จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 32
ตอนที่ 32 ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นใคร!
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ราคาต่ำไป?”
บุรุษวัยกลางคนหัวเราะอย่างเย็นชา ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าไป มันกล่าวเสียงต่ำ “เจ้าทราบหรือไม่ว่าพวกเราเป็นใคร? กล้าบอกว่าพวกเราให้ราคาต่ำไป? หากไม่ใช่เพราะนายน้อยของพกวเราต้องการเจ้าแล้วล่ะก็ บิดาผู้นี้คงทำลายแผงขายของเล็กๆนี้ไปแล้ว!”
ผู้คนที่มามุงดูกวาดตามองดูบุรุษวัยกลางคนผู้นั้น ก่อนจะหันไปมองอวิ๋นม่าน พวกมันทราบแล้วว่ากำลังจะได้รับชมเรื่องสนุก สิ่งเหล่านี้มักเกิดขึ้นเป็นประจำในตลาดมืดแห่งนี้….
“ไฮ๊ หม่าซัน เจ้าต้องกล่าวกับสตรีด้วยความสุภาพสิ”
ท่ามกลางผู้คนที่มามุงดู มีบุรุษหน้าหล่อเหลาก้าวเดินออกมา มันสวมชุดผ้าไหมที่ดูหรูหรา ท่าทางของมันดูสูงส่งและเย่อหยิ่ง กระนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของมันกลับทำให้ผู้คนที่ได้เห็นเกิดความไม่สบายใจขึ้นมา ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เป็นรอยยิ้มที่ดูต่ำช้า
อวิ๋นม่านมองมันอย่างขลาดกลัว ไม่ทราบจะกล่าวสิ่งใดออกมา
ตอนนี้แผงขายของของนางคราคร่ำไปด้วยผู้คน นางไม่อาจเก็บข้าวของปลีกตัวจากไปได้ นั่นทำให้นางเริ่มเกิดความกังวลขึ้นมา
โดยที่ผู้อื่นไม่ทราบ นางได้เก็บต้นหญ้าวิญญาณมาบางส่วนในระหว่างการแข่งขันเทศกาลล่าสัตว์ เดิมทีนางต้องการจะขายพวกมันให้กับร้านค้า ต้องพ่อค้ากลับให้ราคาที่ต่ำเกินไป นางจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมาที่ตลาดมืดเพื่อจะขายพวกมัน
แต่หลังจากเปิดแผงขายของได้ไม่นาน คุณชายที่มีชื่อเสียงของเมืองชิงเหอ เจ้าเจียงหนาน ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับบริวารของมัน
ในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองชิงเหอ ตระกูลจ้าวจัดอยู่ในลำดับที่หนึ่ง
ตระกูลของพวกมันมีผู้เชี่ยวชาญขั้นกลั่นวิญญาณถึงสามคน หนึ่งในนั้นก็คือประมุขของพวกมัน จ้าวอู่ตี้ ซึ่งอยู่ในระดับที่เจ็ดของขั้นกลั่นวิญญาณ เป็นเรื่องยากที่ภายในเมืองชิงเหอแห่งนี้จะมีผู้ใดสามารถต่อกรกับมัน
แน่นอนว่าอวิ๋นม่านทราบว่าจ้าวเจียงหนานมีนิสัยที่ชั่วร้าย นั่นก็เพราะมีตระกูลของมันคอยหนุนหลัง มันได้กระทำเรื่องเลวทรามมากมายในเมืองแห่งนี้
“อา..แม่นางน้อยท่านนี้จะขายให้ข้าหรือไม่?”
บุรุษวัยกลางคนหม่าซันกล่าวหยอกเย้า ขณะที่ใบหน้าของมันประดับด้วยรอยยิ้ม
ขณะที่อวิ่นม่านกำลังจะตอบปฏิเสธไปนั้น ฉินเทียนก็ตะโกนขึ้นขณะที่สาวเท้าตรงเข้ามา “ข้าจะจ่ายให้เป็นสองเท่า”
ฝูงชนต่างหันไปมองฉินเทียนอย่างไม่อยากเชื่อ ขณะที่พวกมันคิดขึ้นในใจ “เป็นผู้ใดกล้าตอแยจ้าวเจียงหนาน? เจ้าคนผู้นี้ต้องชะตาขาดแน่แล้ว!”
