จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 267

บทที่ 267: เสริมสร้างความแข็งแกร่งหมาป่าวิญญาณ (2)

การจะพัฒนาอสูรอัญเชิญให้ก้าวสู่ระดับต่อไปนั้นจําเป็นจะต้องดูแลมันอย่างใกล้ชิดที่สุด เช่นนี้โม่ฝานจึงขอคําแนะนําจากเฉียนอวี้ฮัวเพื่อหวังว่าเขาจะสามารถช่วยอะไรอสูรอัญเชิญของเขาได้บ้าง

“การจะพัฒนาอสูรอัญเชิญได้นั้นเธอจําเป็นจะต้องเตรียมตัวให้มาก ยิ่งมากเท่าไหร่โอกาสสูงมากขึ้นเท่านั้น กล่าวง่ายๆก็คือถ้าหากว่าหมาป่าวิญญาณของเธอนั้นพยายามด้วยตนเองปราศจากอุปกรณ์ช่วยเหลือใดๆ โอกาสที่มันจะสําเร็จนั้นประมานสองในสิบเท่านั้น ถ้าหากว่าผิดพลาดมันก็จะกลับคืนสู่ระดับสามัญทันที” เฉียนอวี้ฮัวนั้นคิดว่าโม่ฝานมีมุมมองที่ดีกับเขามากยิ่งขึ้น เช่นนี้เขาจึงเลือกที่จะตอบคําถามของนักเรียนคนนี้อย่างจริงใจ

“สองในสิบงั้นเหรอ น้อยไปไหม? ซื้อลอตเตอรี่ยังมีโอกาสถูกมากกว่า!” โม่ฝานกล่าวออกมาด้วยความรู้สึก ที่หดหู

“นั่นเป็นเพราะว่าจิตวิญญาณของหมาป่าวิญญาณของเธอน่ะแข็งแกร่งมากกว่าอสูรทั่วไป เดิมที่หมาป่า วิญญาณส่วนมากนั้นมีโอกาสสําเร็จเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้นนะ” เฉียนอวี้ฮัวกล่าวเสริม

“ผมจะเพิ่มอัตราการประสบความสําเร็จได้อย่างไรบ้างครับ?” โม่ฝานถามตรงประเด็น

“เธอไม่ได้เรียนมางั้นเหรอ? แม้ว่าเธอจะครอบครองธาตุทั้งสามชนิด แต่ทว่าเธอก็ยังคงเป็นนักเรียนของสาขาอัญเชิญ…” เฉียวอวี้ฮัวดโม่ฝานด้วยน้ําเสียงที่เข้มงวดกว่าเดิม “เธอจะบอกว่าเธอมีโลหิตอสูรระดับนักรบใช่ไหม อ่า มันก็เป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือที่ไม่เลวร้ายนัก อัตราของการประสบความสําเร็จคงจะเพิ่มมาสักสองส่วน”

“ใช่ไหมล่ะครับ… แต่ว่าเพียงแค่สี่ในสิบ ผมก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี” โม่ฝานพูดตรงๆ

แม้ว่าชายหนุ่มรูปงามอย่างเขาจะค่อนข้างจะมีโชคในทุกเรื่องที่ผ่านมา แต่ทว่าโม่ฝานไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะสามารถตีบวกชุดเกราะได้ในอัตราสี่ต่อสิบเช่นนี้!

การเดิมพันในครั้งนี้นั้นเสียงอย่างมาก ถ้าหากว่าพ่ายแพ้ หมาป่าวิญญาณจะสูญเสียความแข็งแกร่งไปมากจนไม่อาจคาดเดา ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นมันยิ่งยากมากกว่าเดิมถ้าหากจะวนกลับมาที่ระดับถัดไปอีกครั้ง!

“แน่นอนว่ามีวิธีการมากมาย แต่ว่ามันจําเป็นจะต้องใช้เงินอย่างมาก” เฉียนอวี้ฮัวเริ่มอธิบาย “ปกติแล้ว มีปัจจัยหลายอย่างที่กําหนดระดับของอสูรอัญเชิญ…”

“ประการแรกคือ เชื้อสายดั้งเดิมของมัน ยิ่งเชื้อสายสูงส่งมากเท่าไหร่ โอกาสการเลื่อนระดับยิ่งมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน”

“ประการที่สอง ความแข็งแกร่งของวิญญาณ ยิ่งพลังวิญญาณมีศักยภาพมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะมีโอกาสมากขึ้น”

“ประการที่สามคือร่างกาย ความแข็งแกร่งของร่ายกายนั้นจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้ผ่านพ้นการต่อสู้ที่ดุเดือดมาอย่างสม่ําเสมอ ซึ่งแน่นอนว่าบาดแผลทั้งหมดจะต้องหายไปแล้วจนหมดสิ้นด้วยเป็นการชําระล้างร่างกายไปในตัว ทุกอย่างควรจะเรียบร้อยก่อนที่จะเข้าสู่ระดับต่อไป”

