เทพปีศาจผงาดฟ้า - ตอนที่ 167
ตอนที่ 167 ต่อสู้กับคนในตระกูล
ทันทีที่ฝ่ามือทั้งสองข้างของหลงเฉินสัมผัสเข้ากับลูกแก้วตรงหน้า เขาก็รู้สึกปวดศรีษะราวกับถูกคนทุบด้วยของแข็ง และสังเกตเห็นว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้เปลี่ยนไป ห้องที่ปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้ได้อันตรธานหายไปอย่างรวดเร็วและปรากฏเป็นอาคารและร้านค้าขึ้นมาแทน ส่วนซุนก็หายไปจากจุดที่ยืนอยู่เวลานี้เหลือเพียงเขาอยู่ตามลําพัง
หลังจากนั้นไม่นานนัก ภาพต่างๆรอบตัวของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง พร้อมกับอาการปวดศรีษะเมื่อครู่ก็หายไปด้วยหลงเฉินพบว่าตนเองกําลังนั่งอยู่บนถนนเส้นหนึ่งในเมือง
หลงเฉินสังเกตเห็นว่า สิ่งแวดล้อมของเมืองนี้ช่างคล้ายคลึงกับเมืองที่เขาเคยอยู่นัก.. ซึ่งก็คือเมืองมังกรแห่งจักรวรรดิซุยนั่นเอง แต่สิ่งที่แปลกประหลาดก็คือเมืองทั้งเมืองกลับว่างเปล่าถนนทุกเส้นที่หลงเฉินมองไปล้วนปราศจากผู้คน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!! สถานที่แห่งนี้แตกต่างจากสถานที่เมื่อครั้งข้าศึกษาลูกแก้วแห่งห้วงมิติอย่างสิ้นเชิง” หลงเฉินพิมพ์ออกมา พร้อมกับหันมองไปรอบๆ และไม่พบเห็นแม้แต่เงาของสิ่งมีชีวิต
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดหลงเฉินก็เริ่มออกเดินไปตามถนนหนทาง เขามุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ที่เขารู้จักเป็นอย่างดีหลงเฉินเดินไปท่ามกลางแสงแดดเจิดจ้าและในที่สุดเขาก็มาหยุดอยู่ที่หน้าจวนใหญ่หลังหนึ่ง
“เป็นดังที่ข้าคาดคิดจริงๆ ที่นี่คือเมืองมังกร!”
หลงเฉินพึมพําออกมาในขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่จวนหลังใหญ่ตรงหน้า ที่นี่คือจวนของตระกูลหลงและทุกอย่างก็ยังคงดูเหมือนเดิมก่อนที่เขาจะจากมา ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อยนิด
“เหตุใดข้าจึงถูกส่งมาฝึกกฏแห่งภาพลวงตาที่นี่กัน..”
หลงเฉินพึมพํากับตัวเองด้วยสีหน้างุนงงสงสัย หลงเฉินก้าวเท้าเดินตรงเข้าไปในจวน แต่แล้วจู่ๆภาพตรงทางเดินที่ปรากฏขึ้นด้านหน้าก็ทําให้เขาถึงกับชะงัก
ประตูด้านหน้าจวนถูกเปิดออก และหญิงสาวสองคนก็ได้ก้าวเดินออกมาจากด้านใน หญิงสาวทั้งสองอยู่ในวัยเพียงแค่ยี่สิบต้นๆเท่านั้น
“ซี่? เม่ย? นี่พวกเจ้าสองคนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?” หลงเฉินร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นหญิงสาวทั้งคนปรากฏขึ้นที่หน้าประตูจวน
แต่ในขณะที่หลงเฉันกําลังจะเอ่ยปากพูดอะไรออกไปนั้น ซวี่ก็วิ่งตรงเข้ามาหาเขา ระหว่างนั้นนางก็คว้ามีดออกมาถือไว้ จากนั้นจึงจ้วงแทงมีดเล่มนั้นเข้าใส่หน้าอกของหลงเฉินแต่หลงเฉินกระโดดหลบได้อย่างง่ายดายแต่ซวี่ก็ยังมิยอมหยุดเพียงแค่นั้น นางยังคงพุ่งเข้าทําร้ายร่างกายหลงเฉินอีกหลายครั้งแต่หลงเฉินก็สามารถกระโดดหลบได้ทันทุกครั้งไป
หลงเฉินมัวแต่หลบการจู่โจมของซวี่ จึงไม่ทันสังเกตเห็นเมียที่แอบย่องมาทางด้านหลังของตนแต่ในขณะ ที่นางกําลังจะจู่โจมจากด้านหลังนั้น หลงเฉินก็สัมผัสได้ถึงอันตรายจากด้านหลังจึงได้กระโดดหลบหนีไปด้านข้างแต่ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ซจู่โจมเข้ามาเช่นกัน
แม้หลงเฉินจะหลบการจู่โจมของหญิงสาวทั้งสองได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บที่หน้าอก และเริ่มมีโลหิตสีแดงไหลออกมาจากบาดแผล
“รู้สึกเจ็บปวดจริง!! ขึ้นข้าศึกษาเรียนรู้กฏแห่งภาพลวงตาเช่นนี้ ข้าคงจะต้องตายไปจริงๆก่อนจะสามารถเข้าใจอะไรได้แน่..”
หลงเฉินบ่นพึมพําด้วยสีหน้าหงุดหงิดใจ และยังคงกระโดดหลบการจู่โจมของหญิงสาวทั้งสองไปเรื่อยๆ
“เอาล่ะๆ พอกันที! แม้ข้าจะรู้ว่าพวกเจ้าสองคนเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา และไม่ต้องการทําร้ายพวกเจ้าสองคนแต่ข้าก็ไม่อาจปล่อยให้พวกเจ้าจู่โจมข้าอย่างนี้ต่อไปได้เช่นกัน แม้เจ้าจะเป็นภาพลวงตาของหญิงที่ข้าชื่นชอบข้าก็คงต้องจัดการกับพวกเจ้าอยู่ดี..” หลงเฉินตัดสินใจแน่วแน่
หลงเฉินถือดาบสะบั้นบรรพตไว้ในมือ จากนั้นจึงฟันเข้ามลําคอของซวี่ทันที ซวี่พยายามที่จะหลบแต่ดาบในมือของหลงเฉินนั้นเร็วเกินกว่าที่นางจะหลบได้ทัน
แต่ก่อนที่ดาบในมือของเขาจะสัมผัสเข้ากับลําคอของซี่นั้น หลงเฉินก็สัมผัสได้ถึงอันตรายที่กําลังจะเกิดขึ้นกับตนเองเขาจึงรีบเปลี่ยนเป้าหมายของดาบในมือกลางอากาศ และตวัดฟันไปในทิศทางตรงกันข้ามแทน
เสียงโลหะกระทบกันดังเครั้ง ดาบในมือของเขาปะทะเข้ากับดาบเล่มหนึ่ง และหลงเฉินก็ดูเหมือนจะพ่ายแพ้ให้ร่างของหลงเฉินลอยละลิ่วออกไปไกล ประหนึ่งว่าวที่ขาดออกจากเชือกจากนั้นร่างของเขาก็ร่วงลงกระแทกกับพื้นเสียงดัง
“ท่านปู่ นี่ท่านก็มาด้วยรี?! สถานที่แห่งนี้เริ่มอันตรายขึ้นมากแล้ว..”
หลงเฉินพึมพําออกมาพร้อมกับยิ้มหยัน ก่อนจะลุกขึ้นยืนและจ้องมองไปเบื้องหน้าของตน..
หลงเฉินเห็นชายชรายืนนิ่ง ชายชราผู้นี้มีหนวดเคราสีและผมสีขาวเงางาม สวมใส่อาภรณ์สีทองซึ่งปักลายมังกรไว้ที่หน้าอกมันคือสัญลักษณ์ของตระกูลหลง และคนผู้นี้ก็คือหลงเหรินซึ่งเป็นปู่ของหลงเฉินนั่นเองและด้านหลังของเขาก็คือซวี่กับเม่ย..
“หึ.. นี่ข้ากําลังเผชิญหน้ากับยอดฝีมืออาณาจักรจุติพิภพขั้นสองซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับท่านปู่ของข้างั้นรึ? มิ หนําซ้ํายังมีหญิงสาวที่ข้าชื่นชอบอีกสองคนด้วย นับเป็นโชคดีใหญ่หลวงของข้าสินะ..” หลงเฉินรําพึงรําพัน ออกมา พร้อมกับยิ้มขึ้น
หลงเฉินเก็บดาบสะบั้นบรรพตเข้าไปแหวนบรรจุ และนําดาบราชันย์ออกมาแทน..
