เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 613-614
บทที่ 613 คําสารภาพ 3
“เขาจะไม่ทิ้งฉัน” เจียนอีหลิงตอบ
ด้วยเหตุผลบางอย่างจึงทําให้เจี้ยนอีหลิงคิดแบบนี้ แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่เข้าใจว่าทําไมถึงรู้สึกแบบนี้
ในใจของเธอ จํายหวินเซึ่งไม่ใช่คนเลว
“ซื้อ” หลัวซิ่วเอ็นอุทานด้วยความประหลาดใจ
หลังจากรู้จักกันมานานกว่าสามปี หลัวซิ่วเฉินรู้เป็นอย่างดีว่าการที่จะได้คํากล่าวแบบนี้ออกจากปากของเจียนอหลิงนั้นยากเพียงใด
ในตอนแรกนั้น หลัวซิ่วเฉินสันนิษฐานว่าสิ่งที่เจี้ยนอีหลิงเจอก็คือการสารภาพรักแบบมั่วๆ
แต่ว่าเมื่อได้ยินคําพูดรับรองของเงี่ยนอีหลิง เธอก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนพิเศษสําหรับเจียนอีหลิง
หลัวซิ่วเฉินรู้ว่าเจียนอีหลิงไม่ใช่คนที่จะไว้ใจคนอื่นง่ายๆ
ดังนั้นหลัวซิ่วเอินจึงหยุดอยู่ชั่วขณะก่อนจะถามว่า “เธอแน่ใจเหรอ? ถ้าเธอมั่นใจ เธอก็ควรเลือกที่จะอยู่กับเขา”
“นั่นไม่ใช่คําถาม…” เงี่ยนอีหลิงพึมพําเบาๆ
“อา… ฉันเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน…ฉันไม่ได้คบกับใครเลยตอนนี้…”
หลัวซิ่วเฉินสามารถช่วยเจี้ยนอีหลิงระบุพวกคนเจ้าชู้ได้ แต่ไม่ว่ายังไง เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์แล้วหลัวจิ๋วเอ็นก็ช่วยเจียนอีหลิงไม่ได้เช่นเดียวกัน ในเมื่อหลัวซิ่วเอินเองก็เป็นโสดมาเกือบสามสิบปีแล้ว
ด้วยเหตุนี้เจี้ยนอีหลิงจึงพูดคุยกับหลัวซิ่วเฉินอีกเล็กน้อย จากนั้นเธอก็วางสายโทรศัพท์
หลังจากนั้นเธอก็ไปถามหลงเยว่เทียน
เธอถามคําถามเดียวกัน จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้ชายชอบผู้หญิง]
หลงเยว่เทียนตอบกลับมาอย่างรวดเร็วเหลือเกิน ตามความเป็นจริง เธอได้ส่งข้อความจํานวนมากตอบกลับมา
จะเกิดอะไรขึ้นได้อีกล่ะ? แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องทําสิ่งที่พวกเขาทั้งคู่ชอบ ที่รัก เธอเก่งชีววิทยามาก เธอไม่รู้เรื่องนี้เหรอ? เธอไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของสัตว์เหรอ?]
(ในกรณีแบบนี้ นี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการสืบพันธุ์ของมนุษย์ แน่นอนเธอต้องแยกพวกคนเจ้าชู้ออกพวกคนเจ้าชู้ไม่นับว่าเป็นคนเสียด้วยซ้ํา]
[โอ ใช่แล้ว ทําไมเธอถึงถามคําถามนี้กับฉันเหรอ? มีคนสารภาพรักกับเธอเหรอ? ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นเรื่องปกติอย่างมาก เธอน่าทิ้งที่สุดอยู่แล้ว แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องสารภาพรักกับเธอ]
[แต่ไม่ว่ายังไง หากเธอสนใจ ฉันสามารถแนะนําผู้ชายอีกสองสามคนให้เธอได้รู้จัก เธอสามารถตัดสินใจได้ว่าเธอชอบใครมากกว่า อันที่จริง ถ้าเธอชอบผู้หญิง ฉันก็อาสาเป็นของแถมให้ได้นะ เธอช่วยชีวิตฉันไว้ ดังนั้น ฉันจึงยอมมอบหัวใจให้เธอ]
ในความคิดของหลงเยว่เทียน ผู้ชายเป็นเพียงนางสนมในฮาเร็มเท่านั้น
อื่ม… ดูเหมือนว่าการถามหลงเยว่เทียน คําถามนี้ไม่ค่อยเหมาะสมนัก
จากนั้นเจี้ยนอีหลิงก็ส่งข้อความเดียวกันถึงหูเจียวเจียว
หูเจียวเจียวตอบเร็วมาก
[อีหลิง ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเก็บซ่อนความสัมพันธ์กับอันหยางไว้จากเธอ]
[?]
