หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 157
ตอนที่ 157 : ผลประโยชน์ชิ้นใหม่
โรแลนด์ไม่คิดว่าอัลโด้จะรู้จักเจ้านี้จริงๆ
โดยสัตย์จริง เขายังสงสัยอยู่เลยในตอนแรกว่านี่มันเป็นเพียงเส้นขยุกขยิกของศิลปินที่ได้แรงบรรดาลใจสักคนหรือเปล่า
“ค่ายกลเวทย์?” โรแลนด์มันงงไปทันที เขาอ่านหนังสือหลายเล่มแล้วภายในหอคอยเวทย์แต่เขายังไม่เคยเจอหนังสือสักเล่มที่กล่าวถึงมัน
อัลโด้หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายและกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าสิ่งที่ขุนนางผูกขาดความรู้เอาไว้มีเพียงแบบจําลองเวทย์งั้นเหรอ? มันยังมีอย่างอื่นอีก
โรแลนด์นั่งลงมีแววตาอยากรู้ปรากฎบนใบหน้าของเขา
“การสะกดและการสร้างคัมภีร์ เจ้าน่าจะไม่เคยเห็นสองสิ่งนี้ในหนังสือมาก่อน!”
โรแลนด์พยักหน้า
“ทั้งสองเทคนิคนั้นเป็นคลาสรองของนักเวทย์ และพวกมันยากที่จะเรียนรู้ แต่สิ่งที่เป็นความลับที่แท้จริงก็คือค่ายกลเวทย์
โรแลนด์ขมวดคิ้ว”ค่ายกลเวทย์…คืออะไรกันแน่?” “มันไม่ใช่ของธรรมดา มันเป็นหนึ่งในเทคนิคขั้นสูงที่สามารถเรียนรู้ได้เมื่อเข้าใจทฤษฎีเวทย์ขั้นสูง“อัลโด้มีสีหน้าเคลิบเคลิ้ม”เมื่อเจ้าสามารถเรียนค่ายกลเวทย์ได้นั่นหมายความว่าเจ้าเข้าใกล้สู่นักเวทย์ระดับตํานานแล้วและมีสิ่งหนึ่งของค่ายกลเวทย์ที่ดีมากกว่าการสําเร็จทฤษฎีเวทย์ขั้นสูงคือ มันอเนกประสงค์และสามารถทําได้หลากหลายอย่างมาก
โรแลนด์พูดขึ้น”นายช่วยยกตัวอย่างหน่อยได้ไหม?” “ข้างใต้ของพระราชวังในฟาเลียนนั้นมีค่ายกลเวทย์ขนาดใหญ่ซึ่งสามารถเรียกใช้ได้เมื่อเกิดสงคราม มันจะช่วยสร้างอาณาเขตเวทย์ที่ครอบคลุมทั้งเมืองมีคนเคยกล่าวไว้ว่ามันสามารถต้านทานการโจมตีเต็มกําลังของกึ่งเทพได้ถึงสองคน“อัลโด้มองไปยังเพดานด้วยท่าที่หลงไหล”ค่ายกลเวทย์นั้นถูกสร้างขึ้นจากกึ่งเทพดัลแคนเจ้ารู้ถึงความสําเร็จในอดีตของท่านดัลแคนไหม?”
โรแลนด์ส่ายหน้า
“ท่านด้ลแคนนั้นคืออัจฉริยะของโลกเวทมนตร์ เขาสร้างเวทย์มากเป็นจํานวนมากไม่ว่าจะเป็นมิซไซส์เวทย์,หมัดสายฟ้า, คลื่นกระแทกยักษ์, สาดกรด, และอื่นๆอีกมาก สามารถพูดได้เลยว่าเวทย์อย่างน้อยสามบทที่พวกเราใช้อยู่ในตอนนี้คือผลงานของเขา
โรแลนด์อ้าปากค้างด้วยท่าทางประหลาดใจ
อัลโด้ยืนขึ้นและพูดต่อว่า “จริงๆแล้วที่เหล่านักเวทย์เคารพเขาไม่ใช่เพราะเวทย์ที่เขาใช้นั้นรุนแรง ทว่าเพราะเขานั้นชํานาญในการสะกด, การสร้างคัมภีร์ และค่ายกลเวทย์”
โรแลนด์มองไปที่อัลโด้ “นั่นหมายความว่าคุณรู้จักค่ายกลเวทย์ใช่ไหมประธาน?”
