จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 207
บทที่ 207 : อันธพาลน้อยอยากทําให้สัตว์เชื่อง (1)
มุมปากของเหวินหรู่บิดเบี้ยวเขารีบถอยหนีอย่างรวดเร็ว “ข้าเพียงล้อเล่น ล้อเล่นเท่านั้น !”
ตลกน่า! หอบุปผาคือสถานที่ใด ? สตรีผู้นี้โหดร้ายจริง ๆ จะให้ข้าไปรับแขกที่นั่น !
ไป๋หยานยิ้มอย่างอ่อนโยน”วางใจได้ หากเจ้าปรารถนา หอบุปผาพร้อมเปิดรับเจ้าเสมอ แต่หากเจ้าเพียงประสงค์เป็นลูกค้าของเรา ข้าก็จะให้มาม่าฉู่คิดราคาพิเศษให้เจ้าได้นะ”
ใบหน้าของเหวินหรู่เปลี่ยนเป็นเคอะเขินยิ่งเห็นฮัวหลัวขยิบตาวิ้ง ๆ ล่อลวงเขา เด็กหนุ่มก็มองตอบกลับไปดุ ๆ “นี่ ต้าไป๋ ข้ายังบริสุทธิ์อยู่นะ อย่าแกล้งข้านักเลย”
ไป๋หยานคร้านจะกล่าวคำใดอีกนางนำตำราออกมา จากนั้นก็โยนให้เหวินหรู่
เหวินหรู่คว้าตำราของไป๋หยานอย่างงงๆ พลางถามว่า “นี่คืออะไรหรือ ?”
”เจ้าเพิ่งจะผ่านขั้นห้ามาได้เพียงไม่นานเจ้ายังคงควบคุมความสามารถในการปรุงยาขั้นห้าได้ไม่ดีนัก ทว่าหลังจากที่เจ้าทำความเข้าใจตำราเล่มนี้ได้อย่างถ่องแท้แล้ว เจ้าจะสามารถควบคุมการปรุงยาในระดับห้าได้ดีขึ้น และมันจะทำให้เจ้าปรับปรุงประสิทธิภาพในการปรุงยาเพิ่มขึ้นอีกด้วย”
เหวินหรู่ตื่นเต้นกระทั่งทำตำราหลุดมือดีที่เขาคว้ามันไว้ได้ทัน
“เจ้าดีกับข้าถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” เหวินหรู่กอดตำราแน่น ราวกับกอดลูกของตนเอง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ไป๋หยานยิ้มพลางกล่าวว่า”เจ้าจะได้แข็งแกร่งพอที่จะช่วยข้าชี้นำบรรดาหมอปรุงยาเหล่านี้ ฮัวหลัว เราไปกันเถอะ”
ไป๋หยานเดินไปได้เพียงสองสามก้าวนางก็หันกลับมาอีกครั้ง “เหวินหรู่…หากเจ้าอยากพบข้า ก็จงไปหาหลานเสี่ยวหยุน ที่บ้านสกุลหลาน นางรู้ว่าข้าพักอาศัยอยู่ที่ใด”
ครั้นกล่าวจบไป๋หยานก็เดินหายออกไปนอกประตู
ใบหน้าของฮัวหลัวเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมเสน่ห์นายหญิงของนางเป็นคนปากแข็งแต่ใจอ่อน
แม้ว่าไป๋หยานจะชอบแกล้งเหวินหรู่ทว่านางก็เตรียมเขียนตำราเล่มนี้ไว้นานแล้ว จุดประสงค์ก็เพื่อจะมอบให้เหวินหรู่
เมื่อมีตำรามีค่าอยู่ในมือเหวินหรู่ก็ไม่สนใจไป๋หยานอีก เขารีบกลับไปที่ห้องเพื่ออ่านตำรา
ในใจของเขารู้สึกประหลาดใจทุกครั้งที่เปิดตำราออกอ่านทีละหน้า ๆ เพราะตำรานี้สามารถตอบปัญหาที่คาใจเขามาเป็นเวลานานได้อย่างที่เขาคาดไม่ถึง
ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองณ ตำหนักขององค์รัชทายาท เสียงกรีดร้องยาวดังสนั่นจนหูอื้อ สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งตำหนักเลยทีเดียว
”เกิดกระไรขึ้น! !”
อาการบาดเจ็บของไป๋รั่วยังไม่หายดีนางถูกนางกำนัลพยุงให้เดินออกมาอย่างทรมาน แวบแรก นางเห็นโอรสของนางกำลังถูกหมาป่าตัวหนึ่งไล่ล่า
ในโลกนี้นอกเหนือจากสัตว์อสูรแล้วยังมีสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด ที่ทั้งดุร้ายและเลี้ยงไม่เชื่อง เช่นหมาป่าตัวนี้ก็เป็นสัตว์ป่าธรรมดา ๆ
หมาป่าถูกหนานกงอี้จับมาได้ตอนที่ออกไปล่าสัตว์เมื่อไม่นานมานี้และเพราะมันดุร้ายมาก หนานกงอี้จึงขังมันไว้ในกรง เขาวางแผนว่าจะฆ่ามันกินในสักวัน ผู้ใดจะคิดว่าอันธพาลน้อยจะปล่อยมันออกมาจากกรง
”เสด็จแม่ช่วยข้าด้วย !” เสียงของอันธพาลน้อยฟังดูน่าสังเวช ขณะที่หัวใจของไป๋รั่วแทบจะสลาย
”เร็วเข้าไปช่วยองค์ชายน้อยเร็ว ๆ !” ไป๋รั่วหน้าซีด นางรีบออกคำสั่งกับองครักษ์ด้านหลังเขา
องครักษ์ผู้หนึ่งนำธนูออกมาเขาเล็งไปที่หมาป่า ซึ่งกำลังจะขย้ำอันธพาลน้อย ชั่วอึดใจ เขาก็ยิง ลูกธนูพุ่งทะลุเบ้าตาหมาป่าอย่างแม่นยำ
หมาป่าหลับตาร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดขณะเดียวกัน หนานกงหลินก็ไม่ยอมพลาดโอกาส เขารีบวิ่งเข้าหามารดาของตน
”หลินเอ๋อเหตุใดเจ้าจึงปล่อยหมาป่าของท่านพ่อออกมาจากกรงล่ะ ?”
ครั้นหวนนึกถึงฉากเมื่อครู่หัวใจของไป๋รั่วก็แทบจะกระโจนออกมานอกอก ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นขาวซีด
***จบบท อันธพาลน้อยอยากทําให้สัตว์เชื่อง (1)***