World of Beasts I Can See Their Hidden Stats! - ตอนที่ 32

ล็อคมองไปยังปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่ถูกทิ้งไว้หลังระเบิด

เขาตกตะลึงโดยสมบูรณ์

พลังของการโจมตีนั้นรุนแรงมากจนเขาสงสัยว่างูหลามเลือดจะรอดไหมหากมันอยู่ในจุดสูงสุดและโดนการโจมนี้เข้าไป

‘แม้มันจะไม่ตายจากการโจมตี แต่มันคงต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่’

อย่างไรก็ตามการโจมตีนี้มันก็ได้ใช้มานาไปจำนวนมากเช่นกัน

การโจมตีเมื่อครู่นั้นใช้มานาของล็อคไปมากกว่าครึ่ง

โชคดีที่ลมน้อยและไฟน้อยไม่ต้องการมานามากนัก

ล็อคเดินไปทางเห็ดหิมะพันปี

เมื่อเห็นสมบัติตรงหน้า หัวใจของล็อคก็เต้นแรงอย่างรวดเร็ว

เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

ท้ายที่สุดแล้ว ใครจะสงบอารมณ์ลงได้เมื่อได้เจอกับขุมทรัพย์ในตำนาน?

หลังจากนั้นไม่นาน ล็อคก็สงบอารมณ์ลงได้ในที่สุด

เขาเอื้อมมือไปเก็บสมุนไพรในตำนาน

มันให้ความรู้สึกไม่ต่างจากสมุนไพรทั่วไปนัก

“ระบบ”

“ใช้ฟังก์ชั่นตรวจสอบเพื่อสแกนเห็ดหิมะพันปีในมือของข้า”

ระบบพบข้อมูลที่ล็อคต้องการอย่างรวดเร็ว

[ เห็ดหิมะพันปีเป็นสมุนไพรหายาก สรรพคุณของมันนั้นกว้างขวาง หากถูกกินโดยแบทเทิลบีสต์ มันจะเพิ่มระดับของแบทเทิลบีสต์ตัวนั้นอย่างรวดเร็วและจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ]

[ หากท่านอยู่ในระดับสูงสุด ท่านยังสามารถใช้สมุนไพรตัวนี้เพื่อทะลวงผ่านได้ในทันที ]

ล็อคอ่านข้อมูลที่ได้รับจากระบบด้วยความตกใจ

เรื่องนี้มันน่าตกใจอย่างมาก

หากจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงบางคนได้รับข่าวว่าล็อคได้ครอบครองสมุนไพรในตำนาน…

พวกเขาอาจจะบ้าคลั่งและขอหรือไม่ก็ซื้อมันจากเขา

ล็อคมองไปที่สมุนไพรในมือของเขา

เขาเต็มไปด้วยความร้อนรน

เขากำลังคิดหาวิธีจัดการกับสมุนไพรว่าเขาควรจะใช้มันกับตัวเองดี หรือเขาควรจะแลกเปลี่ยนมันเป็นสมบัติอื่นดี?

เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว

ล็อคจึงตัดสินใจใช้มันกับตัวเอง

ท้ายที่สุด ความแข็งแกร่งที่เป็นของตัวเองก็คือความแข็งแกร่งที่แท้จริง

ขาวน้อยได้มาถึงขั้น 3 แล้ว

ดังนั้นล็อคจึงตัดสินใจใช้สมุนไพรเห็ดหิมะพันปีกับลมน้อยและไฟน้อย

ประสบการณ์ที่ล็อคได้จากสนามรบโบราณระดับเงินนั้นน่าทึ่งมาก

ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาจะเติบโตอย่างรวดเร็ว เขายังได้รับสมุนไพรเห็ดหิมะพันปีอีกด้วย

มันเป็นสมุนไพรที่ได้มาด้วยบังเอิญล้วนๆ

ทรัพยากรแต่ละอย่างเป็นโอกาสอันมีค่า สำหรับล็อค เห็ดหิมะพันปีเป็นโอกาสที่มีค่าอย่างยิ่ง

ครั้งนี้ล็อคได้ประโยชน์มากมายจากการต่อสู้ของเขา

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจออกจากสนามฝึกและคำนวณกำไรของเขา

เมื่อล็อคเดินออกจากสนามรบโบราณ

ชายชราที่เคยพบล็อคมาก่อนก็เห็นเขาและทักว่า “เป็นไง สนามรบระดับเงินมันอันตรายใช่ไหม?”

“แต่ไม่ต้องกังวลไป ข้าเชื่อว่าในอนาคตเจ้าจะมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะเดินลึกเข้าไปได้อย่างแน่นอน”

ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ

อย่างไรก็ตาม ล็อคไม่แน่ใจว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีกับคำพูดของชายชรา ท้ายที่สุดเขาก็ส่ายหัว

เขาไม่คิดจะบอกชายชราเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเขา

เขาคิดว่าให้ชายชราได้คิดอย่างที่ตัวเองต้องการน่าจะดีกว่า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของท่าน ข้าจะพยายามให้มากกว่านี้”

เมื่อตระหนักว่าล็อคมีทัศนคติที่ดี ชายชราก็ตอบสนองเช่นกัน เขามองว่าล็อคเป็นเหมือนบุตรชายของเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักของคนเป็นพ่อ

ราวกับชายหนุ่มผู้มีความสามารถและสุภาพตรงหน้าผู้นี้เป็นบุตรชายของเขาเอง

เขารู้สึกโล่งใจ

จากนั้นเขาก็ดึงล็อคให้นั่งลง

ล็อครู้สึกหงุดหงิดมาก ทั้งหมดที่เขาต้องการคือกลับบ้าน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าชายชรากระตือรือร้นเพียงใด เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้จริงๆ

ชายชรายิ้มและกล่าวกับล็อค “หนุ่มน้อย ข้าเห็นว่าเจ้านิสัยดีมาก และดูเหมือนจะมีความสามารถมากเช่นกัน”

“นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ชายชราคนนี้อยากจะแนะนำบางอย่างกับเจ้า”

“ข้ารู้ว่าเจ้าน่าจะมีไพ่ตายที่พรงพลังมาก และเจ้าคงจะรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ยงคงกระพันเพียงเพราะเจ้าอยู่ระดับเงิน”

“ตรงนั้นแหละที่อัจฉริยะทุกคนจะพลาด”

“พวกเขามักคิดว่าด้วยแบทเทิลบีสต์ระดับศักดิ์สิทธิ์และความสามารถในการต่อสู้ระดับเงินก็เพียงพอแล้วที่จะพิชิตโลก”

“แต่ความจริงแล้วมันมีสิ่งที่แตกต่างเมื่อถึงระดับเงิน ก่อนระดับเงิน 5 ดาว จ้าวแห่งสัตว์อสูรจะเพิ่มความแข็งแกร่งผ่านการต่อสู้ แต่เมื่อพวกเขาไปถึงระดับเงิน 5 ดาวแล้ว วิธีที่จ้าวแห่งสัตว์อสูรจะได้รับความแข็งแกร่งจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง”

ล็อคมองชายชราด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าชายชราที่อยู่ตรงหน้าเขาจะไม่ง่ายอย่างที่คิด

เมื่อพูดถึงเรื่องแบบนี้ล็อคมีความรู้เป็นศูนย์

ด้วยเหตุนี้เองล็อคจึงสนใจคำพูดของชายชรา

ชายชรากล่าวต่อ “หลังจากถึงระดับเงิน 5 ดาวแล้ว จ้าวแห่งสัตว์อสูรจะสามารถฝึกชุดเทคนิคบ่มเพาะเฉพาะสำหรับจ้าวแห่งสัตว์อสูรได้”

“ความแข็งแกร่งของเทคนิคบ่มเพาะจะเกี่ยวพันอนาคตของจ้าวแห่งสัตว์อสูร นีเป็นเพราะเทคนิคฝึกที่ทรงพลังจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับแกนมานาภายในร่างกายของจ้าวแห่งสัตว์อสูรได้อย่างต่อเนื่องและขยายออกไปอย่างไร้ขอบเขต ทำให้พวกเขามีพลังเวทย์มากกว่าคนอื่น”

“ในขณะเดียวกันมันยังทำให้พวกเขาสามารถทำสัญญากับแบทเทิลบีสต์ได้มากขึ้น ในฐานะที่เป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรเจ้าควรจะรู้เรื่องนี้”

“ร่างกายของจ้าวแห่งสัตว์อสูรมักจะบอบบางมาก มันไม่ได้มีอะไรพิเศษ”

“แน่นอนว่าแบทเทิลบีสต์หรืออาวุธแบทเทิลบีสค์บางตัวอาจให้ทักษะที่เพิ่มความอยู่รอดของจ้าวแห่งสัตว์อสูร”

“แต่นั่นไม่ใช่ความสามารถของตัวเอง ดังนั้นหลังจากไปถึงระดับเงิน 5 ดาวแล้ว จ้าวแห่งสัตว์อสูรทุกคนจะต้องเลือกเทคนิคบ่มเพาะ และก็มีบางคนที่เลือกจะฝึกร่างกายของตนเองไปด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มันมีเทคนิคฝึกฝนสำหรับมนุษย์เกิดขึ้นมากมาย แต่เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้เรื่องพวกนี้”

ล็อคซึมซับคำแนะนำของชายชราอย่างสมบูรณ์

เขาถามชายชราอย่างกระตือรือร้น “แล้วทำไมเราต้องรอจนกว่าจะไปถึงระดับเงิน 5 ดาวเพื่อเรียนเทคนิคเหล่านี้ด้วย?”

ชายชราเผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะราวกับว่าเขากำลังรอให้ล็อคถามคำถามนี้กับเขา

เขาหวังว่าการทำเช่นนี้จะทำให้เขาสามารถทิ้งภาพอันสูงส่งของตัวเองไว้ในใจของอีกฝ่ายได้

ชายชราไอสองครั้งก่อนจะอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เฉพาะแกนมานาของจ้าวแห่งสัตว์อสูรที่ไปถึงระดับเงิน 5 ดาวเท่านั้นที่มีมานาที่จำเป็นเพียงพอในการใช้เทคนิคฝึกฝน”

“ในขณะเดียวกันก็มีเพียงจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับเงิน 5 ดาวเท่านั้นที่มีองค์ประกอบร่างกายที่จำเป็นในการจัดการกระบวนการฝึกฝน”

“อย่างไรก็ตามมันก็มีวิธีฝึกฝนที่ทรงพลังบางอย่างที่แม้แต่จ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับทองหรือเพชรก็ยังไม่สามารถฝึกฝนได้อยู่ด้วย”

ล็อครู้สึกประหลาดใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาควรจะแข็งแกร่งกว่าระดับเงินไม่ใช่หรือ?”

ชายชราตอบ “มันก็ถูกที่จ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับทองนั้นจะแข็งแกร่งกว่ามาก แต่มันมีเทคนิคบ่มเพาะที่ท้าทายสวรรค์บางอย่างที่ต้องใช้คุณสมบัติทางกายที่จ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับทองนั้นไม่มี และหากยังฝืนฝึกมันต่อ มันก็มีความเสี่ยงที่ร่างกายของพวกเขาจะระเบิดและดับไป”

ล็อคแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ชายชรากล่าวออกมา มันมีเทคนิคบ่มเพาะที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่ในโลกจริงหรือ?

ทันใดนั้นล็อคก็ถามชายชราอีกครั้ง

“ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินถึงการมีอยู่ของเทคนิคบ่มเพาะจนถึงตอนนี้? แล้วข้าต้องทำเช่นไรถึงจะได้รับเทคนิคบ่มเพาะ?”

“หลังจากที่เจ้าเข้ามหาวิทยาลัย หากเจ้าเป็นนักเรียนที่มีความสามารถมากพอ ทางมหาวิทยาลัยก็จะจัดเตรียมเทคนิคบ่มเพาะให้แก่เจ้า อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของเทคนิคบ่มเพาะที่พวกเขาให้ฟรีก็มีจำกัดเช่นกัน หากเจ้าอยากจะได้เทคนิคที่ทรงพลังกว่านั้นเจ้าก็ต้องพยายามเพื่อให้ได้มันมา”

“ดังนั้นเจ้าจงฟังคำพูดของชายชราผู้นี้ หลังจากที่เจ้าเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เจ้าต้องไม่ปิดบังความแข็งแกร่งของตัวเจ้าเอง เจ้าต้องทำให้ตัวเองดูทรงพลัง ในมหาวิทยาลัยที่มีการแข่งขันสูงนั้น มีคนอยู่เพียงสองประเภทเท่านั้น หนึ่งคืออัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาด ส่วนอีกหนึ่งคือคนธรรมดา”

“มีเพียงตอนที่เจ้าแสดงความแข็งแกร่งมากพอเท่านั้น เหล่าผู้สูงศักดิ์ของมหาวิทยาลัยจึงจะตัดสินใจฝึกฝนเจ้า”

“ความแข็งแกร่งส่วนตัวอาจจะสำคัญก็จริง แต่อย่าลืมว่าการมีทรัพยากรจำนวนมากก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน”