ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art - ตอนที่179
ตอนที่179 จุดสูงสุดของจิตวิญญาณกระบี่
เมิ่งชวนสามารถตามเจ้าวังเฮ่ยนุ่ยได้ทันแม้จะแบกหยางฟางอยู่ แต่ทําไมเขาถึงโจมตีซ้ําแล้วซ้ําเล่ากัน?
“อีกนิดเดียว อีกแค่นิดเดียว” ในตอนนั้น เมิ่งชวนรู้สึกถึงแรงกระตุ้น แก่นแก้ของจิตวิญญาณกระบี่ของเขานั้นคือการสังหารอสูร! หลังจากที่ได้เห็นความหวังในการสังหารอสูรฟ้าระดับสี่ เมิ่งชวนก็ตื่นเต้นมาก
สังหารอสูรฟ้าระดับสี่ นั่นทําให้พลังใจในการต่อสู้ของเมิ่งชวนไปถึงขีดสุด พลังใจทําให้เขาฟันกระบออกไปจนเขตแดนวิชาเพิ่มขึ้นสูงกว่าเดิม
จิตวิญญาณกระบี่นั้นคือสองสิ่งที่รวมกัน วิชากระบี่และพลังใจ พลังใจนั้นเป็นแก่นของจิตวิญญาณกระบี่ มันคอยคุมวิชากระบี่เอาไว้ และเมื่อหลอมรวมเป็นหนึ่ง นั่นคือจิตวิญญาณกระบี่
แน่นอนว่าพลังใจที่กล้าแข็งสามารถเสริมพลังในวิชากระบี่ของเขาได้
“ตาย! ตาย! ตาย! หากเป็นอสูรฟ้าระดับสี่ มันก็ไม่ปราณีพวกเราเช่นกัน!” เมิ่งชวนฟันออกไปอีกครั้ง เขายังคงใช้วิชาดวงใจกระบี่ต่อไป เขาฟาดฟันออกไปหลายครั้ง พลังของแต่ละครั้งพัฒนาขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับจิตวิญญาณกระบี่ที่เปลี่ยนแปลงไป
วิชาดวงใจกระบี่ของเขาเถรตรงมากขึ้น! เรียบง่ายมากขึ้น!
จิตสังหารพุ่งพล่าน!
“ตาย!” เมิ่งชวนมองไปมองไปที่เจ้าวังเฮ่ยนุ่ย ที่มีแผลลึกจากขวานของหยางฟาง เมิ่งชวนใช่โอกาสหนี้และฟันลงไปอีกครั้ง
เมื่อเขาฟันออกไปเป็นครั้งที่สิบเจ็ด เมิ่งชวนก็เข้าถึงการรู้แจ้ง
ตูม! เมื่อลําแสงกระบี่ก่อตัวขึ้น มันก็หนาแน่นมากกว่าอันก่อน จิตสังหารทอประกายเย็นชามากยิ่งขึ้น
จุดสูงสุดของจิตวิญญาณกระบี่!
สองปีหลังเมิ่งชวนลงจากเขา พร้อมด้วยการชี้นําจากโลหะทมิฬ ในที่สุดเขาก็ไปถึงจุดสูงสุดของจิตวิญญาณกระบี่เมื่อกําลังล้อมจับอสูรฟ้าระดับสี่
นั่นเป็นระดับวิชาที่เรียกได้ว่าสูงมากในหมู่เทพอสูรมหาสุริยัน เพราะสุดท้ายแล้ว ระดับที่สูงกว่านี้ก็คือระดับวิถีแห่งกระบี่แล้ว เมิ่งชวนควบแน่นแก่นสารแห่งจิตได้นานแล้ว เมื่อเข้าถึงวิถีแห่งกระบี่ได้ เขาก็จะขึ้นเป็นเฟิงโหวเทพอสูรได้
ตราประทับสายฟ้าปรากฏขึ้นบนหลังของเมิ่งชวน
ในฐานะจอมยุทธร่างอสูรตัดสายฟ้า สายฟ้าคือแก่นของพลัง เขาประทับตราสายฟ้าลงบนร่างของตน เมื่อสายฟ้าเคลื่อนผ่านตราประทับสายฟ้านี้นั้น พลังของมันจะเพิ่มขึ้นมหาศาล อย่างเช่นตราประทับสายฟ้าอันแรก เพิ่มพลังสายฟ้าได้สามเท่า อันที่สองเพิ่มพลังสายฟ้าได้สิบเท่า ยิ่งมีตราประทับสายฟ้ามากเท่าไหร่ สายฟ้าที่มีก็จะทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น
ตราประทับสายฟ้าแบ่งออกเป็นห้าขั้น ตามปกติ สี่ระดับแรกนั้นข้องเกี่ยวกับระดับมหาสุริยัน ดาวทมิฬไร้ขอบเขต และสรรค์สร้าง ระดับห้านั้นเป็นเพียงทฤษฎี แต่ปรมาจารย์จ้าวสายฟ้าผู้ที่สร้างร่างอสูรตัดสายฟ้าได้ไปถึงระดับห้าแล้ว
ตราประทับสายฟ้าระดับสองต้องการให้อย่างน้อยทักษะวิชาไปถึงระดับเต๋และมีแก่นสารแห่งจิตระดับหนึ่ง จากนั้นถึงจะประทับตราสายฟ้าลงบนร่างได้ ก่อนหน้านั้นเขาเข้าถึงเพียงระดับสูงของเจตจํานงกระบี่เท่านั้น เขาจึงล้มเหลว
ฟุ่ม
เพราะเขาเคยพยายามมาแล้ว ดังนั้นเมิ่งชวนจึงบอกได้โดยสัญชาติญาณว่าสามารถประทับตราสายฟ้าลงบนร่างได้หลังจากเข้าถึงจิตวิญญาณกระบี่ที่สมบูรณ์แบบ จิตวิญญาณกระบี่และพลังของแก่นสารแห่งจิตควบคุมพลังปราณอย่างระมัดระวัง ทุกๆจุดปราณในร่างกาย เขาได้ประทับตราสายฟ้าที่ดูซับซ้อนระดับสองไป
ตราประทับสายฟ้าบนหลังของเขาที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เริ่มดูซับซ้อนและลึกลับมากยิ่งขึ้น ราวกับว่ามันแยกออกเป็นหลายชั้น อันที่จริงแล้ว มันเป็นตราที่อยู่ในร่างของเขา
เสร็จแล้ว” เมิ่งชวนดีใจ
ตราประทับสายฟ้านั้นเป็นหนึ่งในชนิดตราประทับของเทพอสูร มีเทพอสูรเขาหยวนชูเพียไม่กี่คนที่ฝึกตราประทับเทพอสูร อย่างเช่น ร่างเทพอสูรมากมาย อย่างร่างเทพวิหคเพลิง สามารถสร้างตราศักดิ์สิทธิ์ได้เมื่อฝึกต่อไปเรื่อยๆ เทพอสูรทุกๆรุ่นศึกษาเหตุการณ์นี้และได้รับความรู้มามากมาย ตราประทับสายฟ้านั้นถูกสร้างขึ้น โดยปรมาจารย์จ้าวสายฟ้า มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยธรรมชาติ
แม้จะใช้เวลานานในการอธิบาย แต่เพียงชั่ววินาทีก็มีตราประทับสายฟ้าอยู่บนหลังของเขา
เจ้าเมิ่งชวนนี่เอาแต่สกัดข้าตลอดเลย” หางของเจ้าวังถูกตัดออกไป และมีแผลขนาดใหญ่บนหลังและแขน แต่ว่าไม่มีเลือดไหลออกมาจากแผลเหล่านั้นแล้ว
เขาสลัดหยางฟางออกอีกครั้งและมุ่งไปตามทางเดิม!
“ศิษย์พี่หยางกับศิษย์พี่จางแก่เกินไป พวกเขาใช้วิชาต้องห้ามมาสักพักแล้ว มันส่งผลต่อร่างกายพวกเขามาก เมิ่งชวนสามารถบอกได้ว่าหยางฟางยังดูดีอยู่เพราะยังอยู่ห่างจากอายุขัยสิบยี่สิบปี ส่วนจางหวินเฟิงนั้นแก่เกินไป เมื่อใช้วิชาต้องห้ามเทพอสูร เลือดของเขาก็เดือดพล่าน ร่างกลายเปลี่ยนเป็นสีแดง นั่นทําให้เมิ่งชวนกังวล
ก่อนหน้านี้เขาไม่แข็งแกร่งพอ ในตอนนี้เขาไปถึงจุดสูงสุดแห่งจิตวิญญาณกระบี่แล้ว พละกําลังของวิชาได้เพิ่มขึ้น หลังจากประทับตราสายฟ้าระดับสองลงไป ความเร็วของเขาก็เพิ่มมากขึ้นไปอีก
นั่นทําให้เมิ่งชวนมั่นใจมากขึ้น
“ศิษย์พี่จาง ศิษย์พี่หยาง ข้ามีวิชาลับที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งได้สามสิบกระบวนท่า! ข้าสามารถร่วมมือกับศิษย์พี่หยางเพื่อโจมตีอสูรฟ้านี้ได้” เมิ่งชวนกล่าวผ่านกระแสจิต “เราต้องสังหารมันให้ได้ในสามสิบกระบวนท่า”
“ศิษย์น้องเมิ่ง อย่าเสียง” หยางฟางส่งกระแสจิตไปด้วยความกังวล “พวกเราเสี่ยงชีวิตได้ แต่เจ้านั้นยังเด็ก พละกําลังของเจ้านั้นยังคงอ่อนแออยู่ เจ้าจะปะทะกับมันตรงๆไม่ได้”
“ร่วมมือกันเถอะ” เมิ่งชวนโจมตี ในตอนแรก ลําแสงกระบี่หลายสิบฟันเข้าใส่เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยจนเขาช้าลง ศิษย์พี่หยางฟางเองก็พุ่งเขาไป เขาพยายามหยุดเมิ่งชวน “ศิษย์น้องเมิ่ง ถอย”
“โจมตี” เมิ่งชวนไม่ถอย
ด้วยความช่วยเหลือของศิษย์พี่หยางฟาง มีโอกาสที่จะสังหารเจ้าวังเฮ่ยนุ่ยลงได้แน่ๆ แต่ว่ามันเป็นเพียงโอกาส มันยังมีความเป็นไปได้ที่จะพลาดด้วยเช่นกัน และแม้พวกเขาจะโจมตีที่ละเล็กละน้อยจนสังหารเจ้าวัง เฮ้ยฉัยได้ แต่ก็คงจะใช้เวลานานมาก ไม่มีทางรู้ว่าจะมีมนุษย์อีกกี่คนที่เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยจะสังหารได้ก่อนตาย
มีความเป็นไปได้ที่ร่างของหยางฟางอยู่ไม่ได้นานพอจนเจ้าวังเฮ่ยฉัยตายด้วยซ้ํา
ในตอนนี้ที่เขาแข็งแกร่งพอ เขาจึงต้องลงมือ
ตูม!
กระแสพลังของเมิ่งชวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยวิชาต้องห้ามเทพอสูร ในเวลาเดียวัน เขาก็ผสานปราณเข้ากับแก่นสารแห่งจิต
กระบวนท่ามังกรคําราม!
เมิ่งชวนโจมตี
“เมิ่งชวนสู้กับข้าในระยะประชิดรี?’ เมื่อเขาเห็นร่างสายฟ้าพุ่งเข้ามา เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยก็รู้สึกดีใจมากกว่าตกใจ ต้องสังหารเมิ่งชวนเท่านั้นเขาถึงจะหลบหนีไปจากการไล่ล่านี้ได้
แต่ว่าเขาก็ต้องประหลาดใจที่ได้เห็นร่างแปดร่างโผล่ขึ้นมารอบตัวเขา มันเร็วและทรงพลัง ลําแสงกระบี่ฟันเข้าใส่เจ้าวังเฮ่ยนุ่ย
“ทําไมมันไวกว่าแต่ก่อนกัน?” เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยตกใจ
ต้องขอบคุณวิชาต้องห้ามของจางหวินเฟิงที่ทําให้เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยชํากว่าปกติในเขตแดนนั้น ส่วนเมิ่งชวนน่ะหรือ? เขาผสานแก่นสารแห่งจิตเข้ากับพลังปราณเพียงเท่านั้น ซึ่งจะใช้ออกไปเพียงจํานวนเล็กน้อย ทําให้เขาสามารถโจมตีได้ถึงสามสิบครั้งด้วยพละกําลังเช่นนั้น แต่ว่าพลังของการโจมตีแต่ละครั้งไม่ด้อยไปกว่าพลัง โจมตีเต็มกําลังที่เขาเคยทําได้ก่อนหน้าเลย การโจมตีของเขานั้นงดงามมากกว่าแต่ก่อนแล้ว ตราประทับสายฟ้าระดับสองทําให้สายฟ้ารอบร่างกายแปลบปลาบ ทําให้เขาเร็วกว่าเดิม
หากไม่ผสานพลังของแก่นสารแห่งจิตหรือวิชาต้องห้าม เขาสามารถเคลื่อนที่ได้ประมาณสี่ล้ําต่อการพุ่งเมื่อเทียบกับสามล์ต่อการพุ่ง วิชาการเคลื่อนไหวของเขาเองก็รวดเร็วและคล่องแคล่วมากขึ้นเช่นนั้น เจ้าวังเฮยฉ่ ยจึงไม่สามารถแตะตัวเขาได้
ในไม่ช้า กระบี่ของเมิ่งชวนก็ปรากฏตรงหน้าเขา การโจมตีนั้นทําให้อากาศบิดเบี้ยว ระยะทางสิบจิ้งเหลือเพียงเอื้อมมือ
แกร็งๆๆ! เจ้าวังเฮ้ยฉ่ยหยิบเข็มวารีขึ้นมาป้องกันการโจมตีในทันที
“ตาย” ขวานที่น่าสะพรึงของหยางฟางตามมาในทันที!
เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยป้องกันขวานของหยางฟางโดยอัตโนมัติ กระบี่ของเมิ่งชวนทําให้เขาบาดเจ็บได้ แต่ขวานของหยางฟางสังหารเขาได้!
เขาพยายามกันขวานด้วยความยากลําบาก ลําแสงกระบี่ทะลวงผ่านช่องท้องเขาไปแล้ว เขาตั้งใจปล่อยให้มันโดนตรงนั้น! นั่นเพราะหากนี่แทงไปตรงหัวหรือหัวใจ มันคงจะลําบากมากกว่าเดิมเป็นแน่
ฟุบ พลังในการทะลวงของท่ามังกรคํารามนั้นทรงพลังมาก! พลังในการโจมตีของเมิ่งชวนนั้นอ่อนแอ แต่เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยมีพลังเพียงสามส่วนจากปกติ เขาควรจะป้องกันหรือใช้ร่างกายรับการโจมตีกัน? โดยเฉพาะการโจมตีทะลุทะลวงด้วย?
ลําแสงกระบี่ทะลวงผ่านช่องท้องของเจ้าวังเฮียลุ่ยจนเกิดเป็นรู แต่ว่าเจ้าวังเฮ่ยฉุยบังคับปิดแผลในทันที แต่นั่นก็ทําให้หน้าของเขาซีดลงไปมากกว่าเดิม
เขาทนรับลําแสงกระบี่ได้ดีกว่ายอมโดนขวานของหยางฟาง
“ทําได้ดี!” หยางฟางดีใจเมื่อเห็นดังนั้น
“ล้อมและสังหารมัน!” จางหวินเฟิงเองก็ตื่นเต้นแม้จะใช้วิชาต้องห้ามต่อไปด้วยความยากลําบาก
“โจมตี” เมิ่งชวนไม่หยุด
เมื่อรวมกําลังกับหยางฟาง การโจมตีตรงๆของหยางฟางพร้อมกับที่เมิ่งชวนใช้ความเร็วมหาศาลในการโจมตีเจ้าวังเฮ่ยนุ่ย เมื่อการโจมตีเร็วไปถึงจุดๆหนึ่ง มันก็ไม่มีทางที่จะรับได้
หากเขตแดนไม่ได้สะกดพลังของเจ้าวังเฮ่ยฉัยไว้ เขาคงจะโดนโจมตีสวนไปแล้ว แต่ว่าในตอนนี้เจ้าวังเฮยฉัยถูกกดดันโดยสิ้นเชิง
ฟุบๆๆ
เขาใช้วิชามังกรคํารนอย่างต่อเนื่อง ทิ้งรูจํานวนมากไว้บนร่างของเจ้าวังเฮ่ยนุ่ย เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยทําได้แค่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเบี่ยงการโจมตีไปยังจุดที่ไม่ร้ายแรงถึงชีวิต แต่อาการบาดเจ็บก็รุนแรงมากขึ้นจากการโจมตีเหล่านั้น
“อสูรฟ้าอึดจริงๆ มันยังไม่ตายอีกรี?’ เมิ่งชวนฟันลงไปใส่อกของเจ้าวังเฮียลุ่ย ตัดแขนของอีกฝ่ายไปได้แขนที่ถูกตัดปลิวออกไป
“เจ้าเมิ่งชวนบ้านี่!” เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง เขาไม่มีทางรับมือหยางฟางได้ด้วยมือเดียว
ตูม!
แววตาของเจ้าวังเฮ่ยนุ่ยเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาเปิดปากออกมาในทันใดและคายแก่นอสูรสีดําออกมา ในเวลาเดียวกัน เขาก็เปลี่ยนกลายเป็นสายน้ําสีดําเจ็ดสายและรีบพุ่งหนีไปไกล
“มันจะทําลายแก่นอสูรตัวเอง” ร่างของเมิ่งชวนกระพริบวาบก่อนที่เขาจะคว้าหยางฟาง และในพริบตา เขาก็เคลื่อนที่ออกมาจากจุดเดิมสองร้อยจัง จากนั้นแก่นอสูรจึงระเบิด! เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยไม่ระเบิดให้เร็วกว่านี้เพราะกลัวว่าจะสังหารตัวเองไป
ในฐานะอสูรฟ้าแล้ว ร่างกายของเขาคือต้นกําเนิดของพลัง แม้การสูญเสียแก่นอสูรจะร้ายแรง แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ได้
เจ้าวังเฮียลุ่ยเพียงต้องการมีชีวิตรอด!