กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - ตอนที่ 158 ฆ่ามันซะ
เมื่อถึงเฉียนหุ้นเข้ามาในหอผู้ป่วย ลูกชายของเขาได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความสะดวกในการรักษาเหลาหยูที่พักอยู่ในหอผู้ป่วยเดียวกันก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
“ลุงถง” เหลาหยูรีบตะโกนเรียกเมื่อเขาเห็นถงเฉียนหุ้น
จริงๆ แล้วเขาเคยพบกับถงเฉียนหุ้นเพียงแค่ครั้งเดียวแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกัน ในครั้งนี้เขาจะใช้โอกาสนี้เพื่อตีสนิทกับถงเฉียนหุ้น
ถงเฉียนหุ้นพยักหน้า และมองไปที่ลูกชายของเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาหันไปมองเหลาหยูและถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เพราะในเวลานั้น ทั้งเหลาหยูและและถงเฉียนอยู่ในห้องเดียวกัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเหลาหยูก็น่าจะรู้
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนั้นพวกเราสองคนกําาลังคุยกันอยู่กับนายน้อยถงในห้องส่วนตัวและก็มีคนๆ หนึ่งเข้ามา แต่พวกเราไม่ได้สนใจเขาเลยในตอนนั้น ใครจะไปรู้ว่าพอเขาเข้ามาเขาก็ปิดไฟแล้วหลังจากนั้นก็ไม่พูดพร่ําทําเพลง เขาก็เริ่มทําร้ายพวกเราเลย เขาบอกว่าเขารู้ดีว่าพวกเราเป็นใครแล้วเขาก็ฟาดพวกเราเสียสลบไปเลย
เหลาหยูรีบเล่าทุกอย่างที่เขารู้ เพราะว่าเขานั้นสลบไปก่อนถงเฉียน เขาจึงไม่รู้เรื่องหลังจากนั้น
“ปัง!” ถงเฉียนหุ้นทุบเข้าที่กรงเหล็กที่กั้นเตียงผู้ป่วยอย่างแรง และกล่าวอย่างโหดเหี้ยมว่า “ดี ดีมาก มันรู้ดีว่านั่นคือลูกชายของถงเฉียนหุ้น และยังกล้าที่จะทําร้ายเขาอีก มันช่างกล้านัก!”
อย่างไรก็ตาม โชคก็ไม่ได้เข้าข้างถงเฉียนมากนัก เพราะท้ายที่สุดคนที่คอยหาเรื่องกับเขาตลอดเวลานี้ก็คือถงเฉียนคนนี้ และคนอื่นๆก็ทําตามคําสั่งเขาเพียงเท่านั้น ดังนั้นหวงเฟิงไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ
“พ่อครับ พ่อ?!” “พ่ออยู่ที่นี่แล้ว พ่อต้องแก้แค้นให้ผมนะ ผมจะฆ่าไอ้นั่น!” ในเวลานี้ถงเฉียนได้ฟื้นขึ้นมาและเมื่อเขาเห็นพ่อของเขาอยู่ข้างๆ เตียงคนป่วยของเขา เขาก็ร้องไห้ออกมาในทันที
เขากาลังร้องไห้อย่างจริงจังและใบหน้าของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ําตา
“ลูกตื่นแล้วสินะ รู้สึกยังไงบ้าง?” ถงเฉียนหุ้นรีบก้าวไปข้างหน้าและถาม
“ผมเจ็บที่หน้า ที่ท้องก็เจ็บ ที่ขาก็เจ็บเหมือนกันทั้งหมดเป็นเพราะไอ้นั่นมันตีผมไม่หยุดเลย ทั้งๆ ที่ผมก็ร้องขอความเมตตา แต่มันก็ยังตีผม พ่อ พ่อต้องล้างแค้นให้ผมนะ ผมจะฆ่ามัน! ” ถงเฉียนร้องไห้ขณะที่เขาพูดเห็นได้ชัดว่าเขาตื่นเต้นมาก
“ไม่ต้องห่วงนะ แด็ดดี้จะล้างแค้นให้แกอย่างแน่นอน ไม่ว่าไอ้คนนั้นมันจะเป็นใคร แด็ดดี้จะฆ่ามันอย่างแน่นอน!” อย่างไรก็ตามในตอนนี้อารมณ์ของถงเฉียนนั้นปั่นป่วนมาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถบอกให้เขารู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
มิฉะนั้นถ้าเขารู้ว่าอาจกลายเป็นคนพิการ เขาอาจจะร้อนรนมากขึ้นกว่าเดิมและอาจจะสูญเสียการควบคุมตัวเองก็เป็นได้
“พ่อ พ่อต้องฆ่ามันนะ ต้องฆ่ามัน!” ถงเฉียนยังคงกล่าวต่อ และแม้กระทั่งในขณะนี้ก็ยังมีความกลัวปรากฎอยู่บนใบหน้าของเขา ประสบการณ์แบบนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัว และน่ากลัวที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมาตลอดชีวิต
“ใช่ พ่อรู้แล้ว” ถงเฉียนจนปลอบโยนเขา: “แกรู้ไหมว่ามันเป็นใคร?” “ฉันรู้” ถงเฉียนกล่าวขณะที่เขากัดฟัน
“ใคร?!” ถงเฉียนหุ้นถามอย่างกังวล
“มันบอกว่าชื่อของมันคือ พี่หลาง” มันว่าพี่เปียวเป็นเพื่อนของมันและมันเกลียดฉันที่ส่งคนไปสั่งสอนพี่เปียว นั่นคือสาเหตุที่มันมาทําร้ายฉันและยังขู่ฉันอีกว่าถ้าฉันกล้าหาเรื่องเดือดร้อนอีก มันจะฆ่าฉัน! “ถงเฉียนกล่าว
“พี่หลาง?” ถงเฉียนจันรู้สึกสงสัยเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์กับคนอย่างลุงหลี่ แต่เขาก็ไม่รู้เรื่องนั้นมากนัก
ดังนั้นเขามองไปที่ลุงหลี่ซึ่งเขาก็น่าจะรู้เรื่องนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามลุงหลี่เองก็ขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่า “พี่หลาง” คือใคร
ฉันคิดว่าฉันไม่เคยได้ยินชื่อเขานะ แต่เมื่อคิดดูแล้วว่าพี่เปียวเป็นเพียงแค่ขี้ข้าที่ไม่รู้อะไรเลย เพื่อนของเขาก็ไม่น่าจะยิ่งใหญ่ได้ เป็นเรื่องปกติที่ฉันจะไม่เคยได้ยินชื่อเขา
“ดูแลเฉียนไว้นะ ฉันจะตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม ถ้าฉันเจอตัวมัน ฉันจะไม่ปล่อยมันไปง่ายๆหรอก” ลงหลี่กล่าวกับถงเฉียน
“ไม่ใช่แค่จะเอามันมาลงโทษนะ แต่ฉันต้องการให้ฆ่ามันซะ!” เมื่อมองเห็นสภาพที่น่าสังเวชของลูกชายแล้ว ถงเฉียนหุ้นก็ตัดสินใจแล้ว ว่าแค่สั่งสอนก็คงไม่เพียงพอที่จะทําให้เขาสงบลงได้
เขาจึงต้องการที่จะฆ่ามันเสียและแก้แค้นให้กับลูกชายของเขา
“ใช่ ลุงหลี่ฉันต้องการให้มันตาย!” ถงเฉียนเห็นด้วย
ในทางกลับกัน หลังจากที่ลุงหลได้ยินคําพูดของสองคนพ่อลูกแล้ว เขาก็ขมวดคิ้ว ถงเฉียนหุ้นไม่ยุ่งอีกต่อไปและอาจไม่รู้ แต่ในแง่นี้การจัดการสถานการณ์นั้นถึงเครียด
มาก
“ตราบใดที่พี่ลงมือทําอะไรสักอย่างให้เรียบร้อยดี แต่ถ้ามีปัญหาฉันจะช่วยพี่จัดการเอง” ถงเฉียนหุ้นสังเกตเห็นความลังเลของลุงหลีได้และไม่พอใจเล็กน้อย เพราะอย่างไรก็ตามเขาก็ยังรับปากที่จะช่วยแก้ปัญหา
“ได้เลย ฉันจะส่งคนไปตรวจสอบดู” ลุงหลี่กล่าว ตั้งแต่ถงเฉียนหุ้นปรากฏตัวขึ้นมาก็มีแต่เรื่องที่ยุ่งยากให้เขาจัดการ
“และสําหรับพี่เปียวนั่น ฉันอยากให้มันตาย ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะมัน ไอ้บ้าพี่หลางก็คงจะไม่มาทําร้ายฉัน” ถงเฉียนกล่าวเสียงดัง “แน่นอน!” ในเมื่อเขาตกลงเรื่องหนึ่งแล้ว เขาก็ยังไม่วายที่จะเพิ่มงานให้อีกงาน
หลังจากนั้น ลุงหลีก็ออกไปขณะที่ฟังเสียงสนทนา ถึงแม้ว่าเขาจะเคยได้ยินเรื่องราวของตระกูลถงว่าไม่ค่อยใสสะอาดนักและถงเฉียนหุ้นก็มีหลากหลายวิธีที่จะไม่ให้คนอื่นได้รู้ได้เห็นแต่ในตอนนี้เขาได้ยินเองกับหู เหลาหยก็ถึงกับช็อค
ในฐานะคนรวยรุ่นที่สอง ถ้าพวกเขาจะรังแกคนธรรมดา อย่างมากพวกเขาก็จะส่งคนไปทําร้ายศัตรู แต่จะไม่ถึงกับฆ่าพวกเขา
เพราะว่าถ้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป พวกเขาก็คงจะไม่กล้าทําเช่นนั้น แต่เมื่อมองดูท่าทางของถงเฉียนหุ้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อยและ บางทีอาจจะเคยทําเช่นนี้มาก่อน
และในเวลานี้ถงเฉียนหุ้นก็เพิ่งจะนึกได้ว่านอกจากลูกชายของเขาแล้วก็ยังมีคนอื่น อยู่ในหอผู้ป่วยเดียวกันอีก
เขาจึงหันไปมองเหลาหยูและสายตาที่มองมานั้นก็ทําให้เหลาหมูตกใจ จึงรีบพูดขึ้นว่า “ผมจะไม่ปริปากออกไปหรอกนะ ผมเองก็โดนทําร้ายปางตายเหมือนกัน ผมก็อยากจะให้มันตายเหมือนกัน!”
ถงเฉียนหุ้นมองเขาอยู่นานก่อนที่จะหันหลังกลับไป เหลาอยที่อยู่อีกด้านได้แต่ลอบถอนหายใจ เขากลัวจริงๆว่าถงเฉียนหุ้นจะฆ่าเพื่อปิดปากเขา ดูเหมือนว่าตระกูลถงนั้นจะตีสนิทด้วยยาก
ในอนาคต มันคงจะดีกว่าถ้าเขาจะรักษาระยะห่างกับถงเฉียน มิเช่นนั้นแล้วเขาก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเขาจะถูกฆ่าหรือเปล่า