ในขณะที่เธอเข้าใกล้ กลิ่นหอมของเด็กสาวก็ฟังเข้าจมูกผมทันที ผมเลยรีบสั่งเลือดกําเดาเพื่อไล่กลิ่นนั้นออกไป
“สถานการณ์ไม่แน่ชัด ขอตัดสินว่า การแปลงร่างของข้าทําให้เจ้าผิดปกติ ตอนนี้ข้าจะเปลี่ยนกลับเป็น…”
“อย่า! อย่างน้อยก็ใส่เสื้อผ้าก่อนเถอะ!”
“เสื้อผ้าหรือ”
อีกฝ่ายงุนงง แววตาเป็นประกาย
“ที่จริง ส่วนมากสัตว์อันดับวานรอย่างพวกเจ้ามีทฤษฎี “อับอาย” อยู่ และเพศตรงข้ามไม่อาจเปลือยตามใจชอบได้ ขอโทษที่ข้าไม่ได้คิดให้รอบคอบ”
พูดจบ ชุดคลุมนักเวทที่เหมือนกับของผมเป๊ะก็ปรากฏบนร่างกายเธอ ในที่สุดความกระสับกระส่ายบนตัวผมก็ถูกยับยั้งไว้ได้
ดูท่าผมคงบําเพ็ญตนไม่ดีพอ ผมเลยโดนจับได้ทันที แล้วยังพ่ายแพ้ต่อการจู่โจมของสัมผัสด้วย ช่างล้มเหลวจริงๆ
ถ้าสวรรค์ให้โอกาสผมอีกครั้ง ผมจะไม่ลืมบีบดูแน่! แต่เมื่อกี้รู้สึกเหมือนจะเป็นคัพ D นะ
“แต่ท่าทางการสัมผัสหน้าอกข้าของเจ้า จากข้อมูลของข้า มันเป็นหนึ่งในท่าทางก่อนการผสมพันธุ์ของสัตว์อันดับวานร ข้าขอคิดว่าเจ้าเกิดอารมณ์กับร่างกายข้าได้ไหม แต่สิ่งที่ข้าต้องประกาศไว้ล่วงหน้าว่า แม้ข้าจะคัดลอกร่างกายของมนุษย์ผู้หญิง อีกทั้งข้อมูลร่างกายยังถูกตั้งค่าตามค่าเฉลี่ยของผู้หญิงทั่วทั้งแผ่นดิน แต่ในฐานะที่ข้าเป็นการสะสมของความคิดจึงไม่มีความสามารถในการสืบพันธุ์ ดังนั้น…”
“หยุดเถอะ เราวกเข้าประเด็นตอนแรกได้ไหม”
เมื่อเห็นเธอพูดเรื่องน่าอายเมื่อกี้อย่างไร้อารมณ์ ผมก็ได้แต่รู้สึกเหมือนกําลังคุยกับเทพีผู้ใสซื่อ ซึ่งมันคงไม่ใช่ความเข้าใจผิดของผมแน่
“ก็จริง พวกเราเสียเวลามาเยอะแล้ว จุดประสงค์ดั้งเดิมของข้าคือเพื่อให้พูดคุยกันสะดวกยิ่งขึ้น สุดท้ายกลับทําให้เสียเวลาไปมากมาย”
“เปล่าๆๆ ผมรู้สึกว่ามันไม่ถือว่าเสียเวลาหรอก จริงๆนะ”
“งั้นหรือ ก็ได้ พวกเรามาเริ่มพูดคุยกันเลยเถอะ”
พูดจบ เธอก็โบกมือ ตารางประหลาดก็ปรากฏอยู่ข้างหลังเธอ
เมื่อมองดูดีๆ มันคือตารางอัพเกรดค่าประสบการณ์เลเวล 1 ถึง 20! แต่ว่าตัวเลขดูเหมือนจะน้อยลงนะ
“ข้าทําการตั้งค่าข้อมูลครั้งที่หนึ่งของพวกเจ้าตามการคาดการณ์ที่ข้ามีต่อโลกนี้ และจากกระบวนการใช้งานข้าก็พบว่า ข้อมูลนี้เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่ว่า!”
