(WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก - ตอนที่ 51 พูดอีกครั้งได้มั้ย
- Home
- All Mangas
- (WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก
- ตอนที่ 51 พูดอีกครั้งได้มั้ย
ตอนที่ 51 พูดอีกครั้งได้มั้ย?
คำพูดตรงไปตรงมาแต่เรียบง่ายนั้นส่งผ่านถึงผมมาได้อย่างชัดเจน ใช่… ผมเองก็รู้ตัวอยู่แล้ว ว่าอายากะมีความรู้สึกดีๆกับผม และผมก็รู้ว่า ผมเองก็ชอบอายากะเหมือนกัน
…แต่ ผมแสร้งทำเป็นไม่รู้ แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น เพราะกลัวว่าความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไป คิดว่าอยู่แบบนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว
[ … ]
แต่อายากะรวบรวมความกล้ามาบอกความรู้สึกของตัวเอง เพราะงั้นผมเองก็ควรตอบกลับบ้าง…ต้องเผชิญหน้ากับมันอย่างจริงจัง
[ อ่า… ขอบคุณนะ อายากะ ]
[ …! ]
มือที่จับกันอยู่เริ่มแน่นขึ้นเรื่อยๆ ผมต้องพูดออกไป… บอกความรู้สึกของผม ว่าผมเองก็ชอบอายากะเหมือนกัน ต้องบอกออกไปให้ชัดเจน…!!
[ ฉันเองก็ชอบอายากะนะ…── ]
.
.
.
.
ปี๊ปปี้ป๊อปปี้โป๊ะป๊อปป๊อง
[ หา!!?] [เอ๊ะ!? ]
เสียงดังขึ้นอย่างกะทันหันจนหัวใจแทบหลุดออกจากอก ผมใช้เวลาสักพักกว่าจะเข้าใจว่าเป็นเสียงอะไร… พอรู้ว่าเป็นเสียงโทรศัพท์ก็เริ่มใจเย็นลงเล็กน้อย และเราสองคนก็ปล่อยมือกัน
[ อะ… โทรศัพท์เหรอ…? ]
[ ไม่ใช่ของฉันนะ? ก็เสียงเรียกเข้าไม่เหมือนกันนี่นา…]
งั้นก็… เป็นมือถือของผมสินะ? ผมค่อยๆ เหลือบไปมองทางที่มีเสียงดังขึ้น… เห็นมือถือของผมที่วางอยู่บนโต๊ะกำลังสว่างอยู่ ซึ่งแน่นอนว่ามันคือโทรศัพทของผม…
[ … ]
ให้ตายเถอะ… ทำไมถึงไม่ตั้งเป็นโหมดห้ามรบกวนตอนนี้เนี่ย…! ผมมันโง่จริงๆ…!
แต่มันสายไปแล้ว โทรศัพท์ยังคงดังอย่างไร้ความปรานี อายากะจึงพูดอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
[ …รับเถอะนะ? ]
[ เอ่อ… แต่ว่า… ]
แต่ต่อให้ไม่รับ เราก็คงไม่สามารถกลับไปมีบรรยากาศเหมือนเมื่อกี้ได้แล้ว… จะทำไงดีนะ เมินไปเลยดีมั้ย หรือจะปิดเครื่องไปเลย…
[ รับเถอะน่า ตอนนี้ใครโทรมาก็ต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่ๆ ]
[ …อ่า… ขอโทษนะ ]
ไม่มีเหตุผลให้โต้แย้งกับคำพูดของอายากะ ผมจึงขอโทษและหยิบมือถือที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วก็เห็นชื่อ “ผู้จัดการเนโมโตะ” แสดงอยู่บนหน้าจอ
[ …เนโม่ซังเหรอ? ]
ถึงจะติดต่อกับเนโม่ซังเรื่องงานเป็นระยะๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอโทรมาช่วงเวลาแบบนี้ หรือว่าจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่านะ…? ผมกังวลเล็กน้อยก่อนจะรับสาย
[ ฮัลโหล? ]
จากนั้นก็ได้ยินเสียงของเนโม่ซังพูดขึ้นตามปกติ
『 อ๊ะ ขอโทษที่โทรมารบกวนดึกๆนะ รุยคุง ตอนนี้สะดวกคุยมั้ย? 』
[ อ่ะ ครับ… สะดวกครับ ]
『 จริงเหรอ? แต่ฟังจากเสียงเหมือนไม่ค่อยมีพลังเลยนะ…ว่าแต่เมื่อกี้ทำอะไรอยู่เหรอ? 』
..ผมคงบอกไม่ได้แน่ๆ ว่าอยู่บนเตียงกับอายากะ
[ …ออกกำลังกายครับ ]
『 อ๋อ ออกกำลังกายแนวฟิตเนสน่ะเหรอ? 』
[ …ใช่ครับ ]
เหมือนเนโม่ซังจะตีความไปเอง ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอกนะ… จากนั้นเนโม่ซังก็กระแอมเบาๆ เปลี่ยนบรรยากาศเป็นเสียงสดใสเหมือนจะประกาศอะไรอย่างกระตือรือร้น
『 เอาล่ะ เกริ่นเท่านี้ก่อนนะ รุยคุง! ขอแสดงความยินดีที่มีผู้ติดตามครบหนึ่งแสนคนด้วย! 』
[ หา? เอ๋…? ]
คำพูดที่ไม่คาดคิดทำเอาผมไม่รู้จะตอบยังไง ผมมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเนโม่ซังก็พูดขึ้นอย่างประหลาดใจ
『 เอ๋? รุยคุง ยังไม่ได้รู้ตัวเหรอ? 』
[ เอ๊ะ ไม่สิ… ขอเช็กดูแป๊บ… เอ๋ จริงด้วย!? ]
ผมยังคงต่อสายคุยอยู่ ขณะที่เปิดช่องของ “Rui Astica” ขึ้นมา… บนจอก็แสดงจำนวนผู้ติดตามเป็น “100,000 คน” จริงๆ
[ เกี่ยวกับสปอนเซอร์ด้วยหรือเปล่าครับ? ]
『 ใช่ รวมทั้งรายได้จากโฆษณาด้วย ถ้ารุยคุงเปิดสร้างรายได้จากตรงนี้ เงินเดือนของนายก็จะเพิ่มขึ้นด้วย… มีคนอีกมากที่อยากโดเนทให้นาย มันดีมากเลยนะ? 』
[ หา…? มีคนแบบนั้นด้วยเหรอครับ…? ]
『 แน่นอนอยู่แล้ว บางทีคุณอาจจะไม่รู้ตัว แต่รุยคุงตอนนี้ถือว่าเป็นหนึ่งใน VTuber ที่ได้รับความนิยมแล้วนะ เพราะแบบนี้แหละถึงได้มีคนติดตามถึงแสนคนเร็วขนาดนี้ 』
อย่างนี้เองสินะ… จริงๆแล้วแค่มีคนมาดูไลฟ์ของผม ก็ดีใจมากแล้วนะ แต่ถ้าได้เงินมาด้วยก็คงจะไม่เลว…
『 …เอาล่ะ ฉันบอกทุกอย่างที่ต้องบอกแล้ว งั้นจะวางสายแล้วนะ ตั้งใจทำงานต่อไปด้วยล่ะ 』
[ อ่ะ ครับ ขอบคุณมากครับ เนโม่ซัง! ]
『 จ้า ขอโทษที่รบกวนนะ 』
เมื่อวางสายแล้ว ผมหันไปมองอายากะ เธอกำลังมองผมอยู่และเราก็สบตากันพอดี
[ ฟังอยู่เหรอ? ]
อายากะพยักหน้าให้กับคำพูดของผม
[ อืม คนติดตามถึงแสนคนแล้วเนอะ สุดยอดเลย เร็วขนาดนี้หายากมากจริงๆ ]
[ งั้นเหรอ แต่ทั้งหมดนี่เป็นเพราะทุกคนเลยนะ การร่วมงานกับคนอื่นๆ ก็ช่วยได้มาก… ]
[ ไม่หรอก แรงของนายเองก็มีส่วนด้วย ถ้าไม่มีพลังของตัวเองก็คงไม่ถึงแสนคนได้เร็วขนาดนี้ ฉันรู้ดีที่สุดเลยล่ะ ]
[ … ]
อายากะพูดอย่างมั่นใจ… ใช่แล้ว เธอเองก็ที่ทุ่มเทมาก ถ้าเธอพูดแบบนี้กับผม การยอมรับก็เป็นเรื่องสำคัญ บางทีอาจจะไม่ต้องถ่อมตัวเกินไปก็ได้
[ …อืม นั่นสินะ ]
[ อืม ใช่แล้ว ]
[ … ]
[ เอ่อ ว่าแต่… ตอนคนติดตามครบแสนคน จะได้อะไรบ้างหรือเปล่า? ]
[ หมายถึง… โล่เงินน่ะเหรอ? ]
[ อ่า ใช่เลย โล่นั่นน่ะ มันดูเท่ดีเนอะ ฉันอยากมีไว้ที่บ้านจัง… ]
[ อ๋อ… แต่เห็นว่าคนส่วนใหญ่เอาไปตั้งที่สำนักงานนะ? ]
[ หา จริงเหรอ…? เสียดายจัง…]
[ จะลองขอคุณผู้จัดการดูมั้ยล่ะ? บางทีอาจได้เป็นกรณีพิเศษก็ได้นะ? ]
[ อืม ไม่ได้อยากถึงขนาดนั้นหรอก… ]
[ … ]
[ … ]
[ หึหึ ]
[ ฮ่าๆ! ]
[ อ่ะ ฮ่าๆฮะ! ]
เราหัวเราะให้กัน สายใยแห่งความประหม่าเหมือนถูกตัดขาดลงในช่วงเวลานี้ มันทำให้เรารู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง การหัวเราะแบบไม่ต้องกังวลอะไรทำให้รู้สึกดีเหลือเกิน ผมรู้สึก…สบายใจมากจริงๆ
ผมกลับไปบนเตียง นอนลงข้างอายากะอีกครั้ง
[ อา…รู้สึกดีมากเลย! ]
[ ฮึฮึ ก็เพื่อนสมัยเด็กของฉันเก่งนี่นา รู้สึกภูมิใจมากเลย! ]
[ ไม่ขนาดนั้นหรอก… แต่ก็อาจจะใช่! ]
[ เอ๋ ใช่จริงๆเหรอ? ]
[ ก็เธอพูดเองนี่นา ]
เราหัวเราะให้กันอีกครั้ง การพูดคุยแบบนี้มันทำให้รู้สึกดีจริงๆ มันอาจจะฟังดูซ้ำซาก แต่มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันอยากให้ดำเนินต่อไปตลอดกาลจริงๆ
[ … ] [ … ]
[ เอ่อ… รุย อีกครั้งสิ ]
[ หา? ]
[ เมื่อกี้โทรศัพท์ขัดจังหวะไป พูดอีกครั้งสิ?]
[ …พูดอะไรเหรอ? ]
จากนั้นอายากะก็หยิกต้นแขนผมแรงๆ
[ อ๊ากก! เจ็บๆ!! เข้าใจแล้วๆ!! ]
[ งั้นก็อย่าแกล้งกันสิ ]
ว่าแล้วเธอก็ปล่อยมือจากการหยิกนั้น… เฮ้อ เพื่อนสมัยเด็กที่น่ารักของผมนี่… ผมเอาชนะเธอไม่ได้เลย
[ …อืม… ฉันก็ชอบเธอนะ อายากะ ]
[ อื้ม… ฮิๆ! ]