Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 413

　　TXV– 413 ขอแต่งงาน ?
　　ดูเหมือนว่างานแถลงข่าวเปิดตัวการร่วมมือกันของบริษัทเหวี้ยนเทียนและบริษัทก็อดโดเมนจะกลายเป็นงานสัมภาษณ์ของเซี่ยเหล่ยไปเสียแล้ว ซึ่งที่จริงแล้วเขาไม่ต้องการแบบนี้เลยแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
　　“ต้องขอโทษทุกคนด้วยถ้าต้องการจะสัมภาษณ์ผมจริงๆ ค่อยเป็นวันอื่นก็แล้วกันนะ” เซี่ยเหล่ยหันไปตอบเหล่านักข่าวที่ล้อมรอบเขาอยู่ในตอนนี้
　　“หืมม!” อันซูฮยอนพึมพำในลำคอพร้อมกับทำสีหน้าไม่พอใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เขายังพึมพำกับตัวเองอีกว่า “เซี่ยเหล่ยมาที่นี่เพื่อจะทำอะไรกันแน่? หรือว่าต้องการมาทำลายงานเปิดตัวของเรา?”
　　คำพูดเหล่านี้เฉินตูเทียนหยินเองก็ได้ยินเช่นกันแม้ว่าความจริงเฉินตูเทียนหยินและเซี่ยเหล่ยจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เธอเองก็สงสัยเรื่องนี้อยู่เหมือนกันจึงฟังอยู่เงียบๆโดยไม่ได้ตอบโต้หรือปกป้องอะไรแทน
　　อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยไม่ได้ตอบคำถามอะไรของเหล่านักข่าวกลับไปเลย นอกจากนี้เรื่องการหมั้นระหว่างเขาและเฉินตูเทียนหยินที่เกิดขื้นก่อนหน้านี้นานแล้วเช่นกัน เขาเองก็ไม่คิดว่าจู่ๆนักข่าวจะถามคำถามนี้กับเขา แถมยังเป็นช่วงเวลานี้อีกด้วย
　　“คุณเทียนหยิน คุณและคุณเซี่ยตอนนี้มีความสัมพันธ์กันยังไงงั้นเหรอ?” นักข่าวคนหนึ่งหันกลับไปถามเฉินตูเทียนหยินแทน
　　“คุณเทียนหยิน บริษัทของคุณเซี่ยเติบโตขึ้นมากในช่วงเวลาสองปีมานี้ เป็นเพราะได้รับการสนับสนุนจากคุณใช่หรือไม่?” นักข่าวคนอื่นถามต่อทันที
　　“คุณเทียนหยิน คุณมีแผนที่จะแต่งงานกับคุณเซี่ยบ้างหรือไม่?” นักข่าวคนอื่นถามต่อทันที
　　อย่างไรก็ตามเฉินตูเทียนหยินเองก็ไม่ได้ตอบอะไรเช่นกัน เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้งานเปิดตัวโครงการในครั้งนี้กลายเป็นการสัมภาษณ์เรื่องส่วนตัวแทน
　　ในขณะนี้อันซูฮยอนรู้สึกไม่พอใจเซี่ยเหล่ยเป็นอย่างมากนั่นก็เพราะการปรากฏตัวของเขาทำให้การสัมภาษณ์งานเปิดตัวในครั้งนี้วุ่นวายไปหมด เรื่องนี้เขายอมรับไม่ได้
　　“เอาหล่ะ ฉันจะตอบทุกคำถามแต่ขอเป็นหลังจากงานแถลงข่าวเปิดตัวผ่านพ้นไปก่อนนะ” เฉินตูเทียนหยินพูด
　　นอกจานี้อันซูฮยอนมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยสายตาเหยียดหยามพร้อมกับพูดเสริมอีกว่า “ผมอยากให้ทุกคนให้ความสนใจกับงานแถลงข่าวของพวกเรามากกว่าที่จะสนใจใครบางคนนะ”
　　“ใครบางคน” ที่อันซูฮยอนพูดมานี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคือเซี่ยเหล่ย