ทันทีที่ดาบราชันย์ถูกนําออกมา รัศมีที่แข็งแกร่งของมันก็แผ่ซ่านออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับจะประกาศศักดาว่า ในดินแดนแห่งนี้ มิมีผู้ใดที่จะสามารถต้านทานเขาได้ และรัศมีแข็งแกร่งในตัวของหลงเฉินก็เปล่งประกายขึ้นทันทีเช่นกัน เมื่อดาบเล่มนี้อยู่ในมือของเขา
“ปีกมารสวรรค์!”
หลงเฉินพิมพ์ออกมา จากนั้นปีกงดงามทั้งสองก็ปรากฏขึ้นที่แผ่นหลังของเขา หลงเฉินบินขึ้นไปบนท้องนภาในมือถือดาบราชันย์จู่โจมศัตรูด้านล่างอย่างสุดกําลัง
หลงเหรินเองก็ใช้ดาบในมือของตนต้านทานไว้ได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อดาบทั้งสองปะทะกันเข้า ก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างก็กระเด็นถอยหลังไปคนละก้าว จากนั้นทั้งคู่ก็จ้องมองหน้ากันและกัน
แต่ถึงกระนั้น ดาบในมือของหลงเฉินก็มิได้เกิดความเสียหายแม้แต่น้อย ในขณะที่ดาบในมือหลงเหรินมีรอยบินเล็กน้อยหลังจากที่ปะเข้ากับดาบของหลงเฉิน
หลงเฉินพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของหลงเหรินอีกครา และดูเหมือนว่าทั้งคู่จะมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับที่เสมอกัน แม้ว่าหลงเหรินจะอยู่ในขั้นที่สองของอาณาจักรจุติพิภพ และหลงเฉินจะอยู่ในขั้นที่เก้าของอาณาจักรแก่นปราณทองคําก็ตามแต่ดูเหมือนแก่นปราณสีแดงในร่างของหลงเฉินนั้นจะช่วยให้หลงเฉินแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึก ยุทธในขั้นอาณาจักรเดียวกัน
ส่วนวิชากายาราชันย์ปีศาจ ก็ช่วยให้กายเนื้อของเขาแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป และทั้งหมดนี้เองที่ทําให้หลง เฉินแข็งแกร่งเทียบเท่ากับหลงเหรินในเวลานี้
ในระหว่างที่หลงเฉินกับหลงเหรินปะทะกันนั้น ซวี่และเม่ยก็ยังคงจู่โจมหลงเฉินไม่หยุดเช่นกัน แต่หลงเฉินก็สามารถรับมือหญิงสาวทั้งสองได้เป็นครั้งเป็นคราวเท่านั้นและหลายครั้งที่ตั้งรับไม่ทันจนได้บาดแผลไปหลายแห่งก็มีการต่อสู้แบบสามต่อหนึ่งเช่นนี้ทําให้หลงเฉินหนักใจไม่น้อย
แต่ไม่นานนัก หลงเฉินก็ได้โอกาสที่จะจู่โจมซี่บ้าง และด้วยความรวดเร็วของหลงเฉิน แม้ซวี่จะพายามหลบหลีกแล้วแต่หน้าอกของนางก็ได้รับบาดแผลขนาดใหญ่แต่แทนที่จะมีโลหิตไหลออกมาจากหน้าอกของนางร่างของนางกลับอันตธานหายไป
หลงเฉินไม่รอช้า เขาตรงเข้าจู่โจมใส่เม่ยในทันที แต่เม่ยสามารถรับมือหลงเฉินได้ทัน ทําให้การต่อสู้ระหว่างเขาหลงเหรินและเม่ยยังคงดําเนินต่อไป
เม่ยบุกเข้าโจมตีด้านหลังของหลงเฉินอีกคราเมื่อพบว่าหลงเฉินกําลังประมือกับหลงเหรินอย่างขะมักเขมันนางเชื่อว่ามีดในมือของนางนั้นจะสามารถจ้วงแทงเข้าใส่แผ่นหลังของหลงเฉินได้หลงเฉินเบียงหลบและตวัดกระบี่ไปด้านหลังอย่างรวดเร็วและเมื่อดาบในมือของเขาฟันเข้าใส่ร่างของเม่ยนางก็อันตรธานหายไปในในทันที
“เอาล่ะเหลือเพียงแค่ข้ากับท่านสองคนเท่านั้นสินะ!ข้ามิรู้สึกยินดีนักที่จะต้องประมือกับท่านแม้ว่าท่านจะเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาก็ตาม”หลงเฉินพึมพําออกมาขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างของหลงเหริย