คำพูดของฉินเทียนคล้ายกำลังตบฟาดไปที่ใบหน้าของจ้าวเจียงหนานอย่างรุนแรง
ภายในตลาดมืดแห่งนี้ กลับมีคนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับผู้สืบทอดของตระกูลจ้าว จ้าวเจียงหนาน? มันเป็นบุตรหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของตระกูล เช่นนั้นแล้วยังจะไปตอแยมันอีกหรือ?”
คำพูดของฉินเทียนทำให้จ้าวเจียงหนานหยุดชะงัก สีหน้าของมันค่อยๆเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำและซีดขาว เมื่อหม่าซันสังเกตเห็นสีหน้าของจ้าวเจียงหนานก็พบว่าผิดท่าแล้ว มันพลันก้าวออกมาและตะโกนขึ้นว่า “เจ้าสารเลวนี่เป็นใครมาจากไหน? กลับกล้าที่จะมาประมูลแข่งกับนายน้อย เจ้าหน่ายที่จะมีชีวิตแล้ว?”
ฉินเทียนไม่ได้ใส่ใจหม่าซันแม้แต่น้อย เขาเดินเข้ามาอวิ๋นม่านและกล่าวว่า “ไม่ว่าพวกมันให้ราคาเท่าใด ข้าจะจ่ายให้เป็นสองเท่า”
เมื่อเห็นว่าฉินเทียนทำราวกับว่ามันไม่มีตัวตน หม่าซันก็โมโหขึ้นมา มันเหวี่ยงหมัดเล็งไปยังศีรษะของฉินเทียนอย่างโหดเหี้ยม หมัดของมันได้ปะทะกับศีรษะของฉินเทียนและก่อให้เกิดแรงกระแทกส่งร่างมันปลิวกระเด็นไป!
บ่าวไพร่มักเลือกปกป้องศักดิ์ศรีของเจ้านาย การโจมตีของหม่าซันเองก็เป็นการโจมตีที่คาดไม่ถึง
เมื่อเห็นว่าอากาศรอบตัวหม่าซันได้เปลี่ยนไป ฉินเทียนก็เตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว หางตาของฉินเทียนได้จับจ้องที่มันอยู่ตลอด เมื่อหม่าซันขยับตัวปล่อยหมัดออกมา ฉินเทียนก็เพียงแค่นเสียงเย็น และเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่มากกว่า ฉินเทียนพลันโจมตีออกไป….
ปัง!
หม่าซันที่กระเด็นออกไปได้สิ้นสติในทันที มีโลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปากของมัน
ฉินเทียนปัดมือก่อนจะหัวเราะออกมา “ช่างไม่เจียมตัว! กล้าที่จะลงมือลอบกัด เป็นสวะที่น่ารังเกียจจริงๆ”
โดยไม่สนใจจ้าวเจียงหนาน ฉินเทียนหันกลับไปคุยกับอวิ๋นม่านต่อ
อวิ๋นม่านมองฉินเทียนขณะสั่นเทิ้ม หากแต่ลึกลงไปในใจของนางพลันรู้สึกอบอุ่น นางเผยรอยยิ้มที่น่ารักและอ่อนหวานออกมา
ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันโดยไม่สนใจการคงอยู่ของจ้าวเจียงหนานแต่อย่างใด ผู้คนโดยรอบนับสิบเองก็ปฏิบัติราวกับมันเป็นเพียงอากาศธาตุ
ฉินเทียนเลิกคิ้วขึ้น เขาพลันรับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่มุ่งตรงมาที่เขา สีหน้าของอวิ๋นม่านเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ความกลัวเริ่มเกาะกุมจิตใจของนางขณะที่ร่างกายของนางเริ่มสั่นเทา
“เจ้ากล้าลงมือต่อคนของข้า?”
“ทราบหรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”
“วันนี้ บิดาผู้นี้จะทำให้เจ้าเห็นโทษของการตอแยข้า จ้าวเจียงหนาน….”
จ้าวเจียงหนานจ้องมองฉินเทียนด้วยความโกรธแค้นขณะที่กล่าววาจาด้วยเสียงต่ำ จิตสังหารที่ก่อตัวขึ้นได้มุ่งตรงเข้าห่อหุ้มร่างกายของฉินเทียน ขณะที่พลังปราณขุมหนึ่งเริ่มก่อตัวขึ้นที่ฝ่ามือของมัน
ตั้งแต่วัยเยาว์ ไม่มีผู้ใดกล้าลงมือกับคนของมันมาก่อน มันได้อาละวาดอยุ่ในเมืองชิงเหอมาเนิ่นนาน ไม่มีผู้ใดที่ไม่รู้จักบุตรของจ้าวอู่ตี้ของตระกูลจ้าวที่ทรงอำนาจ กระทั่งผู้อาวุโสของตระกูลยามเมื่อพบหน้ามันก็ยังต้องกล่าวทักทาย มาตอนนี้กลับมีคนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ากล้ามาเหิมเกริมไม่เห็นหัวมัน!
มันจ้องมองฉินเทียนราวกับกำลังมองคนตาย
สำหรับมัน ฉินเทียนก็ไม่ต่างไปจากคนที่ตายแล้ว
แม้ว่าจ้าวเจียงหนานจะเป็นคุณชายเสเพล กระนั้นมันก็ยังฝึกฝนบ่มเพาะมาตั้งแต่เด็กและได้รับกลืนเม็ดยาล้ำค่าไปนับไม่ถ้วน มันกลายเป็นผู้ฝึกตนขั้นที่แปดที่มีพลังปราณระดับเจ็ดตั้งแต่อายุสิบหก แน่นอนว่ามันย่อมไม่อ่อนแอ
ฉินเทียนแค่นเสียง “แล้วข้าต้องใส่ใจด้วยงั้นหรือ?”
จ้าวเจียงหนานแผดคำรามออกมา “ยิ่งเมื่อเจ้าหน้าตาดีกว่า ข้าก็ยิ่งเกลียด!”
“มันเป็นคนของตระกูลจ้าว” อวิ๋นม่านที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนกล่าวกระซิบ
ก่อนที่ฉินเทียนจะกล่าวออกมา จ้าวเจียงหนานก็แค่นเสียง “ตอนนี้เจ้าทราบแล้วว่าข้ามาจากตระกูลจ้าว? ใช่กลัวหรือไม่?”
“ช่างหัวมันสิ! กลับกล้ามายุ่มย่ามกับคนของข้า!”
“เช่นนั้นก็ตาย!”
ผู้คนที่มามุงดูต่างถอยกายเพื่อความปลอดภัย ด้วยพลังปราณที่โคจรอยู่รอบมือทั้งสอง กลิ่นอายของมันพลันแข็งแกร่งขึ้น มันขยับหัวไหล่เพื่อเตรียมโจมตีสังหาร
“ฝ่ามือลวงตา”
แขนทั้งสองพลันขยับเคลื่อนไหวก่อเป็นภาพลวงตามากมายจนทำให้ผู้คนไม่อาจจำแนกได้ว่าอันไหนเป็นของจริงหรือของปลอม
ฝ่ามือเงาก็เป็นดังชื่อ มันสร้างฝ่ามือลวงตาออกมามากมายจนทำให้ผู้คนรู้สึกสับสน ไม่อาจมองดูได้กระจ่างชัด อีกทั้งยังไม่อาจหลบเพราะไม่ทราบว่าฝ่ามือจะพุ่งเข้ามาจากทิศทางใดคล้ายราวกับว่ากำลังถูกโจมตีจากรอบทิศทาง….
“บัดซบ! ฝ่ามือไร้เงา?”