　　หลังจากพูดจบอันซูฮยอนก็เชิญเหล่านักข่าวให้เดินไปยังหน้าเวทีก่อนที่ตัวเขาเองจะรีบขึ้นไปบนเวทีเพื่อเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการ
　　เมื่ออันซูฮยอนเดินออกไปแล้ว เฉินตูเทียนหยินและเซี่ยเหล่ยก็หันมามองหน้าซึ่งกันและกัน
　　หลายเดือนที่เขาไม่เห็นเธอเลย เมื่อกลับมาเจอกันครั้งนี้ต้องบอกเลยว่าเธอยังดูมีเสน่ห์และดูสง่างามมากด้วยลักษณะท่าทางรวมถึงความเพรียบพร้อมของเธอ จะมีเพียงผู้ชายไม่กี่คนเท่านั้นที่จะพิชิตและได้ครอบครองหัวใจของเธอได้
　　เฉินตูเทียตนหยินยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยจะยิ้มให้กับคนอื่นๆโดยเฉพาะผู้ชาย แต่เซี่ยเหล่ยถือเป็นผู้ชายที่ได้รับข้อยกเว้นนั้น
　　รอยยิ้มของเธอดูเป็นธรรมชาติอย่างมาก
　　ด้วยรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติของเธอทำให้เซี่ยเหล่ยไม่สามารถควบคุมความคิดของตัวเองได้ ภาพในอดีตมันค่อยๆผุดขึ้นมาในหัวเหมือนกับน้ำร้อนที่กำลังเดือด มันเป็นภาพเหตุการณ์ที่เขาวาดฝันเอาไว้ รวมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของเฉินตูเทียนหยินเอง หรือเรื่องที่มีกู๋เค่อหวู่เข้ามามีส่วนร่วม ทุกๆเรื่องราวล้วนแต่เป็นความทรงจำที่มีทั้งสุขและทุกข์ หากในเวลานั้น พวกเขาได้คู่ครองกันก็คงจะกลายเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เกิดขึ้นจริงเนื่องจากหลางซือเหยาได้เข้ามา และทำลายทุกสิ่งทุกอย่างไปจนหมดสิ้น
　　การที่ไม่มีหลางซือเหยาในตอนนี้แล้ว เขาจะสามารถเปลี่ยนอดีตที่เคยวาดฝันให้กลายเป็นความจริงได้หรือไม่นะ?
　　“แม้ว่าการร่วมมือกันระหว่างบริษัทก็อดโดเมนและบริษัทเหวี้ยนเทียนในครั้งนี้จะถือเป็นหน้าใหม่ในวงการอุตสาหกรรมโทรศัพท์ แต่เราก็เชื่อว่าโทรศัพท์มือถือของพวกเราจะกลายเป็นแนวหน้าและถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอุตสาหกรรมโทรศัพท์ ในครั้งนี้พวกเรามีผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวถึงสองซีรี่ส์ด้วยกัน โดยซี่รี่ส์แรกจะเป็นโทรศัพท์มือถือสุดพิเศษที่เหมาะสำหรับคุณผู้ชายทุกเพศทุกวัย ส่วนอีกซีรี่ส์จะเป็นซีรี่ส์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อสุภาพสตรีโดยเฉพาะ” อันซูฮยอนพูดอย่างมั่นใจก่อนจะพูดต่อว่า “นอกจากนี้ทางเรายังการันตีได้ว่าโทรศัพท์ทั้งสองซีรี่ส์ของเรามีประสิทธิภาพมากพอสำหรับทุกๆท่าน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเล่นเกม ทั้งการถ่ายรูป ทั้งการ ……”
　　ขณะเดียวกันนี้ ผู้ช่วยของอันซูฮยอนก็ได้นำโทรศัพท์มือถือทั้งสองซีรี่ส์ที่เพิ่งจะกล่าวไปขึ้นมาแสดงต่อหน้าผู้เข้าชมรวมถึงสาธิตตามคำบรรยายของอันซูฮยอนไปด้วย
