จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 200
บทที่ 200: ราคาแพง
แม้ว่าจะเกิดความโกลาหลในเหตุการณ์นั้นอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างพลันสงบเมื่อเวลาผ่านพ้นไป นอกจากนั้นทุกคนพุ่งเป้าหมายไปที่ศิษย์แห่งตระกูลจ้าวอย่างที่ทั้งสองคนได้คาดหวังเอาไว้
จ้าวหม่าหยันนั้นปราศจากความกังวลใดๆอย่างแท้จริง ตั้งแต่ที่เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มวุ่นวายจนสุดท้ายแล้วจบลงอย่างสวยงาม โม่ฝานนั้นคิดว่าผู้ชายคนนี้เพียงแค่ต้องการชื่อเสียงเพื่อตนเองเท่านั้น
เพราะคนอย่างเขาแล้วนอกเหนือจากการนอนกับผู้หญิงไปวันๆแล้ว เขาไม่ได้คิดที่จะทำอะไรอย่างอื่นเลย แต่ทว่าในวันนี้เขาใช้ประโยชน์และชื่อเสียงที่ได้รับมาอย่างท่วมท้นให้เป็นประโยชน์กับตระกูลของตนเอง เช่นนี้ชื่อเสียงของตระกูลจ้าวนั้นโด่งดังไปทั่วสถาบันอย่างฉุดไม่อยู่!
จ้าวหม่าหยันนั้นไม่ลืมที่จะตอบแทนโม่ฝานด้วยการแนะนำหญิงสาวที่ค่อนข้างจะสวยให้กับโม่ฝานบ้างเป็นครั้งคราว แต่สุดท้ายแล้วโม่ฝานก็ทำได้เพียงแค่ปฏิเสธเธอเหล่านั้นไปอย่างไร้เยื่อใย!
——–
วันสิ้นสัปดาห์ได้มาถึงแล้ว ซึ่งโม่ฝานและจ้าวหม่าหยันเดินทางไปที่ศูนย์การค้าโลกด้วยกัน
ชั้นบนสุดของศูนย์การค้านั้นจะมีห้องโถงขนาดใหญ่ซึ่งมันเป็นสถานที่การประมูลสินค้า โดยปกติแล้วจะมีการประมูลจัดขึ้นเดือนละหนึ่งครั้ง โม่ฝานไม่เคยมาที่นี่เลย เช่นนี้เขาจึงจำเป็นจะต้องเดินข้างกับจ้าวหม่าหยันเพื่อให้เพื่อนของเขาจัดหาบัตรเข้างานให้
“ห้องประมูลนี้นั้นไม่ใช่ว่าใครจะสามารถเดินเข้าออกได้ตามอำเภอใจ ไม่ว่านายจะจ่ายเงินเพื่อสมัครสมาชิกมากแค่ไหนแต่ถ้าหากว่านายไม่มีพื้นหลังที่ยอดเยี่ยมคอยสนับสนุนอยู่ล่ะก็… คงไม่อาจเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ได้ อีกอย่างสถานที่แห่งนี้นั้นจำเป็นจะต้องอยู่ในระดับหัวหน้านักล่าด้วยจึงจะมีสิทธิ์เข้ามาในนี้ ถ้าหากไม่มีพลังก็จำเป็นจะต้องมีผู้สนับสนุนที่ดี!” จ้าวหม่าหยันอธิบายให้โม่ฝานฟังในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินอยู่บนเส้นทางยาวเหยียด
“กล่าวก็คือถ้าหากว่าไม่มีพื้นหลังที่ยอดเยี่ยมหรือว่าพลังที่แข็งแกร่งมากพอก็จะไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้แม้ว่าจะมีเงินก็ตามงั้นเหรอ?” โม่ฝานถามออกมา
“ถูกต้อง นักเวทล้วนแต่ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งเสมอไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับใดก็ตาม นี่คือเหตุผลที่นักเวทผู้เก่งกาจบางคนจำเป็นจะต้องยอมศิโรราบเพื่อเข้าสู่ตระกูลใหญ่เพื่อต้องการพลังหนุนหลังที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งทรัพยากรของพวกเขาย่อมไม่เพียงพอที่จะพัฒนาตนเอง นั่นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่านักเวททุกคนจะได้เข้าร่วมในสมาคมนักล่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะวิ่งออกไปนอกเมืองเพื่อค้นคว้าหาทรัพยากรด้วยตนเอง…”
“หรืออีกอย่างหนึ่งที่ฉันจะบอกก็คือแหล่งทรัพยากรล้ำค่านั้นถูกตระกูลใหญ่หรือผู้มีอำนาจยึดครองไปจนหมดสิ้นแล้ว จริงๆฉันน่ะนะรู้สึกชื่นชมนายอย่างมาก นายไม่ได้มีภูมิหลังที่ยอดเยี่ยมหรือเกิดมาในตระกูลที่สูงส่งแต่ทว่านายกลับมีความแข็งแกร่งเหนือว่าคนรุ่นเดียวกันไปมากโข นายควรจะรู้อยู่แล้วแหละนะว่านักเวทระดับสูงส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องฝึกฝนอย่างขื่นขมพวกเขานั้นขายร่างกายของตนเองเพื่อแลกกับพลัง…” จ้าวหม่าหยันยังคงกล่าวต่อพร้อมถอนหายใจ
“ถ้าฉันอยากจะขายอะไรสักอย่างหนึ่ง ฉันต้องไปที่ไหนงั้นเหรอ?” โม่ฝานถามออกมา
ในตอนนี้กระเป๋าเงินของโม่ฝานนั้นถูกเติมเต็มจนล้น รางวัลที่เขาได้รับจากสถาบันคือสองล้านหยวน บวกกับค่าคอมมิชชั่นจากภารกิจอีกหนึ่งล้านหยวน ซึ่งภารกิจในตอนแรกคือการช่วยเหลือลูกและภรรยาของเขาให้ปลอดภัยเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วเมื่อฝ่ายสามีรู้ตัวว่าภรรยาของเขาเกือบจะสร้างหายนะให้กับเมืองแห่งนี้ เขาก็ยังคงตัดสินใจมอบเงินให้กับโม่ฝานจำนวนหนึ่งล้านหยวนแม้ว่าโม่ฝานจะตัดศีรษะของเธอทิ้งไปแล้วก็ตาม….
สามีนั้นรู้ดีว่าการติดเชื้อปรสิตนั้นทรมานมากเพียงใด กล่าวก็คือในตอนนี้เขารู้สึกดีอย่างมากที่สุดท้ายแล้วภรรยาของเขานั้นรอดพ้นจากการเป็นปีศาจ!
เมื่อได้รับเพิ่มมาอีกหนึ่งล้านห้าแสนหยวน หลังจากที่รวมกับสองล้านหยวนที่มีอยู่ในตอนต้น โม่ฝานเป็นเด็กหนุ่มที่มีเงินสดอยู่สามล้านห้าแสนหยวนทันที ซึ่งมันมากพอที่จะทำให้นักเรียนหญิงสาวสวยสักคนยอมอยู่ใต้เข็มขัดของเขาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก!
แต่อย่างไรก็ตามจ้าวหม่าหยันได้กล่าวไว้ว่าราคาของที่จะถูกนำมาประมูลในวันนี้ล้วนแต่มีมูลค่ามากกว่าห้าล้านหยวนขึ้นไปทั้งสิ้น!!!
โม่ฝานนั้นไม่รู้ว่าเขาจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี เขาใช้ความพยายามอย่างมากในการหาเงินเข้ากระเป๋าของตนเอง แต่ทว่าเขากลับไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันประมูลสิ่งของเหล่านี้ได้เลย… ไม่ว่าอย่างไรเขาก็พ่ายแพ้ต่อคนร่ำคนรวยอยู่ดี
“นายอยากจะขายอะไรงั้นเหรอ?” จ้าวหม่าหยันถามออกมา
“แก่นแท้จิตวิญญาณระดับนักรบ” โม่ฝานไม่คิดจะปิดบังอะไรแต่อย่างใด สุดท้ายแล้วเขาจำเป็นจะต้องให้จ้าวหม่าหยันจัดการขายมันให้กับเขาอยู่แล้ว
แน่นอนว่าถ้าหากต้องการจะนำของเข้าสู่การประมูล เขาจะต้องเป็นสมาชิกในสถานที่แห่งนี้เสียก่อน เช่นนี้เขาจำเป็นจะต้องมีหน้ามีตามากขึ้นในสังคมเพื่อตำแหน่งและฐานะที่ดีขึ้นในการจะวางขายอะไรสักอย่าง…
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โม่ฝานนึกถึงเสี่ยวหลิงหลิงที่มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้านักล่า ในตอนนี้เขาเห็นแล้วว่ามันสำคัญมากจริงๆ ถ้าหากเขาไม่สามารถอยู่ในระดับเดียวกับเธอได้ มันก็จะเป็นการยากที่เขาจะได้มีสังคมกับนักเวทผู้เก่งกาจ
“อ๋อ เล็กน้อยมา…. ห๊ะ! เดี๋ยวนะ! เมื่อกี้นายพูดว่าแก่นแท้จิตวิญญาณระดับนักรบงั้นเหรอ?” จ้าวหม่าหยันตกใจอย่างมาก ขากรรไกรของเขาแข็งค้างและหันกลับมาทำตาโตใส่โม่ฝานอย่างไม่อาจควบคุมใบหน้าได้
“อืม”
“บ้าเอ๊ย นายนี่มันโชคดีเป็นบ้าเลย! นายได้รับมันมาแล้วงั้นเหรอ? นายเก็บมันยังไง? มันมาจากราชินีอสูรนั่นเหรอ?” จ้าวหม่าหยันรัวคำถามด้วยความตื่นตระหนก
โม่ฝานงุนงงอย่างมากเมื่อได้ยินคำถามมากมายเหล่านั้น จ้าวหม่าหยันดูท่าทางจะตกใจเกินเหตุไปหน่อยหรือเปล่า?
“อืม ฉันก็ไม่คิดว่าฉันจะได้รับมันเหมือนกันน่ะนะ” โม่ฝานพยักหน้า
“ฉันยอมรับนายแล้ว ยอมรับนายจริงๆ! นักเวทคนอื่นนั้นสังหารอสูรระดับนักรบไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัว กว่าที่พวกเขาจะได้รับแก่นแท้จิตวิญญาณระดับนักรบ เลือดตาของพวกเขาแทบจะเหือดหาย แต่ทว่านายเพียงสังหารมันแค่ตัวเดียว… อย่างไรก็ตามเมื่อมาคิดๆดูแล้ว ฉันว่ามันก็สมเหตุสมผลอยู่หรอกนะ ราชินีอสูรนั่นแตกต่างจากอสูรเวทระดับนักรบทั่วไปอย่างมาก มันเต็มไปด้วยสมองและมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเหล่าอาหารที่สมุนของตัวเองนำมามอบให้ แน่นอนว่าจิตวิญญาณของมันก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นตามลำดับ ไม่แปลกมากนักถ้าหากว่ามันตายตกไปแล้วจะเผยแก่นแท้จิตวิญญาณออกมา… เฮอะ ยิ่งไปกว่านั้นการจะได้รับมันจำเป็นจะต้องมีภาชนะวิญญาณที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมด้วย” จ้าวหม่าหยันยังคงไม่หยุดชื่นชม
สำหรับสาวกของเหล่าตระกูลใหญ่เช่นเขานั้นการที่จะได้รับเมล็ดพันธุ์ของธาตุอะไรสักอย่างหรือแก่นแท้จิตวิญญาณเหล่านี้นั้นมักจะไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก ผู้นำตระกูลจะไม่แจกจ่ายมันให้กับมือใหม่โดยที่ไม่มีเหตุผลรองรับแน่นอน เหตุเพราะมูลค่าของสิ่งเหล่านี้นั้นมากเกินกว่าจะใช้จ่ายออกไปอย่างสิ้นเปลือง
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จ้าวหม่าหยันไม่เคยได้รับสิ่งของล้ำค่าใดๆจากตระกูลเลยในทุกๆปีที่มีการแจกจ่ายทรัพยากร
สายตาของเขาจับจ้องไปที่โม่ฝาน นี่คือครั้งแรกที่ชายหนุ่มคนนี้ทำธุรกิจกับครอบครัวของเขาเพื่อแลกกับเมล็ดอสนีวิญญาณ แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้จ้าวหม่าหยันตกใจมากยิ่งขึ้นเนื่องจากว่าชายตรงหน้าของเขานั้นครอบครองแก่นแท้จิตวิญญาณระดับนักรบ!
แม้ว่าจ้าวหม่าหยันยังคงตกตะลึงกับคำพูดของโม่ฝานไม่หาย แต่ทว่าโม่ฝานกลับแสดงสีหน้าไม่เข้าใจออกมาอย่างงุนงง
“ภาชนะวิญญาณคืออะไรเหรอ?” โม่ฝานถามกลับอย่างไม่รู้จริงๆ
“นายสามารถเก็บแก่นแท้จิตวิญญาณได้โดยที่ไม่มีภาชนะวิญญาณงั้นเหรอ? แน่นอนว่าภาชนะวิญญาณเป็นสิ่งที่นักเวทล้วนแต่ให้ความระมัดระวังในการสร้างมันอย่างยิ่ง หน้าที่ของพวกมันคือการรวบรวมเอาเศษวิญญาณหรือแก่นแท้จิตวิญญาณเอาไว้ ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ภาชนะวิญญาณที่เกรดต่ำที่สุดในตลาดมีราคาอยู่ที่ห้าล้านหยวน แต่สำหรับนายที่ต้องการจะรวบรวมเอาแก่นแท้จิตวิญญาณเก็บไว้ด้านในนั้นล่ะก็เลิกฝันถึงมันได้เลย เพราะสิ่งที่จะเก็บมันเหล่านี้ได้นั้นมีราคามากถึงสองร้อยล้านหยวน!” จ้าวหม่าหยันอธิบาย
“โว้ว มันแพงขนาดนั้นเชียวเหรอ?!” โม่ฝานกล่าวออกมาอย่างประหลาดใจ
แท้จริงแล้วโม่ฝานนั้นตระหนักได้ถึงเรื่องเหล่านี้มาเนิ่นนาน เขานั้นสามารถกักเก็บเศษวิญญาณและแก่นแท้จิตวิญญาณได้ แม้แต่สมาชิกของหน่วยล่าล้างเมืองในก่อนหน้านี้ก็ยังไม่เคยได้เห็นสิ่งเหล่านั้นเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สนใจจิตวิญญาณเล็กน้อยราวกับหิ่งห้อยพวกนี้
“นี่พี่ใหญ่ รู้รึเปล่าว่าแก่นแท้จิตวิญญาณนั้นใช้ผลิตอุปกรณ์เวทละอองดาราหรืออุปกรณ์เนบิวลา เดินทีไม่มีนักเวทคนไหนสามารถกักเก็บวิญญาณเหล่านี้ได้ แต่ในตอนนี้มีคนที่สามารถสร้างภาชนะวิญญาณขึ้นมาได้แล้ว ราคาของมันแพงลิบลิ่ว! ลองนึกภาพดูสิแม้แต่อุปกรณ์เวทละอองดาราสำหรับนักเวทระดับปฐมภูมินั้นยังมีราคามากห้าถึงสิบล้าน ถ้าหากว่านายสามารถเก็บแก่นแท้จิตวิญญาณได้สักสองหรือสามครั้ง ฉันรับประกันได้เลยว่าภายในชั่วข้ามคืนฐานะของนายจะกลายเป็นมหาเศรษฐี!” จ้าวหม่าหยันกล่าวอย่างตื่นเต้น
โม่ฝานพยักหน้าอย่างเข้าใจ
การรวบรวมวิญญาณเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักเวทควรจะทำอย่างยิ่ง…
เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอุปกรณ์เวทละอองดาราหรืออุปกรณ์เนบิวลานั้นหาได้ยากเย็นยิ่งนัก แม้แต่จิตวิญญาณเหล่านี้ก็ยังเป็นสิ่งที่ยากจะพบเจอด้วยเช่นกัน!
‘เฮ้ จี้ทมิฬน้อย… ความสามารถของแกน่ะมันช่างเหลือเชื่อเกินไปแล้วนะ ฉันอยากรู้จริงๆว่าที่แท้แกน่ะมาจากไหนกันแน่…’ โม่ฝานสัมผัสกับจี้ที่คอของตนเองพร้อมกล่าวขึ้นมาในใจทันที
“ไปกันเถอะ ฉันจะช่วยเพิ่มแก่นแท้จิตวิญญาณของนายลงในการประมูลครั้งนี้เอง แน่นอนว่ามันจะต้องได้ราคาที่ยอดเยี่ยมแน่!” จ้าวหม่าหยันกล่าวออกมา
ขณะนี้โม่ฝานก็ตื่นเต้นด้วยเช่นกัน เขาอยากรู้อย่างมากว่าแก่นแท้จิตวิญญาณระดับนักรบที่เขามีนั้นจะสามารถขายได้เท่าไหร่…
มันจะมากเพียงพอที่เขาจะซื้อบ้านหลังเล็กภายในนครเซี่ยงไฮ้นี้ได้ไหมนะ?