Trash of the Count’s family - ตอนที่ 214.2
บทที่ 214 เจ้าจะรับมันหรือไม่? 5 (2)
ช่วงเวลานั้นเอง
“ว้าว…ไม่อยากจะเชื่อเลย”
ศีรษะขององค์ชายวาเลนติโน่หันไปตามเสียงที่เอ่ยขึ้นเมื่อครู่เขามองเห็นคาร์ลกําลังยิ้มอยู่อย่างไรก็ตามมีความร้ายกาจปนออกมากับรอยยิ้มนั้น
“ข้าไม่คิดมาก่อนว่าท่านจะมาพูดพล่ามไร้สาระในสถานที่เช่นนี้ได้”
คาร์ลไม่นึกว่าฝายคริสตจักรจะเลือกพูดตรงไปตรงมาเช่นนี้
คําพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของเขาทําให้บรรยากาศภายในห้องเปลี่ยนไปอีกครั้ง วาเลนติ โน่มองคาร์ลด้วยสีหน้าแปลกๆแววตาของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้เมื่อเห็นคาร์ลพูดหยาบคายออกมาเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามหัวหน้านักบวชไม่สามารถเก็บอาการของตนไว้ได้
พูดพล่ามไร้สาระ?
เขาผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้และตะโกนออกมาดังลั่น
“ทําไมเจ้าถึงกล้า !!”
“ข้าเองก็ไม่ต้องการเช่นกัน”
“อะไรนะ?”
คาร์ลรู้สึกหงุดหงิดยิ่งนัก เขาตัดสินใจที่โยนทิ้งมารยาทอันพึงมีและสวมบทบาทเป็นขยะอีกครั้งหลังจากทิ้งห่างมาเป็นเวลานาน
“ข้าไม่ต้องการให้ขยะเช่นเจ้ามารักษาพวกข้าหรอกนะ”
“นนี่มันอะไรกัน?! ทําไมเจ้าถึงแสดงกิริยาต่ําๆเช่นนี้ต่อหน้าเราได้!”
ขยะเช่นคาร์ลไม่ได้สนใจในสิ่งที่หัวหน้านักบวชพูดเลยสักนิด
“แมรี่”
คาร์ลหันไปมองแมรี่แทน เขาทําให้เธอต้องมาได้ยินเรื่องไร้สาระเช่นนี้ ตอนนี้เขารู้สึกหงุดหงิดตัวเองชะมัด เขาเป็นห่วงว่าแมรี่จะคิดโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุให้อาณาจักรโรมันไม่ได้รับการรักษาใดๆจากนักบวชและตัวเธอเองก็ไม่สามารถรับการรักษาอาการบาดเจ็บใดๆได้เช่นกัน
นั่นคือสาเหตุที่คาร์ลต้องเริ่มเอ่ยปาก เขากําลังจะบอกเธอว่าไม่มีความคิดไร้สาระเช่นนั้นอยู่ในหัวของฝ่ายพวกเขา อย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาคิดเอาไว้
อย่างไรก็ตามแมรี่กับเป็นฝ่ายที่พูดขึ้นมาก่อน
“ไม่มีเหตุผลใด..ที่ข้าน้อย.จะต้องหลบซ่อนตัว”
คาร์ลั้งปากที่กําลังจะพูดออกไปในทันที
“เพราะข้าน้อย..ยอดเยี่ยมที่สุด”
ไม่มีความลังเลใดๆในน้ําเสียงราวกับหุ่นยนต์ของเธอ
คาร์ลเริ่มยิ้มออกมา
ข้าจะฆ่าหมอนี่เอง!
คาร์ลไม่เห็นด้วยกับความเห็นของราอนเมื่อเตรียมตัวที่จะพูดบางอย่างออกมา
มันไม่พอ! ความต้องการของราอนมันไม่เพียงพอที่จะทําให้ขยะเช่นเขาในตอนนี้พึงพอใจได้จะทําให้
“องค์ชายพะยะค่ะ”
“น.นี่เจ้ากล้าไม่สนใจข้ารี!? เจ้ากล้าที่จะเพิกเฉยต่อคริสตจักรอย่างนั้นรี!”
คาร์ลมองไปที่สีหน้าทิ้งตึงของหัวหน้านักบวชก่อนจะเอ่ยขึ้น
“คําสาปที่แท้จริงกําลังจะเกิดขึ้นกับเจ้าและคริสตจักรของเจ้าต่างหาก”
“เจ้าว่าอะไรนะ?”
คาร์ลตัดสินใจเปลี่ยนแผนของตัวเองในที่สุด ในเมื่อเขาทําตัวเป็นขยะเขาก็สามารถที่จะเปลี่ยนแผนไปตามอารมณ์ของเขาได้ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ขยะควรทําหรอกหรือ?
เดิมที่เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะก่อตั้งวิหารพระเจ้าแห่งแสงตะวันในอาณาจักรคาโรและใช้มันโจ มตีจักรวรรดิแต่ตอนนี้แผนของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว
จักรวรรดิและคริสตจักรพระเจ้าแห่งแสงตะวัน! พวกบ้านี้จะต้องหายสาบสูญไปในที่สุด!
พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาตัดสินว่าใครเหมาะที่จะได้รับหรือไม่ได้รับการรักษา? ตรากล่าวโทษจากแสงตะวันจะต้องลงโทษคนพวกนี้อย่างแน่นอน!