　　ขณะเดียวกันนี้ตากล้องและช่างภาพเองก็ระดมถ่ายภาพเก็บไว้ในขณะที่พวกเขาสาธิตกันอยู่เพื่อนำไปใช้ประกอบในการเขียนข่าว
　　จากนั้นอันซูฮยอนเองก็เดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือซีรี่ย์ของผู้ชายขึ้นมา ก่อนจะเปิดเกมในโทรศัพท์เครื่องนั้นหนึ่งเกมพร้อมกับแสดงประสิทธิภาพให้กับผู้เข้าชมได้เห็นว่ามันมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน ท่าทางของเขาในตอนนี้ดูเท่ห์และมีเสน่ห์มาก แม้ว่าเขาในตอนนี้จะยังเทียบกับสตีฟจ็อบที่เป็นผู้ผลิตแอปเปิ้ลไม่ได้ แต่ก็ถือว่าในการเปิดตัวครั้งนี้เขาทำได้ยอดเยี่ยมมาก
　　ในเวลานี้กู๋เค่อเหวินได้เดินเข้ามาภายในงานพร้อมกับพยักหน้าให้กับเฉินตูเทียนหยินหนึ่งครั้งก่อนจะเดินไปยืนด้านข้างของเซี่ยเหล่ย
　　เซี่ยเหล่ยไม่ได้ทักทายเธอ เขาเพียงแค่มองด้วยหางตาเท่านั้นแม้ว่าภายนอกเธอจะดูเหมือนเดิมแต่เขาก็รู้สึกว่าเธอมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างบอกไม่ถูก
　　“มีอะไรงั้นเหรอ ทำไมมองฉันอย่างนั้นหล่ะ?” กู๋เค่อเหวินพูด
　　เซี่ยเหล่ยพูดอย่างไม่แยแสว่า “ไม่มีอะไรนี่ ว่าแต่คุณหล่ะ?”
　　กู๋เค่อเหวินเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า ”ก็อย่างที่เคยบอกไป ฉันอยู่ข้างคุณเสมอ ไม่ว่าคุณจะปฏิเสธฉันกี่ครั้งแล้วก็ตาม แต่ฉันก็ยังยืนยันความต้องการเดิมอยู่ดี”
　　เซี่ยเหล่ยยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “เอาหล่ะ ถ้าอย่างนั้นต่อจากนี้ความบาดหมางระหว่างเราจะหายไปทั้งหมด”
　　ความแค้นและความไม่พอใจทั้งหมดถูกลืมไปหมดแล้วงั้นเหรอ? กู๋เค่อเหวินจะทำได้อย่างนั้นเหรอ? เมื่อคิดดังนี้จึงทำให้เซี่ยเหล่ยยังไม่เชื่อใจกู่เค่อเหวินอยู่ดีแต่ที่พูดออกไปแบบนั้นก็เพื่อจะทดสอบและต้องการตัดจบในเรื่องนี้
　　“การเติบโตของบริษัทคุณในปีนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วมากเลยนะ” กู๋เค่อเหวินเปลี่ยนหัวข้อก่อนจะพูดต่ออีกว่า “มีนักธุรกิจมากหน้าหลายตาที่ต้องการจะเข้ามาสู่อุตสาหกรรมด้านการผลิตอาวุธ แต่พวกเขามีคุณสมบัติไม่เพียงพอ ซึ่งต่างจากคุณ…ไม่เพียงแค่มีคุณสมบัติมากพอ แต่ยังสามารถพัฒนาจนเติบโตไปอย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่ออย่างมาก ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานโรงงานผลิตอาวุธของคุณจะเติบโตแซงหน้าบริษัทฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนได้ในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน”
　　เซี่ยเหล่ยเปลี่ยนท่าทีก่อนจะพูดว่า “ขอบคุณนะ ว่าแต่ตอนนี้คุณรู้อะไรมาบ้าง?”