[อีหลิงอย่าอารมณ์เสียนะ เราควรจะบอกเธอได้แล้ว…แต่ว่าฉันต้องการยืนยันให้มั่นใจในความสัมพันธ์กับเขาก่อน… นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่ได้บอกเธอในทันที…]
[เธอกับอันหยางเหรอ?]
(อื้อ… โปรดฟังคําอธิบายก่อนนะ…ฉันรู้ว่าเธอคงจะแปลกใจกับเรื่องนี้ ฉันเองก็แปลกใจเหมือนกัน ฉันไม่เคยคิดเลยว่า…อาา ฉันยอมรับว่าก่อนหน้านี้ฉันก็สนใจเขาบ้างนิดหน่อย… ฉันก็แค่…]
[ฉันไม่ได้ถามเรื่องนี้]
[ซื้อ]
(ฉันแค่ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้ชายชอบผู้หญิง]
[…]
ทันใดนั้น หูเจียวเจียวก็รู้ตัวว่าเธอสารภาพออกมาโดยไม่ได้ถูกคุกคามอะไรเลย เธอต้องการขุดหลุมเพื่อกลบความอับอาย
ผ่านไปครู่หนึ่งหูเจียวเจียวก็เยือกเย็นและตอบเงี่ยนอีหลิงว่า
[พวกเขาจะจูบและอยู่ด้วยกัน]
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างหูเจียวเจียวและอันหยาง
จะจูบ…
เจียนอีหลิงนึกขึ้นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันเกิด เธอกับจํายหวินเพิ่ง..
แก้มเธอเริ่มร้อนขึ้น..
เงี่ยนอีหลิงพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงขณะที่เธอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
บทที่ 614 เธอหลบหน้าฉันเหรอ?
จํายหวินเจ๋งไม่รู้ว่าเจียนอีหลงคิดอะไรอยู่
หลังจากที่เจียนอหลิงเข้าไปในห้องเมื่อคืนนี้ เขาก็ใช้เวลาทั้งคืนในห้องทํางาน
เขาไม่ได้นอนทั้งคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเขาได้ยินเสียงประตูห้องเงี่ยนอีหลิงเปิดเขาก็ออกมาจากห้องทํางาน
“อรุณสวัสดิ์”
เสียงของจํายหวินเซิ่งบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าและความกังวลใจ
“เช้า” เจียนอีหลิงตอบ แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่กล้าสบตาจ่ายหวินเชิง
จากนั้นเธอก็รีบวิ่งหนีไปหลังจากที่เธอทักทายเขาเสร็จแล้ว
เธอไม่แม้จะกินข้าวเช้าด้วยซ้ํา กลับกัน เธอออกจากอพาร์ตเมนต์ไปในทันที
เป็นครั้งแรกที่จํายหวินเชิงไม่ได้กินอาหารเช้าที่เงี่ยนอีหลิงจัดเตรียมไว้ให้ในรอบเกือบเดือนเธอได้ออกไปก่อนที่เธอจะทําอาหารเช้าด้วยซ้ําไป
ดังนั้นแม่บ้านของจํายหวินเชิงจึงต้องนําอาหารเช้ามาให้เขา
แม้ว่าอาหารเช้าจะพอใช้ได้ แต่ก็ยังไม่ได้รสชาติเท่ากับอาหารของเงี่ยนอีหลิง
ต่อมาในวันนั้น จํายหวินเพิ่งก็พบว่าเจียนอีหลิงกําลังหลีกเลี่ยงเขา
แม้ว่าปกติแล้วทั้งสองคนจะไม่ได้อยู่เคียงข้างกันในตอนกลางวัน แต่ก็ยังเห็นได้ชัดเจนว่าเงี่ยนอีหลิงกําลังหลบหน้าเขาในวันนี้
เธอหลีกเลี่ยงเขาในตอนเช้า เธอออกจากอพาร์ตเมนต์ไปโดยไม่แม้จะทานอาหารเช้า
จากนั้นเมื่อถึงตอนกลางคืน เธอก็ย้ายกระเป๋าเดินทางและข้าวของไปไว้ในอพาร์ตเมนต์ของเงี่ยนอี้เฉิน
เมื่อพบเห็นเช่นนี้ จํายหวินเชิงก็ได้แต่กัดฟัน แต่ถึงกระนั้น เขายังคงเคาะประตูห้องเงี่ยนอี้เฉิน
เจียนอี้เฉินยิ้มมาเปิดประตูให้จํายหวินเชิง
“โอ ช่างเป็นแขกที่หายากจัง ผมแปลกใจที่นายมีเวลามาที่นี่ในวันนี้” เจียนอี้เฉินยิ้มอย่างทะเล้นในสายตาของจํายหวินเชิง รอยยิ้มของเจียนอี้เฉินชวนให้ขุ่นเคืองเช่นเคย
