Trash of the Count’s family - ตอนที่ 234.1
บทที่ 234 บางอย่างที่เห็นได้ชัด 3 (1)
เด็กหนุ่มจากเผ่าหมาป่าก้มหน้างด คาร์ลหันไปมองโรสลินที่กําลังจ้องล็อกด้วยแววตากังวล ล็อกเป็นสัตว์อสูรที่ไม่สามารถกลายร่างได้แม้ว่าตัวเขาจะผ่านการกลายร่างในครั้งแรกไปแล้วก็ตาม
โรสลินไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรดีเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องยากสําหรับเธอที่จะปลอบใจล็อกได้อย่างสะดวกใจเพราะไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเธอเป็นฝ่ายที่แข็งแกร่งขึ้นซึ่งต่างกันกับล็อกที่ เป็นฝ่ายอ่อนแอลง มันคือสาเหตุที่ทําให้เธอมีท่าทีที่ไม่ค่อยดีนักเมื่อมองไปที่ล็อกและคาร์ล
เสียงบางอย่างที่ดังขึ้นกะทันหันทําให้เธอถึงกับสะดุ้งโหยง
พรึ่บ!
ปากกระโจมถูกยกขึ้นและมีคนตะโกนเข้ามาข้างใน
“ท่านผบ.! กองทัพจากอาณาจักรโรมันเดินทางมาถึงแล้วขอรับ!”
พวกเขาเอ่ยรายงานต่อโรสลิน เธอเป็นผู้บัญชาการกองกําลังนักเวทย์แห่งอาณาจักรเบร็ค ต้องขอบคุณคนที่แจ้งเรื่องนี้ให้เธอทราบเพราะมันทําให้เธอดึงสติตัวเองกลับมาได้อีกครั้ง
กองทัพจากอาณาจักรโรมัน
แม้ว่าพวกเขาจะมีจํานวนคนไม่มากแต่พวกเขาเหล่านี้ต่างก็เป็นสหายที่เธอสามารถวางใจให้คอยคุ้มกันหลังให้เธอได้ เธอรู้สึกดีใจและยินดีต้อนรับการมาถึงของพวกเขา ในเวลาเดียวกันมันก็เตือนให้เธอจําได้ว่าการต่อสู้ กําลังจะเริ่มขึ้นและรู้ว่าตัวเองต้องรีบจัดการเรื่องต่างๆให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับล็อกทําให้เธอรู้สึกลังเล เสียงเรียบๆดังขึ้นในขณะนั้น
แปะ แปะ!
“ทําไมเด็กหนุ่มวัยกําลังจะโตเช่นเจ้าถึงได้ผอมขนาดนี้ล่ะ?”
โรสลินมองเห็นคาร์ลตบไปที่แผ่นหลังของล็อกเบาๆก่อนจะเดินไปที่ปากทางเข้ากระโจม เขายกผ้าที่คลุม ปากกระโจมขึ้นและหันกลับมามองล็อก
“ไปกันเถอะ”
ล็อกทําตัวไม่ถูกและไม่สามารถขยับเท้าให้เดินไปตามที่คาร์ลบอกได้
“ราอน..ผลักเขาออกมา”
ประโยคนั้นทําให้ล็อกถึงกับสะดุ้ง เขารู้สึกถึงอุ้งมือคู่หนึ่งที่กําลังดันแผ่นหลังของเขาอยู่
“ไปกันเถอะล็อก! ทุกคนอยากพบเจ้า!”
แม้เขาจะมองไม่เห็นแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงตัวตนของราอนจากอุ้งมือและเสียงของมัน ล็อกนึกถึงกลุ่มคนที่รอพบเขาก่อนจะก้มหน้าและกัดริมฝีปากของตนแน่น เขาค่อยๆก้าวเท้าไปตามแรงผลักของราอน
– หากไม่สามารถกลายร่างได้เขาจะกลายเป็นเพียงคนอ่อนแอคนหนึ่งเมื่อเทียบกับคนปกติทั่วๆไปเขาอาจมีพ ละกําลังมากกว่าแต่ถ้าเทียบกับคนอื่นๆในครอบครัว เขาคือคนที่อ่อนแอที่สุดมันอ่อนแอจนดูเหมือนเขาจะกลายเป็นภาระของทุกคน ความคิดนี้ทําให้เขารู้สึกไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขา
คาร์ลเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อล็อกมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
“เดินตามข้ามาแล้วก็ไม่ต้องไปคิดเรื่องอื่นอีก”
ล็อกค่อยๆยกศีรษะของตนขึ้น
แปะ!
อุ้งมือเล็กๆของราอนก็ตบไปที่หลังของเขาเช่นกัน
ในที่สุดปากกระโจมก็ถูกเปิดออกจนหมด ล็อคมองเห็นคนจากอาณาจักรเบร็คยืนอยู่ด้านนอกกระโจม
หุบเขาแห่งความตาย
ไม่กี่วันก่อนผู้คนจํานวนมากถูกส่งไปประจํายังจุดต่างๆล้อมรอบบริเวณหุบเขาอันยาวเหยียดและเต็มไปด้วยอันตรายแห่งนี้ พวกเขาใช้พลังเวทย์เพื่ออําพรางสายตาจากศัตรู
ตําแหน่งที่ล็อกยืนอยู่ในขณะนี้เป็นจุดที่มีการรวมตัวกันมากที่สุด โรสลินและผู้นําระดับสูงของอาณาจักรเบร์คประจําการอยู่ที่นี่ทั้งหมด
ล็อกมองเห็นผู้นําระดับสูงและกองกําลังของพวกเขายืนอยู่ด้านนอก พวกเขามารวมตัวกันที่นี่เพื่อต้อนรับคนเพียงผู้เดียว
ผู้บัญชาการทหารประจําภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งอาณาจักรโรมัน พวกเขาทั้งหมดกําลังรอคนผู้นี้อยู่
ล็อกมองตามแผ่นหลังคาร์ลที่กําลังมุ่งหน้าออกจากกระโจม ในขณะที่เขารั้งอยู่ที่นี่เขาก็ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้จากปากของนักเวทย์ที่ประจําการอยู่ในหุบเขาแห่งความตาย แน่นอนว่าล็อกได้ยินว่าคาร์ลและค นอื่นๆทํางานหนักมากเพียงใด มันคือเหตุผลที่ทําให้ล็อกรู้สึกว่าแผ่นหลังของคาร์ลที่เขามองเห็นในตอนนี้กว้างใหญ่มากขนาดไหน คาร์ลดูเหมือนจะเป็นคนที่แตกต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิง
เสียงเรียบเย็นของคาร์ลลอดเข้ามาในหูของล็อก
“เจ้าไม่ออกมาหรือไง?”
คาร์ลหันไปเรียกล็อกเมื่อเห็นว่าเขายังหยุดอยู่ที่เดิมและไม่มีทีท่าว่าจะเดินตามออกมา ล็อกรู้สึกถึงอุ้งมือเล็กๆและมืออีกข้างดันหลังของเขาเบาๆ หนึ่งคืออุ้งมือล่องหนของราอนและมืออีกข้างคือมือของโรสลิน
ล็อกจึงเริ่มออกเดินช้าๆ
เขาไม่สนใจผู้นําระดับสูงของอาณาจักรเบร็คที่ยืนอยู่นอกกระโจมอีกต่อไป เขาสาวเท้าออกเดินและมองเพียงแผ่นหลังของคาร์ลเท่านั้น การที่สายตาของเขาตรึงอยู่แค่แผ่นหลังของคาร์ลทําให้ตัวของเขาดูหด เล็กลงเรื่อยๆแต่ก็ไม่มีอะไรมาขัดขวางไม่ให้เขาเดินหน้าต่อไปเช่นกัน
คาร์ลกวาดสายตาไปมองรอบๆเมื่อเริ่มออกเดิน
มีคนจํานวนมากมารวมตัวกันที่นี่ อย่างไรก็ตามกองกําลังส่วนใหญ่ของอาณาจักรเบร็คถูกส่งไปประจําการยังเมืองที่อยู่ใกล้กับหุบเขาแห่งความตายมากที่สุด พวกเขาพร้อมจะเคลื่อนทัพได้ตลอดเวลาเมื่อมีคําสั่งส่งตรงไปยังพวกเขา
คาร์ลหันไปมองโรสลินเมื่อเธอเดินขึ้นมาตีคู่กับเขาและเอ่ยถามขึ้น
“กองกําลังทั้งหมดพร้อมเคลื่อนไหวได้ทุกเมื่อใช่หรือไม่?”
“ใช่แล้วนายน้อยคาร์ล เราทําการติดตั้งอุปกรณ์เคลื่อนย้ายมวลสารตามจุดต่างๆรอบหุบเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทหารที่ได้รับคําสั่งจะมารวมตัวกันในเช้าวันพรุ่งนี้”
ข้อมูลการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรไร้พ่ายจะถูกส่งมาจากโคลเปย์ เซคก้า
จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมอาณาจักรโรมันได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นการดีกว่าหากกลุ่มพันธมิตรไร้พ่ายไม่ทราบว่าโคลเปย์และอาณาจักรพารันได้ทําการหักหลังพวกเขา ดังนั้นอาณาจักรเบร็คจึงเตรียมแผนการรับศึกโดยทําทุกอย่างให้เป็นความลับมากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทําได้
“เช้าวันรุ่งขึ้น
นี่คือเวลาที่โคลเปย์รายงานมาว่าพันธมิตรไร้พ่ายจะทําการเคลื่อนทัพ
“นายน้อยคาร์ล..จํานวนคนของเราที่ทําการเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้แม้ว่าพันธมิตรไร้พ่ายจะสังเกตเห็นมันแต่มันก็ไม่ได้ชวนให้ผิดสังเกตแม้แต่น้อย
“อย่างนั้นหรือ”
ตามที่โรสลินแจ้งให้คาร์ลทราบ จํานวนคนที่ประจําการอยู่ในแต่ละจุดนั้นเป็นจํานวนที่ดูปกติและดูไม่เหมือนว่าพวกเขาเตรียมพร้อมที่ต่อสู้เลยสักนิด
พันธมิตรไร้พ่ายที่ยังไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ ถ้าเป็นเช่นนี้พวกเขายังจะไปบุกโจมตีที่ไหนอีก?
ไม่ว่าใครก็สามารถบอกได้ว่าอาณาจักรเบร็คคือเป้าหมายต่อไปของพวกเขา
หากเป็นคนจากอาณาจักรอื่นมาปรากฏตัวบริเวณพื้นที่หุบเขาแห่งความตายมันคงเป็นเรื่องที่ผิดปกติ แต่มันก็ถือเป็นเรื่องปกติสําหรับอาณาจักรเบร็คที่จะส่งทหารประมาณ 100 นายไปลาดตระเวนบนพื้นที่หุบเขาแห่ง ความตาย
โรสลินเริ่มพูด
“กองกําลังนักเวทย์ของอาณาจักรโรมันและอาณาจักรเบร็คจะได้แสดงฝีมือที่แท้จริงแล้วสินะ”
คาร์ลมองรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของโรสลิน นี่คือผู้นําที่แท้จริงของกองกําลังนักเวทย์ โรสลินยังไม่เคยเปิดเผยตัวจนกระทั่งถึงตอนนี้ เธอเป็นนักเวทย์ระดับสูงและมีคุณสมบัติที่จะขึ้นไปเป็นผู้นําของหอคอยพลังเวทย์ในอนาคต
ตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมาเธอซุ่มฝึกฝนตัวเองทั้งความแข็งแกร่งทางกายและความสามารถด้านพลังเวทย์ ความคิดที่ว่าตัวเองจะได้ใช้พลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ทําให้หัวใจของเธอโลดเต้นไปด้วยความยินดี