　　กู๋เค่อเหวินเอี้ยวตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของเซี่ยเหล่ยว่า “ในระหว่างนี้มู๋เจียนเฟิงและเย่คุนนัดเจอกันบ่อยมาก มีความเป็นไปได้มากว่าว่าพวกเขากำลังปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรกับกลยุทธ์ที่คุณใช้อยู่ในตอนนี้ดี คิดว่าพวกเขาคงจะหาทางตอบโต้คุณในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ที่สำคัญพวกเขายังวางแผนจะฉกเอาความลับจากโรงงานของคุณอีกด้วย”
　　การเติบโตของโรงงานผลิตอาวุธกำลังเป็นไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นหากการเปิดตัวปืนไรเฟิลจู่โจมได้สำเร็จ โรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ยจะขึ้นไปเทียบเท่ากับกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนของมู๋เจียนเฟิงรวมถึงบริษัทฮั่นของเย่คุนด้วยแน่นอนว่าเรื่องนี้พวกเขาก็คิดได้และไม่มีทางที่พวกเขาจะอยู่เฉยๆให้เซี่ยเหล่ยทำตามใจชอบได้อยู่แล้ว เรื่องนี้แม้ว่าจะไม่มีกู๋เค่อเหวินบอกเซี่ยเหล่ยก็พอจะตระหนักได้
　　“ฉันรู้ว่าคุณเตรียมความพร้อมไว้แล้วแต่ฉันมีข้อมูลที่สำคัญมากๆจะบอกกับคุณ ”กู๋เค่อเหวินกระซิบก่อนจะกระซิบต่อว่า ”กลุ่มคนที่ฉันต้องการจะแก้แค้น ตอนนี้คนพวกนี้ไปอยู่กับมู๋เจียนเฟิงและเย่คุนแล้ว คุณต้องระวังพวกเขาเอาไว้ด้วยหล่ะ”
　　กลุ่มคนที่กู๋เค่อเหวินต้องการจะแก้แค้นคือกลุ่มคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสังหารกู๋ดิงชาน แน่นอนว่ากู๋เค่อเหวินไม่เคยจะลืมเรื่องนี้ เธอจำได้ดีและเธอก็ยังรู้อีกด้วยว่าตอนนี้คนเหล่านั้นได้อยู่ข้างเดียวกับมู๋เจียนเฟิงและเย่คุนเรียบร้อยแล้ว
　　เซี่ยเหล่ยยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะ”
　　กู๋เค่อเหวินถอนหายใจเบาๆก่อนจะพูดต่อว่า “จริงๆฉันรู้ว่าคุณจะไม่เชื่อใจฉันง่ายๆแบบนี้หรอกนะ”
　　เซี่ยเหล่ยตอบกลับว่า ”อย่าพูดอย่างนั้น ผมเชื่อในตัวคุณนะแต่อย่างไรก็ตามผมไม่สามารถฆ่าคนเหล่านั้นได้เพราะผมเป็นนักธุรกิจไม่ใช่นักฆ่า ดังนั้นหากพวกเขายังไม่มายุ่มย่ามกับผม ผมก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปยุ่มย่ามกับเขา”
　　“เอาหล่ะ ลืมเรื่องนี้ไปก่อน เรามาพูดถึงเรื่องของคุณกับเฉินตูเทียนหยินกันดีกว่า” กู๋เค่อเหวินพูด
　　“เรื่องผมกับเทียนหยินงั้นเหรอ?” เซี่ยเหล่ยทวนประโยคพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าของกู๋เค่อเหวินที่แสดงท่าทางอย่างรู้และอยากจะพูดในเรื่องนี้เอามากๆ
　　กู๋เค่อเหวินยิ้มก่อนจะพูดว่า ”เฉินตูเทียนหยินบอกกับฉันว่าชีวิตนี้จะแต่งงานกับผู้ชายที่ดีที่สุดแม้ว่าเธอจะไม่เคยบอกว่าเจอผู้ชายที่ดีที่สุดคนนั้นแล้วหรือยัง แต่ฉันก็พอจะรู้ว่าเป็นใคร ฉันพอจะรู้ว่าสเปคของเธอ เพราะฉันคิดว่าฉันเองก็เป็นคนประเภทเดียวกับเธอ”
　　“สเปคของเธอแบบไหนหล่ะ คุณรู้ว่าใครด้วยงั้นเหรอ?” เซี่ยเหล่ยถามด้วยความสงสัย
　　“สเปคของเธอก็แบบคุณยังไงหล่ะ นอกจากคุณแล้วเธอไม่มองใครเลยนะ” กู๋เค่อเหวินพูด
　　เซี่ยเหล่ยชะงักไปครู่หนึ่ง
　　“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการจะสื่อ เอาหล่ะ ฉันจะอธิบายให้คุณฟังเอง” กู๋เค่อเหวินพูดก่อนจะพูดต่ออีกว่า ”เรื่องหน้าตาของคุณ ฉันมีมาตรฐานที่สูงกว่าเธอดังนั้นถ้าให้ฉันประเมินคุณ ฉันจะให้คุณเก้าคะแนน”
　　เซี่ยเหล่ยยิ้มเล็กน้อย
　　“ส่วนชีวิตของคุณ คุณเริ่มต้นจากศูนย์และใช้เวลาสองปีในการกลายเป็นนักธุรกิจที่มีเงินกว่าพันล้านดอลล่า นอกจากนี้คุณยังเริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมด้านการผลิตอาวุธระดับประเทศอีกด้วย มันไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าคุณจะไปได้ไกลแค่ไหน แต่ที่สำคัญคือความสามารถรวมถึงความรับผิดชอบของคุณนั้นมีมากจนน่าเหลือเชื่อ ด้วยสิ่งที่ฉันพูดออกมาทั้งหมดนี้ เฉินตูเทียนหยินชอบมันมาก เธอชอบคนประเภทนี้” กู๋เค่อเหวินพูดและพูดต่ออีกว่า “ฉันมั่นใจเลยว่าหากคุณนำแหวนมขอเธอแต่งงาน เธอจะตอบตกลงคุณอย่างแน่นอน”
　　เซี่ยเหล่ยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ทำไมหล่ะ?”
　　กู๋เค่อเหวินตะลึงในทันทีก่อนจะมองตาโตไปที่เซี่ยเหล่ยและพูดว่า ”คุณโง่เปล่า? เธอสามารถหาเงินได้มากมายด้วยตัวเองได้อยู่แล้ว สิ่งที่เธอต้องการตอนนี้ไม่ใช่ผู้ชายที่หาเงินเก่ง แต่เธอต้องการผู้ชายที่สามารถปกป้องเธอได้ซึ่งคุณตอบโจทย์เธอมาก ยังไงเธอก็จะตอบตกลงคุณอย่างไม่ต้องสงสัย”
　　เดิมทีนี่คือสเปคของเฉินตูเทียนหยินอยู่แล้วด้วย…
　　แม้ว่ามาตรฐานนี้จะเป็นการพูดจากปากของกู๋เค่อเหวินแต่เซี่ยเหล่ยก็เชื่อว่านี่คือสเปคของเธอจริงๆ
　　เฉินตูเทียนหยินเป็นผู้หญิงที่เก่งและมีทรัพย์สินจำนวนมากดังนั้นเธอจึงต้องการผู้ชายที่สามารถปกป้องเธอและทรัพย์สินของเธอได้!
　　“เอาหล่ะ ฉันก็บอกไปแล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับคุณเองแล้วแหละนะ” กู๋เค่อเหวินพูด
　　เซี่ยเหล่ยยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร เนื่องจากภายในใจของเขาค่อนข้างจะสับสน
　　จังหวะเดียวกันนี้อันซูฮยอนก็ได้นิ่งอยู่ครู่หนึ่งและพูดต่อว่า “เทียนหยิน โปรดมาที่นี่หน่อย”
　　เฉินตูเทียนหยินมองกลับไปก่อนจะพูดว่า “ทำไมหล่ะ? มีอะไรงั้นเหรอ? คุณก็พูดได้ดีอยู่แล้วนี่”
　　“มาก่อนสิ” อันซูฮยอนพูดและโค้งคำนับเพื่อเชื้อเชิญเธอให้ขึ้นไปบนเวที
　　อย่างไรก็ตามเฉินตูเทียนหยินก็เดินไปหาอันซูฮยอนตามคำเชื้อเชิญของเขา
　　เมื่อเฉินตูเทียนหยินเดินไปยังจุดที่อันซูฮยอนต้องการ เขาก็คุกเข่าลงทันทีจากนั้นก็หยิบเอากล่องเครื่องประดับออกมาพร้อมกับเปิดมันออก ภายในมีแหวนเพชรเม็ดใหญ่ที่ส่องประกายระยิบระยับรับกับแสงไฟภายในงาน สวยงามอย่างมาก จากนั้นเขาก็ยื่นออกไปด้านหน้าของเธอก่อนจะพูดว่า “เทียนหยิน ได้โปรดแต่งงานกับผมเถอะนะ”
　　ติดตามตอนต่อไป……