ฉินเทียนหัวหมุนงุนงงขณะที่พยายามรับมือ นี่คล้ายกับเป็นเพลงหมัดไร้เงาที่เคยได้เห็นในภาพยนตร์
อย่างไรก็ตาม ที่จุดเตียนเสียหายของเขาพลันปะทุขึ้นมา เคล็ดมังกรฟ้าถูกเรียกใช้ เมื่ออยู่ต่อหน้าทักษะระดับพระเจ้า ทักษะระดับสูงก็กลายเป็นด้อยค่า กระทั่งไร้ค่าไป
ฉินเทียนเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยม ขณะที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ที่เดิม ผู้คนโดยรอบคิดว่าเขาคงหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับเคลื่อนไหว
สายลมยิ่งมายิ่งรุนแรง ฝุ่นผงถูกพัดปลิวขึ้นปกคลุมตลาดมืด อวิ๋นม่านคว้าเอวฉินเทียนเอาไว้แน่นขณะปิดตาลง นางกลัวที่จะต้องเห็นฉากต่อไป ชั่วขณะนั้นนางตำหนิตัวเองที่หวาดกลัวขึ้นมา ไฉนนางจึงต้องหวาดกลัวฉากเช่นนี้อยู่ร่ำไป? ไฉนนางกระทั่งไม่อาจปกป้องตัวเองได้เช่นนี้?
“ไม่ต้องกลัว”
ฉินเทียนกล่าวอย่างนุ่มนวล ขณะที่ฝ่ามือมากมายกำลังพุ่งเข้าหา เขาพลันยกมือขึ้น ก่อนที่เสียง ‘กิส’ ดังออกมา….
ฝ่ามือเงานับไม่ถ้วนพลันสลายหายไป รอบข้างพลันเงียบสงัดไร้ซุ่มเสียง
จ้าวเจียงหนานเผยสีหน้าที่ดูเจ็บปวดขณะมองมาที่ฉินเทียนอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เพียงลงมือครั้งเดียวก็ทำลาย ‘ฝ่ามือลวงตา’ ได้แล้ว หรือว่ามันจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นกลั่นวิญญาณ?
ผู้คนโดยรอบต่างจ้องมองฉินเทียนอย่างเหลือเชื่อ เพียงเขายกกำปั้นขึ้น ต่อยตรงออกไป ฝ่ามือของจ้าวเจียงหนานก็ถูกทำลายในทันที ขณะที่จ้าวเจียงหนานเองก็เผยสีหน้าเจ็บปวดออกมา มันถอยกลับไปขณะที่จ้องมองฉินเทียนอย่างเคียดแค้น
‘ฝ่ามือลวงตา’ เป็นทักษะระดับสูงที่จะสร้างหมัดลวงตาออกมามากมาย อย่างไรก็ตาม จ้าวเจียงหนานยังเป็นเพียงผู้ฝึกตนขั้นที่แปดซึ่งมีพลังปราณอยู่ที่ระดับเจ็ด แน่นอนว่าด้วยระดับพลังของมันย่อมไม่อาจเปล่งประสิทธิภาพของกระบวนท่าออกมาได้สมบูรณ์ ‘เคล็ดมังกรฟ้า’ ของฉินเทียนยังคงแข็งแกร่งกว่าถึงสามเท่า แน่นอนว่าชัยชนะย่อมตกเป็นของ ‘เคล็ดมังกรฟ้า’
หากว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นก่อตั้งวิญญาณหรือสูงกว่า ฉินเทียนก็คงไม่อาจเอาชนะได้โดยง่ายเช่นนี้
“ข้าจะจดจำเจ้าเอาไว้!”
จ้างเจียงหนานย่อมไม่โง่ เพียงประมือกันครั้งเดียว มันก็ทราบแล้วว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฝ่ายตรงข้าม กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องเกรงกลัวอีกฝ่าย
ตรงกันข้าม มันไม่เพียงไม่กลัว หากแต่เพลิงโทสะภายในใจของมันยิ่งรุนแรงกว่าเก่า มันตัดสินใจแล้วว่าฉินเทียนจะต้องตาย
ผู้ที่มีคุณสมบัติมาตอแยมันได้ ยังคงไม่ถือกำเนิด!
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame