จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 20
ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
ตอนที่ 20 วิ่ง!
อวิ๋นม่านเชี่ยวชาญในการสังหารสัตว์ปีศาจ แต่ไม่ใช่กับมนุษย์
ทั้งความรวดเร็วและความเฉียบขาดของนางยังเหนือล้ำกว่าฉินเทียน ด้วยการมีนางร่วมกลุ่มมาด้วยแล้ว ความแข็งแกร่งโดยรวมของกลุ่มจึงเพิ่มขึ้นมาก
นึกย้อนกลับไป เขาได้ต่อว่าระบบที่จู่ๆก็จับเขากับอวิ๋นม่านมาอยู่ในปาร์ตี้เดียวกัน ในตอนนั้นเขารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง ทว่ามาตอนนี้ มองดูค่าประสบการณ์และค่าพลังปราณของเขาที่กำลังค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว เขาก็ลอบยินดี
สำหรับฉินเทียนแล้ว การสังหารสัตว์ปีศาจในโลกแห่งนี้ก็ไม่ต่างไปจากการสังหารมอนสเตอร์ภายในเกม ต่างกันก็เพียงเรื่องของความรวดเร็วในการเพิ่มระดับเท่านั้น
ในยามบ่าย เขาเพียงได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นเพียงน้อยนิด มองดูแถบค่าประสบการณ์ที่ยาวจนน่าหงุดหงิดแล้ว เขาก็รู้สึกท้อใจ กระนั้นหากเทียบกับผู้อื่นแล้ว เขาก็เฉกเช่นลูกรักของสวรรค์
สำหรับผู้ฝึกตนโดยทั่วไป การสังหารสัตว์ปีศาจก็เป็นแค่เพียงการเพิ่มประสบการณ์การต่อสู้เท่านั้น เป็นการลับคมให้ทักษะเฉียบแหลมมากยิ่งขึ้น มันเพียงช่วยในเรื่องของการรู้แจ้งในด้านทักษะ
การจะทะลวงระดับได้ก็ต้องพึ่งพาการบ่มเพาะร่างกาย พวกมันต้องท้าทายขีดจำกัดของตน เสริมความเข้าใจ เสริมความแข็งแกร่งของอวัยวะส่วนต่างๆและจุดตันเถียน มันก็คือการบ่มเพาะเพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่ง เพื่อที่จะสามารถปลดปล่อยพลังปราณที่แข็งแกร่งออกมาได้นั้น ก็ต่อเมื่อทุกเงื่อนไขมาบรรจบพบกัน พวกมันก็จะสามารถทะลวงผ่านระดับไปได้
นอกจากฉินเทียนแล้ว ไม่มีผู้ใดมีวิธีการในการทะลวงระดับได้ง่ายดายเช่นการสังหารสัตว์ปีศาจอีกแล้ว
“ช่างน่ากลัวนัก! อ๊า! นั่นอสรพิษ! ข้าจะฆ่าเจ้า! ฆ่าเจ้า!…” อวิ๋นม่านคล้ายนกขมิ้นเหลืองที่ส่งเสียงร้องออกมาไม่หยุดอยู่ข้างกายฉินเทียน แม้ว่าเสียงของนางจะไพเราะเสนาะหูก็ตาม แต่หลังจากต้องทนฟังมาต้องทั้งช่วงบ่ายแล้ว มันก็ต้องมีรำคาญกันบ้าง
