ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 104 ไฟล์ 11 เสียงกระซิบเรียกร้องให้รับผิดชอบตัวเอง 9.3
- Home
- All Mangas
- ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง
- ตอนที่ 104 ไฟล์ 11 เสียงกระซิบเรียกร้องให้รับผิดชอบตัวเอง 9.3
“ในที่สุด ก็มองเห็นเธอแล้ว…!”
โทริโกะย้ำหญ้าใต้เท้าเธอ วิ่งเข้าไปหาอุรุมะ ซัทสึกิ
ไม่ได้นะ—อย่าทำแบบนั้นนะ โทริโกะ
ขนาดเป็นสถานการณ์ตอนนี้แล้ว คำพูดของฉันมันก็ไม่ยอมออกไปจากคอซักที ไม่มีหลุดมาเลยแม้แต่คำเดียว
จนโทริโกะไปถึงข้างตัวของอุรุมะ ซัทสึกิจนได้ เธอเข้าไปเกาะข้างๆ ตัวแล้ว แต่ซัทสึกิก็ไม่มีทีท่าตอบสนองเลยซักนิด
“นี่! ฉันเองไง! ฮัลโหล? นี่โทริโกะเองนะ!”
โทริโกะเริ่มจะร้องไห้แล้ว เห็นแบบนั้นฉันก็อึ้งไปเลย นี่โทริโกะแสดงด้านที่อ่อนแอขนาดนี้ต่อหน้าอุรุมะ ซัทสึกิขนาดนี้เลยเหรอ?
“ฉันมาหาแล้วนะ ซัทสึกิ…!”
มือซ้ายที่ถอดถุงมือออกของเธอคว้ามือของอุรุมะ ซัทสึกิมา
แวบนึง ฉันเห็นไหล่ของโทริโกะสะดุ้งเกร็งขึ้นมาเลยด้วย
ตอนนั้น ฉันถึงเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองแรกขึ้นมาจนได้ ตาสีน้ำเงินคู่นั้นมองลงมาที่โทริโกะ เหมือนนกตัวใหญ่ที่หมายตาเหยื่อเอาไว้ อุรุมะ ซัทสึกิเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้โทริโกะแล้ว
อ๊าาา ไม่ดีแล้ว โทริโกะ… โทริโกะจะโดนเอาตัวไปแล้ว
มันสิ้นหวังจนบ่าแข็งไปหมด
แล้วก็เป็นตอนนั้นแหละ ที่มีใครซักคน จู่ๆ ก็มีคนมาคว้าตัวฉัน
“ตั้งสติหน่อยสิ โซราโอะจัง”
คุณโคซากุระยืนอยู่ตรงนั้น จับไหล่ของฉันเอาไว้ สายตาของเธอกลับมาโฟกัสได้แล้ว แสดงว่าเธอจะได้สติกลับมาซักทีสินะเนี่ย
“คุณ-… โคซากุระ”
“นั่นไม่ใช่ซัทสึกิ—ไม่ใช่ซัทสึกิที่ฉันรู้จัก!”
คุณโคซากุระพูดด้วยทีท่าเย้ยหยันตัวเอง ท่าทางเหมือนกำลังกระอักเลือดอยู่ยังไงยังงั้นเลย ก่อนที่เธอจะล้มลงมา เธอขยับแขนของเธออย่างอ่อนแรง เหมือนพยายามจะผลักฉันออกไปหลังจากที่คว้าตัวเธอเอาไว้ พร้อมๆ กับพูดกับฉันต่อ
“ไป… เร็วเข้าสิ! ไปจับเธอไว้! โทริโกะกำลังจะไปแล้วนะ!”
เสียงตะโกนของคุณโคซากุระเป็นแรงผลักดันสุดท้ายที่ฉันต้องการเลย ฉันกลับมายืนด้วยเท้าจนเต็มเท้าได้ พอขยับพวกมันก็เกือบสะดุดขาตัวเองล้มเลย
ฉันพุ่งเข้าไปกอดเอวของโทริโกะจากข้างหลังเหมือนกับเข้าไปจับทุ่ม โมเมนตัมของฉันทำเอาทั้งฉันทั้งโทริโกะล้มหน้าคะมำเลย
“อ๊าาา!?”
พอมือของเธอหลุดออกมาจากมือของอุรุมะ ซัทสึกิ โทริโกะก็หลุดกริ๊ดออกมา
“โซราโอะ เดี๋ยว—”
“อย่าไปนะ”
ฉันพูดออกไป ไม่คิดจะฟังคำโต้เถียงของโทริโกะซักนิด
“จะโมโหฉันก็ได้ จะเกลียดฉันก็ได้ แต่อย่าไปนะ จะไปกับเธอคนนั้นไม่ได้นะ ห้ามเด็ดขาดเลย อย่าไปนะ อย่าไปนะ อย่าไปนะ—”
ฉันรู้สึกว่า คงไม่มีอะไรที่ฉันจะพูดเพื่อเปลี่ยนใจเธอได้หรอก ฉันก็เลยทำได้แค่พูดซ้ำไปซ้ำมาก็เท่านั้นเอง ฉันไม่อยากให้เธอมีโอกาสได้พูด ฉันไม่อยากให้เธอบอกว่าปล่อยมือ
โทริโกะมองกลับมาหาฉันด้วยท่าทางสับสน ในขณะที่ฉันเองก็พูดซ้ำๆ อยู่แบบนั้น จนไม่รู้แล้วว่าตัวเองกำลังพูดถึงตรงไหนแล้ว ตอนนี้ฉันทำสีหน้าแบบไหนอยู่กันแน่นะ? ร้องไห้อยู่เหรอ? โกรธอยู่เหรอ? หรือว่า…
อุรุมะ ซัทสึกิก้มลงมามองพวกเราอย่างไม่ยินดียินร้ายอะไร ในขณะที่พวกเราเองก็กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กลางทุ่งหญ้านี่อยู่
ก่อนที่จู่ๆ เธอจะหันไปมองทางด้านข้าง
สายตาของเธอ จับไปที่อุรุมิ รูนะ
“ท่านซัทสึกิ ในที่สุดก็ได้พบกันซักทีนะคะ”
ยัยนั่นพูดเรื่องแบบเดียวกันกับโทริโกะเลย น้ำเสียงสั่นไปหมด แต่ไม่ได้มีความตึงเครียดอยู่ในนั่นเลย ออกจะปิติยินดีเพราะได้พบกับตัวตนที่ตัวเองเทิดทูนบูชานี่นะ
“เค้ารอคอยวันนี้มาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ที่ได้ยินการเผยตนของพระเจ้า เค้าก็เป็นสาวกของท่านทันทีเลย เค้ารูนะค่ะ”
อุรุมะ ซัทสึกิก้มลงมองไปที่รูนะ ไม่ได้พูดอะไรออกมาซักคำ รูนะก็เลยยังฝอยต่อด้วยอารมณ์พุ่งพล่านไม่หยุด
“เค้าคือข้ารับใช้ผู้ต่ำต้อยของท่านค่ะ โปรดพาเค้าไปด้วย—สู่ดินแดนอันห่างไกลของโลกสีฟ้าแห่งนี้ รับแค่เค้าไป ไม่ต้องเอาใครด้วยหรอกค่ะ! ได้โปรด เลือกเค้า คนที่รักท่านยิ่งกว่าใครทั้งนั้นน่ะ!”
ถึงจุดๆ นึง โทริโกะเองก็หยุดขยับตัว แล้วก็ทำเหมือนกับฉัน คือมองดูรูนะกับอุรุมะ ซัทสึกิเผชิญหน้ากัน ฉันพูดไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ความตึงเครียดมันขึ้นสูงเลย อะไรซักอย่างที่มันไม่สามารถย้อนกลับได้อีกมันจะเกิดขึ้นตอนไหนก็ได้แล้ว ฉันกลัวที่จะดูต่อ แต่ก็กลัวที่จะละสายตาออกไปเหมือนกัน
“ต้องการข้อพิสูจน์เหรอคะ? พิสูจน์ว่าเค้าคือหนึ่งในคนที่ถูกเลือก เป็นผู้ได้รับประทานของขวัญ…? เค้ามีคุณสมบัติที่จะอยู่กับท่านนะคะ! ท่านซัทสึกิ! ได้โปรด สดับฟังพรที่ท่านประทานมาให้เค้าด้วยนะคะ… [เสียง] นี้น่ะ”
รูนะสูดหายใจเข้าลึก แบบเดียวกับตอนที่ยัยนั่นกำลังจะเปล่ง [เสียง] ออกมาจากลำคอของตัวเอง
“อย่านะคะ! ท่านลูน่า!”
เอ๊ะ ผิดคาดเลยแฮะ ป้าขอบคุณคนนั้นเข้าไปขวางยัยนั่นด้วย ตลอดจนถึงตอนนี้ ขาของป้าคนนั้นมันปวกเปียกไปหมด แถมยังกลัวจนตัวสั่นอีกต่างหาก แต่ทั้งที่หวาดกลัวจนเห็นได้ชัดขนาดนั้นแท้ๆ แต่เธอก็ยังคลานเข้าไปหารูนะอยู่ดี
“ขอร้อง หนีไปเถอะนะ มองไม่ออกเหรอ? นั่นมันนัยน์ตาปีศาจ…! มันช่าง… ชั่วร้าย…”
ป้าขอบคุณเข้าไปใกล้ 2 คนนั้น เอามือขึ้นมาป้องหน้าของตัวเองจากอุรุมะ ซัทสึกิ เหมือนกับว่าเธอกำลังเจอกับแสงจ้าๆ อยู่ยังไงยังงั้น
“ทำบ้าอะไรเนี่ย!? ยัยงี่เง่า! อย่ามาขวางน่า! ถอยกลับไปเดี๋ยวนี้นะ!”
ป้าขอบคุณไม่ทำตามคำสั่งของรูนะเลย
“ยัยปีศาจ… นังแพศยาบัดซบ… แกอย่าได้กล้า… มาล่อลวงลูกสาวฉัน”
ป้าขอบคุณยังงึมงำอะไรซักอย่างเหมือนกำลังสวดมนต์อะไรอยู่ แล้วก็เดินขึ้นมาขวางหน้ารูนะเอาไว้ ในมือยังถือสมุดโน้ตของซัทสึกิเอาไว้อยู่
“หนีไป ทำแบบนี้ไม่ได้ มันหมดหวังแล้ว ฉันหมดหวัง แล้วก็จบแค่นี้แล้วด้วย”
เธอยังพึมพำอะไรอยู่เลย
“คำว่าทำบ้าอะไรอยู่น่ะ!? ยัยโง่—อย่ามาทำตัวเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแม่เอาตอนนี้นะ!!”
ป้าคนนั้นไม่ตอบโต้คำด่าของรูนะเลย เธอเปิดสมุดออด แล้วเริ่มอ่านมัน
นี่คือสิ่งที่ฉันได้ยินเธอพูดนะ:
“มีประตูรั้วเล็กๆ อยู่ แล้วคนๆ หนึ่งที่ร้องเรียกหาปีศาจก็เปิดประตูออกจนได้ ก่อนจะเปิดไฟฉาย แล้วก็ปิดไป เปิด แล้วก็ปิด ซ้ำอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง…”
คาถาเหรอ? ไม่สิ มันดูไม่เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านั้นอีก…
“A B C และ D ต่างขี้เกียจ แล้วโถฉี่ โถฉี่เรียงอยู่ แล้วคนก็ต่างเข้ามา เดินเข้าไปใกล้ เข้ามา เพราะเสียงที่น่าขนลุกนั่นเรียกมาก่อน พวกเขาเรียก เพราะงั้นก็ไม่เป็นไร ฉันเปิดตา แล้ว…”
คำพูดที่แปลกประหลาดพวกนั้นยังต่อเนื่องออกมาโดยไม่หยุดพัก แล้วจู่ๆ ก็หยุดกึกไป
รู้ตัวอีกที ก็มีร่างคนหลายร่างปรากฏขึ้นข้างหลังป้าขอบคุณด้วย เป็นคนแก่ผมหงอกขาว 4 คนสวมอะไรซักอย่างที่ดูเหมือนมงกุฏอยู่ ทุกคนต่างก้มลงมองดูที่ป้าขอบคุณด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“อะไรน่ะ?”
โทริโกะกระซิบถาม
ฉันพอเข้าใจได้รางๆ อยู่ว่าพวกนั้นเป็นใครกันแน่ หรือพูดให้ถูกกว่า คือพวกนั้นมาจากอะไร พวกนั้นใกล้เคียงกับภาพของบรรดาชายแก่ปริศนาที่โผล่มาในเรื่องเล่าในอินเตอร์เน็ต [โพรงกลมใต้ดิน] มากๆ เลย
เหล่าชายแก่สวมมงกุฏที่โผล่ออกมาข้างหลังป้าขอบคุณในตอนที่เธอกำลังอ่านสมุดเล่มนั้นอยู่—มันเป็นบทประพันธ์ที่แทบจะเหมือนกับว่าเธอจะส่งสัญญาณให้เหล่าตัวประหลาดที่เรียกออกมาพวกนั้นเข้าจัดการกับอุรุมะ ซัทสึกิเลย
แต่ว่า สมุดเล่มนั้นมันเป็นอะไรที่ใจดีกับผู้ใช้งาน ใช้งานได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
จังหวะต่อมา ความกังวลของฉันก็ถูกยืนยันจนได้
ชายแก่หน้าไร้อารมณ์ 4 คนนั้นหรี่ตาลง มุมปากของพวกนั้นยกขึ้น ฉีกยิ้มโชว์เหงือกกันเลย รอยยิ้มพวกนั้นมันเต็มไปด้วยเจตนาร้ายมากในแบบที่ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
ป้าคนนั้นหันกลับมา ก่อนจะถอยหนีในขณะที่พวกชายแก่พวกนั้นยังคงมองดูพร้อมกับรอยยิ้มแสนน่ากลัวนั่นไม่หยุด
พอไม่มีที่ให้หนีแล้ว หน้าชนพวกชายแก่ หลังชนอุรุมะ ซัทสึกิ สีหน้าของป้าขอบคุณก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวังทันที
“หนี…”
เธอหันไปทางรูนะอีกครั้ง ก่อนจะกำมือเป็นกำปั้น ชี้ไปหาทางอุรุมะ ซัทสึกิ
มันคือสัญลักษณ์มือ ที่เอานิ้วโป้งยื่นออกมาระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลาง สัญลักษณ์ขับไล่สิ่งชั่วร้ายเพื่อป้องกันตัวเองจากนัยน์ตาปีศาจ
ซึ่ง อะไรนั่นมันไม่ได้ผลหรอก
อุรุมะ ซัทสึกิยกแขนทั้งสองขึ้น ก่อนจะประกบมือเข้าที่หน้าของป้าขอบคุณ กดนิ้วโป้งเข้าจมลึกลงไปในเบ้าตาทั้ง 2 ข้างของป้าเขา
ป้าขอบคุณกรี๊ดเสียงดังลั่นออกมา เลือดไหลจากในนั้นอาบลงมาตามแก้ม จนหยดลงไปที่ต้นหญ้าตรงเท้าของเธอ
พอเห็นแบบนั้น รูนะก็ตะโกนขึ้นมา
“แม่!! ท่านซัทสึกิ—หยุดน้า!! ทำไม!?”
พวกชายแก่พวกนั้นเผยให้เห็นคอที่เหี่ยวย่น เปล่งเสียงหัวเราะด้วยเสียงที่แหบแห้งออกมา พวกนั้นหัวเราะจนตัวสั่น ทั้งๆ ที่เสียงกรีดร้องของป้าขอบคุณหลังจากที่โดนขยี้ดวงตามันไม่ได้น่าหัวเราะเลยซักนิดเดียว แล้วตัวของพวกนั้นจะรวบเข้ามาหากันเหมือนกับว่าเป็นกระดาษที่ถูกขย้ำจนเป็นก้อน ก่อนจะหายไปในความว่างเปล่า
เลือดที่เบ้าตานั่นขึ้นเป็นฟองปุดๆ ก่อนที่เสียงกรี๊ดก็หยุดลง
อุรุมะ ซัทสึกิปล่อยมือออก แล้วแม่ของรูนะก็ทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
“ท่าน… ซัทสึกิ…”
ในตอนที่อุรุมิ รูนะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาที่ว่างเปล่า มือที่เลือดอาบไปทั่วของอุรุมะ ซัทสึกิยื่นเข้าไปหาเธอแล้ว
แล้วก็มีเสียงกรีดร้องดังลั่นสุดๆ เสียงกรี๊ดนั่น มันเต็มไปด้วยทั้งความเจ็บปวด ทั้งความหวาดกลัวจากการถูกกระทำอย่างโหดร้ายทารุณ ทำเอาทั้งฉันทั้งโทริโกะเอามือขึ้นมาปิดหูกันทั้งคู่เลย
“ช่… วย…”
[เสียง] ที่ปล่อยออกมาจากคอของรูนะดูบิดเบี้ยวเหมือนเป็นลวดหนามเลย ที่ปลายของมัน ชี้ไปหาผู้ติดต่อประเภท 4 ทั้ง 2 คนที่ยังนอนคุดคู้อยู่ที่พื้น [เสียง] เข้าล้อมรอบพวกเขา แล้วจมหายเข้าไปในตัว
เหล่าประเภท 4 ผุดลุกขึ้นยืนพร้อมกับร้องครวญคราง คนที่มีนิ้วเยอะๆ คลานตรงเข้าไปหารูนะ ส่วนอีกคนก็เริ่มใช้หัวบวมๆ ของเขาลูบไล้ไปในอากาศ
ไม่นาน [เสียง] ก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงเหมือนเสียงกลั้วคอ พออุรุมะ ซัทสึกิปล่อยมือ รูนะก็โยกหัวไปหน้าไปหลังอย่างเอื่อยเฉื่อย หยุดยืนนิ่งอยู่ตรงที่เธออยู่ตรงนั้นนั่นแหละ เธอยังหันหลังให้พวกเราอยู่เหมือนเดิม ก็เลยไม่รู้ว่าเธอทำสีหน้ายังไงอยู่กันแน่
ในที่สุด ประเภท 4 คนที่มีนิ้วเยอะก็ไปถึงเท้าของรูนะซักที นิ้วของเขามุ่งเข้าไปหารองเท้าของซัทสึกิ พันเข้าไปรอบมัน พยายามจะเลื้อยไปรอบตัวเธอตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นไปถึงต้นขา หลังของเขาบวมขึ้น ก่อนที่จะมีทั้งมือทั้งนิ้วจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนจะพุ่งออกมาจากหลังของเขาเหมือนเป็นแรงระเบิด
อีกส่วนในร่างกายของเขาก็แผ่กระจายออกไปบนพื้น ดูราวกับเป็นต้นไม้เนื้อมนุษย์ที่จู่ๆ ก็งอกขึ้นมาจากพื้นยังไงยังงั้นเลย ต้นไม้เนื้อยังงอกขึ้นสูง บิดไปบิดมา ก่อนจะชักกระตุกอย่างเจ็บปวด
แล้วจู่ๆ ส่วนที่ไกลที่สุดของรยางค์ก็กลายเป็นสีดำ เริ่มที่จะเหี่ยวแห้ง ก่อนจะมีเสียงโปรยปรายคล้ายกับเสียงเล็บที่ไหลหลุดมาจากนิ้วที่เน่าแล้วเลย
ประเภท 4 หัวโตคนนั้นก็โยกตัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง หัวของเขาฟาดไปมาในอากาศในที่ที่ไม่มีอะไรเลย ทุกครั้งที่ทำก็สร้างคลื่นสีเงินออกมา ขนบางๆ รอบเส้นรอบวงที่หัวของเขาเชื่อมโยงกับคลื่นพวกนั้น ก่อนจะเริ่มสร้างออกมาเป็นเกท ที่อีกฟากนึงของแสงเรืองๆ สีเงินนั่น ฉันมองเห็นห้องโกดังมืดๆ ด้วย
“โทริโกะ—หนีกันเถอะ!”
ฉันบอกแบบนั้น โทริโกะก็หันมามองฉันเหมือนเธอจะได้สติกลับมาแล้ว
ถ้าถึงตอนนี้ เธอจะยังดื้อขัดขืนอีกล่ะก็ ฉันพร้อมจะชกเธอให้หลับแล้วลากเธอไปกับฉันเลย
แต่โทริโกะก็เม้มปาก พยักหน้าตอบ
“คุณโคซากุระ!”
ฉันหันไป ก็เห็นคุณโคซากุระลงไปนอนราบกับพื้น เอามือกุมหัวของตัวเองเอาไว้อยู่
“เป็นอะไรมั้ยคะ!?”
“ไม่… ไม่ไหวแล้ว… เอาฉันออกไปจากที่นี่ที เร็วเข้า…”
เธอกระซิบกลับมาอย่างไร้เรี่ยวแรง กับคนที่มีภูมิต้านทานต่อความกลัวต่ำอย่างคุณโคซากุระแล้วเนี่ย สถานการณ์ตอนนี้มันนรกชัดๆ เลย
ฉันกับโทริโกะช่วยประคองตัวกัน ก่อนจะกลับมายืนได้
รูนะยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ตรงหน้าของซัทสึกิ ใต้ต้นไม้เนื้อมนุษย์
“รูนะ! ยังอยู่มั้ย!?”
ฉันลังเลที่จะถามออกไป รูนะก็หันกลับมาหาฉันช้าๆ
พอเห็นหน้าของเธอเท่านั้นแหละ ฉันก็ถึงกับกลืนน้ำลายเอื๊อกเลย
ปากของเธออ้ากว้างกว่าที่ฉันเคยเห็น กรามล่างของเธอถูกฉีกออกกว้าง ลิ้นก็ไหลห้อยตกลงมาตามนั้นด้วย น้ำลายไหลรินออกมา ดวงตากลอกกลับไปหลังหัว สีหน้าสิ้นสติอย่างสิ้นเชิงเลย
TN: เริ่มไม่ค่อยอยากนึกฉากต่อไปเลยแฮะ
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r