ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 25
ตอนที่ 25 พ่ายแพ้ และความตาย
“ล้อเล่นอะไรเนี่ย…”
ในพริบตาที่อีกฝ่ายเดินออกมาจากเปลวไฟ ผมก็รู้สึกใจหาย เพราะเลเวลของอีกฝ่ายกลายเป็นตัวเลขยุ่งเหยิงในชั่วพริบตา อีกทั้งยังมีสัญลักษณ์ประหลาดเด้งไปมาไม่หยุด แล้วสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นเครื่องหมายคําถาม
ยิ่งกว่านั้น คําสุดท้ายในฉายาของเธอก็เปลี่ยนจาก “นักร้องแห่งความตาย” เป็น “นักแสดงแห่งความตาย! จะดูยังไงก็เหมือนกับเทพีปีศาจที่ปลดปล่อยสวัสดิกะ ไม่ก็กดโค้ดโกงใน GTAเลย!
เมื่อกี้ดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติปะปนเข้ามา แต่ผมว่าอย่าไปสนใจจะดีกว่า
แค่เห็นอีกฝ่ายยื่นมือมากลางอากาศ ข้างในเสาสีดําข้างหลังเธอก็แผ่หมอกควันออกมา เหมือนกับจะก่อตัวเป็นอะไรบางอย่าง!
นี่มันจังหวะจะเปิดโหมดบ้าคลั่งหรือเปล่า
ผมจะให้มันเกิดขึ้นได้ไง!
เอฟเฟกต์ “จิตวิญญาณแห่งสายลม” หมดไปแล้ว และเหลือเพียงเอฟเฟกต์ของเวทมนตร์ “เร่งความเร็ว” กับ “เงาขั้นสุด
ผมกดสกิล “บุกทะลวง” อย่างรวดเร็ว แล้วซูดาบขึ้นพุ่งตัวเข้าไปในหมอกสีดําที่ก่อตัวขึ้นทันที
แต่ว่า…
ผมได้ยินเสียงกลั้นหัวเราะอย่างเหน็บแนม
จากนั้นผมก็รู้สึกว่าอะไรบางอย่างเสียบเข้าที่ส่วนท้องผม วินาทีถัดไปผมก็กระแทกเข้ากับกําแพงข้างหลังแล้ว!
แจ้งเตือน : เข้าสู่สถานะใกล้ตาย
ว่าไงนะ
เพิ่งได้สติก็เห็นการแจ้งเตือนนี้ นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะบินเข้าใส่ผมโดยเหมือนกับไม่ได้ขยับตัวใดๆ ทั้งยังเกือบทําผมตายอีกด้วย!
ผมไม่สามารถใช้เวทรักษาเพิ่มเลือดได้ทันทีในสถานะใกล้ตาย จึงกดน้ํายาเพิ่มเลือดขวดหนึ่ง แล้วใช้เวทรักษาเพิ่มเลือด
“หึๆ ดูท่าเจ้าจะทนทานดีทีเดียว! เป็นคนทั่วไปโดนท่านั้นของฉันก็คงตายไปแล้ว! ฮ่าๆๆ!”
เฮ้ๆๆ ความต่างของเลเวลนี้เกินไปไหม นี่มันฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตใน Danganronxx ชัดๆ เธอลืมกินยาก่อนออกจากบ้านเหรอ อย่าล้มเลิกการรักษานะ
แต่ว่า…
ตอนนี้สิ่งที่หมอกสีดําก่อตัวนั่นขึ้นรูปแล้ว มันดูเหมือนกับกีต้าร์เลย แต่เพราะกลุ่มก้อนสีดําสนิทเลยทําให้ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นกีต้าร์ไฟฟ้าหรือว่ากีต้าร์
เดี๋ยวนะ ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย ประเภทของกีต้าร์จะทําให้แตกต่างหรือไง อีกฝ่ายอัญเชิญอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาแล้ว และใกล้จะใช้ท่าเผด็จศึกแล้วนะ
แต่มองไปทางดาร์คโคลด์ เธอกลับดูเหมือนมีสีหน้ายินดี เฮ้ๆๆ ลูกน้องคุณจะฆ่าผมแล้วนะ จะไม่เป็นไรจริงๆเหรอ…เดี๋ยวนะ หรือว่ามันเป็นเพราะผมทําเควสต์ไม่สําเร็จ เพราะผมอาจตายได้ในตอนนี้น่ะเหรอ
ก็ได้ นี่มันหมากตัวใหญ่เลยนะ!
“บ้าเอ๊ย ภาพพจน์ของคุณพังทลายหมดเลยนะ คงไม่ใช่เพราะแบบนี้ถึงโดนไล่จากสวรรค์ แล้วกลายเป็นเทวดาแห่งความเสื่อมใช้ไหม..คนบนสวรรค์นี้นะ แหม ทําเกินกว่าผมซะอีก พอเทียบกับพวกเขา ผมก็นับว่าสุภาพกว่ามากเลยนะ ฮ่าๆๆ”
เมื่ออีกฝ่ายได้ยินผมพูดถึงสวรรค์ ก็ชะงักสักพักแล้วคิดจะตอบกลับทันที
แต่ผมกลับรู้สึกถึงสิ่งที่ต่างออกไป เพราะเปลวไฟข้างหลังอีกฝ่ายไม่ขยับอีก!
หรือว่า สวรรค์…ใช่แล้ว เวทมนตร์สายแสง!
“แบบนี้นี่เอง!”
พูดจบผมก็ใช้ บุกทะลวง” อีกครั้ง
“ฮ่าๆ จะอีกกี่ครั้งก็…”
“แฟลช!”
ขณะที่ใกล้จะเข้าถึงขอบเขตการโจมตีของอีกฝ่าย นอกจากผมจะใช้เวทรักษากับเวทกําจัดสถานะผิดปกติแล้ว ผมยังใช้เวทสายแสงหนึ่งเดียวที่ผมมี นั่นคือแฟลช!
ในขณะเดียวกัน ผมยังใช้ โทเท็มน้ําแข็ง กระแทกผมจากตําแหน่งเดิมไปยังด้านข้าง จากนั้นก็หยิบ “ผู้ดูหมิ่น” ออกมาแล้วใช้ “บุกทะลวง” อีกครั้ง!
“อ๊า! ตาข้า!”
แม้อีกฝ่ายตาพร่าเพราะแสงเฟลช แต่ก็เกิดเสียงระเบิดขึ้น โทเท็มน้ําแข็งข้างหลังผมก็แตกเป็นเสี่ยง ซึ่งมันคือตําแหน่งที่ผมยืนอยู่เมื่อกี้นี้
“เวทสายมืดก่อตัวเป็นเกราะป้องกันร่างกายของคุณอยู่ การปล่อยเวทสายแสงธรรมดาหรีอการโจมตีทางกายภาพจะไม่ส่งผลอะไรต่อคุณเลยใช่ไหม”
ผมพุ่งไปข้างตัวเธอ แล้วพูดเสียงเบา
“ใช่แล้ว คุณรู้ไหม มันไม่มีกระจกบานไหนที่สะท้อนแสงได้ร้อยเปอร์เซ็น มันต้องมีการดูดซับแสงมาบ้าง…แต่ว่า ถ้าเกิดการสะท้อนในสถานที่ปิดโดยมีแหล่งกําเนิดแสงนับไม่ถ้วนล่ะ คุณลองดูหน่อยไหม เขตแดนผลึกน้ําแข็งแห่งแสง!”
น้ําแข็งนับไม่ถ้วนโอบล้อมเราไว้ทันที มันปิดผนึกเราไว้เหมือนกับลูกบอล
เดิมที่เขตแดนผลึกน้ําแข็งแห่งแสงทําได้แค่โอบล้อมเป้าหมาย แต่เมื่อผ่านการดัดแปลงเวทมนตร์ของผม เมื่อมันโอบล้อมในพื้นที่ที่ค่อนข้างเล็ก มันจะสามารถโอบล้อมได้ทั่วทั้งสถานที่!
“จงสะท้อนไปซะ แฟลช!”
นอกจากแสงจากเขตแดนผลึกน้ําแข็งแห่งแสง ผมยังใช้แฟลชจากทุกมุมทั่วทั้งห้องอย่างต่อเนื่อง เมื่อผ่านการสะท้อน มันก็จะกลับมาที่เดิม ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ผมพุ่งตัวไปข้างๆโคริน่า
องศาการมองเห็นเป็นสิ่งที่ลําบากสําหรับผม แต่ถ้ารู้แต่แรกว่ามันจะสะท้อน งั้นมันก็แตกต่างกัน
“อ้า! เป็นไปไม่ได้! มันไม่ใช่คาถาแฟลชแน่!”
“มันก็ไม่ใช่แค่แฟลชหรอก”
หลังจากใช้แฟลชหลายสิบครั้งติดต่อกัน ผมก็เดินออกจากพื้นที่ จากนั้นก็หยิบสิ่งของทรงกลมออกมา ปลดเซฟตี้บนนั้นออก
“ยังมีระเบิดคริสตัลสายแสงด้วยนะ”
แล้วผมก็โยนมันเข้าไป
ตุ้ม!
น้ําแข็งที่ปกคลุมถูกระเบิดจนเป็นซากทันที! ในขณะเดียวกัน ผมก็เร่งฝีเท้าไปที่ริมสนาม แล้วหยิบธนูจากข้างหลังมิสสโนว์มันสเตอร์ที่ยังคงจ้องผมอยู่
“ยืมหน่อยสิ!”
