Trash of the Count’s family - ตอนที่ 229.1
บทที่ 229 แต่ที่นี่จะสบายกว่ามั้ย? 3 (1)
ความเงียบปกคลุมไปทั่วพื้นที่ก่อนที่เสียงหัวเราะของคนผู้หนึ่งจะทําลายความเงียบนั้นลง
“ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆ! เจ้าบอกว่าจะจับตัวข้าและอัดให้น่วมงั้นรึ? ฮ่าฮ่าฮ่า! อ่า…เจ้านี่มันตลกจริงๆ”
ปัง!
ขวานขนาดใหญ่กระแทกลงบนพื้นดิน หัวหน้าโจรจ้องเขม็งไปที่คาร์ล
“ข้าล่ะเกลียดคนอ่อนแอที่ได้เป็นหัวหน้าคนอื่นมากที่สุด”
ในอดีตหัวหน้าโจรเคยใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่รวบรวมทาสมาจากทุกหัวมุมเมืองและต้องออกมาต่อสู้กัน
ใช่แล้ว! มันคือสนามประลองสําหรับกลาดิเอเตอร์ [1]
มันเป็นสถานที่ที่เขาต้องสู้กับน้องร่วมสาบาน น้องชายคนนี้คือคนที่ทําให้เขายิ้มได้จนกระทั่งถึงวันที่พวกเขาต้องสู้กัน หัวหน้าโจรต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากสนามประลองนี้ตั้งแต่อายุ 12 ปี มันเป็นช่วงเวลาที่ทําให้เขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
ไอ้สารเลวที่ทําให้เขาและน้องร่วมสาบานต้องสู้กันเป็นเพียงคนอ่อนแอที่ดีแต่ออกคําสั่งเท่านั้น
“การได้ฆ่าคนแบบนี้ทําให้ข้ารู้สึกดียิ่งนัก!”
ร่างใหญ่ของเขาเริ่มเคลื่อนไหว
“เฮือก!”
สมุนโจรที่คาร์ลปลอบใจเมื่อครู่ถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเห็นหัวหน้าโจรย่างสามขุมเข้ามาพร้อมกับขวานขนาดใหญ่ ขวานเล่มนี้ใหญ่พอๆกับตัวคนด้วยซ้ํา มันเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งที่ยากจะหาใครเทียบได้ของหัวหน้าโจร มันเป็นสิ่งที่ทําให้คนอื่นๆรู้สึกหวาดกลัวแม้แต่เหล่าพ่อค้าก็ต้องก้มหัวให้เมื่อเห็นขวานเล่มนี้
“ข..ข้ากําลังจะตายหรือเปล่า? ข้าต้องหลบหรือไม่?
ความรู้สึกเกือบทุกประเภทจู่โจมเข้าใส่สมุนโจรในขณะที่ตัวเขาก็แข็งค้างจนไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของใครบางคนดังขึ้น
“เจ้ากําลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่”
สมุนโจรหันศีรษะกลับไปมองด้านหลัง เขามองเห็นความหงุดหงิดปนกับความไม่เห็นด้วยฉายชัดบนใบหน้าของชายผมแดง
“ทําไมสีหน้าเขาถึงเป็นแบบนั้นล่ะ? ราวกับว่าตัวเขากําลังทําสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่
สมุนโจรรู้สึกแปลกๆแต่คาร์ลกําลังรู้สึกจริงๆว่าตัวเขากําลังทําสิ่งที่ผิดเพี้ยนไปจากสิ่งที่ตั้งใจไว้
“แค่นั่งอยู่เฉยๆและคอยออกคําสั่งเท่านั้น
คาร์ลหวังว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตแบบนั้น แล้วทําไมเขาถึงต้องเดินทางมายังทวีปตะวันออกด้วยล่ะถ้าเขาสามารถทําอย่างที่ตัวเองต้องการได้? เขาอยากจะกลิ้งตัวอยู่บนเตียงและไม่ลุกขึ้นมาทําอะไรทั้งนั้น
อารมณ์โกรธของคาร์ลดูรุนแรงมากกว่าความผิดหวังเมื่อเขาเริ่มสะบัดมือ
เปรี้ยงงงงงง!!!
เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วภูเขา
สมุนโจรที่อยู่ข้างหน้าตาเหลือกค้างด้วยความตกตะลึง เขามองเห็นโล่เงินที่พุ่งออกมาจากร่างของชายผมแดง
ขวานเล่มใหญ่ถูกโล่เงินป้องกันเอาไว้ มันไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนบนโล่เงินนี้
หัวหน้าโจรดึงขวานของตนกลับมา เขามองเห็นชายผมแดงที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโล่ เขาไม่รู้ว่าโล่เงินนี้ทํามาจากพลังเวทย์หรืออย่างอื่นแต่ฝ่ามือที่จับขวานของเขาชาแทบไร้ความรู้สึกเมื่อมันกระแทกเข้ากับโล่เงิน
เขาเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ นั่นเป็นสาเหตุที่ทําให้เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดหรืออ่อนแรงมาก่อน เขาสามารถเอาชนะอัศวินระดับกลางได้อย่างสบายๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา
มุมปากของเขายกสูงขึ้น
“ฮิฮิฮิ!!”
เขามองเห็นใบหน้าเรียบเฉยของชายที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโล่เงิน
ใช่! มันคือความรู้สึกนี้
กลาดิเอเตอร์
มีบางอย่างที่ทําให้คนอย่างเขาสามารถผลักดันตัวเองมาอยู่จุดสูงๆได้ มันไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของร่างกายที่มีตั้งแต่เกิดแต่มันเป็นเพราะความรู้สึกนี้ ความรู้สึกคล้ายกับความตื่นเต้นเมื่อเริ่มไต่ไปตามเส้นเชือกเล็กๆ เพื่อข้ามหุบเขาสูงชัน
ความรู้สึกนี้ผลักดันตัวเขาขึ้นมาจนท้ายที่สุดก็ลงมือฆ่าน้องชายร่วมสาบานกลางลานประลอง เขาทั้งรู้สึกเสียใจและตื่นเต้นเมื่อพลั้งมือฆ่าน้องชายร่วมสาบาน เขารู้สึกเสียใจที่หลังจากนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกตื่นเต้นที่เอาชนะน้องชายคนนี้มาได้เพราะน้องชายร่วมสาบานแข็งแกร่งกว่าเขามากนัก
เขารู้ดีว่าตัวเองเสียสติไปแล้ว
“ฮิฮิฮิ!!”
รอยยิ้มสดใสปรากฏเต็มใบหน้าของเขา
“เจ้าไม่ได้อ่อนแอ..เจ้าเองก็แข็งแกร่งเช่นกัน!”
เขามองเห็นชายผมแดงเริ่มเปิดปากพูด
“ความสามารถของเจ้าไม่ได้ใกล้เคียงกับเขาเลยสักนิด”
อะไร?
คาร์ลยังคงพูดต่อเมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนของหัวหน้าโจร
“ขารู้สึกเสียใจแทนทุนก้าจริงๆ”
ใคร?
หัวหน้าโจรขมวดคิ้วมุ่นเมื่อศัตรูกําลังพูดถึงคนอื่นทั้งๆที่เขายืนอยู่ตรงหน้าแท้ๆ จากนั้นเขาก็ยกขวานในมือขึ้นอีกครั้งมันเป็นช่วงเวลานั้นเอง
เขารู้สึกถึงบางอย่างที่กําลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านหลัง แผ่นหลังของเขาเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ร่างของหัวหน้าโจรสะดุ้งเฮือกเมื่อเตรียมพลิกตัวกลับไป อย่างไรก็ตามมันสายเกินไป
“อีก!”
ร่างใหญ่ของหัวหน้าโจรเซไปทางด้านหลังเล็กน้อย เจ้าของถุงมือสีขาวคือคนที่จับตัวเขาไว้ ชายผู้นี้ผลักร่างของหัวหน้าโจรไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย เขาพยายามต่อต้านแต่มันก็ไร้ประโยชน์
เขาหันไปมองด้านข้างทันทีเมื่อร่างของเขาล้มไปกองกับพื้น เขามองเห็นชายคนหนึ่งจ้องเขม็งมาที่เขา
มันเป็นสายตาเรียบเย็นที่เต็มไปด้วยความรําคาญ
สายตาของชายผู้นี้ไม่ได้เพ่งไปที่ใดเป็นพิเศษ มือที่สวมถุงมือสีขาวยังถือดาบเล่มใหญ่เอาไว้อีกด้วย ชายผู้นี้เอ่ยถามหัวหน้าโจรอย่างใจเย็น
“เจ้าอาบน้ําครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?”
“เจ้าถามอะไรของเจ้า!”
พลั่ก!
ร่างที่เพิ่งล้มลงของหัวหน้าโจรถูกด้ามดาบกระแทกไปที่ด้านข้าง ความตกใจแล่นไปทั่วร่างของหัวหน้าโจร
ปิ้งงงง!
ร่างของหัวหน้าโจรกระเด็นไปกระแทกกับรั้วไม้
“อ๊ากกก! พื้นสั่น! อ..อย่านะ!”
“อีก!..จับข้าไว้ที!”
ร่างของสมุนโจรเอนไปตามรั้วไม้ที่กําลังโค่นลง พวกเขาพยายามฝืนร่างตัวเองเอาไว้สุดฤทธิ์เพื่อรักษาชีวิตของตนเอาไว้ สีหน้าของพวกเขาไม่สามารถซ่อนอารมณ์ต่างๆเอาไว้ได้ ทั้งความวิตกกังวล ความตกใจและความกลัว อารมณ์เหล่านี้ปรากฏเต็มใบหน้าของสมุนโจรแต่บารอคไม่ได้สนใจเมื่อหันไปมองคาร์ลแทน
คาร์ลออกคําสั่งแก่บารอค
“อีกสองหมัด”
บารอคถอนหายใจก่อนจะสวมถุงมือสีขาวคู่ใหม่ เขาย่างเท้าเข้าไปใกล้หัวหน้าโจร
“ฮับ”
หัวหน้าโจรค่อยๆยกตัวขึ้นจากพื้นร่างยักษ์ของเขาพาดอยู่บนรั้วไม้ที่โค่นลงแต่ในฐานะที่เป็นคนที่เกิดมาพร้อมร่างกายที่แข็งแกร่งจึงไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงปะทะเพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตามเขายังสัมผัสได้ถึงความจุกที่แล่นไปทั่วร่าง
“อะไรกันเนี่ย?”
ความตกใจสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนบนใบหน้าของหัวหน้าโจร ใจของเขาเริ่มสั่นคลอน มันดูหนักอึ้ง เสียยิ่งกว่าร่างกายของเขาที่จุกแน่นอยู่ในตอนนี้เสียอีก
เขาคิดว่าศัตรูจะต้องแข็งแกร่งแต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าศัตรูจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ เขามองไปยังชายสวมถุงมือสีขาวที่กําลังย่างสามขุมเข้ามาหาตน เขาคว้าขวานของตนขึ้นมาอีกครั้งในขณะที่มือของเขาก็สันขึ้นเรื่อยๆ
“ทําไมคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ถึงได้ปรากฏตัวขึ้นที่ภูเขาลีบ?”
เขากําหมัดของตนแน่นขึ้นและเริ่มยิ้มเมื่อนึกถึงคําถามที่ตัวเองคิดอยู่ในหัว เขาแค่ต้องการเอาชนะกลุ่มคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ความตื่นเต้นกลับมาอีกครั้งเมื่อเขาจินตนาการว่าตัวเองสามารถเอาชนะพวกเขาได้
ทางฝั่งของคาร์ลนั้น เขากําลังถอนหายใจออกมาช้าๆ
“ทูนก้าแข็งแกร่งกว่านี้แน่นอน”
คาร์ลค่อนข้างคาดหวังในตัวหัวหน้าโจรคนนี้เมื่อเห็นว่าเขาเป็นคนประเภทเดียวกับทูนก้า อย่างไรก็ตามชายคนนี้ไม่ได้สักเสี้ยวหนึ่งของทูนก้าด้วยซ้ํา มันคงเป็นเหตุผลที่ทําให้เขาเป็นได้แค่โจรภูเขาเท่านั้น
“นายน้อย..บารอคแข็งแกร่งหรือไม่ขอรับ?”
“ทําไมเจ้าถึงถามอะไรที่ตัวเองรู้อยู่แล้วล่ะ?”
คาร์ลเอ่ยตอบรอนในขณะที่สายตาก็สังเกตบารอคไปด้วย
รอนถนัดในการใช้มีดสั้นเพื่อลอบสังหารศัตรู ในขณะที่บารอคลูกชายของเขาถนัดในสิ่งที่ตรงข้ามกัน บารอคสร้างเส้นทางของตนเองโดยใช้ความรู้ที่สืบทอดมาจากพ่อของตน เขาเป็นคนที่ลงมือได้อย่างเงียบเชียบแม้ว่าตัวเองจะถือดาบเล่มใหญ่อยู่ก็ตาม
[1] กลาดิเอเตอร์ (Gladiator) คือกลุ่มคนที่ถูกจับหรือถูกขายเป็นทาสในยุคโรมัน เพื่อให้พวกเขามาต่อสู้ในสนามประลองที่มีชื่อว่า โคลอสเซียม (Colosseum) ซึ่งนอกจากมีนักรบผู้ชายแล้ว ก็จะมีนักรบผู้หญิงเช่นกัน โดยจะถูกเรียกว่า “กลาดิเอทริกซ์” อีกด้วย การจะเป็นนักรบในโคลอสเซียมนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การเอาชีวิตรอ ดนั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่าหลายเท่า เพราะพวกเขาไม่ใช้แค่จะต่อสู้กับคนเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องต่อสู้กับสัตว์ นักล่า อย่างเช่น เสือ สิงโต อีกด้วย