อีกฝ่ายหมุนตัวกลับมา
“ข้าประเมินปัจจัยต่างๆ ของโลกใบนี้ที่มีผลกระทบต่อค่าเฉพาะต่ําไป จนทําให้ข้อมูลมากมายเกิดความผิดพลาดได้ง่าย ยิ่งกว่านั้น การหาค่ายังทําได้ยากอีกด้วย ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจจะลดค่าทั้งหมด เพื่อลดค่าความคลาดเคลื่อน และทําให้ข้อมูลแม่นยํายิ่งขึ้น”
“ผลกระทบที่คุณพูดถึงคือสกิลที่สามารถเพิ่มความสามารถได้ชั่วพริบตาของพวกปีศาจใช่ไหม”
“ไม่เพียงข้อนี้ เมื่อเทียบกับข้อมูลปริมาณทุกอย่างของพวกเจ้าแล้ว ในกรณีที่ฝ่ายตรงข้ามยังสามารถต่อสู้ได้แม้เลือดเหลือศูนย์นั้น ข้าคิดว่ามันจะก่อให้เกิดผลกระทบที่พวกเจ้าไม่อาจคาดคะเนได้”
“ผลกระทบนี่มันเรื่องใหญ่แบบไม่ธรรมดาก็จริง แต่ค่าที่น้อยขนาดนี้คงเปรียบเทียบไม่สะดวกหรอกมั้ง”
“ก็เพราะว่ามันน้อย ขอบเขตที่จะอัพเกรดได้จึงมีอยู่มาก”
อีกฝ่ายปฏิเสธความเห็นของผมทันที
“นี่ต่างก็เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่สุด แต่จากการตัดสินของข้าแล้ว โลกใบนี้ยังมีหลายสิ่งที่ข้อมูลของข้าไม่อาจคาดคะเนได้”
“อย่างเช่น ไม่อาจแสดง เหรอ”
“ใช่แล้ว และการที่พวกเจ้าอยู่ที่นี่ก็เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้”
“ พวกผมเหรอ จริงสิ พวกผมเป็นใครกันแน่ ทําไมถึงมาอยู่บนโลกนี้ได้ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับความทรงจําของพวกผมกันแน่!”
“ขอโทษด้วย ข้าเคยบอกเจ้าในเรื่องที่ไม่ควรบอกไปแล้ว แต่เนื่องจากข้าไม่มีสิทธิ์แก้ไขค วามทรงจําของเจ้า ดังนั้นข้าจึงไม่อาจลบความทรงจําเจ้าได้ แต่ข้าก็ไม่อาจบอกเจ้าไปมากกว่านี้เช่นกัน”
“ถึงผมข่มขู่คุณคุณก็ไม่บอกอยู่ดีงั้นเหรอ”
“เจ้าไม่มีความสามารถที่จะทําแบบนั้น”
“พูดแบบนี้ทําผมปวดใจจัง”
ผมยักไหล่อย่างจนใจ
“จะว่าไป คุณเป็น “โลก” ผมก็ไม่สามารถเอาชนะคุณได้จริงๆ”
“เปล่า ข้าหมายถึงเจ้าจะไม่ทําแบบนั้น จากการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดของเจ้า ถึงแม้เจ้าจะฆ่าฝ่ายตรงข้ามตาย เจ้าก็ไม่อาจใช้วิธีปาเถื่อนทําให้คนอื่นยอมจํานน”
“ข้อมูลของผม..รวมไปถึงความทรงจําที่หายไปด้วยหรือเปล่า”
อีกฝ่ายชะงัก ในแววตาก็ดูสั่นไหว จากนั้นจึงตอบกลับ
“คําถามนี้ไม่เกินสิทธิ์ของข้า และคําตอบก็คือมันรวมไปถึงความทรงจําสมัยก่อนของเจ้า”
“งั้นเหรอ…”
ผมมองดวงตาไร้แววสีขาวของเธอ พลางคิดดูสักพัก แล้วถาม
“ทําไมถึงบอกผม แล้วคนอื่นล่ะ”
“ความทรงจําของคนอื่นถูกดัดแปลงไป ข้าเคยบอกแล้ว ว่าข้าไม่ได้รับอนุญาตให้ดัดแปลงความทรงจําของเจ้า ดังนั้นข้าจึงทําได้เพียงใช้วิธีนี้บอกเจ้าโดยตรง เพื่อเลี่ยงไม่ให้เจ้าเข้าใจผิด”
“ก็ได้”
ความทรงจําของผมไม่ถูกดัดแปลงงั้นเหรอ ทําไมถึงเป็นผมล่ะ ความทรงจําผมไม่เคยถูกดัดแปลงมาก่อนเลยเหรอ ทําไมเธอกลับไม่เต็มใจจะดัดแปลงมันล่ะ
“เอาละ นี่ก็คือเรื่องที่ข้าอยากบอกเจ้า แม้จะเสียเวลาไปหน่อย แต่ก็นับว่าสื่อสารได้สําเร็จ เมื่อครู่ที่ข้าไม่ได้ปลุกเจ้าแต่หยุดเวลาคืนชีพของเจ้าแทนก็เพื่อให้เจ้าได้นอนหลับให้นานอีกหน่อย ได้โปรดอย่าใส่ใจ”
“ผมไม่ใส่ใจหรอก ผมได้หลับตั้งนานเชียวนะ”
“แต่สิ่งที่ข้าต้องบอกไว้ล่วงหน้าก็คือ เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าตายในพื้นที่ส่วนกลาง เจ้าจะต้องได้รับโทษด้วยการลดเลเวล เมื่อคืนชีพแล้ว เจ้าจะมีเลเวล 18.”
“เดี๋ยวๆๆ! ตายในพื้นที่ส่วนกลางจะถูกลดลงหนึ่งเลเวลเหรอ ทําไมผมไม่เคยได้ยินล่ะ!”
“เพราะเจ้าไม่เคยตายนอกเมืองมาก่อน จึงไม่รู้มั้ง”
พูดจบ เธอก็เอียงศีรษะ
บ้าเอ๊ย มาทําตัวแอ๊บแบ๊วอะไรตอนนี้ ธรรมชาติก็ควรมีขีดจํากัดสักหน่อยสิ! ยิ่งกว่านั้นทําไม มันถึงเป็นประโยคคําถาม คุณคอยมองดูพวกผมอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ
“แต่ก่อนหน้านี้ผมอยู่เลเวล 19 แล้วยังมีค่าประสบการณ์ตั้งสองล้านแล้วด้วย ถึงคุณจะลดมาตราส่วนของค่าประสบการณ์แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ผมก็ลงแรงไปไม่น้อยเลยนะ!”
อีกฝ่ายมองผมอย่างอึดอัด พลางคิดดู แล้วพูดขึ้น
“แต่ว่า มันเป็นข้อมูลที่ตั้งค่าไว้แต่แรกแล้วนี่”
“คุณบอกว่าคุณเปลี่ยนข้อมูลแล้วไม่ใช่เหรอ ตามปกติพอแก้ไขข้อมูลแล้วก็ต้องมีการชดเชยอะไรบ้างสิ งั้นครั้งนี้ก็อย่าให้ผมโดนลดเลเวลเลยนะ”
อีกฝ่ายคิดอยู่นาน พลางมองผม แล้วมองไปอีกด้าน
ท่าทางที่ดูน่าสงสารทําให้ผมอยากบอกว่า “ช่างมัน
“เฮ้อ ก็ได้ งั้นผมจะเปลี่ยนเงื่อนไขแล้วกัน แล้วมันก็คงไม่ใช่เงื่อนไขที่ยากสําหรับคุณด้วย”
“เจ้าว่ามาก่อนสิ”
โลกถามอย่างระมัดระวัง
“ช่วยผมเปลี่ยนความทรงจําของญาริน ให้เธอลืมเรื่องที่ผมเป็นคู่หมั้นของเธอ”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่ทําไมล่ะ”
“เพราะว่า…”
ผมมองเธอ แล้วถอนหายใจ
“ผมให้ความสุขที่เธอควรมีไม่ได้ และคืนหัวใจให้เธอตอนที่ยังคืนได้เถอะ”
“แต่จากข้อมูล ข้าคิดว่าเจ้าควรจะให้ความสุขนางได้สิ”
“แต่ว่า ผมไม่คู่ควรหรอก”