จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 44
ตอนที่ 44 หลอมรวมธรรมชาติ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มีหลายวิธีที่จะช่วยให้สัมผัสได้ถึงกฏธรรมชาติต่างๆ ซึ่งการต่อสู้ก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีการเหล่านั้น
หลังจากลงมือสังหารอยู่ในหุบเขาหมาป่ามาตลอดครึ่งเดือน ฉินเทียนก็สามารถสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง แม้ว่าความรู้สึกนั้นจะไม่ค่อยชัดเจนนัก คล้ายกับมีหมอกบางๆปกคลุมอยู่ ไม่อาจมองเห็นและไม่อาจสัมผัสมัน….
ในการต่อสู้ครั้งถัดๆมาของฉินเทียนนั้นเป็นไปด้วยความเรียบง่าย
เขาสามารถเอาชนะทั้งหมดได้ในการลงมือเพียงครั้งเดียวโดยไม่ได้ใช้พลังปราณออกแม้แต่น้อย ท่าร่างของเขาคล้ายยอดฝีมือ สง่างามและมั่นคงดุจภูผา
เสียงตะโกนร่ำร้องของฝูงชนยิ่งมายิ่งดัง ทุกคราวที่ถึงรอบของเขา สายตาของคนดูก็จะเฝ้าดูอย่างจดจ่อไม่ให้คราดสายตา พวกมันไม่ต้องการจะพลาดฉากใดไปแม้แต่ฉากเดียว
ศิษย์ตระกูลฉินก็ยิ่งตื่นเต้นขึ้นทุกที เมื่อฉินเทียนเดินขึ้นเวทีประลองไป พวกมันทั้งหมดก็จะส่งเสียงเชียร์ดังกึกก้อง
ใบหน้าของฉินซานเทียนเองก็มีรอยยิ้มจางๆประดับอยู่ ความสามารถที่ฉินเทียนแสดงออกมานั้นทำให้มันพึงพอใจยิ่ง สำหรับฉินเซี่ยงเทียนและฉินควงนั้น ใบหน้าของพวกมันยิ่งมายิ่งดูน่าเกลียดเข้าไปทุกที หากไม่ใช่พวกมันย้ำเตือนตนเองให้สงบใจแล้วล่ะก็ บางทีพวกมันอาจจะอาละวาดไปแล้ว
หลังจากรอบที่สามผ่านไป ศิษย์ตระกูลฉิน ฉินเฉิงก็ตกรอบ ตระกูลฉินจึงเหลือแค่เพียงฉินเทียนกับฉินเฟิง
ฉินเฟิงมีกำลังใจที่สูงยิ่ง สำหรับผู้ฝึกตนระดับเก้าแล้ว การจะผ่านมาถึงรอบที่สี่ได้นั้นไม่ง่ายเลย หากแต่ดูเหมือนว่าฉินเฟิงนั้นใกล้จะตัดผ่านไยังขั้นก่อตั้งวิญญาณอยู่รอมร่อ
มันต้องการจะต่อสู้เพื่อตัดผ่าน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นคนประเภทที่ไม่ชอบอยู่ล้าหลังผู้อื่น
กระทั่งฉินเทียนยังอดมองคนผู้นี้ใหม่ไม่ได้ สำหรับเขาแล้ว บุคคลเช่นนี้นับว่าควรค่าแก่การชื่นชมจริงๆ
“รอบต่อไป ฉินเทียนพบกับจ้าวยี่….”
กรรมการเกินเข้ามาที่กลางเวทีก่อนจะประกาศรายชื่อผู้แข่งขันออกมา
“ในที่สุดก็ได้เจอกับมัน”
แววตาของจ้วยี่ฉายแววตื่นเต้นขึ้นมา ถึงเวลาที่มันจะได้ล้างแค้นเรื่องที่เกิดขึ้นในเหลาฟุหลงแล้ว
จ้าวยี่เดินขึ้นเวทีประลองในทันที มันหันไปมองฉินเทียนแล้วกล่าวว่า “มาเถอะ มารับความตายเสีย”
ด้วยความเย่อหยิ่งของมัน มันไม่เคยเห็นคนตระกูลฉินอยู่ในสายตาอยู่แล้ว ฉินซานเทียนที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วก่อนจะแค่นเสียงกล่าวว่า “ไปสั่งสอนมันให้รู้สำนึก”
ฉินเทียนหัวเราะเสียงเย็นโดยไม่ตอบคำ เขาเดินขึ้นเวททีประลองไป ใช้หางตาเหลือบมองดูจ้าวยี่ก่อนจะกล่าวว่า “จะรีบร้อนหาที่ตายไปใย?”
“เหอะ ที่ข้ารีบก็เพราะจะส่งเจ้าลงนรก…” กล่าวจบสองมือของจ้าวยี่ก็ขัยบเคลื่อนไหว จากสองฝ่ามือกลายเป็นสี่ฝ่ามือ จากสี่ฝ่ามือกลายเป็นแปดฝ่ามือ จากแปดกลายเป็นสิบหก….
สุดท้ายก็กลายเป็นหนึ่งร้อยยี่สิบแปดฝ่ามือ ฝ่ามือปราณทั้งหมดปรากฏขึ้นกลางอากาศ พวกมันดูเหมือนของจริงอย่างยิ่ง ประกายฆ่าฟันก็แผ่ออกมาไม่หยุด
“เป็นฝ่ามือลวงตา”
“ใช้ฝ่ามือลวงตาตั้งแต่เริ่มต้นเลยงั้นหรือ? การต่อสู้ครั้งนี้ช่างน่าดูชมจริงๆ”
“ไม่เคยเลยว่าจ้าวยี่จะสามารถสร้างฝ่ามือลวงตาได้ถึงหนึ่งร้อยยี่สิบแปดฝ่ามือ รอบนี้ฉินเทียนนับว่าเจองานหนักแล้ว”
“ฝ่ามือลวงตาของจ้าวยี่นั้นเป็นทักษะระดับสูง ไม่ใช่ว่าผู้ใดก็สามารถฝึกฝนได้…”
“ว่ากันว่าจ้าวอู่ตี้เองก็ฝึกฝนทักษะนี้ มันกระทั่งสร้างฝ่ามือลวงตาได้ถึงหกร้อยสี่สิบฝ่ามือ….”
เสียงพูดคุยจากผู้ชมยิ่งมายิ่งอื้ออึง หากแต่ฉินเทียนกลับยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา จากนั้นเขาจึงผลักฝ่ามือออกไป แม้จะดูไร้พลังและเรียบง่าย กระนั้นพลังของมันกลับสะท้านสะเทือน
หากว่าเป็นตัวเขาเมื่อครึ่งเดือนก่อน เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถจัดการกับมันได้โดยง่ายหรือไม่ หากแต่ตอนนี้นั้นต่างไปแล้ว ใช้เวลาเพียงชั่วลมหายใจ ฉินเทียนก็สามารถมองมันทะลุปรุโปร่งแล้ว
การหายใจนั้นเป็นขั้นตอนสำคัญที่ใช้รวบรวมลมปราณ มันสามารถส่งผลต่อร่างกายและปริมาณพลังปราณที่ร่างกายจะใช้ออกไป
การหายใจส่วนใหญ่จะแผ่วเบาและยากที่จะสังเกตุเห็น หากแต่ฉินเทียนสามารถสัมผัสถึงการหายใจของจ้าวยี่ได้อย่างชัดเจน ทั้งที่เคลื่อนไหวอยู่ภายนอกร่างกายและภายในร่างกาย ฉินเทียนสามารถสัมผัสถึงพวกมัน
ในตอนนี้ ฉินเทียนบรรลุถึงสภาวะที่ร่างกายได้หลอมรวมเข้ากับธรรมชาติ
มีเพียงผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถเข้าสู่สภาวะนี้ และตอนนี้ฉินเทียนเองก็สามารถกระทำได้เช่นกัน
ผู้ชมบางคนมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง พวกมันใช้เวลาครึ่งค่อนชีวิตไปกับการฝึกฝนบ่มเพาะ พวกมันได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะมาหลายสิบปี ยังไม่ต้องกล่าวถึงการบรรลุระดับเชี่ยวชาญ พวกมันกระทั่งยังไม่อาจแสดงส่วนเสี้ยวของพลังที่แท้จริงจากทักษะออกมาได้เสียด้วยซ้ำ
แล้วนี่ฉินเทียนฝึกฝนมานานเพียงใดกัน?
เขากระทั่งบรรลุสภาวะคนหลอมรวมกับธรรมชาติ!
จากที่เกิดขึ้นเพียงบางแห่ง ก็ค่อยๆเกิดขึ้นต่อๆกันไป ผู้ชมส่วนใหญ่ต่างแสดงความตกตะลึงออกมาแล้ว
อันดับหนึ่งของเมืองชิงเหอสมควรเป็นผู้ที่มีศักยภาพสูงส่งเช่นนี้เอง
แน่นอนว่าจ้าวยี่ไม่อาจมองเห็นการหายใจของฉินเทียน สำหรับมันแล้ว การปล่อยหมัดครั้งนี้ฉินเทียนเป็นเพียงหมัดธรรมดา ซึ่งนี่เป็นการดูถูกมันอย่างยิ่ง ฉับพลันหมัดลวงตาของมันก็กลายเป็นเข้มข้นขึ้น หมัดลวงตาทั้งหนึ่งร้อยยี่สิบหมัดได้พุ่งเข้าหาร่างของฉินเทียน…
ขณะที่สายลมพัดเข้าหาใบหน้าของเขา พลังปราณของเขาก็พลันปะทุออกมา
ฉินเทียนยิ้มเย็น เขากำหมัดแนบแน่น จากนั้นการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป จิตสังหารพลันปะทุขึ้น ขณะที่เขาพุ่งเข้าหากลุ่มหมัดลวงตา….
ฉินเทียนคล้ายกลายเป็นสว่านตัวหนึ่ง เขาทำลายกลุ่มหมัดลวงตาไปทีละชั้น เพียงชั่วพริบตา เขาก็ยกฝ่ามือขวาโจมตีไปยังจ้าวยี่…
จ้าวยี่กระทั่งไม่มีเวลาได้ขบคิดว่าเกิดอะไรขึ้น มันตกตะลึงขณะที่จิตใจเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า มันได้ฝึกฝนทักษะ ‘ฝ่ามือลวงตา’ มามากกว่าครึ่งเดือน และในช่วงเวลานั้น มันได้ฝึกใช้ออกมานับครั้งไม่ถ้วน หากแต่ตอนนี้เมื่อมันปลดปล่อยออกมาเพื่อใช้โจมตีจริง มันกลับถูกสักดขัดขวางได้สำเร็จ สิ่งที่มันเฝ้าฝันมากลายเป็นแตกสลายลงในชั่วพริบตา
อย่างไรก็ตาม หากว่าเปลี่ยนเป็นจ้าวอู่ตี้ หมัดลวงตาทั้งหกร้อยสี่สิบฝ่ามือที่ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ก็คงจะไม่ถูกทำลายได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
จ้าวยี่รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ฝ่ามือข้างขวา มันรีบชักมือกลับมาทันที เมื่อมันหันกลับไปมองยังตำแหน่งที่ฉินเทียนเคยอยู่ จิตใจของมันมันก็เปลี่ยนเป็นหวั่นวิตก “มันอยู่ที่ใดแล้ว?”