เชื้อสาย วิญญาณและร่างกาย! โม่ฝานฟังและจดบันทึกสามคํานี้เอาไว้ในใจอย่างแม่นยํา

“โลหิตอสูรระดับนักรบที่เธอมีนั้นช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณ เมื่อใช้มันแล้ว จิตวิญญาณก็จะเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น อัตราความสําเร็จก็จะเพิ่มขึ้นประมานสองส่วน แน่นอนว่าระดับของโลหิตวิญญาณที่มีอยู่นั้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งเช่นกัน กล่าวง่ายๆก็คือเธอสามารถเพิ่มได้อีกสักสองส่วนนั่นแหละนะ”

“อาจารย์ครับ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าถ้าหากผมหาวิธีปรับปรุงสายเลือดกับร่างกายของมันได้ อัตราการประสบความสําเร็จก็จะมากขึ้นงั้นเหรอ?” โม่ฝานรีบถาม

เฉียนอวี้ฮัวพยักหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังขึ้นมา “นี่คือเหตุผลที่ฉันพูดว่าเธอต้องมีเงิน…. เชื้อสายของอสูรระดับนักรบนั้นไม่ใช่สิ่งของราคาถูก อีกทั้งการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของหมาป่านั้นก็มีมากมาย แต่วิธีที่ดีก็มีราคาสูงลิ่วด้วยเช่นกัน ถ้าหากว่าเธอสามารถค้นหาเชื้อสายที่เหมาะสมได้มันอาจจะเพิ่มอัตราการประสบความสําเร็จได้มากถึงสามส่วนเชียว ส่วนร่างกายนั้นเธอสามารถใช้หลายๆวิธีรวมกันได้ แต่ก็บอกไม่ได้หรอกว่าจะเพิ่มได้มากเท่าไหร่ แต่ทว่ามันช่วยได้แน่นอน!”

ดูเหมือนว่าโลหิตอสูรระดับนักรบนี้จะไม่ได้ช่วยการันตีว่าจะสําเร็จร้อยเปอร์เซ็น ในตอนนี้เขาจะต้องค้นหาสายเลือดเพื่อมาจัดการกับเรื่องนี้อีกงั้นเหรอเนี่ย!

โชคดีอย่างมากที่ในตอนนี้เขายังเหลือเงินเก็บมากกว่าสิบล้าน โม่ฝานรีบตรงดิ่งไปยังสมาคมเวทมนตร์ทันที เพื่อค้นหาสายเลือดอสูรระดับนักรบ

สมาคมเวทมนตร์นั้นมีสิ่งของเหล่านี้อยู่ในโกดังอยู่แล้ว แต่ทว่าการสั่งอะไรบางอย่างเช่นสายเลือดอสูรระดับนักรบที่เป็นของหมาป่าจําเป็นจะต้องใช้เวลามากกว่าสิบวันหรือครึ่งเดือนในการส่งมายังเมืองเล็กๆ แต่ทว่าถ้าหากเป็นในเมืองใหญ่นั้นมันจะถูกวางขายเกลื่อนกลาดและมีราคาสูงขึ้นมากกว่าเดิมสองถึงสามล้าน อย่างไรก็ตามในเวลานี้โม่ฝานไม่สามารถอดทนรอได้อีกต่อไป

เขาจัดการซื้อสายเลือดอสูรหมาป่าระดับนักรบกลับมาในราคาสิบล้านพร้อมกับแอบกัดฟันตลอดเวลาการซื้อจ่าย จากนั้นเขาก็ซื้อกระดูกและหัวใจเพื่อช่วยเสริมสร้างพลังของร่างกายซึ่งมีราคากว่าหนึ่งล้านหยวน หลังจากที่ได้ซื้อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วกระเป๋าเงินของโม่ฝานแห้งเหี่ยว เขาเหลือเงินไม่ถึงหนึ่งล้านหยวนด้วยซ้ําในตอนนี้ เรียกได้ว่ากลับสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่าอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

“หมาน้อยของฉัน นายควรจะรักฉันให้มากๆนะ อย่าล้มเหลวเลย…” โม่ฝานแทบจะจุดเทียนเผาธูปเพื่อบูชาหมาป่าวิญญาณของตนเอง ในตอนนี้เลขบัญชีแปดหลักของเขากลับสู่หกหลักด้วยเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

โลหิตอสูรระดับนักรบสามารถช่วยเพิ่มพลังวิญญาณได้มากถึงสองในสิบ

สายเลือดอสูรระดับนักรบสามารถช่วยได้ประมานสามในสิบ

หมาป่าวิญญาณนั้นฝึกฝนอย่างแข็งขัน มันต่อสู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย เช่นนี้จึงสามารถช่วยเพิ่มอัตราประสบความสําเร็จได้อีกสองในสิบ

เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว อัตราความสําเร็จในครั้งนี้อยู่ที่เจ็ดในสิบ ซึ่งยังไม่ได้รวมกระดูกกับหัวใจหมาป่าเวทสามตาที่เพิ่งซื้อมาเมื่อครู่นี้ด้วย