“อย่าไปพูดถึงค่ายกลเวทย์เลย แค่การสะกดข้ายังไม่รู้เลยว่ามันเป็นยังไง ข้านั้นมันเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งที่ไม่สามารถธรรมดาไปได้มากกว่านี้อีกแล้วข้าไม่สามารถก้าวหน้าได้มากกว่านี้อีกต่อไปแล้ว”
โรแลนด์ถามอย่างสงสัย “แล้วฉันจะสามารถเรียนมันได้จากที่ไหนงั้นเหรอ สาขาใหญ่งั้นเหรอ?”
“หอคอยเวทย์ไง!”
“หอคอยเวทย์ในเมืองอื่น?”
“ไม่ใช่หอคอยเวทย์แบบนั้น แต่หมายถึงองค์กรลับต่างหาก” อัลโด้อธิบายออกมา “กลุ่มนักเวทย์ที่ทรงพลังด้านการกระตุ้นมารวมตัวกันและสร้างองค์กรลับขึ้นมาซึ่งถูกเรียกว่าหอคอยเวทย์สีแดงจากนั้นก็มีนักเวทย์ประเภทอื่นๆตามมาเรื่อยๆและสร้างของแบบหอคอยเวทย์สีขาว, หอคอยเวทย์สีเทา,หอคอยเวทย์สีเหลืองและอื่นๆตามมาอีกมาก”
โรแลนด์หัวเราะออกมา “ชื่อองค์กรแล้วตามด้วยแค่สิ่งั้นเหรอ? ดูสิ้นคิดชะมัด”
อัลโด้เองก็ยักไหล่อย่างเห็นด้วย “หอคอยเวทย์พวกนี้ต่างซ่อนตัวและจะออกมาเชิญคนเข้าร่วมก็ต่อเมื่อคนๆนั่นแข็งแกร่งมากพอพวกเขาจะส่งคนออกมาเพื่อสํารวจและเมื่อพวกเขาคิดว่าคนๆนั้นมีความสามารถเพียงพอพวกเขาก็จะปรากฎตัวออกมา”
“ลึกลับขนาดนั้นเลย?”
อัลโด้รู้สึกมีความสุขที่ได้ส่งมอบความรู้ของเขาให้กับคนอื่น “ถึงแม้ว่าพวกสาขาหลักของฮอลเลวิลจะมีอํานาจและดูแข็งแกร่งทว่าพวกเขาก็เปรียบได้ราวกับเด็กน้อยเมื่อเทียบกับหอคอยเวทย์จริงๆ”
โรแลนด์ถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าฉันต้องหาเวลาเรียนเวทย์สะกดแล้วสินะ”
“ก่อนหน้านั้นเจ้าจําเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการอัญเชิญสัตว์เวทย์เสียก่อน”
“หะ? ทําไมถึงต้องเป็นตอนนี้ละ?”
“หลังจากมาถึงระดับแนวหน้านักเวทย์สามารถทําพันธะสัญญากับสัตว์เพื่อให้มันกลายเป็นสัตว์เวทย์ได้” อัลโด้หันไปอีกทางพร้อมดึงหนังสือออกมาจากชั้นหนังสือของเขา และยื่นมันให้กับโรแลนด์ “นี่คือเคล็บลัดในการร่ายเวทย์ของข้าและมันรวมถึงแบบจําลองของการอัญเชิญสัตว์เวทย์ รับมันไว้สิ”
โรแลนด์รับหนังสือมาพร้อมมองไปที่อัลโด้แบบเงียบๆจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า “ประธานนายจะออกจากที่นี่งั้นเหรอ?”
อัลโด้ตัวแข็งไปชั่วขณะพร้อมยิ้มออกมาอย่างขมขึ้น “เจ้ารู้ด้วยงั้นเหรอ?”
“แค่เดาน่ะ”
อัลโด้ถอนหายในออกมาและนั่งหลังพิงเก้าอี้ก่อนจะพูดออกมาว่า “เจ้านั้นได้ทําหลายสิ่งเหลือเกินในสองสามวันที่ผ่านมานี้ ถึงกระทั่งฆ่าจอห์นทิ้ง ข้านั้นประทับใจจริงๆ”
“มันทําให้นายเกิดปัญหาขึ้นงั้นเหรอ?”
