(WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก - ตอนที่ 65 แล้วป๊อปคอร์นอะ!
- Home
- All Mangas
- (WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก
- ตอนที่ 65 แล้วป๊อปคอร์นอะ!
ตอนที่ 65: แล้วป๊อปคอร์นอะ!?
──
[ ได้มาสองตัวเป๊ะเลย! เก่งจริงๆเลยนะ รุย! ]
[ กระเป๋าตังค์ว่างเปล่าเลย… เอาเงินค่าฟิกตัวหนึ่งคืนมาด้วยสิ ]
[ อืม! เอ่อ…สองพันเยนสินะ! นี่! ]
[ ยัยนี่เลือกตัวที่ถูกกว่ามาเป็นของตัวเองซะงั้น… ]
…ผมคว้าฟิกเกอร์อิบุกิตัวที่สองมาได้สำเร็จ ในขณะที่อายากะดูจะมีความสุขกับการถือถุงจากตู้คีบ เธอหันมายิ้มและพูดว่า
[ ฮ่าๆ !… แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีฟิกเกอร์อิบุกกี้อยู่ในตู้นี้! แล้วฟิกเกอร์ตัวอื่นๆ จะมีมั้ยนะ? ]
[ เมื่อกี้ลองเช็กดูแล้ว ฟิกเกอร์จากสังกัดสกายซันมีออกมาหลายตัวเหมือนกัน แต่ดูเหมือนที่นี่จะมีแค่อิบุกกี้อย่างเดียว ]
[ เหรอ…งั้นถ้ามีฟิกเกอร์ของเรย์ออกมา นายจะคีบให้ฉันด้วยมั้ย? ]
[…จะพยายาม ]
[ คำตอบแบบนั้นหมายความว่าไง! ]
พอถูกพูดแบบนั้น อายากะก็เอามือมาสะกิดผมเบาๆ …ให้ตายสิ ทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้วแท้ๆ ยังจะถามให้ลำบากใจอีก…
แล้วพวกเราก็เดินออกจากตู้คีบและมุ่งหน้าไปยังจุดหมายถัดไป
[ …แล้วจะไปไหนต่อ? ]
[ ยังไม่ได้คิดไว้เลย… อืม อาจจะร้านหนังสือ หรือไม่ก็เดินเล่นร้านขายของน่ารักๆ ก็ดูไม่เลว ]
[ อีกแล้วสินะ…..สถานที่ที่ทำให้เรามีของติดมือเพิ่มอีกแล้วสินะ … เอ๊ะ ฉันไม่ควรพูดออกมาใช่มั้ย ]
[ พูดได้ตามสบายเลย ไม่ต้องกังวล ]
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องยึดติดกับการทำตามคำแนะนำของผมขนาดนี้… หรือว่าเธอกำลังให้คะแนนเส้นทางเดทของผมอยู่? ถ้าเป็นอย่างนั้น ที่พาเธอไปที่ตู้คีบตั้งแต่แรกก็คงไม่มีทางแก้คะแนนได้แล้ว…
…พูดก็พูดเถอะ สถานที่ที่ไม่มีของให้ติดมือกลับไปนี่มันแทบไม่มีเลยนะ จะมีก็มีแต่จะมีร้านอาหารไม่ก็โรงหนัง… อ๊ะ โรงหนังก็ดีนี่นา แถวนี้ก็น่าจะมีโรงหนังอยู่ ดูหนังก็ช่วยฆ่าเวลาได้ดีด้วย น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเดทเลย
พอคิดได้แบบนั้น ผมก็พูดขึ้นว่า
[ งั้นไปดูหนังกันมั้ย? ]
[ โอ๊ะ! ฟังดูดีนะ! แล้วจะดูเรื่องอะไรล่ะ? ]
[ อะไรก็ได้ที่กำลังดังๆ ]
[ นั่นคำตอบเหรอ ? ]
อายากะตีผมเบาๆ คงคิดว่าผมล้อเล่นอยู่แน่ๆ แต่จริงๆแล้วผมจริงจังครึ่งนึงเลยนะ
[ แน่นอนว่าควรเลือกดูเรื่องที่น่าสนใจ แต่ในฐานะไลฟ์เวอร์ เราควรลองอะไรที่กำลังเป็นกระแสด้วยนะ เรื่องที่ดังๆ มันต้องมีเหตุผลที่ทำให้มันดัง แล้วก็เอามาพูดคุยในสตรีมได้ด้วย เป็นไอเดียที่ดีไม่ใช่เหรอ ]
อายากะดูจะทึ่งเล็กน้อยกับคำพูดของผม
[ จริงด้วย… ว่าแต่ รุยคิดถึงเรื่องสตรีมด้วยเหรอ แปลกใจจัง ]
[ ก็ต้องขอบคุณเธอนั่นแหละ อีกอย่าง ฉันก็อยากลองดูหนังกับเธอสักครั้ง ]
[ เอ๊ะ? ]
[ อายากะดูเป็นคนมีมุมมองเฉพาะตัว ต่างจากคนอื่น เลยคิดว่าน่าจะได้ยินความคิดเห็นแปลกๆ สนุกๆ จากเธอบ้าง ]
แม้อายากะจะดูเป็นคนสดใสร่าเริงไร้กังวล แต่ผมรู้ว่าเธอมีมุมมืดที่ซ่อนอยู่ และด้วยความที่เธอเป็นคนที่มีความรู้สึกไวและสังเกตสิ่งต่างๆ ได้ดี คิดว่าเธอคงพูดอะไรที่น่าสนใจออกมาได้
[ เหรอ…? ไม่รู้ตัวเลยแฮะ! ]
ดูเหมือจะไม่รู้ตัวเลยสินะ
[ บางทีฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้ ]
[ งั้นเหรอ…? อ๊ะ ใช่เลย! พูดถึงหนัง มีคนที่ทำไลฟ์ดูหนังพร้อมกันด้วยใช่มั้ย? ]
[ หมายถึง Watch Party สินะ ระบบนั้นมันเจ๋งมากเลย ]
[ นั่นแหละ! ]
อายากะพูดพลางหัวเราะ
[ คราวหน้าเราลองจัดสตรีมดูหนังพร้อมกันกับทุกคนดูมั้ย ! …แล้วคราวนั้นรุยต้องอยู่ด้วยนะ! ]
[ ฉันด้วยเหรอ… ถ้าอายากะอยู่ด้วย คิดว่าคงโดนชวนคุยจนไม่มีสมาธิดูหนังแน่ ]
[ ฮะๆ ! งั้นดูหนังสยองขวัญกันดีมั้ยล่ะ? ]
[ อย่าเลย ขอร้อง ]
ขอโทษนะ แต่แนวสยองขวัญนี่ไม่ไหวจริงๆ ทำไมต้องหาเรื่องทำให้ตัวเองกลัวด้วยล่ะ… ผมคิดแบบนั้นตลอด
[ เห~ รุยยังกลัวของพวกนี้อยู่เหรอเนี่ย? ]
[ เดี๋ยวสิ เธอเองก็ขี้กลัวไม่ใช่เหรอ? ]
[ ไม่หรอก! ฉันโตขึ้นแล้วนะ ตอนนี้ดูหนังสยองขวัญได้บ้างแล้วล่ะ! แถมยังสตรีมเกมสยองขวัญด้วยนะ! ]
[ จริงเหรอ… รู้สึกเหมือนโดนหักหลังเลย… ]
ทั้งที่ตอนเด็กๆอายากะเองก็ขี้กลัวไม่แพ้ผมเลย… เราเคยถอนตัวจากงานทดสอบความกล้าทั้งน้ำตาด้วยกันแท้ๆ แต่ตอนนี้เธอกล้าสตรีมเกมสยองขวัญแล้วเนี่ย… พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับไลฟ์ อายากะก็ดูจะจริงจังมากจริงๆ
[ …อ๊ะ ถึงโรงหนังแล้ว! แล้วตกลงจะดูเรื่องอะไร? ]
ระหว่างที่เราคุยกันอยู่ เราก็มาถึงหน้าโรงหนังโดยไม่ทันรู้ตัว ผมมองตารางรอบฉายบนจอมอนิเตอร์คร่าวๆ
[ งั้น…ลองดูเรื่องใหม่ของผู้กำกับอาซาคุมิ ‘Kimi no Tenki’ ดีมั้ย? เรื่องนี้เห็นโฆษณาเยอะเลยนะ แถมฉันก็สนใจอยู่เหมือนกัน ]
[ อื้ม น่าสนใจดี งั้นไปซื้อตั๋วกันเถอะ! ]
พวกเราเดินไปยังเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ อายากะดูจะชำนาญกว่า ผมเลยปล่อยให้เธอจัดการ
[ เอ่อ…รอบถัดไปก็แล้วกัน… แล้วที่นั่งเอายังไงดี? ]
[ ตรงกลางเต็มหมดแล้ว…งั้นนั่งแถวหลังสุดดีมั้ย? ไม่เคยนั่งเลย ]
[ โอ้ว! ก็ดีเหมือนกัน งั้นตรงนี้ละกัน…ซื้อล่ะนะ! ]
[ อืม ]
ผมยื่นเงินสองพันเยนที่อายากะให้มาก่อนหน้านี้ให้ แล้วเธอก็ใส่เงินส่วนของตัวเองเพิ่มเข้าไปเพื่อซื้อตั๋ว หลังจากได้ตั๋ว เราก็เตรียมตัวเดินเข้าไปในโรงหนัง
[ …เดี๋ยวสิ รุย! ไม่ซื้ออะไรหน่อยเหรอ!? ]
[ หืม? อ๋อ เปล่า ถ้าต้องไปห้องน้ำระหว่างหนังมันจะยุ่งน่ะ… ]
[ ไม่ใช่เรื่องนั้นสิ! ป๊อปคอร์นอะ!? ]
[ ไม่ชอบขนาดนั้น… ]
ผมไม่ได้เกลียดป๊อปคอร์น แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องซื้อมากินทุกครั้งที่มาดูหนัง…แต่ดูเหมือนอายากะจะไม่คิดแบบนั้น
[ ถึงไม่ชอบก็ควรซื้อติดมาบ้างสิ! งั้นฉันไปซื้อนะ! ]
พูดจบอายากะก็เดินไปที่ร้านขายของว่าง และไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็กลับมาพร้อมป๊อปคอร์นและน้ำอัดลม ซึ่งป๊อปคอร์นที่เธอถือมานั้น…ดูยังไงก็เป็นขนาดใหญ่ที่สุดที่มี
[ เยอะขนาดนั้น กินหมดเหรอ? ]
[ แน่นอน! เอ้า ไปกันเถอะ! ]
[ อืม… ]
ผมเดินข้างๆอายากะและยื่นมือไปหยิบป๊อปคอร์นขึ้นมาชิ้นหนึ่งก่อนจะใส่เข้าปาก
[ อ๊ะ! แอบกินเหรอ! นี่แน่ะ! ]
[ … ]
…ก็มีแล้วนี่นา ขอชิมหน่อยก็ไม่แปลกหรอก คนเราก็แบบนี้แหละ.