Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 393

　　บูธของบริษัทฮั่นได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามมีจำนวนไม่กี่คนเท่านั้นที่ต้องการจะซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทของพวกเขา เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่มีเงินมากพอ สามารถเปรียบเทียบบริษัทได้กับศิลปินบนท้องถนน เพราะมีผู้เข้าชมมากมาย แต่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะบริจาคเงินให้กับความสามารถของพวกเขา
　　“ประธานเย่ ฉันว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่เลย” เฉียนเหม่ย พูดพร้อมพูดต่อว่า “หรือเราจะใช้กลยุทธ์การขายในแบบที่ชาวอเมริกาใต้และชาวแอฟริกาชอบ”
　　เย่คุนตอบกลับไปว่า “คุณจะกังวลอะไร? ในกรณีนี้ถือว่าไม่เป็นไรเพียงแค่โรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ยยังไม่มีใครให้ความสนใจนี่ก็ถือว่าเราชนะแล้วและอีกอย่างตอนนี้ผมอยากจะรู้มากกว่าว่าเซี่ยเหล่ยจะทำอย่างไรต่อไป”
　　ในงานนิทรรศการแสดงอาวุธในครั้งนี้ เย่คุนไม่ได้ให้ความสนใจกับคำสั่งซื้อเป็นอันดับแรก เพราะสิ่งที่เขาให้ความสนใจมากที่สุดก็คือโรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ย เขารู้สึกดีและสนุกไปกับการที่โรงงานผลิตอาวุธอาชาสายฟ้าไม่มีใครสนใจมากกว่าจำนวนคำสั่งซื้อปืนจากบริษัทของเขาซะอีก
　　เฉียนเหม่ยหัวเราะก่อนจะพูดว่า “ประธานเย่ คุณยังต้องสนใจอะไรเขาอีกงั้นเหรอ? ผลลัพธ์ก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเราด้วยซ้ำ เขาอ่อนแอเกินไป”
　　เย่คุนยิ้มก่อนจะพูดว่า “เด็กเหลือขอนั่นเป็นคนโง่ที่หยิ่งในตัวเอง เขายังคงคิดเสมอว่าตัวเองนั้นเก่งเหนือใครๆ เขายังบอกอีกว่าบริษัทฮั่นของเราไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นคู่แข่งกับโรงงานผลิตอาวุธของเขา เขามองข้ามเราไปและให้ความสนใจกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก จากเหตุการณ์และสิ่งที่เขาทำทั้งหมดแสดงให้เห็นแล้วว่าเขามันเป็นคนโง่และหยิ่งยโส”
　　เฉียนเหม่ยพูดว่า “ใช่ เขาเป็นคนโง่และหยิ่งยโส นอกจากนี้เขายังไม่เจียมตัวเอาซะเลย เขากล้าที่จะมองบริษัทแบร์เร็ตเป็นคู่แข่งทั้งๆที่โรงงานผลิตอาวุธของเขาตอนนี้ยังไม่มีใครรู้จักหรือสนใจเลยด้วยซ้ำ โรงงานผลิตอาวุธของเขามันจบแล้ว”
　　“คุณบอกว่าโรงงานผลิตอาวุธของใครจบแล้วงั้นเหรอ?” ตรงทางเข้าบูธของบริษัทฮั่น ถ่างหยู่เหยี่ยที่กำลังเดินหาเซี่ยเหล่ยอยู่ได้ยินเข้าพอดีจึงพูดขึ้นพร้อมมองไปที่เฉียนเหม่ยอย่างไม่พอใจ
　　เฉียนเหม่ยยิ้มก่อนจะตอบว่า ”ฉันจะพูดถึงใครแล้วเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย? และอีกอย่างคุณจะเดือนร้อนไปทำไม เซี่ยเหล่ยเป็นอะไรกับคุณงั้นเหรอ?”
　　ทันทีที่ได้ยินถ่างหยู่เหยี่ยรู้สึกโกรธอย่างมากแต่ก็ไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม เนื่องจากเย่คุนซึ่งเป็นหัวหน้าของเธอยืนอยู่ด้วย เธอจึงต้องเกรงใจ เธอจึงเดินเข้าไปใกล้กับเฉียนเหม่ยอย่างช้าๆด้วยใบหน้าที่เย็นชาและไร้ซึ่งอารมณ์
　　เฉียนเหม่ยที่รู้สึกไม่ปลอดภัยจึงได้เดินไปหลบอยู่ด้านหลังของเย่คุน
　　เย่คุนหัวเราะก่อนพูดว่า “นี่ หยู่เหยี่ย ผมขอแนะนำอะไรคุณหน่อยนะ เฉียนเหม่ย เป็นคนของผม เธอเป็นเลขาของผมดังนั้นถ้าคุณจะทำอะไรเธอถือว่าคุณไม่ให้เกียรติผมนะ”
　　ถ่างหยู่เหยี่ยรู้สึกอึดอัดใจอย่างมากเพราะเธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย
　　“กลับไปได้แล้ว” เย่คุนพูดพร้อมพูดต่ออีกว่า “ถึงแม้ว่างานแสดงจะยังไม่สิ้นสุด แต่ผมก็เห็นผลลัพธ์ของพวกคุณแล้ว ในเวลานี้คุณควรจะปลอบใจเซี่ยเหล่ยมากกว่านะ”
　　ถ่างหยู่เหยี่ยตอบกลับอย่างไม่แยแสว่า “เย่คุนมันเร็วเกินไปที่คุณจะด่วนสรุปแบบนั้นนะ ฉันรู้ว่านักฆ่าเมื่อคืนนี้คุณเป็นคนส่งมาไว้มีหลักฐานที่แน่ชัดเมื่อไหร่เราคงได้พบกันอีกแน่” 　　เย่คุนตอบกลับไปอย่างไม่แยแสเช่นกันว่า “ถ่างหยู่เหยี่ย อย่าคิดว่าการที่พวกเรายังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันแล้วคุณจะพูดจาดูหมิ่นผมยังไงก็ได้นะ ถ้าคุณยังแยกแยะอะไรไม่ได้และยังกล่าวหาอย่างไร้หลักฐานแบบนี้อีก ผมจะฟ้องคุณ!”
　　“คอยดูแล้วกัน!” ถ่างหยู่เหยี่ยพูด
　　“อย่างไรก็ตาม ผมอยากจะแนะนำอะไรคุณไว้หน่อย” เย่คุนพูดพร้อมกับพูดต่อว่า “อย่ายุ่งกับเซี่ยเหล่ยจนมากเกินไป คุณต้องระวังเขาเอาไว้บ้างนะนี่ถือว่าผมเตือนในฐานะคนคุ้นเคย!”
　　สิ้นเสียงพูดของเย่คุน จังหวะเดียวกันนี้ลำโพงภายในงานนิทรรศการได้ดังขึ้น เป็นเสียงพูดของใครบางคนว่า “ท่านผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานนิทรรศการในครั้งนี้ ผมเป็นผู้จัดการงานนิทรรศการอาวุธชื่อว่าลาเวนส์ เช็คออฟส์ วันนี้ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ประกาศข้อความของคุณเซี่ย ประธานบริษัทอาชาสายฟ้าจากประเทศจีนที่ได้เสนอจะมอบเงินรางวัลจำนวนยี่สิบล้านยูโรสำหรับบริษัทต่างๆที่สามารถยิงปืนไรเฟิลได้ไกลกว่าปืนไรเฟิลจากบริษัทของเขา ซึ่งเขาเสนอว่าจะจ่ายเงินทันทีอีกด้วย”
　　สิ้นเสียงประกาศ ทั่วทั้งงานนิทรรศการก็มีเสียงพูดคุยกันมากมายทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาอาหรับ ภาษาละติน ภาษาเยอรมัน ภาษาฝรั่งเศส
　　เป็นครั้งแรกสำหรับแขกผู้มีเกียรติภายในงานที่ได้ยินอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก ด้วยชื่อที่ไม่คุ้นหูของบริษัทอาชาสายฟ้าทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าบริษัทของเขาผลิตบ้านหลังคามุงจากหรือเปล่า เนื่องจากพวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อบริษัทนี้มาก่อนรวมกับเงินรางวัลที่สูงมากทำให้พวกเขาสนใจเป็นพิเศษ!
　　เงิน 20 ล้านยูโรนี่ไม่ใช่จำนวนน้อยเลย หากชนะจะได้เงินรางวัลไปหากแพ้ก็ไม่ต้องเสียอะไรด้วยซ้ำ ใครกันจะปฏิเสธข้อเสนอนี้? ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทที่ผลิตอาวุธที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกพวกคงจะคาดไม่ถึงเลยว่าจะมีใครกล้าท้าทายพวกเขาแบบนี้!
　　“บริษัทอะไรหน่ะ? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย” พนักงานคนหนึ่งของบริษัทแบร์เร็ต พูดพร้อมยิ้มเยาะเย้ยก่อนจะพูดต่อว่า ”ถ้าเป็นบริษัทจากเยอรมันหรือเบลเยี่ยมก็ว่าไปอย่างแต่นี่เป็นบริษัทจากจีน ช่างเป็นเรื่องตลกจริงๆ ”
　　“ปืนไรเฟิลจากประเทศจีนงั้นเหรอ น่าขำสิ้นดี” ใครบางคนพูดและพูดต่อว่า ”ถ้าพูดถึงประเทศจีน พวกเขามีชื่อเสียงจริงในด้านเสื้อผ้าหรือรองเท้าแต่เรื่องปืนไรเฟิลพวกเขาไม่ได้โดดเด่นอะไรด้วยซ้ำแต่นี่ยังกล้าท้าทายบริษัทชั้นนำระดับโลกอีกต่างหาก เหลือเชื่อจริงๆ”
　　อีกด้านหนึ่งผู้จัดการของเฮ็กเร่อร์แอ็นคอซจากประเทศเยอรมันก็ยิ้มและหัวเราะก่อนจะพูดว่า ”ผู้ชายที่ชื่อเซี่ยเหล่ยคนนั้นบ้าไปแล้วเหรอ? ไม่ต้องพูดถึงบริษัทแบร์เร็ตหรอก บริษัทไร้ชื่อเสียงแบบนี้แค่บริษัทของเราก็สามารถเอาชนะได้ไม่ยาก” 　　ลูกน้องคนหนึ่งของเขาพูดเสริมทันทีว่า ”คุณ มูเร็ชนี่อาจจะเป็นแผนการโปรโมต บริษัทอาชาสายฟ้าเพื่อสร้างชื่อเสียงและความสนใจก็เป็นไปได้นะ”
　　ผู้จัดการของเฮ็กเร่อร์แอ็นคอซซึ่งก็คือมูเร็ชได้พูดต่อว่า “ปล่อยเขาไป ให้เขาได้จ่ายเงินสำหรับความเย่อหยิ่งของเขา อีกอย่างผมเองก็อยากที่จะแสดงประสิทธิภาพของปืนไรเฟิลของบริษัทเราให้คนอื่นๆได้เห็นประสิทธิภาพของมันเช่นกัน ปืนไรเฟิลจากบริษัทที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่นี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราอยู่แล้ว ผมต้องการให้ทุกคนรู้เว่าปืนไรเฟิลที่ผลิตในเยรอมันมันยอดเยี่ยมแค่ไหน!” พูดจบก็ส่งพนักงานไปยังสำนักงานเพื่อตอบรับคำท้าทาย
　　ด้านบริษัทแบร์เร็ตเองก็ตัดสินในให้พนักงานไปยังสำนักงานและตอบรับคำท้าทายเช่นกัน
　　ด้านผู้จัดการของเอฟเอ็น แอสโทรลก็ส่งพนักงานไปยังสำนักงานและตอบรับคำท้าทายเช่นกัน
　　ในตอนนี้แม้ว่าการแข่งขันจะยังไม่เริ่มแต่ผู้คนต่างให้ความสนใจบริษัทอาชาสายฟ้าและตรงไปยังบูธของเขามากมาย
　　ที่บูธของบริษัทฮั่น ถ่างหยู่เหยี่ยที่ยืนอยู่ที่นั่นได้หัวเราะและพูดขึ้นว่า ”เซี่ยเหล่ยนี่ทำอะไรเกินคาดเสมอก่อนหน้านี้ฉันเองกังวลมากและไม่คิดมาก่อนเลยว่าคุณจะมีความคิดที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้อยู่ในหัวอยู่แล้ว!”
　　เย่คุนได้แสดงสีหน้าที่น่าเกลียดและไม่พอใจอย่างมากนั่นก็เพราะเขารู้ว่าปืนไรเฟิลของบริษัทอาชาสายฟ้าคือปืนไรเฟิล XL2500 นอกจากนี้ถ้าเป็นไปตามที่คาดไว้จะไม่มีปืนไรเฟิลจากบริษัทไหนสามารถเอาชนะปินไรเฟิลของเซี่ยเหล่ยได้!
　　“ประธานเย่ ดูสีหน้าคุณตอนนี้สิ ฮ่าฮ่า!” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดพร้อมกับหัวเราะและชี้ไปที่ใบหน้าของเย่คุน
　　ที่บูธของบริษัทอาชาสายฟ้าหู่ฮั่วกำลังยุ่งอยู่กับการบรรยายเอกลักษณ์และความสามารถของปืนไรเฟิล XL2500 ให้กับทั้งพ่อค้าและผู้เข้าร่วมงานฟังอย่างตั้งใจ และเวลาเดียวกันนี้ถ่างหยู่เหยี่ยก็เดินกลับมาจากบูธของบริษัทฮั่นและเริ่มบรรยายเสริมจากที่หู่ฮั่วพูดไว้ทันที
　　“อะไรนะ?” พ่อค้าชาวอิหร่านที่ได้ยินความสามารถของปืนไรเฟิลกระบอกนี้ว่าสามารถยิงได้ไกลถึง 2,500 เมตร? เขาแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินเลย ในหัวของเขาคิดไปว่า ”ในโลกนี้ไม่มีปืนไรเฟิลซุ่มยิงที่ยิงได้ไกลขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ ”
　　ถ่างหยู่เหยี่ยยิ้มก่อนพูดต่อว่า “อันที่จริงระยะ 2,500 เมตรนั่นไม่ใช่ระยะที่ไกลสุด เพราะจริงๆแล้วมันสามารถไกลได้มากสุดถึง 2,600 เมตร แต่ในระยะที่ 2600 เมตรนั้นประสิทธิภาพของมันยังไม่สมบูรณ์แบบ”
　　ในขณะที่ถ่างหยู่เหยี่ยพูดเป็นภาษาอิหร่านหู่ฮั่วก็คอยแปลเป็นภาษาอังกฤษและพูดให้พ่อค้าคนอื่นๆเข้าใจด้วยเช่นกัน
　　แม้ว่าจะมีผู้คนให้ความสนใจแต่บางคนก็ไม่เชื่อว่าปืนไรเฟิล XL2500 จะสามารถยิงได้ไกลถึง 2500 เมตรจริง
　　ในเวลานี้เสียงของเซี่ยเหล่ยก็ดังขึ้นผ่านลำโพงภายในงานนิทรรศการเป็นภาษาอังกฤษว่า “แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน กระผมเซี่ยเหล่ยเป็นผู้ที่ต้องการทดสอบความสามารถของบริษัทอื่นๆภายในงานขณะนี้มีบริษัทแบร์เร็ต เอฟเอ็นแอสโทรล และเฮ็กเร่อร์แอ็นคอซ ตกลงเข้าร่วมการท้าทายในครั้งนี้แล้วซึ่งหลังจากนี้อีกครึ่งชั่วโมง พวกเราจะไปทำการแข่งขันกันที่ดาดฟ้า เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านเข้าชมด้วยเช่นกัน”
　　คำพูดของเซี่ยเหล่ยที่พูดผ่านไมโครโฟนทำให้ทั้งงานรับรู้สถานที่การแข่งขันรวมถึงเวลาแล้ว ทุกคนต่างพากันขึ้นไปดาดฟ้าทันทีแม้ว่าจะยังไม่ถึงเวลาก็ตาม นั่นก็เพื่อจับจองพื้นที่ในการรับชม แน่นอนว่าพวกเขาให้ความสนใจกับการแข่งขันที่มีเงินเดิมพันมากถึง 20 ล้านยูโร
　　พ่อค้าชาวอิหร่านพูดกับถ่างหยู่เหยี่ยว่า“ถ้าหากปืนไรเฟลของคุณสามารถยิงได้ไกลถึง 2,500 เมตรจริง ผมจะขอซื้อมันจากคุณจำนวนมหาศาลและหลังจากนั้นพวกเราจะกลายเป็นพันธมิตรซึ่งกันและกัน”
　　ถ่างหยู่เหยี่ยตอบว่า “แน่นอนว่าคุณจะต้องได้เห็นประสิทธิภาพของมันก่อนที่จะซื้อ ดังนั้นโปรดขึ้นไปบนดาดฟ้า ประธานเซี่ยจะแสดงประสิทธิภาพของปืนไรเฟิลให้คุณเห็นเอง”
　　พ่อค้าชาวอิหร่านตอบว่า “ตกลง ผมจะไปดู”
　　จังหวะนี้อินเตอร์คอมของถ่างหยู่เหยี่ยได้ยินเสียงพูดของเซี่ยเหล่ยว่า “หยู่เหยี่ย นำปืนไรเฟิล XL2500 สองกระบอกมาให้ผมหน่อย”
　　“อื้ม ฉันจะรีบขึ้นไป” ถ่างหยู่เหยี่ยตอบพร้อมกับหันไปพูดกับหู่ฮั่วว่า “หู่ฮั่ว คุณคอยดูแลและจัดการอยู่ที่นี่ก่อนนะ ฉันจะนำปืนไรเฟิลไปให้เซี่ยเหล่ยบนดาดฟ้าก่อน”
　　หู่ฮั่วยิ้มและพูดว่า “ไม่มีปัญหา คุณไปเถอะ!”
　　ถ่างหยู่เหยี่ยรีบเก็บปืนสองกระบอกใส่กล่องพลาสติกสีดำพิเศษอย่างรวดเร็วพร้อมกับเดินไปขึ้นลิฟต์
　　ตรงทางเข้าห้องโถงเย่คุนมองดูถ่างหยู่เหยี่ยด้วยสายตาแห่งความริษยาก่อนหน้านี้เขาทั้งหัวเราะและเยาะเย้ยโรงงานบริษัทอาชาสายฟ้าที่ไม่มีใครสนใจแม้แต่น้อย แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในตอนนี้พลิกกลับ ทำให้เขาหัวเราะไม่ออกด้วยซ้ำ
　　“ประธานเย่ คุณต้องการขึ้นไปดูด้วยหรือไม่?” เฉียนเหม่ยถามอย่างระมัดระวัง
　　เย่คุนกระทืบเท้าและพูดอย่างไม่พอใจว่า “เพื่ออะไรหล่ะ? สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือทำลายแผนการของเซี่ยเหล่ยให้เร็วที่สุดและดูเหมือนว่าเราจะมีเวลาไม่มากแล้ว!”
　　ริมฝีปากของเฉียนเหม่ยขยับทันทีแต่อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ออกเสียงคำที่เธอจะพูดออกมา…. 　　ติดตามตอนต่อไป…….