“ฮะ อ้อ ได้…”
แล้วผมก็ชักดาบออกมาจากแหวนเก็บของอย่างรวดเร็ว
“ท่านดาร์คโคลด์ ที่จริงอาวุธของโคริน่าใช้เพื่ออําพรางเท่านั้นใช่ไหม”
“หา”
ดาร์คโคลด์มองผม
“ทําไมพูดแบบนั้นล่ะ”
“ถ้าเธอใช้ดนตรีเป็นอาวุธจริง ทําไมเธอถึงไม่สะทกสะท้านตอนที่ผมพุ่งใส่เธอ แต่กลับปล่อยให้ผมโจมตีไม่หยุดล่ะ ส่วนเมื่อกี้ หลังจากผมใช้แฟลช นอกจากการโจมตีครั้งแรก เธอก็ไม่ได้โจมตีผมอีกเลย…ไม่สิ คงโจมตีไม่ได้อีกต่างหาก เพราะบนกําแพงรอบๆมีรูเยอะแยะตอนผมไม่ทันสังเกตเห็น หรือก็แปลว่า…”
ผมพาดดาบอัศวินลงบนคันธนู แล้วง้างธนูจนสุดแขน
“เธอใช้คาถาดวงตา! ตอนที่ผมเข้าใกล้เมื่อกี้ก็พบว่าตรงกลางอาวุธเธอมีตาดวงหนึ่ง แต่มันหลับอยู่ เพราะคงได้รับผลกระทบจากแฟลช ตอนแรกผมคิดว่ามันอาจเป็นแค่เครื่องมือบางอย่าง แต่ว่าถ้ามันไม่ใช่ล่ะ!”
ผมปล่อยมือขวา ดาบน้ําแข็งก็พุ่งออกไปทันที
“งั้นก็แปลว่า มันคือเครื่องมือหนึ่งเดียวของเธอที่ใช้จําแนกศัตรู! ขอแค่ผมโจมตีระยะไกล เธอก็จะไม่มีทางป้องกันการโจมตีของผมได้อีก!”
(ผู้ใช้เวทมนตร์จะมีการเหนี่ยวนําการโจมตีจากเวทมนตร์ของคนอื่น)
ตอนแรกผมคิดว่าใช้ธนูคงไม่ได้ผลซะอีก แต่ว่า…ผมลืมว่าผมมีสกิล ความแข็งแกร่ง” อยู่นี่
ดาบอัศวินพุ่งผ่านสนามไปตรงหน้าโคริน่าในพริบตา ร่างกายเธอในขณะนี้ก็แผ่เสียงซ่าออกมา และเปลวไฟดั้งเดิมก็ถูกเวทสายแสงกัดกร่อนจนหมดแล้ว
ไม่ว่ายังไง คราวนี้ผมก็คงชนะ
แต่ว่า..
“เจ้าทําได้ไม่เลวนี่ แต่น่าเสียดายที่ความรู้เจ้าไม่มากพอ”
ผมกําลังประหลาดใจว่าทําไมอีกฝ่ายพูดแบบนี้ แล้วโคริน่าก็ยื่นมือออกมา จากนั้นก็รับดาบอัศวินของผมไว้
ผม…คุณล้อผมเล่นอยู่หรือไง
เรื่องที่น่ากลัวยิ่งกว่าได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเปลวไฟสีดําแผดเผาขึ้นมาใต้เท้าโคริน่า ผ่านไปหนึ่งวินาทีเปลวไฟก็มอดไป เหลือไว้แคโคริน่าที่ไร้บาดแผลยืนอยู่ที่เดิม!
“เจ้ามอง ทักษะวิญญาณ” ของข้าออก ข้าต้องขอแสดงความนับถืออย่างสุดซึ้ง แต่ว่า เจ้าควรรู้อีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหมด นอกจากแวมไพร์กับฟินิกซ์แล้ว ก็มีพวกข้าชาวเทวดาแห่งความเสื่อมที่ความสามารถในการฟื้นฟูแข็งแกร่งที่สุด อย่างไรซะ พวกข้าก็กลายมาจากเทวดานี่นา”
อีก!
ยังไม่ทันได้ตอบสนอง จู่ๆ ผมก็รู้สึกเจ็บที่แผ่นอก! พอหันหน้ามองไปข้างหลัง ก็เห็นดาบอัศวินเสียบอยู่บนกําแพงข้างหลังผม
“เล่นกันมามากพอแล้ว ตอนนี้ต้องให้เจ้ารู้ความต่างชั้นของความสามารถเจ้ากับข้าสักหน่อย แม้เป็นแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ช่วยเจ้าไม่ได้หรอก”
พูดจบ อีกฝ่ายก็แวบมาตรงหน้าผม แล้วโบกมือขวา
ผมรู้สึกถึงสายตาที่กลอกขึ้นด้านบน จากนั้นก็กลายเป็นฉากสีดํา
ท่านเสียชีวิตแล้ว
เควสต์ย่อย : การเดินทางในโลกปีศาจ
เควสต์ที่หนึ่ง : หนีปัญหา ล้มเหลว
รอเวลาคืนชีพ : 03: 00: 00
1 พลังบังไคขั้นสุดท้ายในเรื่อง Bleach
2 ชื่อเกมแนว Open World เกมหนึ่ง
3 ชื่อเกมแนวสืบสวนเกมหนึ่ง