อัลโด้โบกมือปฏิเสธ“ไม่ใช่แบบนั้น ข้าแค่เห็นว่าพวกเจ้าทําสิ่งต่างๆอย่างบ้าระห่ําแล้วข้าก็เหมือนได้ปลุกบางสิ่งขึ้นมาข้านั้นยังอายุน้อยอยู่เลยและยังมีเวลาในชีวิตอีกมาก ดังนั้นทําไมข้าถึงต้องเสียเวลาในชีวิตให้กับเจ้าพวกสาขาใหญ่นั่นด้วยข้าแค่ไปประเทศอื่นก็ได้ไม่ใช่เหรอ?นักเวทย์นั้นต่างเป็นบุคคลหายากในทุกๆที่และต่อให้ข้าไปได้ไม่สวยนักแต่มันก็ดีกว่าถูกทําให้เป็นหนูโดยพวกสาขาใหญ่นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าในอีกไม่กี่วันข้าจะจากไปอย่างลับๆ”
โรแลนด์เงียบไปพักหนึ่งก่อนยิ้มออกมา “ฉันไม่ได้ยินอะไรเลยแม้แต่น้อย”
อัลโด้หัวเราะและตบบ่าของโรแลนด์ “เจ้านั้นเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมไม่เพียงแค่พรสวรรค์เท่านั้นแต่การควบคุมอารมณ์ของเจ้าก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันในอนาคตเจ้าจะกลายเป็นคนมีอิทธิพลอย่างแน่นอน”
“ลืมเรื่องที่จะกลายเป็นคนมีอิทธิพลไปก่อนเถอะ ฉันนั้นสนใจเพียงแค่เวทมนตร์เท่านั้นในตอนนี้”โรแลนด์มองไปรอบๆ “เมื่อนายรู้จักเวทย์อัญเชิญสัตว์เลี้ยง แล้วสัตว์เลี้ยงของนายไปไหนซะละประธาน?”
“มันจากไปแล้ว มันถูกฆ่าโดยคนจากสาขาใหญ่” ดวงตาของอัลโด้เต็มไปด้วยประกายของความเกลียดชังและความแค้น “นักเวทย์แต่ละคนสามารถทําสัญญาได้กับสัตว์เลี้ยงเพียงตัวเดียวเท่านั้นในชั่วชีวิตเจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้าหมายถึงยังไง”
โรแลนด์ถอนหายใจ “มันเหมือนกับฆ่าคนในครอบครัวไปสินะ”
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมความโกรธแค้นของข้ากับสาขาใหญ่ถึงไม่มีวันหายไป” อัลโด้หัวเราะแห้งๆ
โรแลนด์ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดอะไร ถ้าเขาพูดให้กําลังใจมันก็จะเหมือนทําให้อัลโด้เป็นคนอ่อนแอ แต่ถ้าหากเขาไม่พูดเขาก็จะดูเป็นคนเลือดเย็น
ทว่าท่าทางของอัลโด้ก็กลับมาเป็นปกติ เขาโบกมือเพื่อเปลี่ยนเรื่อง “เอาเถอะ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ…ตั้งแต่นี้ต่อไปหอคอยเวทย์คงต้องฝากให้เจ้าดูแลด้วย วิเวียนเองก็เป็นผู้หญิงที่ดีทําตามสิ่งที่เจ้าคิดว่าเหมาะสมเถอะ”
โรแลนด์นั้นยังคงมีคําถามอีกมาที่ต้องการจะถาม ทว่าเห็นได้ชัดว่าอัลโด้ไม่อยากจะพูดอะไรอีก
หลังจากบอกลาโรแลนด์ก็กลับมายังหอคอยเวทย์พร้อมกับหนังสือเวทย์อัญเชิญสัตว์เลี้ยง
เมื่อเขานั่งลง วิเวียนก็นําน้ําผลไม้สดมาเสิร์ฟทันที “รองประธานท่านออกไปข้างนอกมาเสียนานท่านคงกระหายน้ํา”
โรแลนด์มองไปที่วิเวียนและถามว่า “เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเวทย์บ้างไหม?”
วิเวียนพยักหน้าออกมา “ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับพวกมันมาก่อน ทว่ามีคนกล่าวไว้ว่ามีเพียงนักเวทย์ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถทําสัญญากับสัตว์เวทย์ได้”
“ถ้าหากเธอต้องการทําสัญญากับสัตว์เวทย์เธอจะทําสัญญากับตัวอะไร?”
“แน่นอนว่าต้องเป็นยนิคอร์น” ดวงตาของวิเวียนเป็นประกาย “ข้าได้ยินมาว่ามันเป็นตัวแทนของหญิงบริสุทย์
โรแลนด์มีใบหน้าที่สิ้นหวังทันที
แม้ว่าเขาจะมีความรู้เกี่ยวกับโลกของเวทมนตร์ไม่มากนัก ทว่าเขาก็รู้ดีว่ายูนิคอร์นนั้นหายากและจะปรากฎตัวขึ้นที่ดินแดนของพวกเอลฟ์เท่านั้น
การที่วิเวียนต้องการทําสัญญากับยูนิคอร์น แสดงว่าในใจของวิเวียนนั้นยังไร้เดียงสาอยู่เลยทีเดียว