“เนื่องจากหมาป่าเวทของเธอนั้นไม่เคยถูกบํารุงด้วยอาหารเสริมใดๆเลย ความแข็งแกร่งนี้เป็นของตัวมันเอง อย่างแท้จริง กระดูกและหัวใจหมาป่าเวทสามตานี้ก็พอจะมีประสิทธิภาพอยู่บ้าง อัตราสําเร็จของมันทั้งหมดนี้น่าจะอยู่ประมานเกือบๆแปดในสิบ นอกจากนี้เธอยังเป็นนักเวทระดับมัชฌิมอีกด้วย พลังเวทมนตร์เนบิวลาของเธอสามารถเพิ่มได้อีกหนึ่งส่วน กล่าวอีกอย่างก็คือหมาป่าวิญญาณของเธอนั้นมีอัตราสูงมากที่จะเลื่อนขั้นในครั้งนี้ได้ เกือบเก้าในสิบ!” เฉียนอวี้ฮัวประเมินทุกอย่างออกมาอย่างจริงใจ

“โอ้ แปดถึงเก้าในสิบ เป็นอะไรที่ค่อยดูดีขึ้นมาหน่อย!” โม่ฝานกล่าว

“ที่จริงแล้วฉันก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะร่ํารวยมากขนาดนี้ วัสดุพวกนี้นั้นรวมๆแล้วมูลค่ากว่าสามสิบล้านหยวน” เฉียนอวี้ฮัวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มสนับสนุน “ไปได้แล้ว จงไปพยายามซะ ในครั้งแรกของนักเวทธาตุอัญเชิญ คนอื่นๆนั้นมีโอกาสสําเร็จเพียงสามในสิบ แต่เก้าในสิบของเธอนั้นรับรองได้เลยว่าหมาป่าวิญญาณตัวนี้จะต้องเลื่อนขั้นสู่ระดับนักรบได้อย่างแน่นอน!”

โม่ฝานหยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น ด้วยคําพูดของเฉียวอวี้ฮัวนั้นทําให้เขารู้สึกดีและมั่นใจขึ้นอย่างมาก

ที่สนามฝึกซ้อมของมหาวิทยาลัยจักรพรรดินั้นมีลานฝึกซ้อมส่วนตัวอยู่ โม่ฝานจ่ายเงินเพื่อเข้าใช้งาน เขาต้องการแน่ใจว่าจะไม่มีใครสามารถเข้ามารบกวนหรือขัดจังหวะเขาได้

ในสถานที่ที่กว้างขวางแห่งนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ยืนอยู่ เวทมนตร์ถูกร่ายขึ้นอย่างรวดเร็ว แสงจันทราสาดส่องออกมาเป็หลุมดําขนาดใหญ่พร้อมปรากฏกายหมาป่าวิญญาณย่างกรายออกมาจากหลุม

หมาป่าวิญญาณปลดปล่อยเสียงคํารามลั่นออกมา ดูเหมือนว่าวันนี้เสียงของมันจะจริงจังมากกว่าปกติ แน่นอนว่ามันรู้ว่าวันนี้คือวันที่สําคัญของมัน!

“นี่คือโลหิตอสูรระดับนักรบ นี่สายเลือดอสูรหมาป่าระดับนักรบ มีหัวใจแล้วก็กระดูกด้วยนะ สิ่งของพวกนี้มันจะช่วยให้นายพัฒนาสู่ระดับต่อไปได้สําเร็จ อย่ากังวลและไม่ต้องกดดันเลย จงผ่อนคลายซะ นายจะไม่เจ็บปวดหรอก ใจเย็นๆเข้าไว้และสุดท้ายมันจะผ่านพ้นไป จากนั้นนายจะสามารถกลับไปฝึกฝนต่อได้เลยไม่มีปัญหา!” โม่ฝานพยายามปลอบใจหมาป่าน้อยของเขาอย่างถึงที่สุด

หมาป่าวิญญาณส่งเสียงร้องแหบแห้งของมันออกมาอย่างเชื่อฟัง ดวงตาของมันหรี่ลงก่อนก้มหัวให้กับโม่ฝาน

มันหมอบลงต่ําและเอาศีรษะถูไถกับร่างกายของโม่ฝานอย่างแสนรัก

“ฉันไม่ใช่คนแปลกหน้าเลย ไม่ต้องสุภาพมากนักหรอก สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เล็กน้อยอย่างมาก วันหนึ่งถ้าหากฉันต้องพบเจอกับหมาป่าปักษาทมิฬ ฉันจะสูญเสียทั้งแขน ขา วิญญาณ เลือดเนื้อ กระดูก หัวใจ เนื้อหนัง ไม่ว่าอะไรก็ตามที่มันอยากจะกินและทําให้ฉันเป็นอาหารว่าง ถ้าถึงวันนั้นฉันจะต่อสู้กับมันได้อย่างไรถ้าหากไม่พึ่งพาพลังของอสูรอัญเชิญของฉันล่ะ?” โม่ฝานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะลูบไปที่ขนของหมาป่าวิญญาณด้วยความอ่อนโยน