ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art - ตอนที่ 164
ตอนที่ 164 ย้ายไปยังเมืองหลวงรัฐเจียง
“ใช่ขอรับ” จางหวินอู่พยักหน้า
“เราเตรียมการทุกอย่างอย่างลับๆ แต่ว่าพวกอสูรจะรู้ตัวในที่สุดตอนเมื่อพวกเราเริ่มย้ายผู้คน” เฟิงโหวเทียน ซิงโหวกล่าว “เมื่อปีก่อน พวกมันไม่ได้โจมตีเมืองด่านขนาดกลางอย่างเต็มที่เพราะพวกมันต้องการให้เทพอสูรคอยป้องกันเมืองด่านและตกตายไป และเมื่อเทพอสูรได้ตายไปเป็นจํานวนหนึ่ง เราจะไม่สามารถหยุดพวกมันได้อย่างแน่นอน หากพวกมันเข้ามา”
จางหวินอู่กล่าว “ตราบใดที่พวกเรายังสูญเสียไม่มากถึงจํานวนหนึ่ง พวกเราจะยังคงปกป้องมนุษย์ต่อไป อสูรช่างแยบยลเสียจริง”
“เมื่อพวกเราเริ่มเคลื่อนย้ายคนกลุ่มใหญ่ เป็นไปได้ว่าพวกมันจะเพิ่มความรุนแรงในการโจมตีมากขึ้น ตอนนี้มีราชาอสูรหัวกะทิเพียงเจ็ดถึงแปดตัวเท่านั้นที่ถูกส่งออกมาในแต่ละครั้ง แต่ว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกมันจะส่งราชาอสูรหัวกะทิสามสิบตัวเข้ามาเมื่อเราเริ่มเคลื่อนย้ายคน” เฟิงโหวเทียนซิงโหวกล่าว “ด้วยพลังมหาศาลเช่นนั้น พวกมันจะทําลายด่านเป่ยเหอได้อย่างง่ายดาย และสังหารมนุษย์หลายหมื่นหลายแสนคนที่กําลังเดินทาง”
เมิ่งชวนและจางหวินอู่พยักหน้า
“นั่นเป็นเหตุว่าทําไมข้าจึงจะปกป้องด่านเป่ยเหอด้วยตัวเอง” เฟิงโหวเทียนซิงโหวกล่าว “เมื่อพวกมันเข้ามา ไม่ว่าจะกี่ตัวข้าก็จะสังหารมันเสียให้สิ้น!”
“ขอรับ” เมิ่งชวนและจางหวินอู่มองหน้ากัน แววตาของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น เขาหยวนชูวางแผนไว้อย่างละเอียดจริงๆ
เฟิงโหวเทพอสูรสามารถจัดการกับอสูรได้ดีกว่าเทพอสูรมหาสุริยันมาก แม้เมิ่งชวนจะผสานพลังของแก่นสารแห่งจิตเข้ากับพลังปราณและร่างแล้ว รวมไปถึงใช้วิชาต้องห้าม แต่เขาก็ยังมีพลังเพียงเสี้ยวหนึ่งของเฟิงโหวเทพอสูร เฟิงโหวเทพอสูรทั้งหมดนั้นสามารถจัดการสยบเขาได้ในการต่อสู้ตรงๆได้อย่างง่ายดาย แม้จะเป็นเฟิงโหวเทพอสูรระดับกลางๆก็ยังสามารถจัดการกับเขาได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
แน่นอนว่าเมิ่งชวนสามารถหนีได้อย่างง่ายดาย!
ในระบบการฝึกปราณนี้นั้นมีช่องว่างขนาดมหาศาลระหว่างเทพอสูรมหาสุริยันกับแดนมืดมิด ส่วนวิชายุทธอื่นๆนั้นไม่มีช่องว่างระหว่างระดับขั้นมากเช่นนี้
อย่างเช่นราชาอสูรนั้นแข็งแกร่งพอๆกับเทพอสูรมนุษย์ในสามระดับแรก ส่วนราชาอสูรระดับสี่นั้นอ่อนแอกว่าเฟิงโหวเทพอสูร แน่นอนว่าราชาอสูรระดับสีนั่นแข็งแกร่งมากๆ แต่ถึงกระนั้น พวกมันก็ยังอ่อนแอกว่าเฟิงโหวเทพอสูรอยู่ดี
อีกตัวอย่างหนึ่งคือวิชาอสูรฟ้า นี่เป็นวิชาการฝึกยุทธที่สร้างขึ้นโดยอสูรสําหรับคนทรยศ มันอ่อนแอกว่าวิชาราชาอสูรมาก ดังนั้นแล้วเหล่าอสูรฟ้าจึงอ่อนแอกว่าราชาอสูรและเทพอสูรมาก มีเพียงนิดหน่อยเท่านั้นที่โดดเด่น!
โดยรวมแล้ว เฟิงโหวเทพอสูรนั้นทรงพลังมาก หลังจากไปถึงระดับเดือนมืดมิด คนๆนั้นจะได้รับเขตแดน เดือนมืดมิดมา มันเป็นเขตแดนที่ใช้ได้ทั้งโจมตีและป้องกัน กระทั่งเฟิงโหวเทพอสูรที่อ่อนแอที่สุดยังสามารถจัด การกับราชาอสูรหัวกะทิระดับสามเป็นจํานวนหลายสิบตนได้ ส่วนเฟิงโหวเทพอสูรธรรมดาสามารถสังหารราชา อสูรหัวกะทิระดับสามหลายสิบตัวได้อย่างง่ายดาย มีเพียงเทพอสูร
“เมืองด่านขนาดกลางทั้งหมดจะมีเฟิงโหวเทพอสูรหรือสมบัติที่คอยช่วยปกป้องเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด” เฟิงโหวเทียนซิงโหวมองไปที่เมิ่งชวนและจางหวินอู่ “ส่วนเมืองหลวงรัฐหลายๆเมืองนั้น จะไม่มีเฟิงโหวเทพอสูรคอยปกป้องอยู่”
เมื่อได้ยินดังนั้นพวกเขาก็รู้สึกใจแน่นขึ้น
เมืองหลวงรัฐนั้นเป็นเมืองขนาดใหญ่ในอดีต พวกมันต่างมีเฟิงโหวเทพอสูรคอยปกป้องอยู่ อีกทั้งยังมีราชาเทพอสูรที่อยู่ใกล้มากพอที่จะมาเป็นกําลังเสริมเมื่อไหร่ก็ได้อีกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เฟิงโหวเทพอสูรกําลังจะไปปกป้องเมืองด่านขนาดกลางแทน แต่จะเกิดอะไรขึ้นกับเมืองหลวงรัฐกันล่ะ?
“เมืองหลวงรัฐมีวิธีจัดการอีกแบบ” เฟิงโหวเทียนซิงโหวกล่าว “เทพอสูรของด่านเฟียเหอ จางหวินอู่ เมิ่งชวน หยูจีหยาน หยางจึงอู่ มู่ฉิง และฉีฉวจะถูกส่งตัวไปที่ไหนสักที่หนึ่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนฟานเฉิงหลิว ชีเยวและเทพอสูรธรรมดาคนอื่นๆจะอยู่ช่วยข้าที่ด่านเป่ยเหอ”
ไม่ว่าอย่างไรแล้ว เฟิงโหวเทียนซิงโหวก็เป็นเพียงคนหนึ่งคน เขาต้องจัดการกับราชาอสูรหัวกะทิ ดังนั้นแล้วเขาจึงต้องการให้เทพอสูรคนอื่นๆคอยจัดการกับราชาอสูรระดับสองและอสูรธรรมดาด้วย
“พวกเราหกคนจะถูกย้ายไปที่อื่นหรือขอรับ?” เมิ่งชวนตกตะลึง
“ไม่ต้องกังวลไป แผนการย้ายครั้งใหญ่นี้จะใช้เวลาเพียงปีเดียว” เฟิงโหวเทียนซิงโหวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลังจากนั้นหนึ่งปี เราจะทิ้งด่านเปยเหออย่างสิ้นเชิง ศิษย์ข้า หลิวชีเยว่จะไปพบกับเจ้าที่หลัง”
“ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะขอรับ” เมิ่งชวนรีบกล่าว
“ฮ่าฮ่า เตรียมตัวให้พร้อม” เฟิงโหวเทียนซิงโหวกล่าว “เขาหยวนได้จัดกองกําลังป้องกันในทุกๆเมือง พวกเจ้าทุกคนจะได้ไปประจําการที่ไหนสักที่ คอยรอคําสั่งย้ายก็แล้วกัน”
ในคืนนั้น เมิ่งชวนและหลิวชีเยว่คุยกันอยู่บนเตียง
“อาจารย์จะปกป้องด่านเป่ยเหอ ในขณะที่พวกเจ้าหกคนจะถูกย้ายไปที่อื่น?”หลิวซีเยาตกใจ
เขาไม่ได้เก็บความลับเรื่องที่จะย้ายการป้องกันไว้เป็นควมลับจากหลิวชีเยว่ เพราะไม่ว่าอย่างไรแล้ว ในอีกไม่กี่วันพวกเขาก็จะค่อยๆย้ายไปที่ละคน
“มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลลับ ดังนั้นข้าจึงไม่ควรจะพูดอะไรมากกว่านี้ เฟิงโหวเทียนซิงโหวจะบอกในสิ่งที่เจ้าต้องรู้เอง ไม่ต้องห่วง ในอีกหนึ่งปีพวกเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันเมิ่งชวนกล่าว เขาเห็นด้วยกับแผนของเขาหยวนชู ตอนนี้ เมืองด่านขนาดกลางจะปลอดภัยมากๆ หากมีเฟิงโหวเทียนซิงโหวอยู่ใกล้ๆ ที่หลิวชีเยว่ต้องทําก็เพียงต้องจัดการกับราชาอสูรระดับสอง เฟิงโหวเทียนซิงโหวจะจัดการกับราชาอสูรระดับสามเอง ไม่ว่าพวกมันจะมากันเท่าไหร่ก็ตาม!
“เข้าใจแล้ว” หลิวซีเยวพยักหน้า
วันต่อมา จางหวินอู่ หยูจีหยาน หยางจึงอู่ มู่ฉิง และฉีฉิวได้รับคําสั่งย้าย พวกเขาแยกออกเป็นสามกลุ่ม จางหวินอู่ไปพร้อมกับหยางจึงอู่ หยูพี่หยานไปกับมู่ฉิง ส่วนฉีฉวไปคนเดียว
พวกเขาต่างออกไปกันอย่างเงียบๆ! บ้านของพวกเขานั้นถูกป้องกันอย่างแน่นหนา ดังนั้นสายลับของนิกายอสูรฟ้าจะไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เมิ่งชวนเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับคําสั่งย้าย
“อาชวน ระวังตัวด้วยนะ“หลิวชีเยว่เป็นกังวลมาก
“อีกหนึ่งปีเราจะได้เจอกันเมิ่งชวนยิ้มและมองดูภรรยาของเขา เขาหันหลังไปและกระโดดลงบนหลังนก
“ศิษย์พี่เมิ่ง ออกเดินทางกันเถอะ“บนหลังนกนั้นมีอสูรฟ้าระดับสองที่เชี่ยวชาญวิชาลวงตาที่ถูกควบคุมโดยเขาหยวนช อสูรฟ้าใช้วิชาลวงตาเพื่อกันไม่ให้ผู้อื่นเห็นนกและเทพอสูรอีกสองคน
ฟุบ
นกทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เมิ่งชวนเหลือบกลับไปมองภรรยาของเขาที่ยืนอยู่ในลานบ้านและจ้องมองมาทางเขา ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
ในฐานะเทพอสูรแล้ว เขาไม่มีทางเลือก พวกเขาต้องแยกจากกันเมื่อจําเป็น
ฟูววว
เขามองดูก้อนเมฆที่ไร้สิ้นสุดด้านล่างขณะที่นั่งอยู่บนหลังนก เขาหยิบคําสั่งย้ายออกมาและอ่าน
“ข้ากําลังถูกส่งไปที่เมืองหลวงของรัฐเจียงรี?’ เมิ่งชวนจ้องมองคําสั่งย้ายด้วยความตกใจ
ราชวงศ์โจวที่ยิ่งใหญมีเพียง 23 รัฐเท่านั้น เมืองหลวงของรัฐนั้นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีคนจํานวนนับล้านอาศัยอยู่ในนั้น
เขากําลังถูกส่งไปยังรัฐเจียงและปกป้องมันเป็นเวลาหนึ่งปี
เมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่าง นกก็ไปถึงรัฐเจียงในที่สุด ด้วยระยะทางที่ห่างจากด่านเป่ยเหอ 11000
นกลงจอดหน้าคฤหาสน์ที่ไม่ได้เด่นมากในรัฐเจียง ไม่มีใครเห็นพวกเขาเพราะภาพลวงตา
“มีคนมา“มีร่างสองร่างยืนรออยู่ตรงลานกว้างและยืนมองชายหนุ่มเมิ่งชวนที่กระโดดลงมาจากหลังนก
“หนุ่มน้อยร?” ผู้เฒ่าสองคนหัวเราะ
“ศิษย์พี่จาง ศิษย์พี่หยาง”เมิ่งชวนโค้งคํานับในทันทีเมื่อเห็นสองคนนั้น เขารู้ว่าจะมีเทพอสูรสามคนคอยดูแลเมืองหลวงของรัฐเจียง แต่ก่อนจะมาถึง เขาไม่รู้แม้แต่น้อยว่าอีกสองคนนั้นจะเป็นใคร
“ศิษย์น้องเมิ่ง เราควรมายืนยันตัวตนกันก่อน “ผู้เฒ่าผมสีขาวหยิบตราสีฟ้าที่มีสัญลักษณ์ของรัฐเจียงออกมา ส่วนผู้เฒ่าร่างโตก็หยิบตราออกมาเช่นกัน เมิ่งชวนเองก็หยิบตราที่เขาได้รับมาเมื่อก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน
ตราทั้งสามดูจะแตกต่างกันบางส่วน
ผู้เฒ่าผมสีขาวยิ้มและกล่าว”เหมือนว่าพวกเราทั้งสามจะรับหน้าที่ป้องกันที่แห่งนี้ไปอีกหนึ่งปี จากข้อตกลงของเขาหยวนชู ข้าจะเป็นแนวป้องกันหลัก “ศิษย์พี่จาง พวกเราจะทําตามคําสั่งของท่านผู้เฒ่าร่างโตและเมิ่งช่วนกล่าว
ผู้เฒ่าผมสีขาวพยักหน้า”เรามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องพละกําลังของพวกเรากันก่อนสักหน่อยเพื่อที่เราจะได้เตรียมการได้ดีขึ้นในอนาคต ข้าจะเริ่มก่อนก็แล้วกัน ข้าฝึกฝนร่างเทพอสูรระดับสูงพิเศษ ร่างเทพกายาอมตะ ข้าเข้าถึงเขตแดนแห่งวิถี(เต๋า)ขั้นสูงแล้ว! แต่โชคร้ายที่ด้วยอายุของข้าทําให้ข้าไม่สามารถขึ้นเป็นเฟิงโหวเทพอสูรได้ แต่ถึงกระนั้นข้าก็แข็งแกร่งเท่ากับเฟิงโหวเทพอสูรที่อ่อนแอที่สุด วิชาที่ข้าเชี่ยวชาญที่สุดคือวิชาเขตแดน”
เมิ่งชวนตกใจ เขารู้ว่าเทพอสูรเขาหยวนชูอย่างน้อยสองคนในทุกๆรุ่นจะมีร่างเทพอสูรระดับสูงพิเศษ แต่ว่าเทพอสูรเหล่านี้มักจะไม่ได้ขึ้นเป็นเฟิงโหวเทพอสูร
จางหวินเฟิงไปถึงเขตแดนแห่งวิถีเมื่ออายุ 118 ปี เขาควบแน่นแก่นสารแห่งจิตได้เมื่ออายุ 150 ปี เขาแก่ชรามากแล้ว นั่นจึงทําให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปถึงระดับเดือนมืดมิดได้ ในวัยชรานั้น เขาได้ไปถึงระดับสูงของเขตแดนแห่งวิถี ระดับวิชาของเขานั้นสูงกว่าของเฟิงโหวเทพอสูรที่พึ่งก้าวข้ามมาได้มาก แต่ว่าเพราะการที่ไม่สามารถไปถึงระดับเดือนมืดมิด นั่นจึงทําให้เขามีพลังเทียบเท่าเพียงเฟิงโหวเทพอสูรที่อ่อนแอที่สุด
ร่างเทพกายาอมตะนั้นเชี่ยวชาญในด้านเขตแดนมากที่สุดในหมู่ร่างเทพอสูรระดับสูงพิเศษทั้งสิบสอง เขตแดนของจางหวินเฟิงนั้นสามารถสยบเฟิงโหวเทพอสูรได้หลายส่วน นั่นทําให้เขาเป็นหนึ่งในเทพอสูรมหาสุริยันที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นสิ่งที่หาได้ยากมากนักแม้จะในเขาหยวนชูก็ตาม
“ข้าฝึกฝนร่างอสูรกายาทรงพลัง“ผู้เฒ่าร่างโต หยางเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม”ข้าไม่เก่งเท่าศิษย์พี่จาง ข้าอยู่ในเขตแดนแห่งเต่เพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ร่างอสูรกายาทรงพลังของข้านั้นเก่งกาจในระยะประชิด หากสู้กันต่อหน้า ข้าเองก็จะแข็งแกร่งเท่ากับเฟิงโหวเทพอสูรที่อ่อนแอที่สุด”
จากนั้นทั้งคู่ก็มองไปที่เมิ่งชวน