นางยิ่งมายิ่งลงมือเฉียบคมขึ้น สัตว์ปีศาจจำนวนมากนอนทอดร่างอยู่เกลื่อนกลาด ฉินเทียนทอดถอนใจให้กับชะตากรรมของพวกมัน
แม้กระนั้น ปากของนางก็ยังพร่ำบ่นว่าหวาดกลัว ขณะที่สองมือเข่นฆ่าสัตว์ปีศาจต่อไป ทุกคราที่ผ้าแพรถูกซัดออกไปจากแขนเสื้อของนาง ชีวิตมากมายก็ถูกปลิดปลงลง สัตว์ปีศาจต่างไม่อาจต้านทานได้
“ไฉนเจ้าจึงเข้าร่วมเทศการล่าสัตว์? เฮ้อ…เจ้าทั้งไม่ต้องการศีรษะของสัตว์ปีศาจและไม่ได้ต้องการแต้มการล่า เช่นนั้นแล้วเจาจะเข้าร่วมทำไม?” ฉินเทียนถามอย่างสงสัยใคร่รู้ขณะที่ลงมือตัดศีรษะของกอลิล่าแขนยาว เขาหันไปมองอวิ๋นม่านที่ถอยห่างไปเสียไกล ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวเพราะเห็นโลหิต
“ฆ่าสัตว์ปีศาจนั้นสนุกยิ่ง” อวิ๋นม่านตอบเสียงแผ่วเบา
คำตอบของนางแทบจะทำให้ฉินเทียนกระอักเลือดออกมา สำหรับตัวเขาแล้ว มันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสังหารพวกสัตว์ปีศาจเพื่อเพิ่มระดับ หากว่าไม่ใช่เพราะเช่นนั้นแล้ว เขาก็คงคร้านที่จะเข้าร่วมจริงๆ ในส่วนของรางวัลนั้น แม้ว่าเขาจะต้องการ หากแต่ก็ไม่ได้คาดหวังกับมันมากนัก
ก่อนที่การแข่งขันนี้จะเริ่ม เป็นธรรมดาสำหรับศิษย์สายในที่จะว่าจ้างศิษย์สายนอกราวสี่ถึงห้าคนมาช่วยกำจัดสัตว์ปีศาจ แต้มการล่าจะถูกเก็บรวบรวมเพื่อคนเพียงคนเดียว ดังนั้นไม่ว่าฉินเทียนจะทุ่มเทพยายามสักเพียงใด เขาก็ไม่อาจเอาชนะพวกคนเหล่านั้นได้
การกระทำเช่นนี้ไม่ถือว่าผิดกฏแต่อย่างใด เพื่อที่จะได้ลำดับหนึ่งมาครอบครองและฝังตรึงความประทับใจให้กับประมุขแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดพวกมันล้วนกระทำ
ตลอดทั้งคืนก่อน ช่วงเช้าและช่วงบ่ายนี้ ฉินเทียนสามารถรวบรวมแต้มการล่าได้อย่างน้อยเก้าร้อยแต้มแล้ว
“เจ้าต้องการเป็นที่หนึ่งหรือไม่?” จู่ๆอวิ๋นม่านพลันเอ่ยถามขึ้นมา
“แน่นอน มีผู้ใดบ้างไม่ต้องการที่หนึ่ง? ผู้คนย่อมต้องการรางวัลเหล่านั้นอยู่แล้ว” ฉินเทียนกล่าวและหัวเราะออกมา หากว่าเขาสามารถช่วงชิงมันมาได้ ทำไมเขาจะไม่ต้องการเล่า? นอกจากนั้น การสังหารสัตว์ปีศาจสำหรับเขาก็เพื่อเก็บค่าประสบการณ์ หากว่าโชคดีได้ที่หนึ่งขึ้นมา เขาก็จะได้รับรางวัลบางอย่างสินะ? แล้วทำไมเขาจะไม่อยากได้เล่า?
“ข้าเองก็ต้องการเป็นที่หนึ่ง เพื่อที่ข้าจะสามารถเข้าไปยังหอตำราลับได้” อวิ๋นม่านก้มหน้าลงพึมพำ
ทักษะที่นางฝึกฝนอยู่เป็นสิ่งที่นางได้รับมาโดยการเข้าไปยังหอตำราลับเพื่อเลือกทักษะเมื่อนางสามารถทะลวงระดับเป็นผู้ฝึกตนขั้นที่ห้าได้ นั่นเป็นเรื่องราวเมื่อสองปีก่อน นอกเหนือจากทักษะโจมตีพื้นฐานแล้วนางก็ยังไม่มีทักษะที่เหมาะสมกับตนเอง
ตำราทักษะต่างๆถูกควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดโดยตระกูล นอกจากอัจฉริยะบางคนแล้ว หากว่าศิษย์สายนอกต้องการทักษะระดับต่ำ มันก็ยากเย็นดุจปีนป่ายขึ้นสวรรค์ เว้นเสียแต่ว่าบุคคลผู้นั้นจะสร้างผลงานอันโดดเด่น บางคนกระทั่งไม่อาจครอบครองทักษะระดับต่ำแม้แต่ทักษะเดียวตลอดชั่วชีวิต
อวิ๋นม่านเป็นข้อยกเว้น หากไม่ใช่เพราะนางสามารถทะลวงระดับกลายเป็นผู้ฝึกตนแล้วล่ะก็ นางก็คงไม่มีคุณสมบัติที่เข้าไปในหอตำราลับเพื่อเลือกทักษะมา
เมื่อเห็นอวิ๋นม่านจมอยู่ในภวังค์ เขาก็ตัดสินใจได้ ‘หากว่าข้าสามารถได้ลำดับที่หนึ่งมา คงจะดีกว่าหากให้นางเข้าไปเลือกทักษะ’
นั่นก็ต่อเมื่อเขาสามารถได้ที่หนึ่งมาครองเท่านั้น อวิ๋นม่านได้ลงมือไปไม่น้อย สัตว์ปีศาจส่วนใหญ่ต่างก็เป็นผลงานของนาง
“ตะวันใกล้จะตกดินแล้ว พวกเรากลับไปที่ถ้ำกันเถอะ ข้ารู้สึกไม่ดีเลย” อวิ๋นม่านเดินมาหาฉินเทียนและมองดุดวงตะวันที่ใกล้ลับขอบฟ้า แสงของตะวันที่สะท้อนตกลงบนใบหน้าของนางทำให้นางดูงดงามเปล่งปลั่ง
ดวงตะวันคล้อยต่ำลง ฉินเทียนก็เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้น แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการที่จะรั้งอยู่ ในยามราตรี ป่าทั้งป่าจะจะกลับกลายเป็นคนละเรื่องกับในช่วงเวลากลางวัน ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ร่างของสัตว์ปีศาจก็ถูกแยกเป็นส่วนๆ ไม่หลงเหลือกระทั่งกระดูกเอาไว้
“ครืนนนน…”
โฮกกกกกกกก
ฉับพลันเสียงดังปานฟ้าร้องก็ดังออกมาจากภายในป่า ราวกับกำลังมีมังกรร่างยักษ์พุ่งกระแทกพื้นดิน ไม่นานเสียงร้องอันขมขื่นก็ดังไล่หลังมา
ฉินเทียนขมวดคิ้วและคิดว่ามันต้องเป็นสัตว์ปีศาจระดับห้าในคืนก่อน เขารีบคว้ามือของอวิ๋นม่านและกล่าวอย่างเสียงเย็น “รีบไป!”
อวิ๋นม่านตอบสนองได้ไม่เร็วพอ ความกลัวเริ่มคืบคลานเข้าเกาะกุมหัวใจ เสียงนั้นเต็มไปด้วยพลัง มันยังเหนือกว่าสัตว์ปีศาจตัวใดที่นางเคยพบเจอ หรือมันจะเป็นสัตว์ปีศาจที่ระดับมากกว่าสี่?
เทศการล่าสัตว์ถูกจัดขึ้นที่อาณาเขตนอกพื้นที่เทือกเขาคุนหลุน สัตว์ปีศาจส่วนใหญ่มีระดับที่ต่ำและระดับที่สี่ก็ยากจะปรากฏตัวออกมา ยิ่งสัตว์ปีศาจระดับที่ห้าแล้วยิ่งไม่เคยปรากฏออกมา ดังนั้นตระกูลฉินจึงไม่กังวลว่าจะมีสัตว์ปีศาจระดับห้าปรากฏตัวออกมา
ควรทราบว่าหากมีสัตว์ปีศาจซึ่งมีแก่นปรากฏตัวขึ้นแล้วย่อมสร้างความสะท้านสะเทือนต่อผู้เข้าแข่งขันเพียงใด
นั่นนับเป็นเหตุการณ์ที่น่าหวาดหวั่นอย่างที่สุด
ครืนนนนนนน
ฝุ่นผงพัดปลิวขึ้นสู่ท้องฟ้า มันปะทุขึ้นราวกับเกิดการระเบิดขนาดใหญ่
ฉินเทียนฉุดดึงมือที่เนียนนุ่มราวกับหยกของอวิ๋นม่านออกวิ่งโดยไม่หยุดพัก เสียงที่ด้านหลัง ยิ่งมายิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ
‘กระทั่งลมหายใจของสัตว์ปีศาจระดับห้าก็ยังแข็งแกร่งยิ่ง’ ฉินเทียนคิดขึ้น
เขาและสัตว์ปีศาจระดับห้ายังอยู่ห่างไกลกันหลายกิโลเมตร หากแต่เขาก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงความโกรธเกรี้ยวของสัตว์ปีศาจนั้นราวกับว่าเป้าหมายของมันก็คือเขา
“สิ่งใดอยู่ที่ด้านหลังนั่น?” อวิ๋นม่านถามขึ้นอย่างหวาดกลัว นางเองก็สัมผัสได้ถึงพลังที่กล้าแข็งเช่นกัน
“เกรงว่ามันจะเป็นสัตว์ปีศาจระดับห้าที่มีแก่นแล้ว”
“ระดับที่ห้า?”
“เกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น ไม่ต้องคิดมาก พวกเราจะหนีให้ห่างจากมัน” ฉินเทียนวิตกกังวลและกลัวว่าอวิ๋นม่านจะกลัวจนเป็นลมไป
สัตว์ปีศาจระดับห้านั้นแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสังหารผู้ที่อยู่ในขั้นรวบรวมวิญญาณ พวกเขาที่เพียงอยุ่ในขั้นฝึกตนก็ไม่ต่างไปจากมดปลวกในสายตามัน หากว่าไม่หลบหนีให้ไว ความตายก็คือสิ่งที่ถูกกำหนดเอาไว้
………………………….
ครืนนนนนนนน
“มันกำลังคลุ้มคลั่ง ทุกคน กระจายกันออกไป! จดจำเอาไว้ว่าอย่าได้เข้าใกล้มัน” บุรุษที่ถือค้อนขนาดใหญ่เอาไว้ตะโกนออกมา ร่างกายของมันถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยพลังปราณ มันกระโดดขึ้นต้นไม้และทะยานร่างออกไปไกลนับร้อยเมตร ราวกับมันกำลังทะยานอยู่บนท้องนภา
ห่างออกไปไม่ไกล ที่นั่นมีสองบุรุษวัยกลางคนคล้ายกำลังหลบหนีจากกอลิล่าดุร้ายที่คลุ้มคลั่ง
เดิมที พวกมันมีกันอยู่สิบสามคน ทว่าตอนนี้พวกมันกลับหลงเหลืออยู่เพียงสามคน
เมื่อได้เผชิญหน้ากับสัตว์ปีศาจขั้นที่ห้า พวกมันก็ประสบความสูญเสียอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม สัตว์ปีศาจเองก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก หากว่าพวกมันสามารถสังหารสัตว์ปีศาจตัวนี้ได้ภายในสามวัน ความสูญเสียที่ต้องจ่ายออกไปก็จะถูกชดเชยแล้ว
“อ๊ากกกก!” เสียงกรีดร้องอันน่าสลดใจดังก้องออกมา หนึ่งในสองบุรุษวัยกลางคนถูกกอลิล่าดุร้ายทุบไปก่อนที่มันจะทันได้ตอบโต้
“ต้าหู่!..”
“หยานเทียนรีบไป!…” บุรุษผู้นั้นตะโกนออกมา หัวใจของมันราวกับถูกกรีดเมื่อเห็นพี่ชายของมันถูกบดขยี้ทั้งเป็น
จากทั้งหมดสิบสามคน ตอนนี้หลงเหลือเพียงสองแล้ว
ทั้งสองได้เผชิญหน้ากับกอลิล่าดุร้ายที่มีทักษะศักดิ์สิทธิ์ของมันเอง พวกมันทั้งสอง ยิ่งมายิ่งท้อใจ…..
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame