Trash of the Count’s family - ตอนที่ 222.1
บทที่ 222 ไม่ต้องกังวล 3 (1)
-เจ้าต้องการที่จะเสียสละตัวเองหรือไม่?
เสียงไพเราะของพลังศิลาเลือนหายไปกลายเป็นเสียงที่น่ารําคาญขึ้นมาทันที
บ่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!
โล่เงินเริ่มสั่นสะเทือน โล่เงินของราอนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและคาร์ลก็รู้สึกถึงปลายนิ้วของตนที่สั่นไหว จนควบคุมแทบไม่อยู่
“พลังนี่มันช่าง”
คาร์ลกลืนคําสบถของตนลงไปในลําคอ ก่อนจะมองไปที่มหาสมุทร ท้องฟ้าสีแดงและลมโหมกระหน่ําสีม่วง ทุกอย่างรวมเข้าด้วยกันจนไม่สามารถบอกได้ว่าขอบเขตของท้องฟ้าจะไปสิ้นสุดอยู่ที่ใดและขอบเขตของมหาสมุทรมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ไหน
พายุหมุนคํารามถูกสร้างขึ้นมาเพื่อไม่ให้มองเห็นมหาสมุทรได้ชัดเกินไปกว่าโล่เงิน
ฟริ้วววววววววววว!!! ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!
ลมกําลังกระแทกเข้ากับโล่เงิน มันดึงน้ําทะเลให้หนุนสูงขึ้นก่อนจะเปลี่ยนน้ําให้กลายเป็นสิ่งที่ดูคล้ายกับลูกเห็บ สภาพของมันราวกับจะกลืนกินโล่เงินให้หายไป สถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งกว่านี้หากมันเคลื่อนตัวไปถึงตัวปราสาทลีโอน่า หรือบริเวณชายฝั่งตอนกลางภูเขาที่ตั้งอยู่ด้านข้างของปราสาทลีโอน่าจะถูกทําลายจนราบคาบ และผู้คนจํานวนมากจะต้องจบชีวิตลง
คาร์ลเพ่งสายตาฝ่าลมแรงออกไปและพยายามมองดูสิ่งที่อยู่เหนือโล่เงิน
ซ่า—II
เขารู้สึกถึงน้ําทะเลที่กระเซ็นลงบนศีรษะของเขา น้ําพุขนาดยักษ์กําลังหมุนวนอยู่เหนือโล่เงิน ดูเหมือนว่าน้ําพุยักษ์นี้จะไม่สามารถหาอะไรมารองรับมันได้หากมันทะลุผ่านโล่เงินเข้ามา
– มนุษย์! เจ้าเห็นพลังของข้าหรือไม่?! ข้าเป็นคนทํามันขึ้นมา!
คาร์ลใช้พลังสายฟ้าฟาดเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพลังเวทย์ของราอนแทบทั้งหมด
“เด็กคนนี้แข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่ที่ได้สู้กับนักล่ามังกร
“ข้าเห็นแล้ว..เจ้าเก่งมา-แค่ก!!–
คาร์ลกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย จากนั้นจึงใช้แขนเสื้อของตนเช็ดเลือดออกจากมุมปาก เขารู้สึกได้ถึงรสเค็มในปากของตน
– มนุษย์! ทําไมเจ้าถึงกระอักออกมาเป็นเลือดอีกในเมื่อเจ้าใช้พลังไม่ถึง1ใน3 ของพลังอุ้งเท้าข้าด้วยซ้ํา! หรือว่าข้าประเมินผิด?! เป็นไปไม่ได้! ร่างกายของเจ้าจะต้องอ่อนแอมากแน่ๆนี่แค่ใช้พลังซึ่งเทียบได้กับร่างของเจ้าคนแคระหนหน้าโง่นั่น..แต่เจ้าก็ยังกระอักออกมาเป็นเลือดอีก?! เจ้าช่างแปลกประหลาดและเข้าใจยากเสียจริง!
คาร์ลตอบกลับให้กับเสียงบ่นของราอนในขณะที่ร่างกายของเขาก็สัมผัสได้ถึงความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
“ข้าไม่ได้เป็นอะไร”
ถึงคาร์ลจะพูดเช่นนั้นแต่ราอนในสภาพล่องหนและและเชวฮันกลับเริ่มขมวดคิ้วมั่น ในขณะที่ฝั่งของคาร์ล กลับเริ่มเข้าใจในปฏิกิริยาของร่างกายต่อพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณว่ามีลักษณะการทํางานอย่างไร
โลนิรันดร์กาลแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่ที่นักบวชจอมตะกละกินพละกําลังแห่งดวงใจเข้าไป
นั่นคือสาเหตุหลักที่ทําให้การทํางานของโล่จะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อร่างกายของคาร์ล เว้นแต่ว่ามันจะได้รับความเสียหายหนักจนเพียงพอให้โล่พังทลายลงได้ อย่างไรก็ตามพลังศักดิ์สิทธิ์โบรานอื่นๆ ยังคงทําให้พละกําลังแห่งดวงใจทํางานต่อไปได้ ถ้าเขาดึงพลังออกมาใช้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ฉันไม่สามารถทําอะไรได้มากนักเนื่องจากฐานรองรับของฉันมีขนาดที่เล็กมาก
เพราะขนาดของฐานรองรับในร่างกายของคาร์ลมีขนาดที่เล็กมาก ส่งผลให้ความสามารถในการใช้พลังต่างๆของคาร์ลลดลง
“ข้าสบายดี..พวกเจ้าไม่ต้องกังวล”
คาร์ลโบกมือทั้งสองข้างเพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นอะไรจริงๆจากนั้นก็มองไปที่สนามรบอีกครั้ง เป็นเพราะโล่ป้องกันของราอนมีความแข็งแกร่งมาก ทําให้เขาสามารถสังเกตสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายและสงบนิ่ง
มีแรงระเบิดและน้ําพุยักษ์เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงสิบนาทีที่ผ่านมา มหาสมุทรเริ่มสงบลงและกลับคืนสู่ปกติในไม่ช้ํา
ซ่า! ติ่ง! ทิ้ง!
มีน้ําหยดใส่ศีรษะของคาร์ลในขณะที่สายตาของเขามองผ่านโล่เงินออกไป
“…ทุกอย่างถูกทําลาย”
คาร์ลยังคงเพ่งสายตามองออกไปและไม่ได้ตอบรับกับสิ่งที่เชวฮันพึมพําออกมาแน่นอนว่าเชวฮันก็เข้าใจในปฏิกิริยาของคาร์ลเป็นอย่างดี
ทุกสิ่งทุกอย่างพังราบเป็นหน้ากลอง
เรือลําใหญ่ที่แล่นอยู่ในมหาสมุทรเมื่อก่อนหน้านี้บ้างก็พลิกคว่ํา บ้างก็ถูกแรงระเบิดจนพังออกเป็นเสี่ยงๆ เขามองเห็นทหารของศัตรูที่เสียชีวิตลงและบางคนก็อาการสาหัสจนแทบเอาชีวิตไม่รอด สภาพที่น่าเวทนาของศัตรูที่อยู่ด้านนอกโล่ป้องกันนั้นทําให้เชวฮันเดาได้ว่าตอนนี้คาร์ลกําลังคิดอะไรอยู่
นั่นคือลักษณะนิสัยของคาร์ล อย่างไรก็ตามเชวฮันคิดถูกเพียงครึ่งเดียว
คาร์ลเริ่มเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
“ราอน..ทําไม”
คาร์ลไม่อยากจะเชื่อฉากที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
“ทําไม่เจ้าลูกครึ่งมังกรถึงไม่ใช่โล่ป้องกัน?”
“อะไรนะ?”
เชวฮันหันขวับไปมองคาร์ลเมื่อได้ยินสิ่งที่คาร์ลเอ่ยถามราอน ดูเหมือนคาร์ลจะมีอาการตกตะลึงจนเห็นได้ชัด ราอนจึงเริ่มพูดกับทั้งสองคน
“เจ้ามนุษย์..เชวฮัน..มันมีบางอย่างแปลกๆ”
ก่อนที่สายฟ้าจะพุ่งทะลุผ่านวงเวทย์สีม่วงไป ราอนได้เห็นโล่ป้องกันสีทองเข้าล้อมรอบเรือลําใหญ่ซึ่งเป็นเรือที่นักเวทย์ร่างผอมประจําการอยู่
“คนที่มีเลือดมังกรอยู่ในตัวถึงครึ่งหนึ่ง..พลังของเขาย่อมร้ายกาจ..ไม่มีทางที่คนเช่นนี้จะปกป้องพวกเขาเอาไว้ไม่ได้ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใช้โล่เพื่อปกป้องคนของตัวเอง”
อะไรนะ?”
เชวฮันตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“เขาไม่ได้ใช้โล่เพื่อปกป้องพันธมิตรของตนเองอย่างนั้นรึ?..เดี๋ยวก่อนนะ! นี่เขาต้องการที่จะทําลายทุกอย่างให้สิ้นซากงั้นรึ?”
“ทําไม?”
มันเป็นช่วงเวลาเดียวกับคําถามนี้หลุดออกจากปากของเชวฮัน ร่างกายของเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
– เจ้านั่นมาแล้ว!
กรรจ์!!!!
มังกรนที่วายุของราอนทะยานไปยังด้านหน้าของโล่เงิน
เปรี้ยงงงงงง!!
เกิดการระเบิดขึ้นในขณะนั้น ลูกเวทย์แห่งแสงเข้าพุ่งชนร่างของมังกรนทีวายุจนทําให้น้ําที่อัดแน่นอยู่ในร่างกายของมันพุ่งขึ้นสู่อากาศ เชวฮันใช้เท้าเหยียบเข้ากับโล่เงินเพื่อกระโดดข้ามไปอีกฝั่ง
ออร่าสีดําที่ไหลพล่านของเขาพุ่งลงไปในน้ํา
ปัง!! ป้ง ป้ง!!!
ออร่าของเชวฮันพุ่งเข้าหาลกเวทย์แห่งแสงประมาณ 2-3 ลูกก่อนที่มันจะเลือนหายไป ซึ่งเป็นจังหวะเดียว
กับที่น้ําในมหาสมุทรถูกแยกออก
ซ่า—–III ฟรี่บ!!
มีร่างของคนผู้หนึ่งโผล่ออกมาจากมหาสมุทรที่ถูกแยกออก โล่ป้องกันสีทองเจือขาวเข้าล้อมรอบร่างของเขา มันป้องกันแม้กระทั่งหยดน้ําที่จะกระเซ็นมาโดนตัวเขาเมื่อลงจอดบนผิวน้ํา
แน่นอนว่าคนที่ยืนอยู่บนผิวน้ําคือนักเวทย์ลูกครึ่งมังกร
“ฮ่าฮ่าฮ่า!! ข้ายังมีชีวิตอยู่!”
แก้มของนักเวทย์ร่างผอมยกสูงขึ้นเพราะเขากําลังยิ้มร่าพร้อมกันนั้นเขาก็สบตาเข้ากับคาร์ล
“พันธมิตรของเขาทั้งหมดกําลังจะตายอยู่ทางด้าน9644 14
เดกําลังจะตายอยู่ทางด้านหลัง..แม้แต่กองกําลังนักเวทย์ของอาร์มเองก็กําลังจะตาย เช่นกันแต่เขา..กําลังหัวเราะอย่างนั้นรึ?”
เปาะ! เปาะ! เปาะ!
สายฟ้าขนาดเล็กปรากฏออกมาจากมือของนักเวทย์ร่างผอม และเตรียมพุ่งเข้าใส่โล่เงินอีกครั้ง มันถูกป้องกันโดยมังกรนทีวายุและเชวฮัน ทําให้มันไม่สามารถทะทุผ่านโล่เงินของราอนไปได้
สายฟ้าเด้งกลับและพุ่งเข้าใส่ผืนน้ําทันที
เปรี้ยะ!!—
“อ๊ากกก!!!”
“อีก!..โอ้ย!!”
“ลั่ก..ร้อนๆๆ..ร่างของข้า!”
สายฟ้าพุ่งลงไปในน้ําทําให้สมาชิกของพันธมิตรไร้พ่ายที่เหลือรอดอยู่รวมไปถึงกองกําลังนักเวทย์ของอาร์มได้รับผลกระทบทันที แน่นอนว่านักเวทย์เรียกใช้โล่ป้องกันหรือบางคนก็เรียกใช้เวทย์ลอยตัว ในขณะที่อัศวินที่มีทักษะมากพอก็ปีนขึ้นไปบนเรือที่พลิกคว่ําเพื่อเอาชีวิตให้รอด
ส่วนทอยของพันธมิตรไร้พ่ายยังคงเสียชีวิตเป็นจํานวนมาก
“หมอนโรคจิตหรือไงนะ?”
คาร์ลพึมพําออกมาเบาๆ
ทันใดนั้นเอง
“ฮี!”
นักเวทย์ร่างผอมและคาร์ลสบตาเข้าหากันอีกครั้ง คราวนี้นักเวทย์พุ่งตัวเข้าหาคาร์ลอย่างรวดเร็ว
ดาบของเชวฮันและร่างของมังกรนทีวายุพยายามจะเข้ามาขวางร่างของนักเวทย์เอาไว้
เปาะ! เปาะ! เปาะ!
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถป้องกันนักเวทย์ที่ถูกรายล้อมไปด้วยลูกแก้วพลังเวทย์เป็นจํานวนมากได้
คาร์ลไม่มีเวลาที่จะหลบหนีไปทางด้านหลังได้เช่นกัน
ปิ้งงงงงงงงง!!!
นักเวทย์ร่างผอมบุกมาถึงโล่เงินและชนเข้ากับมันอย่างแรง
เลือดเริ่มไหลออกจากหน้าผากของนักเวทย์ลูกครึ่งมังกรแต่ใบหน้าของเขาก็ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเอนร่างของตนแนบไปกับโล่เงินเพื่อจองไปยังคาร์ลที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโล่
หากให้พูดให้ชัดขึ้นต้องบอกว่าเขากําลังกวาดสายตามองสิ่งที่อยู่รอบๆตัวคาร์ล
“ ข้าได้กลิ่นราชามังกร!..พลังเมื่อครู่นี้ต้องเป็นฝีมือมังกรอย่างแน่นอน! ข้ารู้จักมันดี..กลิ่นนี้ต้องเป็นกลิ่นมังกรอย่างไม่ต้องสงสัย..ข้าเคยได้กลิ่นนี้มาก่อน!”
“หมอนี่บ้าจริงๆสินะ
คาร์ลไม่สามารถคิดเป็นอย่างอื่นได้เมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า สิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้ไม่ต่างจากหนังสยองขวัญเลยสักนิด
“เจ้าคือมังกรงั้นรึ?!”
แววตาของนักเวทย์เปล่งประกายแวววับ
สายฟ้าที่ลุกโชนคล้ายกับเปลวเพลิง สายฟ้านั้นประกอบด้วยพลังธรรมชาติอันบริสุทธิ์และพลังเวทย์ มันไม่ใช่สิ่งที่นักเวทย์ทั่วๆไปจะทํามันได้
“มังกรมีพลังของมังกรปะปนอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน
“สิ่งที่ล่องหนอยู่ข้างๆเจ้าคืออะไรกันแน่?”
เขารู้สึกถึงมัน
เขารู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจนและมันยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อเขาเข้ามาใกล้มากกว่าเดิม เขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ล่องหนอยู่ข้างๆมนุษย์หน้าโง่ผู้นี้ อย่างไรก็ตามพลังของมันบางเบามากจนยากที่เขาจะกล้าระบุออกไปอย่างชัดๆ
อันที่จริงการปรากฏตัวของมนุษย์ผมแดงนามว่าคาร์ล เฮนิตัสผู้นี้ดูท่าจะชัดเจนมากกว่า กลิ่นของธรรมชาติแผ่ออกมาจากร่างของคนผู้นี้
นั่นทําให้เขารู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง
“เจ้าคือมังกรสินะ? อืม..ถ้าเจ้าคือมังกรจริงๆตอนนี้เจ้าก็คงออกมาเที่ยวเล่นกระมังหรือไม่?.มันก็เป็นสิ่งที่อยู่ข้างๆเจ้า! จริงอย่างที่ข้าพูดหรือไม่? ห้ะ?!”
พลั่ก!พลั่ก!
หมัดหนักๆของนักเวทย์ลูกครึ่งมังกรกระแทกเข้ากับโล่เงิน
“ไอ้บ้านี่!..สมาชิกของอาร์มมีแต่คนบ้าหรือไงนะ?”
คาร์ลจ้องไปที่ร่างของคนบ้าและเริ่มพูดขึ้น
“มังกรที่ออกมาเที่ยวเล่นบ้านเจ้านะสิ!? ดูเหมือนสมองของเจ้าจะหลุดออกไปเล่นข้างนอกสินะถึงได้พูดอะไรแบบนี้ออกมาได้…เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว”
“ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆๆ!”
นักเวทย์ลูกครึ่งมังกรหัวเราะให้กับคําตอบของคาร์ล
“ใช่แล้ว! เจ้าต้องเป็นมังกรอย่างแน่นอน! มังกรถนัดทําเรื่องเช่นนี้..พวกมันมักแกล้งทําเป็นไม่รู้ไม่ชีและเที่ยวกลั่นแกล้งคนที่อ่อนแอกว่า..ฮ่าฮ่าๆๆ..ช่างน่าสนุกจริงๆ มันน่าสนุก”
เขาไม่สามารถพูดจนจบประโยคได้
ฟรี่บ!!
ร่างของนักเวทย์ลูกครึ่งมังกรเกิดการเคลื่อนไหวอย่ารวดเร็ว เงาสีดําขนาดใหญ่ตวัดผ่านจุดที่เขายืนอยู่ เมื่อก่อนหน้านี้ แน่นอนว่ามันรุนแรงมากพอที่จะเคลื่อนไหวให้ดูคล้ายกับอุ้งเท้าของมังกร
อย่างไรก็ตามนักเวทย์ลูกครึ่งมังกรสามารถขยับหลบได้และตอนนี้กําลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ
“ยังไม่ใช่สิ่งที่ข้าคุ้นเคย
มันดูแข็งแกร่งแต่ก็ดูติดขัดอยู่พอสมควร
แววตาของนักเวทย์ลูกครึ่งมังกรเริ่มครึมขึ้นเรื่อยๆ
“หรือว่า?”
เขามองกลับไปที่คาร์ลอีกครั้ง
ผมสีแดงสดและโล่ป้องกัน ในตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณที่มาจากธาตุไม้บริสุทธิ์ แต่มันจะเป็นเพียงแค่นั้นจริงๆหรือ?
เขานึกถึงมังกรแดง
ดูเหมือนมันจะเป็นเช่นนั้นได้หากมันยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากไฟนั้นมอดลง ก็เหลือเพียงความตายที่ทิ้งเอาไว้เท่านั้น
จากนั้นเขาก็นึกถึงสายฟ้าที่ลุกโชนคล้ายกับเปลวเพลิงเมื่อไม่นานมานี้ มันถูกรายล้อมไปด้วยพลังเวทย์ แต่เขาก็รู้สึกถึงไฟอันบริสุทธิ์ที่อยู่ภายในนั้น
มีพลังของมังกรอยู่ในนั้นเช่นกันและยังเป็นปริมาณจํานวนมากอีกด้วย
“ข้าคือคนที่มีเลือดมังกรอยู่ในตัว และปัจจุบันนี้ก็ไม่มีมังกรแดงหลงเหลืออยู่บนโลกนี้แล้ว”
เขาค่อนข้างมั่นใจกับเรื่องนี้
“เป็นไปได้หรือไม่? ยังมีคนแบบข้าอยู่อีกงั้นรึ?”
การขาดประสบการณ์
มังกรที่ยังไม่ผ่านระยะแรกของการเจริญเติบโตนั้นถือได้ว่ายังไม่มีประสบการณ์ มันไม่รู้วิธีใช้พลังของมันได้อย่างเหมาะสม ลูกครึ่งมังกรก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์มังกร เขาต้องผ่านการเจริญเติบโตแบบที่มังกรทั่วๆไปเป็นเช่นกัน แม้แต่ลูกครึ่งมังกรก็ต้องผ่านการเจริญเติบโตทั้งสามระยะแบบที่มังกรเต็มตัวเป็น
เขาผ่านการเจริญเติบโตได้สองระยะแล้ว มังกรที่ยังไม่ผ่านการเจริญเติบโตในระยะแรกและลูกครึ่งมังกรฝึกหัดนั้นถือเป็นเหยื่อที่ง่ายดายสําหรับเขา นักเวทย์ร่างผอมเริ่มหัวเราะราวกับคนบ้า
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆๆ! ทุกอย่างเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ! ความจริงได้ปรากฏออกมาแล้ว!”
นักเวทย์ร่างผอมมองเห็นมังกรนทีวายุ โครงกระดูกไวย์เวิร์นสีดํา เชวฮันและพลังเวทย์ต่างๆที่พุ่งเข้าหาเขาจากตัวปราสาทลีโอน่า
จากนั้นเขาก็หันไปมองคาร์ล
“คงถึงเวลาที่ข้าต้องเอาจริงแล้วล่ะ”
แสงจ้าถูกปล่อยออกมาจากร่างของนักเวทย์ลูกครึ่งมังกร
– เอ๊ะ?! เจ้ามนุษย์! มีบางอย่างแปลกๆ
เสียงตกใจของราอนดังเข้ามาในหัวของคาร์ล
ตั้งแต่เริ่มจนมาถึงตอนนี้ นักเวทย์ลูกครึ่งมังกรไม่ได้ใช้กําลังและความสามารถที่ตนมีทั้งหมด
“นั่นยังไม่ใช่พลังของเขาทั้งหมดอีกหรือ?
..เขาแกร่งยิ่งนัก!
คาร์ลมองไปที่ร่างของนักเวทย์ร่างผอม
พลังเวทย์สีทองเจือขาวของนักเวทย์ร่างผอมกําลังลุกโชนขึ้น มันส่งเสียงคํารามไปทั่วบริเวณ เสื้อคลุมของเขาโบกสะบัดไปตามแรงลมและเส้นผมของเขาก็ชี้ขึ้นไปกลางอากาศ ท่าทางของเขาในตอนนี้บ่งบอกถึงความมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยพลังอันแข็งแกร่ง
นักเวทย์จ้องไปที่เชวฮันซึ่งกําลังไล่ล่าเขาด้วยออร่าสีดํา
ว่าทําไมข้าถึงไม่สนใจพันธมิตรของตัวเองว่าพวกเขาจะมีชีวิตอยู่หรือตาย”
แม้ว่าเชวฮันจะอยากรู้แต่ความเร็วของเขาก็ไม่ได้ลดลง เขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทําไมนักเวทย์ผู้นี้ถึงต้องทําแบบนั้นกับพันธมิตรของตนเอง อย่างไรก็ตามเชวฮันเริ่มขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินคําตอบของนักเวทย์ลูกครึ่งมังกร
“ข้าต้องการให้มนุษย์ตายมากกว่านี้! ยิ่งมากยิ่งดี!”
แสงจ้าถูกปล่อยออกจากร่างของนักเวทย์ลูกครึ่งมังกรอีกครั้ง
เชวฮันยังไม่หยุดมือแม้ว่าแสงนั้นจะสว่างจ้าก็ตาม แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเย็นไปทั่วแผ่นหลัง
แสงที่สว่างจ้าต่อหน้าเขา แสงนั้นทําให้เขารู้สึกเหมือนความมืดที่มืดสนิทจนมองไม่เห็นสิ่งใดๆได้ แสงที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนกําลังแผดเผาร่างของเขา เชวฮันรู้สึกถึงเหงื่อที่ท่วมฝ่ามือของตน
เขารู้สึกราวกับตัวเองจะตายหากเข้าไปไกลแสงจ้านั่นมากกว่านี้
“ข้าอาจจะตาย
หากเป็นเช่นนั้นพลังความมืดที่แม้จะไม่สมบูรณ์ของเขาก็อาจจะเลือนหายไปตลอดกาล อย่างไรก็ตาม เชวฮันยังไม่คิดที่จะหยุด
ช่วงเวลานั้นเอง