อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) - ตอนที่ 383
CF:บทที่ 383 ขวานผ่าซาก
หลังจากที่รอถึง 10 นาทีกว่าๆอยู่ในห้องประชุมของอาคารหลัก อู่ฮาวเหรินก็ได้พบกับที่จื่อหยงพามา, เป็นชายสูงอายุ ขนาดสูงพอประมาณสวมชุดจงซานจวง สีออกม่วงแดง มีบรรยากาศความเป็นผู้นําทางการทหาร มากจะต้องเป็นระดับผู้การแน่ๆ
ชายคนนั้นมองดูคู่ฮาวเหรินก่อนจะนั่งลงและจิบชาในแก้วชาที่วางอยู่บนโต๊ะ, และทําตัวราวกับว่าตัวเองไม่ใช้คนอื่นไกลเลย
“อื้ม, ไม่เลว, ไม่เลว, ไม่แปลกใจเลยที่คนพวกนั้นชอบพูดอยู่เสมอว่ามีของดีๆมากมายอยู่ในฟิวเจอร์กรุ๊ปจริงๆ, ไม่คิดเลยว่าแม้แต่ชารับแขกก็ยังดีถึงเพียงนี้”
อู่ฮาวเหรินมองดูชายคนนั้นดื่มชา, เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาต่อ, ทําราวกับว่าเขามาเพื่อพบกับเพื่อนเท่านั้น
เมื่อจื่อหยงเห็นแบบนี้, เขาจึงกระซิบพูดกับชายคนนั้น “ผู้การเหอครับ, ตอนที่คุณจะมาที่นี่ คุณบอกกับผมว่าคุณรีบไม่ใช่เหรอครับ, ทําไมคุณถึงมานั่งดื่มชาอย่างใจเย็นล่ะครับ?”
ทันทีที่เขาพูดจบ, ชายคนนั้นก็หยุดจิบชาอยู่สักพัก, แล้วหลังจากนิ่งไป 2 วินาที เขาก็จิบชาต่อแล้ววางแก้วลง
“คุณเป็นคนของทางรัฐหรือเป็นคนของเจ้าหนูนี่กันแน่เนี่ย?”
จากนั้นเขาหันหน้ากลับมาแล้วพูดขึ้น “ผมมาที่นี่ในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะถามความคิดเห็นจากคุณเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่ประกาศออกมาโดยสหรัฐอเมริกาน่ะครับ”
ถามมาตรงๆเลยแฮะ, เดิมทีก็เดาได้อยู่แล้วว่าจะต้องมาเพราะเรื่องนี้, ดูเหมือนพวกคนเบื้องบนจะวิตกกังวลกับเรื่องนี้จริงๆ
“ผมไม่มีความคิดเห็นอะไร, ยังไงผมก็หยุดใครไม่ให้วิจัยเรื่องเทคโนโลยีนิวเคลียร์ไม่ได้อยู่แล้ว”
ผู้การเหอมองดูอี้ฮ่าวเหงินแล้วก็พูดพร้อมกับยิ้ม “ในเมื่อผมมาที่นี่เพื่อถามคุณเรื่องนี้เอง, คุณไม่จําเป็นต้องตอบก็ได้, ว่าแต่…คุณต้องการอะไรแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีอาวุธชิ้นนั้นที่คุณใช้บนเรือกู้ซากไหม?”
เมื่อได้ยินพูดถึงเทคโนโลยีอาวุธบนเรือกู้ซาก, อู่ฮาวเหรินก็ประหลาดใจขึ้นมา, เพราะเขาคิดไม่ถึงว่าพวกเขาคิดที่จะใช้อาวุธอันนั้น
“อาวุธบนเรือกู้ซากนั้น, ต่อให้ผมให้เทคโนโลยีกับคุณไป, พวกคุณก็ใช้มันไม่ได้หรอกครับ เพราะอาวุธอันนั้นต้องการพลังงานพิเศษ ซึ่งไม่สามารถหาได้บนโลกในปัจจุบัน” อู่ฮาวเหรินพูดตอบด้วยน้ําเสียงธรรมดามากๆ
แต่จื่อหยงกับผู้การนั้นต่างก็ตกใจไปชั่วขณะ แล้วค่อยหันไปมองอู่ฮาวเหรินด้วยสีหน้าตกตะลึง
ประโยคนี้สามารถบ่งบอกอะไรได้หลายๆอย่าง, บอกว่าอาวุธชิ้นนั้นต้องการพลังงานพิเศษ ซึ่งไม่สามารถหาได้บนโลกนี้, แล้วเขาเอาพลังงานที่ไหนมาใช้ตอนที่เขาใช้อาวุธกันล่ะ?
อู่ฮาวเหรินมองดูสีหน้าของทั้งสองคนแล้วก็เข้าใจว่าคงไม่ต้องอธิบายอะไรอีก, เพราะในตอนนี้พวกเขาคงเชื่อว่าตัวเขานั้นมีองค์กรลึกลับที่หนุนหลังเขาอยู่, และปล่อยให้พวกเขาคิดว่ามีองค์กรลึกลับแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ผู้การเหออยากจะถามอะไรบางอย่างจากอู่ฮาวเหริน,
แต่ในท้ายที่สุด, เขาก็ไม่ถามอะไรออกมา, เพราะเขานั้นรู้ดีว่า ถ้าเกิดทั้งสองฝ่ายเกิดผิดใจกันขึ้นมา มันจะเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแน่
“ในเมื่ออาวุธชิ้นนั้นไม่สามารถใช้การได้ ก็ช่างมันละกัน, แต่คุณคงจะเห็นนะว่าหลังจากที่สหรัฐประกาศเรื่องเทคโนโลยีนิวเคลียร์ มันก่อให้เกิดคลื่นใต้น้ํากับประเทศของเรา คุณพอจะมีทางออกเรื่องนี้บ้างไหม?”
อู่ฮาวเหรินเข้าใจแล้วว่าผู้การคนนี้คงเป็นพวกคนที่ไม่ยอมจนมุมอะไรง่ายๆแน่ๆ และคงเป็นพวกไม่เป็นที่ต้อนรับของคนในกองทัพด้วยแน่ๆ, การพูดแบบนี้เหมือนเป็นการยืนยันว่าตัวเขานั้นสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องของอเมริกาได้จริงๆ
“เปล่าประโยชน์ที่จะมาถามอะไรผมในเรื่องนี้ครับ, ปัญหาด้านกองทัพก็ต้องสะสางโดยทางรัฐเอง เพราะผมช่วยอะไรเรื่องนี้ไม่ได้, แน่นอนว่าในมุมมองในฐานะพลเรือนธรรมดา ผมคงพูดได้แค่ว่าคุณก็ลองจมเรือรบพวก เขาดูเพื่อพวกเขาจะสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับพวกเราอีกก็ได้”
“อย่ามาพูดลวกๆนะเจ้าหนุ่ม, พวกเรารู้นะว่าคุณมีเทคโนโลยีล้ําสมัยอยู่, เอางี้, คุณมีเงื่อนไขอะไรที่คุณต้องการเพื่อแลกกับเทคโนโลยี ก็ขอให้บอกมาได้เลย?”
คําพูดนี้ทําให้อู่ฮาวเหรินพูดอะไรไม่ออก แต่ก็เป็นเรื่องดีสําหรับเขาเหมือนกัน ปัญหาเรื่องวัสดุนิวเคลียร์ของเขาก็จะแก้ไขได้เสียที
“ก็ได้, พวกคุณกลับกันไปก่อน, ขอเวลาให้ผมคิดก่อน, แล้วผมจะติดต่อกลับไปเมื่อผมคิดออกก็แล้วกัน”
จริงๆแล้ว, อู่ฮาวเหรินจะบอกไปเลยก็ได้อยู่เหมือนกัน แต่เพื่อทําให้พวกเขาเชื่อว่ามีองค์กรลึกลับหนุนหลังเขาอยู่จริงๆ จึงจะเป็นการดีกว่าถ้าเขาจะทําให้ช้าลงและปล่อยให้พวกเขาคิดว่าตัวเขานั้นต้องไปถามกับองค์กรลึกลับก่อน
เมื่อยินที่อู่ฮาวเหรินตอบกลับมา, ผู้การเหอก็หัวเราะออกมาและ พูดขึ้น “ก็ได้, แต่มันจะดีกว่าถ้าไม่ใช้เวลานานมากนัก พวกเรากําลังรอข่าวดีจากคุณอยู่”
“จะว่าไป, ผมขอชานี้บ้างได้ไหม? มันอร่อยจริงๆนะเนี่ย”
ปวดหัว, มองดูสีหน้าของจอหยงแล้ว เขาก็พอจะเดาได้ว่าผู้การคนนี้จะต้องมีชื่อเสียงมากแน่ๆเมื่อดูจากความยําเกรงของจื่อหยง
“ก็ได้, เดี๋ยวผมจะฝากจื่อหยงให้เอาไปให้คุณในอีกไม่กี่วันละกัน, แน่นอนว่า, ผมคงให้ได้ไม่มากหรอกนะครับ”
หลังจากที่จื่อหยงได้ส่งผู้การคนนั้นกลับไป, เขาก็ได้รับกลับมาอีก
“การผู้การเหมีท่าทีแบบนั้น ก็ไม่ต้องประหลาดใจไปหรอกนะ, พวกเบื้องนั้นต่างถูกกดดันจากเรื่องของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ของสหรัฐ ซึ่งมันจะมีบทบาทอย่างมากต่อเรื่องเพิ่มกําลังทางทหารของสหรัฐ, พวกเขาจึงต้องมาหาคุณ”
“ผมเข้าใจ”
“แล้วก็, เรื่องการทดลองรถไร้คนขับของพวกเราประสบความสําเร็จดีมาก, ซึ่งได้ยืนยันสนามทดสอบแล้ว และต่อไปจะนําไปทดสอบในเมืองซัก 2 เดือน ถ้าคุณไม่ติดปัญหาอะไร”
“อืม, เรื่องนี้บริษัทรถของคุณก็ดําเนินการเองได้เลยนะ, ถ้าคุณติดปัญหาอะไรขึ้น ก็ติดต่อผมมาละกัน”
จื่อหยงคุยกับอู่ฮาวเหรินต่ออยู่อีกสักพักแล้วก็กลับไป
กลับไปที่ห้องวิจัย, อู่ฮาวเหรินนั่งลงบนเก้าอี้แล้วคิดถึงเรื่องของผู้การเหอ
จริงๆเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไรนัก, ทางรัฐได้บอกเขาว่า ตราบเท่าที่เขามีเทคโนโลยีไปให้ พวกเขาก็ยินดีที่จะแลกกับอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ
“จี้, ส่งข้อมูลเรื่องเทคโนโลยีนิวเคลียร์ทั้งหมดในฐานข้อมูลมาให้หน่อย”
“คุณต้องการที่จะให้เทคโนโลยีนิวเคลียร์แก่พวกเขางั้นเหรอคะ?”(จากบทนี้ไปจจะเป็นสมองแสงเสียงผู้หญิง)
อู่ฮาวเหรินผงกหัวและมองดูเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่แสดงอยู่บนจอคอมพิวเตอร์, ในพัฒนาการของมนุษยชาตินั้น การพัฒนาเรื่องของเทคโนโลยีนิวเคลียร์นั้นมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะหลังจากที่เข้าสู่ยุคของอวกาศและค้นพบสสารบางอย่างบนดาวดวงอื่น, ซึ่งสามารถนํามาใช้เป็นวัสดุนิวเคลียร์ได้, เทคโนโลยีนิวเคลียร์จึงได้แตกออกเป็นหลายสาย, ดังนั้นจึงมีเทคโนโลยีนิวเคลียร์อยู่หลากหลายเวอร์ชั่น
แน่นอนว่า, ไม่ว่าจะใช้วิธีรวมหรือแยกอะตอม, ถึงผลที่ได้จะใกล้เคียงกัน, แต่วัสดุนิวเคลียร์ที่ใช้ก็จะแตกต่างกันออกไป
“ถ้าคุณคิดที่จะให้เทคโนโลยีนี้, ฉันว่าเทคโนโลยีฟิวชั่นอันนี้น่าจะดีที่สุดค่ะ, มันไม่จําเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่ล้ําสมัยมากนัก, และไม่ต้องใช้เทคโนโลยีอะไรที่โลกนี้ยังไม่มีในการสร้างด้วยค่ะ”
อู่ฮาวเหรินมองดูเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่จี้เป็นคนเลือกมา, ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่เขาต้องการจริงๆ
“โอเค, เอาเทคโนโลยีนี้แหละ, พวกเราจะเอาเทคโนโลยีนิวเคลียร์นี้ให้พวกเขา, แต่ถ้าพวกเราได้วัสดุนิวเคลียร์มาแล้ว, พวกเราจะเอาไปไว้บนเกาะนั้นยังไงดี?”
“มันง่ายมากค่ะ, คุณสามารถเอาใส่ไว้ในกล่องปิดผนึกและโยนมันลงไปในทะเล, ในเมื่อตอนนี้คุณได้ทําให้พวกเขาเชื่อว่ามีองค์กรลึกลับกําลังหนุนหลังคุณอยู่, จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรล่ะ”
อู่ฮาวเหรินเองก็คิดว่านี่ก็เป็นแผนที่ดีเหมือนกัน แล้วให้หุ่นยนต์หาสมบัติในทะเลทําหน้าที่ขนเอาวัสดุพวกนี้กลับฐานทัพลับบนเกาะ
หลังจากที่ยืนยันแล้ว, อู่ฮาวเหรินก็ได้เก็บเอาข้อมูลพวกนี้ใส่ไว้ตัวเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมที่จะใช้พวกเขาในอีกไม่กี่วันให้หลัง
เมื่อดูการรายงานข่าว, หลังจากเทคโนโลยีนี้ได้ประกาศออกมาโดยสหรัฐ ซึ่งทําให้ทางสหรัฐดูคึกคักมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
อู่ฮาวเหรินคิดว่าเขาน่าจะไปก่อกวนพวกเขาซักหน่อย, มิเช่นนั้นแล้ว พวกเขาจะคิดว่าพวกเขานั้นสามารถยึดครองโลกนี้ได้
ผู้การเหอได้กลับมารายงานตามข้อมูลที่เขาได้รับมาจากอู่ฮาวเหริน
โดยเฉพาะในเรื่องของอาวุธพลังงานบนเรือกู้ซาก, ทําให้พวกเขายืนยันได้แล้วว่ามีองค์กรลึกลับที่กําลังหนุนหลังเขาอยู่จริงๆ
ดังนั้นการค้นหาองค์กรลึกลับจึงได้เพิ่มขึ้น และหาวิธีที่จะได้เทคโนโลยีล้ําสมัยมาเพิ่มอีกผ่านอู่ฮาวเหรินก็ได้ถูกนํามาพิจารณาเช่นกัน
พวกเขาเคยคิดที่จะจับตัวอู่ฮาวเหรินมาสอบสวน, แต่ตอนนี้ก็ได้ยกเลิกความคิดนี้, แล้วมุ่งไปที่การออกค้นหาองค์กรลึกลับแทนที่ซ่อนตัวอยู่แทน