“ทูลองค์ชายพะยะค่ะ”
คาร์ลทําให้ความตั้งใจของตัวเองชัดเจนขึ้น
“สําหรับหอคอยทางทิศใต้แค่พวกเราฝ่ายเดียวก็เพียงพอแล้วพะยะค่ะ”
“ผบ.คาร์ลข้าเข้าใจดีว่าตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรแต่เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อไม่ให้ใครได้รับบาดเจ็บจากศึกครั้งนี้ ข้าจะจัดการปัญหาในวันนี้ ”
“พวกเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บพะยะค่ะ”
วาเลนติโน่เงียบเสียงลงทันทีเมื่อเห็นความมั่นใจในน้ําเสียงของคาร์ล
จะไม่ได้รับบาดเจ็บงั้นรึ? ทําไมกันนะ?
“อาณาจักรโรมันได้นําวีรบุรุษมากับเราด้วย”
สายตาของคาร์ลมุ่งไปยังหัวหน้านั่งบวชที่ยังคงยืนเงียบอยู่
“เจ้าเคยรู้สึกเจ็บปวดมากๆจนอยากจะตายให้มันจบๆไปหรือไม่?”
“อะไรนะ!”
“เราเรียกคนที่เอาชนะความเจ็บปวดดังกล่าวว่า“วีรบุรุษ”
รู้สึกเจ็บปวดมากๆจนอยากจะตายๆไปซะ! แมรี่กําลังนึกถึงอดีตของตนเอง เธอยังจําวันที่สามารถเอาชีวิตรอดจากการถูกพิษของพลังเวทย์แห่งความตาย ในขณะที่เชวฮันก็นึกย้อนถึงช่วงเวลาที่สามารถเอาชีวิตรอดออกมาจากปาแห่งความมืด
“คนที่ยืนอยู่ข้างหลังข้าในตอนนี้คือคนที่สามารถเอาชนะความเจ็บปวดแบบนั้นมาได้”
น้ําเสียงของคาร์ลเต็มไปด้วยความมั่นใจมากกว่าเดิม
“พวกเขาคือคนที่ข้าวางใจให้คอยระวังหลังให้กับข้า”
คนทั้งสองที่ยืนอยู่เบื้องหลังคาร์ล โดยเฉพาะแมรี่นั้นค่อยๆยึดอกตัวเองขึ้นอย่างมั่นใจ ไม่มีเหตุผลใดที่เธอจะต้องก้มศีรษะลงด้วยความกลัวหรือปิดบังตัวตนของเธออีกต่อไป
“ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะได้รับการรักษาอย่างนั้นรึ? ฟังๆดูแล้วช่างไร้สาระยิ่งนัก”
จริงอย่างที่คาร์ลพูด พวกเขาไม่ต้องการที่จะมีคุณสมบัติอะไรเช่นนั้นเพราะพวกเขาคือคนที่สมบูรณ์แบบแล้วในตอนนี้
คาร์ลลุกขึ้นยืนจากที่นั่งของตนเอง
“ท่านจะทํารายงานสรุปอีกครั้งใช่หรือไม่?”
“ห้ะ?..เอ่อ..ใช่แล้ว!”
ผู้บัญชาการแห่งอาณาจักรคาโรตอบคําถามที่จู่ๆก็พุ่งมาหาตัวเองโดยไม่ทันตั้งตัว
“รายละเอียดที่เหลือจะถูกส่งไปยังกองกําลังแต่ละฝ่ายในภายหลังใช่หรือไม่?”
“ใช่แล้ว! เป็นอย่างที่ท่านพูด”
เมื่อได้คําตอบที่ตัวเองพอใจแล้วคาร์ลก็หันไปโค้งคํานับให้กับองค์ชายวาเลนติโน่
“ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมขอทูลลาพะยะค่ะ”
“แล้วข้าจะไปพบเจ้าอีกทีในภายหลัง
คาร์ลไม่รู้สึกโกรธอาณาจักรคาโรแม้แต่น้อย พวกเขาได้ทําเท่าที่ตัวเองจะทําได้แล้ว มันเป็นเพียงความมืดบอดของคริสตจักรพระเจ้าแห่งแสงตะวันฝ่ายเดียวเท่านั้น
“ผบ.คาร์ล! ท่านคิดว่าตัวเองกําลังทําอะไรอยู่?! เอ่ยขอโทษสําหรับคําพูดอันหยาบคายและการกระทําอันน่าละอายใจต่อคริสตจักรของเราเดี๋ยวนี้!”
สีหน้าโกรธจัดของหัวหน้านักบวชพุ่งมาหาคาร์ลทันที
คาร์ลเดินไปยังประตูห้องและจ้องตอบสายตาที่หัวหน้านักบวชส่งมาให้ในจังหวะที่เขากําลังเดินผ่านร่างของหัวหน้านักบวชไป เขาก็ก้มกระซิบเบาๆให้หัวหน้านักบวชได้ยิน
“เจ้าเสียโอกาสไปแล้ว”
โอกาส?”
หัวหน้านักบวชหันกลับไปมองคาร์ลด้วยความสงสัยว่าเมื่อครู่นี้เขากําลังหมายถึงอะไร คาร์ลเตะประตูให้เปิดออกโดยไม่นึกลังเล ส่วนหัวหน้านักบวชก็มองกิริยาที่ไร้มารยาทนั้นด้วยความอึ้งเขากําลังรู้สึกถึงความเย็นที่แล่นไปทั่วร่างของตน
เชวฮันและฮิลส์แมน
พวกเขาทั้งคู่เฝ้าสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ จนกระทั่งแมรี่เดินตามไปสมทบคาร์ลทางด้านหลังพวกเขาจึงเดินไปประกบตามหลังทันที่ราวกับกําลังปกป้องคาร์ลและแมรี่อยู่
เมื่อถึงห้องพักของพวกเขาแล้ว กลุ่มของคาร์ลก็ได้ยินเสียงของคาร์ลดังขึ้น
“คริสตจักรแห่งพระเจ้าแสงตะวันได้สูญเสียโอกาสที่จะอยู่รอดแล้ว”