“เอาล่ะข้าใจใช้วรยุทธต่อสู้ที่เพิ่งจะฝึกสําเร็จกับท่านดูจะได้เป็นการทดสอบความแข็งแกร่งของมันด้วย..”หลงเฉินยิ้มออกมาพร้อมกับเตรียมตัวจู่โจมหลงเหรินทันทีเขารวบรวมพลังจากหัวงอากาศในทันที
“เพลงดาบยอดเซียนเจ็ดกระบวนวิถีที่ห้า-คลื่นโกลาหล!”หลงเฉินคํารามเสียงดังพร้อมกับตวัดดาบในมือเข้าใส่อย่างดุดัน
แสงสว่างสีแดงเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลมพุ่งทะยานออกจากดาบในมือของหลงเฉินเข้าใส่ร่างของหลงเหรินอย่างรวดเร็วตามทางที่เส้นโค้งสีแดงพุ่งผ่านนั้นทุกอย่างที่ขวางหน้าจะถูกทําลายราบเป็นหน้ากองและหายวับไปกับตาประหนึ่งว่ามิเคยมีสิ่งใดตั้งอยู่ก่อน
หลงเหรินใช้วรยุทธต่อสู้ของตนตอบโต้หลงเฉินและเมื่อพลังการโจมตีของทั้งคู่ปะทะเข้าใส่กันพลังการโจมตีของหลงเหรินก็สลายไปในทันทีหลงเหรินรีบยกดาบในมือขึ้นป้องกันตัวเองแต่ดาบของเขาก็หักทันทีที่ปะทะเข้ากับพลังการโจมตีของหลงเฉิน
ระหว่างที่หลงเหรินกําลังจะกระโดดหลบนั้นดาบในมือของหลงเฉินก็แทงทะลุเข้าที่ขั้วหัวใจของหลงเหรินอย่างรวดเร็วเขาไม่ต้องการที่จะดึงเวลาการต่อสู้ให้เนิ่นนานกว่านี้
จากนั้นแสงสีแดงรูปเส้นโค้งครึ่งวงกลมก็ปะทะเข้ากับร่างของหลงเหรินแล้วร่างของเขาก็ถูกตัดขาดแยกออกกันเป็นสองท่อนในทันที
“อภัยให้ข้าด้วยท่านปู่”หลงเฉินพึมพําเสียงเบาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
จู่ๆหลงเฉินก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างปรากฏขึ้นทางด้านทิศใต้มีลําแสงสว่างเจิดจ้า..
“ปีกมารสวรรค์”
หลงเฉินพึมพําเบาๆปีกงดงามทั้งสองก็ปรากฏขึ้นบนแผ่นหลังของเขาจากนั้นหลงเฉินก็เริ่มบินไปยังทิศใต้ตามที่ลําแสงสว่างนั้นได้ปรากฏขึ้น
หลงเฉินบินมุ่งหน้าไปทางทิศใต้จนกระทั่งปีกทั้งสองได้อันตรธานหายไปเพราะพลังชีหมดลงเขาจึงได้ตัดสินใจเดินทางต่อด้วยเท้าแทนและในระหว่างนั้นก็ดูดซับพลังชี่ในห้วงอากาศเข้าไปด้วย
หลงเฉินยังคงเดินทางไปตามหาลําแสงสว่างเจิดจ้านั้นเรื่อยๆจนกระทั่งออกจากเขตเมืองมังกรเขาก็ยังคงเดินทางต่อไปจนกระทั่งสามารถรวบรวมพลังชี้ได้อีกครั้งหลงเฉินจึงได้ใช้ปีกมารสวรรค์บินต่อไป
“เป็นที่นี่อีกแล้วรึ?”หลงเฉินร้องอุทานออกมาทันทีเมื่อเข้าใกล้เขตผาสวรรค์
หลงเฉินบินลงไปด้านล่างของผาสวรรค์ทันทีและพบว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมทะเลสาบยังคงงดงามเช่นเดิมและยังคงมีต้นไม้ปกคลุมอยู่หนาแน่นหลงเฉินจ้องมองลําแสงสว่างที่อยู่ตรงหน้าเขาเวลานี้
เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้และค่อยๆยกมือขึ้นสัมผัสแต่หลังจากที่เขาสัมผัสเข้ากับลําแสงนั้นมันก็ค่อยหม่นลงและหายไปในที่สุดจากนั้นภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็ทําให้เขาถึงกับตกใจ
“โอ้..สวรรค์!!”หลงเฉินแทบอยากสาปแช่งก่นด่าโชคชะตา