Trash of the Count’s family - ตอนที่ 229.2
บทที่ 229 แต่ที่นี่จะสบายกว่ามั้ย? 3 (2)
ลักษณะการใช้ดาบของบารอคก็เหมือนกับชุดของเขาคือเฉียบขาด สะอาดและไร้ร่องรอย การใช้ดาบของเขาดูฉลาดยิ่งกว่าอัศวินเสียอีก ราวกับเขากําลังตกแต่งจานอาหารให้ดูสวยงาม เขาโจมตีเหมือนกับรู้ว่าจุดใดในร่างกายเป็นจุดที่สร้างความเจ็บปวดได้มากที่สุด รูปแบบการใช้ดาบของบารอคเป็นแบบผสมผสานทุกอย่างเข้าด้วยกัน
ปิ้งงง!
มีเสียงดังขึ้นอีกครั้ง คาร์ลมองเห็นขวานกระเด็นออกไปไกลในขณะที่ฝ่ามือของบารอคก็พุ่งไปที่หัวหน้าโจร
ผลั้วะ!
“นี่คือครั้งที่สอง”
“อีก!”
ร่างของหัวหน้าโจรเซไปข้างหน้าเมื่อถูกโจมตีจากทางด้านหลัง ความโกรธและความเจ็บปวดปรากฏเด่นชัดในสายตาของเขา
เขารู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ เขาอ่อนแอเกินไปแล้ว!
มันทําให้เขานึกถึงตอนที่ต่อสู้บนสังเวียน เขาต้องดิ้นรนทําทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตให้รอด ทันทีที่ร่างของเขาเซไปข้างหน้าเขาก็คว้าเอาเศษไม้ เศษหญ้าและเศษดินที่อยู่ใกล้ๆมาไว้เต็มมือ
มันไม่สําคัญว่าจะเป็นวิธีที่สกปรกหรือไม่ มันคือวิธีการเอาชีวิตรอดของเขา
เขาพลิกร่างตัวเองกลับมาก่อนที่ร่างจะกระแทกกับพื้นโดยสมบูรณ์ เขาสบตาเข้ากับชายสวมถุงมือสีขาว มือของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ชายผมแดงอุทานบางอย่างออกมา
“เอ๊ะ?”
เสียงของชายผมแดงดูตกใจไม่น้อย
หัวหน้าโจรเริ่มยิ้มพอใจ
“ใช่แล้ว! อย่างน้อยข้าก็ต้องทําแบบนี้..นี่สิถึงจะสมกับเป็นหัวหน้าโจรผู้ไร้พ่าย!”
สิ่งสกปรกในกํามือของเขาถูกสะบัดใส่ร่างของชายสวมถุงมือสีขาว การที่เขาได้ทําแบบนี้มันทําให้เขารู้สึกดี
ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณเมื่อร่างของเขากระแทกลงกับพื้น
ตุบ!
แม้ว่าร่างของหัวหน้าโจรจะกระแทกกับพื้นจนเกิดเสียงดังแต่เขาก็ยังหัวเราะร่วน เขาจ้องไปที่ชายสวมถุงมือสีขาวที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก ตอนนี้ชายที่แต่งตัวดีตั้งแต่หัวจรดเท้าดูสกปรกมอมแมมไปทั่วร่าง
เขาได้ยินเสียงของชายผมแดงดังขึ้นอีกครั้ง
“…ข้ารู้สึกเสียใจแทนเขาจริงๆ”
อะไรนะ?
มันเป็นช่วงเวลาที่หัวหน้าโจรรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“เจ้าอยากตายใช่มั้ย?”
แววตาชั่วร้ายของบารอคจ้องเขม็งไปที่หัวหน้าโจร
“อ..อะไรกัน?!”
หัวหน้าโจรรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั่วแผ่นหลังเมื่อได้เห็นแววตาชั่วร้ายของชายสวมถุงมือสีขาว ดาบเล่มใหญ่ถูกปักลงพื้นข้างๆร่างของเขา
ปัก!
ปลายดาบถูกแทงลึกลงสู่พื้นดินตามความโกรธของบารอค
บารอคจ้องเขม็งไปที่หัวหน้าโจรก่อนจะค่อยๆถอดถุงมือสีขาวออก
ตุบ! ตึบ!
ถุงมือสีขาวถูกเหวี่ยงลงพื้น บารอคเริ่มพูดกับหัวหน้าโจรด้วยเสียงเหี้ยมเกรียม
“ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าหรือทําให้เจ้าเลือดออก..ข้าจะไม่ลงมือทรมานเจ้าด้วย”
“อะไรนะ? ทรมาน?
บารอคชูนิ้วชี้ขึ้นมา หัวหน้าโจรมองเขาด้วยสีหน้าตกใจ
หนึ่ง?
มันอาจหมายถึงเหลือเพียงหมัดเดียว อย่างไรก็ตามบารอคกําลังหมายถึงอย่างอื่น
“หนึ่งร้อยหมัด..แค่เจ้าทนให้ได้อีกหนึ่งร้อยหมัด”
คาร์ลฟังเสียงของบารอคก่อนจะทอดสายตาไปยังภูเขาที่อยู่ไกลๆ
ผลัวะ! พลั่ก! ตับ! ผลั้วะ! พลั่ก! ตับ!
เสียงหมัดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องมันฟังคล้ายกับเสียงดนตรีบรรเลงคลอไปกับทิวทัศน์อันสวยงามซึ่งคาร์ลมองอยู่ในขณะนี้
“ลั่ก! ด..ได้โปรด! ห..หยุด! ข้ายอม…!! ลั่ก!”
คาร์ลได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของหัวหน้าโจรและเสียงพึมพําด้วยความตกใจของสมุนโจรที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
“ดูนั่นสิ..นี่คือเหตุผลที่พวกเจ้าควรฟังข้า..พวกเจ้าไม่รู้อย่างที่ข้ารู้หรอกนะ”
คาร์ลตบไปที่ไหล่ของสมุนโจรเบาๆ หน้าซีดเผือดของสมุนโจรค่อยๆเปลี่ยนเป็นหมองคล้ําอย่างหมดอาลัยตายอยาก คาร์ลไม่ได้สนใจท่าทางดังกล่าวเมื่อหันไปมองบริเวณรั้วไม้ สมุนโจรคนอื่นๆพากันสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นสายตาของคาร์ล พวกเขาพากันจับอาวุธที่อยู่ในมือหรือบางคนก็จับรั้วไม้เอาไว้แน่น คาร์ลมองเห็นความกลัวและความสิ้นหวังในสายตาของพวกเขา
อย่างไรก็ตามสมุนโจรพากันเปิดประตูให้พวกเขาอย่างเงียบๆหลังจากเห็นหัวหน้าของพวกตนถูกต่อยไปแล้วไม่ต่ํากว่าห้าสิบหมัด
ในที่สุดคาร์ลก็กลายเป็นเจ้าของบ้านหลังที่ดีที่สุดในรังโจรแห่งนี้ แน่นอนว่ามันคือบ้านของหัวหน้าโจรทั้งยังมีโซฟาบุหนังราคาแพงอยู่ในบ้านหลังนี้อีกด้วย
“เฮ”
“ขอรับ!”
หัวหน้าโจรที่รอบตาบวมช้ําทั้งสองข้างรีบขานรับคาร์ลอย่างไว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ําจากการถูกชกต่อย อย่างไรก็ตามเขาไม่มีรอยบาดจนเลือดออกหรือแม้แต่กระดูกหักก็ไม่มีให้เห็น
คาร์ลหยิบผลไม้ที่สมุนโจรนํามาให้ใส่เข้าปากพลางเอ่ยต่อไป
“ภูเขาลีบอยู่ภายใต้การปกครองของพวกเจ้างั้นรึ?”
“ใช่แล้วขอรับ!”
“พูดจาฉะฉานดีนี่”
“ขอรับลูกพี่!”
“ข้าไปเป็นลูกพี่ของเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ขออภัยขอรับ! ท่านหัวหน้า!”
“ไอก…ทําไมฉันต้องกลายเป็นหัวหน้าโจรด้วยล่ะ?”
คาร์ลรู้สึกเหลือเชื่อแต่ก็ตัดสินใจปล่อยผ่านมันไปเพราะความรําคาญ
“มีบางอย่างที่พวกเจ้าทุกคนต้องเริ่มทํากันตั้งแต่วันนี้”
อดีตหัวหน้าโจรชะงักไปครู่หนึ่งแต่คาร์ลไม่ได้สนใจท่าทางดังกล่าวเมื่อหันไปมองคนผู้หนึ่งแทน อดีตหัวหน้าโจรก็หันไปตามสายตาคาร์ลเช่นกัน
คนที่พวกเขาหันไปมองเป็นชายชราที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนประดับบนใบหน้า เขาดูไม่ต่างจากชายชราธรรมดาทั่วๆไปแต่บุคลิกที่แผ่ออกมานั้นกลับทําให้นึกถึงผู้คงแก่เรียนที่ถือมีดสั้นไว้ในมือ ชายที่ลงมือชกหน้าเขามีนามว่าบารอคและนักดาบหญิงที่ชื่อว่าฮันนาห์กําลังส่งออร่าอันแข็งแกร่งออกมาจากร่าง
ในความรู้สึกของอดีตหัวหน้าโจรคิดว่าชายชราผู้นี้ไม่ได้แข็งแกร่งเลยสักนิด
“เขาเป็นคนคอยวางแผนให้กับสมาชิกในกลุ่มหรืออะไรคล้ายๆกันแบบนี้หรือเปล่านะ? ตาเฒ่าอ่อนแอผู้นี้เป็นใครกันแน่?
สีหน้าของอดีตหัวหน้าโจรเต็มไปด้วยความว่างเปล่า คาร์ลเริ่มพูดขึ้น
“เขาเป็นพ่อของบารอค”
“ท่านพ่อ! ยินดีที่ได้รู้จักขอรับ!”
อดีตหัวหน้าโจรเอ่ยทักทายรอนด้วยรอยยิ้มสดใส เสียงเรียบๆของคาร์ลยังคงดังต่อไปแม้ว่าเสียงกระตือรือร้นของอดีตหัวหน้าโจรจะดังก้องไปทั่วห้องก็ตาม
“ข้าได้ยินมาว่ามีองค์กรลับแห่งหนึ่งควบคุมตลาดมืดของทวีปตะวันออกเอาไว้”
“ใช่ขอรับ!”
แม้ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่บนภูเขาเป็นส่วนใหญ่แต่ก็จําเป็นที่จะต้องรู้จักกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลเพื่อขายของที่ขโมยมาได้ เมื่อสิบปีที่แล้วมีองค์กรลับแห่งหนึ่งทําให้ตลาดมืดของทวีปตะวันออกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทุกคนต่างก็ยุ่งกับการปกป้องตัวเองเมื่อตระหนักได้ว่ามีขุมพลังใหม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดมืดเป็นเพียงเงาที่ไม่สามารถแสดงตัวออกมายังที่แจ้งได้ ทําให้ธุรกิจการค้าต่างๆยังสามารถดําเนินต่อไปได้อย่างอิสระ
แม้ว่าจะเป็นเพียงองค์กรเดียวที่เข้ามาควบคุมตลาดมืดของทวีปตะวันออกแต่มันก็ยากที่จะพูดได้อย่างเต็มปากว่าพวกเขามีอิทธิพลพอที่จะควบคุมเอาไว้ได้ทั้งหมด ตลาดมืดก็เป็นเช่นนี้ ย่อมมีกลุ่มอิทธิพลหลากหลายกลุ่มปกครองพื้นที่แต่ละแห่งที่ตนยึดครองเอาไว้
“เจ้าถูกคนอื่นเรียกว่าหัวหน้าผู้ไร้พ่าย?”
“ใช่ขอรับ?”
สัญชาตญาณของเขาในฐานะอดีตหัวหน้าโจรและนักสู้ในสังเวียนกําลังร้องบอกเขาบางอย่าง
ข้ารู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้
เขามองเห็นรอยยิ้มสดใสที่แต้มอยู่บนหน้าคาร์ลเมื่อคิดเช่นนั้น
“ทําไมท่านถึงถามข้าน้อยเช่นนั้น?”
หัวหน้าโจรถามคาร์ลออกไปทันที
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าจะกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้มีอิทธิพล”
“…อะไรนะ?”
“และนี่คือหัวหน้าของพวกเจ้า”
อดีตหัวหน้าโจรมองเห็นเพียงความเรียบเย็นในสายตาของรอน
รอน โมแลน
ผู้นําคนสุดท้ายของตระกูลโมแลนซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของตระกูลนักฆ่าที่โด่งดังที่สุดในทวีปตะวันออกและท้ายที่สุดก็ถูกอาร์มโค่นลง
คาร์ลได้พาเขากลับมายังทวีปตะวันออกแล้ว