(WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก - ตอนที่ 35 นี่นายใช้ธาตุไฟเหรอ
- Home
- All Mangas
- (WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก
- ตอนที่ 35 นี่นายใช้ธาตุไฟเหรอ
ตอนที่ 35: นี่นายใช้ธาตุไฟเหรอ ?
แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องถ่ายทำจริง เราไปที่สตูดิโอสำหรับบันทึกเสียง และถูกจัดให้นั่งอยู่หน้ามีโต๊ะที่มีไมค์และโน้ตบุ๊กวางอยู่ ไม่แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ใช้เพื่อควบคุมอวาตาร์หรือใช้ดูคอมเมนต์จากผู้ชม…หรืออาจจะเอาไว้ใช้ทั้งคู่ เดี๋ยวต้องถามดูหน่อยแล้ว
มีทีมงานบางคนอยู่รอบๆ และมีอุปกรณ์ที่ดูแพงหลายอย่างเรียงรายอยู่ ไม่รู้เลยว่าใช้ทำอะไรบ้าง…แต่คิดว่าอาจจะเป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างเสียงเอฟเฟกต์
ก่อนอื่น ผมทักทายทีมงานและใช้เวลาที่เหลือไปกับการอ่านสคริปต์ ส่วนอันโดเซ็นเซย์กับโมจิกำลังคุยเล่นกันอยู่ ผมมองดูพวกเขาพูดคุยกันอย่างสนิทสนม…และเผลอคิดว่าตัวเองนี่เหมือนโอตาคุสุดๆ เลย
[ ขอโทษนะครับ ขอผ่านหน่อยนะ ]
ขณะที่กำลังอ่านสคริปต์ ทีมงานคนนึงก็มาตั้งค่าบางอย่างที่คอมพิวเตอร์ตรงหน้า ผมเลยใช้โอกาสถามเขา
[ เครื่องนี้ใช้ทำอะไรเหรอครับ? ]
[ อ๋อ เครื่องนี้ใช้ควบคุมอวาตาร์ครับ มีเว็บแคมติดไว้ด้วย…แล้วก็ดูคอมเมนต์จากผู้ชมได้ด้วยครับ ]
…เดาถูกจริงๆด้วย…สมแล้วฮิโซกะในตัวฉัน…!!
[ อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณมากครับ! ]
[ ไม่เป็นไรครับ สู้ๆ นะครับ รุยซัง ]
ทีมงานหนุ่มคนนั้นกล่าวลาแล้วจากไป…รู้สึกอีกครั้งเลยว่าVTuberนี่มีหลายคนที่คอยซัพพอร์ตอยู่เบื้องหลังจริงๆ…ผมเองก็ต้องพยายามบ้าง
[ อ๊ะ เหลือเวลาอีกแค่นาทีเดียวก่อนเริ่มแล้วนะ ]
[ ฟุฟุ ตื่นเต้นแล้วล่ะสิ รุยรุย? ]
[ ใช่ ตั้งตารอเลย! ]
ถึงแม้ในใจยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ แต่ความรู้สึกตื่นเต้นที่รอคอยก็มีมากกว่าแน่นอน
แล้วเมื่อถึงเวลาหนึ่งทุ่มตรง ก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อรายการ “ห้องแลปวิชาวิทยาศาสตร์กับอันโดเซนเซย์~! “ แล้วบทสนทนาของทั้งสองคนก็เริ่มขึ้นท่ามกลางเสียง BGM อันอบอุ่น…
——
“รออยู่เลย”
“มาแล้ว!!”
“มาแล้ววววววววว”
“สวัสดีค่า~”
“รอมานาน!”
“เกือบมาไม่ทันแล้ว!!”
[ นี่เซ็นเซย์ ชอบสำนวนสี่พยางค์ไหนที่สุดเหรอ? ]
[ ถามแบบไม่ทันตั้งตัวเลยนะ โมจิซัง มีอะไรรึเปล่า? ]
[ คือวันนี้เรียนวิชาภาษาไทยน่ะ แล้วมีช่วงที่ให้แต่ละคนเลือกสำนวนสี่พยางค์ที่ชอบ แต่พวกเด็กผู้ชายที่พยายามจะเล่นมุกมันน่าเบื่อมากๆ เลยล่ะ ]
[ เหรอ อย่างเช่นอะไรบ้างล่ะ? ]
[ อืม เช่นพวกชื่อท่าพิเศษในเกมมือถือ คำสแลงในเน็ต หรือไม่ก็ชื่อดาราหนังผู้ใหญ่น่ะ! ]
[…อย่างงี้นี่เอง ]
“55555″
“นึกภาพออกเลย…”
“เด็กผู้ชายที่น่าเบื่อๆมักจะชอบเล่นอะไรแบบนี้แหละ”
“คงเป็นพวกที่สนุกอยู่กับกลุ่มของตัวเองเท่านั้นแหละ”
[ แล้วถ้าเซ็นเซย์ล่ะ จะตอบว่าอะไร? ]
[ ถ้าเป็นผมก็คงเลือกอะไรที่ไม่หวือหวา อย่าง ‘อิจิโกะ อิจิเอะ’ ล่ะมั้ง เพราะผมเชื่อในการให้ความสำคัญกับทุกครั้งที่ได้เจอกัน ]
[ โอ๊ะ ดีจัง ถ้าเซ็นเซย์ตอบว่า ‘ยากินิกุ’ ล่ะก็ ฉันคงต้องระเบิดที่นี่แล้วแหละ ]
“55555”
“55555″
“55555”
“55555”
“จะระเบิดเหรอ…โอ๊ย..ปวดหัว…”
“เซ็นเซย์ต้องย้อนเวลาอีกแล้วล่ะ…”
[ อ๊ะฮะๆ ถึงจะแค่ ล้อเล่นแต่พูดอะไรแบบนั้นไม่ควรพูดนะ? ]
[ ค่า~]
แล้วตอนนี้ทั้งสองคนหันมามองที่ผม…หมายความว่าถึงตาผมแล้วล่ะ ผมหยิบสคริปต์ขึ้นมาและเริ่มการแสดง…
[ เฮ้อ…เรย์นี่ก็…..ทำไมต้องโยนเรื่องคืนตำราเวทย์มาให้ฉันเนี่ย…แล้วทำไมต้องไปที่หอสมุดด้วย ? ]
“โอ้ว”
“ว้าว!”
“มาแล้ว!”
“รุยมาแล้ววว!!”
“ราเม็งแมนมาแล้ว!!”
อวาตาร์ของ ‘รุย’ ปรากฏขึ้นบนหน้าจอไลฟ์ และคอมเมนต์จากผู้ชมก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที ความรู้สึกดีใจที่ท่วมท้นทำให้ผมต้องพยายามควบคุมตัวเอง…และแสดงต่อไป
[ โอเค…ที่นี่สินะ? ]
ทันทีที่ผม ‘ก๊อกๆ’ ก็มีเสียงเอฟเฟกต์ประตูเปิดขึ้น…จังหวะมันเป๊ะมาก
[ เอ๊ะ? ]
[ โอ๊ะๆ ]
ทั้งสองทำท่าเหมือนเจอผมครั้งแรก(ตามบท)และผมก็เล่นบทต่อไม่ให้แพ้พวกเขา
[ นี่มัน…เอ๊ะ? ที่นี่คือที่ไหนกันแน่…? จำได้ว่าฉันเปิดประตูหอสมุดนะ…! ]
[ อ๊ะ นี่น้องใหม่เหรอ? ห้องสมุดอยู่ชั้น 3 นะ? ]
[ ไม่ๆ โมจิซัง ลองมองเขาดีๆสิเขาน่าจะมาจากอีกโลกนึงนะ เสื้อผ้าหน้าผมไม่เหมือนพวกเราเลย ]
[ อุ๊ย จริงด้วย! หมวกนั้นเท่มากเลย! โมจิก็อยากใส่บ้าง! ]
[ โมจิซังใส่ก็คงเหมาะนะ ]
“อ๋อ รุย เจอกับสองคนนี้เข้าแล้วสินะ”
“รุยเล่นบทใหม่แบบนี้ก็ดีนะ ตลกดี”
“รุยที่ดูเหมือนตัวละครสายแข็งนี่เห็นได้แค่ในรายการออฟฟิเชียลเท่านั้นสินะ ฮ่าๆ”
ผมพยายามกั้นเสียงหัวเราะที่เกิดจากคอมเมนต์พวกนี้…แล้วพูดต่อ
[ เดี๋ยวสิ…ช่วยบอกทีว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…หรือว่า…ฉันโดนเวทมนตร์เคลื่อนย้ายมายังโลกอื่นแล้วงั้นเหรอ…?! ]
[ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก บางครั้งจะมีการบิดเบี้ยวของกาลเวลา ทำให้ประตูนี้เชื่อมไปยังโลกอื่นได้ อย่างเดือนที่แล้วก็เชื่อมไปยังประเทศแห่งภูติเหมือนกัน ]
[…ถ้างั้นที่นี่คือ? ]
[ ที่นี่คือห้องแลปวิชาวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนมัธยมต้นโซระฮาเระน่ะ! เซ็นเซย์ไม่ชอบห้องพักครูเลยจะชอบหลบอยู่ที่นี่! ]
[ โมจิซัง…อย่าพูดอะไรไม่จำเป็นสิ ]
“5555”
“เซ็นเซย์น่ารักจังเลย ฮ่าๆ”
“เพิ่งรู้ว่ามีเซ็ตติ้งแบบนี้ด้วย”
“มีเครื่องชงกาแฟอยู่ในฉากหลังจริงๆ”
ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกัน…แต่ในที่นี้ต้องพูดตามสคริปต์แบบที่ ‘รุย’ ควรจะพูด
[ โอ้…โรงเรียนในโลกอื่นเหรอ น่าสนใจดีนี่… ]
[ อ๊ะ เดี๋ยวก่อน! ถ้านักเรียนคนอื่นรู้เรื่องนี้เข้าจะเป็นปัญหาแน่ๆ เพราะงั้นจนกว่ากาลเวลาจะกลับสู่สภาวะปกติ ขอให้คุณอยู่ที่นี่ก่อนนะ? ]
[ ใช่ครับ ผมก็คิดว่าเป็นความคิดที่ดีเลยคุณเองก็คงไม่อยากจะเด่นเกินไปใช่มั้ย? ]
[ ก็จริง…เข้าใจแล้ว ฉันจะทำตามที่พวกนายว่า เอ่อ… ]
[ ฉันชื่อโมจิ อิจิกายะ โมจิ! ]
[ ผม คาซุโอะ อันโด ครูวิทยาศาสตร์และเป็นครูประจำชั้นของเธอคนนี้ด้วย ]
ตามบท ผมก็ควรจะแนะนำตัวต่อ และผมก็ใส่บทด้นสดเล็กๆน้อยๆลงไปด้วย
[ ฉันชื่อ รุย อัสติกา เป็นนักเวทย์ หรือที่เรียกกันว่าวิซาร์ดน่ะ ]
[ วิซาร์ด? ]
“อย่ามาโกหกกันเลย!”
“ไม่ใช่เจ้าของร้านราเม็งเหรอ?”
“ลาออกจากคนขายราเม็งตั้งแต่เมื่อไหร่ ?”
“ไม่นะ…รุย…เลิกทำร้านราเม็งแล้วเหรอ…?!”
[ … ]
ผมพยายามกลั้นหัวเราะคอมเมนต์พวกนี้…แต่ต้องกัดริมฝีปากไว้เพื่อทนต่อไป…
[ วิซาร์ด? ]
[ เขาหมายถึงนักเวทย์น่ะ แต่ถ้าสิ่งที่คุณพูดเป็นเรื่องจริงล่ะก็…ผมสนใจมากเลยนะ ]
[ แต่โมจิเองก็ใช้ ‘PK Fire’ ได้นะ? ]
[ พูดถึงเกมเหรอ? ]
[ ไม่ๆ หมายถึงที่เซ็นเซย์ทำให้ดูต่างหาก! ]
[ หรือว่า…เธอหมายถึง ‘กระดาษแฟลช’ ที่เซ็นเซย์ใช้ตอนไลฟ์นั้นน่ะเหรอ? นั่นมันอันตรายมากเลยนะ ห้ามใช้เล่นเพราะความสนุกเด็ดขาดเลย ]
…กระดาษแฟลช เป็นกระดาษที่ติดไฟได้เร็ว ซึ่งมักจะใช้ในการแสดงมายากล อันโดเซ็นเซย์เคยใช้ในรายการทดลองวิทยาศาสตร์ของเขา ทำให้กลายเป็นกระแสในเน็ตไปพักหนึ่ง
[ แต่เซ็นเซย์เคยใช้ให้ดูตอนไลฟ์นะ! ]
[ เพราะผมเป็นครูน่ะ ถึงทำได้ และถ้าได้แสดงการใช้ไฟให้เด็กดื้อเห็น…มันจะดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ในทันทีเลยนะ เพราะงั้นจำเป็นต้องฝึกฝนน่ะ ]
เป็นคำพูดที่ฟังดูมีเหตุผลแฮะ…แต่ยังไงผมก็ต้องพูดตามสคริปต์นี้อยู่ดี
[ โอ้…นี่นาย…ใช้ธาตุไฟเหรอ? ]
[ ฮ่าๆ ไม่ใช่แบบนั้นครับ ]