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นพี่ชายของเจียนอีหลิง จํายหวินเชิงคงยันหน้าของเงี่ยนอี้เฉินลงไปบนพื้นแล้ว
แต่ไม่ว่ายังไง จํายหวินเซิ่งก็ตัดสินใจเพิกเฉยต่อเจียนอี้เฉิน เขาไม่ต้องการพูดกับคนสองเพศคนนี้แต่ตอนนี้เขาต้องการผ่านเงี่ยนอี้เฉินเพื่อเข้าไปในอพาร์ตเมนต์
“ฉันมาที่นี่เพื่อตามหาอีหลิง”
“อีหลิงกําลังทําอาหารอยู่ไม่ต้องห่วง เธอบอกว่าอีกไม่นานจะเอาอาหารไปให้นาย” เจียนอี้เฉินพูดต่อด้วยน้ําเสียงที่พึงพอใจ ด้วยเสียงที่เย้ยหยันจํายหวินเชิง
โดยปกติเงี่ยนอี้เฉินจะไปหาข้าวกินฟรี หากย้อนกลับไปในตอนนั้นได้ จํายหวินเพิ่งจะทําให้เขาดูโสโครกที่สุด
แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็หน้าหนา เขาไม่ได้สนใจจํายหวินเพิ่งเลย
เมื่อเวลาเปลี่ยนแปลงไป ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะมีขึ้นมีลง
จํายหวินเฉิ่งก้าวไปตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
เจียนอี้เฉินเอื้อมมือไปหยุดเขาไว้
แต่ถึงกระนั้น เขาไม่ได้คาดหวังว่าจํายหวินเพิ่งจะรวดเร็วมาก
จริงแล้ว การกระทําของจํายหวินเจิ่งนั้นรวดเร็วและตรงไปตรงมามาก เขาไม่ได้ล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย
เจียนอี้เฉินเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กับพี่ชายเขาเท่านั้น
สถานการณ์นี้คืออะไรกัน?
ทําไมจํายหวินเจ๋งถึงว่องไวและรวดเร็วมากเช่นนี้
เป็นไปได้ยังไง? เขาไม่ได้เป็นโรคหัวใจเหรอ? เขาเป็นคนประเภทที่สามารถตายได้ทุกเมื่อไม่ใช่เหรอ?
ถ้าเป็นแบบนั้น ไม่ใช่ว่าร่างกายเขาป่วยอยู่เหรอ?
เจียนอี้เฉินจ้องมองไปที่จํายหวินเซิ่งชั่วขณะหนึ่ง ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง เขาก็ปิดประตูอพาร์ตเมนต์
จากนั้นเขาก็ตามจํายหวินเพิ่งเข้าไปในครัว เขาไม่ต้องการให้เวลาน้องสาวและจํายหวินเซิ่งอยู่กันตามลําพัง
“อีหลิง วันนี้มีซุปอะไรบ้าง?” เจียนอี้เฉินถามขณะขยับเข้าใกล้เงี่ยนอหลิง เขาถามเกี่ยวกับอาหารเย็นอย่างมีความสุข
“ซุปครีมปลาคาร์พครีมขาว”
ซุปปลานั้นดีเป็นพิเศษสําหรับผู้ที่กระดูกหัก
ดังนั้น เห็นได้ชัดว่าเงี่ยนอีหลิงได้เตรียมซุปปลาคาร์ปครีมขาวสําหรับเจี้ยนอี้เฉินไว้เป็นพิเศษเขายังต้องฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ
“พี่รักเธอมากะ การทําอาหารของเธอดีที่สุด อร่อยที่สุด”
เจียนอี้เฉินประจบประแจงเงี่ยนอีหลิงต่อไป
เห็นได้ชัดว่าเงี่ยนอี้เฉินเป็นแฟนตัวยงของอาหารของเงี่ยนอีหลิง
จํายหวินเยุ่งยืนอยู่ข้าๆเขาไม่สามารถเสริมอะไรไปในการสนทนาได้
ขณะที่เจียนอีหลิงทําอาหารต่อไปอยู่นั้น เธอก็เหลือบมองจํายหวินเจ๋งจากหางตา
แต่เมื่อเธอเห็นว่าจํายหวินเพิ่งกําลังดูอยู่ เธอก็รีบเบือนสายตากลับทันที
จํายหวินเซิ่งจับสายตาเจียนอหลิงได้
ตอนนี้ เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าเจียนอีหลิงกําลังหลีกเลี่ยงเขา
คําพูดเมื่อคืนทําให้เธอหวาดกลัวเหรอ?