เมื่อทำลายฝ่ามือลวงตาของจ้าวยี่ได้แล้ว หลังจากได้เห็นการสูดหายใจเฮือกใหญ่ของมัน เขาก็คาดเดาได้ว่าจ้าวยี่จะต้องถอยหลังกลับไป
ฉับพลันเขาก็โคจรพลังปราณและพุ่งตัดผ่านอากาศมาอยู่ที่ด้านหลังของจ้าวยี่และแค่นเสียง
จ้าวยี่พลันหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง เหงื่อเย็นค่อยๆหลั่งไหลออกมาเต็มหน้าผากของมัน
ปัง! ปัง!
โดยไม่ปราณี ฉินเทียนต่อยหมัดทั้งสองเข้าใส่จ้าวยี่
หลังจากรับหมัดจากทางด้านหลังไป ร่างกายของจ้าวยี่ก็ลอยคว้างไปข้างหน้า
หากแต่ไม่เพียงเท่านั้น ฉินเทียนยังคงไม่หยุดมือ เขาเร่งความเร็วขึ้นทันที ก่อนที่ร่างกายของจ้าวยี่จะร่วงลงบนพื้นเวทีนั้น หมัดอีกชุดหนึ่งก็ต่อยเข้าใส่ร่างของจ้าวยี่
เมื่อเป็นเช่นนั้นร่างกายของจ้าวยี่จึงลอยสุงขึ้นไปในอากาศ ใบหน้าของมันกลายเป็นซีดเผือดไร้สีเลือด คล้ายกับชีวิตของมันกำลังถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย
“โจมตีสี่ครั้งติดต่อกัน….”
ร่างของฉินเทียนปรากฏที่บนพื้น จากนั้นเขาจึงกระโดดขึ้นและตอกเข่าเข้าไปที่ลำคอของจ้าวยี่
“แคร๊ก” เสียงกระดูกหักพลันได้ยินไปทั่วทั้งลาน
โครม!
ร่างจ้ายยี่พุ่งกระแทกเข้ากับพื้นเวทีจนฝุ่นตลบ จ้าวยี่นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่เช่นนั้น นัยต์ตาทั้งสองข้างเบิกกว้างอย่างไม่อาจยอมรับ
“ค่าบาปเพิ่มขึ้น 1 ปัจจุบันท่านมีค่าบาป 8”
เมื่อได้ยินเสียงจากระบบ ฉินเทียนก็ยิ้มออกมา โดยไม่แม้แต่จะเหลือบแลไปทางจ้าวยี่ เขาก้าวลงจากเวที ขณะที่เดินลงเวทีเขาก็จ้องไปทางเสี่ยวหยูเฟิงอย่างเย็นชา แรงกดดันที่มันเคยปลดปล่อยใส่เขาจะต้องชำระคืนอย่างแน่นอน
“เฮือก…”
จ้าวอู่ตี้สูดหายใจเฮือกใหญ่ มันจ้องมองฉินเทียนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง หลังจากนั้นมันก็ตะโกนออกมาเสียงดัง “ช่างไร้ยางอาย!”
เพื่อที่จะเพาะสร้างศิษย์ขั้นก่อตั้งวิญญาณขึ้นมาคนหนึ่งนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งไปกว่านั้นจ้าวยี่นั้นมีพรสวรรค์และจะต้องตัดผ่านไปยังขั้นกลั่นวิญญาณได้อย่างแน่นอน เมื่อเห็นว่าศิษย์ที่มีอนาคตผู้นี้ต้องมาถูกฉินเทียนสังหารไปก่อนที่คณะผู้ตัดสินจะทันได้ลงมือใดๆ มันก็โกรธแค้นอย่างยิ่ง
เมื่อคำพูดหลุดออกจากปากของมันแล้ว ทั่วทั้งลานก็กลายเป็นปั่นป่วนขึ้นมา
เพียงสี่ฝ่ามือก็ทำลายฝ่ามือลวงตาไปโดยไม่ต้องใช้พลังปราณเสียด้วยซ้ำ! ตอนนี้ทุกคนต่างจ้องมองฉินเทียนคล้ายกำลังมองสัตว์ประหลาด นี่เป็นความแข็งแกร่งที่ผิดสามัญสำนึกไปแล้ว…
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame