Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 331
TXV – 331 กลับสู่อัฟกานิสถาน !
ในวันนี้สภาพอากาศไม่ค่อยดีนักแต่เครื่องบินขนส่งทางการทหารก็เทคออฟเพื่อไปยังชายแดน
บนเครื่องบินมีผู้โดยสารพิเศษคนหนึ่ง นั่นก็คือฉือโบเหยียนโดยมีเซี่ยเหล่ยนั่งอยู่ด้านข้าง
ถ่างปั่วฉ่วนและหลงบิงนั่งอยู่ด้วยกันส่วนที่น่าและแคนลามี่ก็นั่งอยู่มุมหนึ่งภายในห้องโดยสาร
ที่น่าในตอนนี้ถือกล่องไม้ที่ใส่ดาบอาทิสล่าเอาไว้แน่น สิ่งที่เธอถืออยู่นี้มีค่าเท่ากับซีวิตของเธอ
แคนลามี่เองได้มองไปที่เซี่ยเหล่ยและฉือโบเหยียนที่กําลังนั่งคุยกันอยู่ เธอพยายามอ่านปากของผู้ชายทั้งสองว่ากําลังคุยอะไรกันอยู่ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถอ่านปากและรู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
ฉือโบเหยียนที่กําลังพูดอยู่กับเซี่ยเหล่ยนั้น เขาพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าหน้าที่ที่ยากลําบากจะสําเร็จลุล่วงไปขั้นหนึ่งแล้ว ผมไม่อยากให้คุณสิ้นสุดการทํางานให้กับเราเลย และด้วยความสําเร็จของคุณในครั้งนี้ ผมได้เสนอเบื้องบนเกี่ยวกับเรื่องโรงงานผลิตอาวุธของคุณ ดูเหมือนว่ามันจะมีอะไรดีๆในเร็วๆนี้”
เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ตอนแรกผมคิดว่าจะกลับไปอัฟกานิสถานหลังจากเข้าร่วมพิธีตัดริบบิ้นแต่ในเมื่อไม่มีเวลามากพอผมจึงต้องรีบกลับอัฟกานิสถานทันที่ที่เป็นไปได้ ถึงอย่างนั้นผมก็อยากจะบอกคุณอีกครั้งว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ผมจะทําภารกิจให้กับคุณ”
คิ้วของฉือโบเหยียนขมวดเล็กน้อยพร้อมพูดขึ้นว่า “คุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมและมีประสิทธิภาพอย่างมาก ประเทศของเราก็ต้องการคนอย่างคุณถือว่าที่คุณพูดมาเมื่อกี้นี้ผมไม่ได้ยินก็แล้วกันนะ แถมการที่คุณทํางานให้กับเราคุณจะได้อภิสิทธ์เพิ่มมากกว่าคนทั่วไปด้วย และที่สําคัญเรื่องดีๆที่ผมจะบอกก็คือเราจะมีคําสั่งซื้อปืนพกสั้นอีกหนึ่งหมื่นกระบอก คุณคิดว่ายังไงบ้างหล่ะ?
มีคําสั่งซื้อปืนพกสั้นถึงหนึ่งหมื่นกระบอกถ้าปืนหนึ่งกระบอกมีราคา 2000 หยวนด้วยคําสั่งซื้อนี้จะทําให้ได้เงินทั้งหมด 20 ล้านหยวน ด้วยคําสั่งที่มากขนาดนี้จะทําให้ต้องหาคนงานมาเพิ่มสําหรับการผลิต เพื่อจะไม่ให้มีความผิดพลาดเหมือนกับตอนผลิตปืนไรเฟิลที่มีประสิทธิภาพสูง ดังนั้นคําสั่งซื้อนี้จึงมีความสําคัญและความหมายอย่างมาก
หากปฏิเสธฉือโบเหยียนไป คําสั่งซื้อขนาดนี้ก็จะหายไปด้วยเช่นกัน เซี่ยเหล่ยไม่อยากพลาดโอกาสนี้ เนื่องจากเขาลงทุนไปแล้วกว่าหนึ่งพันล้านนอกจากนี้ยังมีวิศวกร ช่างเทคนิค และบุคลากรต่างๆที่ยังต้องจ่ายเงินเดือนให้ นี่เป็นปัญหาที่ต้องหาทางแก้ไขและมันยังเป็นปัญหาที่ยุ่งยากอีกด้วย
“ผู้บริหารฉือ คุณกําลังยื่นข้อเสนอที่ล่อตาล่อใจให้กับผมใช่มั้ยเนี่ย?” เซี่ยเหลี่ยพยายามพูดให้ดูตลกและลองถามเขาไปว่า ” คุณต้องการให้ผมทําอะไรอีกงั้นเหรอ? ”
ฉือโบเหยียนยิ้มก่อนพูดขึ้นว่า “ภารกิจนี้ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด คุณสามารถทํามันได้ตลอดเวลาเลยด้วย”
เซี่ยเหล่ยกําลังรอฟังอยู่ว่าหน้าที่ของเขานั้นคืออะไร
“หลังจากภารกิจช่วยเหลือตัวประกันจบลงแล้ว ผมรู้ว่าคุณอยากพักแต่หน้าที่มันยังไม่จบหรอกนะ คุณจะต้องอยู่ที่อัฟกานิสถานต่อ” ฉือโบเหยียนพูดต่อทันทีว่า “เรื่องของถ่างหยู่เหยี่ย คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ หลงบึงและถ่างปั่วฉ่วนจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง ส่วนสิ่งที่คุณต้องทําก็คือการขุดสิ่งของที่อยู่ในเมืองเก่าในซากโบราณสถาน”
“ ตกลง ผมยอมรับข้อเสนอ” เซี่ยเหล่ยพูดนี่คือสิ่งที่เขาต้องทําเพื่อให้ได้คําสั่งซื้อปืนพกสั้นจํานวนหมื่นกระบอก
ฉือโบเหยียนจ้องไปที่เซี่ยเหล่ยและพูดต่ออีกว่า “คุณรู้หรือไม่ว่าจะต้องขุดหาอะเอะไร?”
เซี่ยเหล่ยยิ้มแล้วพูดว่า “คุณอย่าลืมว่าผมกับหนิงจิงเป็นเพื่อนกันในช่วงเวลาที่ถูกจับอยู่ที่ชนเผ่าเฮปตาไลท์เธอพอจะเล่าเรื่องให้ฟังมาบ้างแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจทั้งหมด ผมรู้เพียงแต่ว่าต้องใช้เข็มทิศเพื่อให้มันชี้ตําแหน่งจุดที่เราจะต้องทําการค้นหา”
“หากแสร้งว่ายังไม่รู้เรื่องทั้งหมดคงจะดีกว่า” เซี่ยเหลี่ยคิดในใจ
มุมปากของฉือโบเหยียนปรากฏรอยยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “คุณพูดถูกแล้ว ในการค้นหาเราจําเป็นจะต้องใช้เข็มทิศอันนี้เท่านั้น คุณต้องรู้วิธีใช้งานมันและคุณจะต้องทําภารกิจนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ สุดท้ายสิ่งที่ผมจะบอกคุณก็คือ สิ่งที่ได้จากการค้นหาจะตกเป็นของประเทศและคุณจะต้องนํามันกลับมาอย่างปลอดภัย”
“ไม่มีปัญหา” เซี่ยเหลี่ยพูดและหันไปถามต่อทันทีว่า “ผู้บริหารือ คุณบอกได้หรือไม่ว่ามันมีมากหรือน้อยแค่ไหน?”
ฉือโบเหยียนแสดงท่าทางเคร่งขรึมก่อนตอบอย่างจริงจังว่า “เรื่องนั้นคุณไม่จําเป็นจะต้องรู้ สิ่งที่คุณต้องรู้และต้องทําคือการทําภารกิจนี้จนสําเร็จลุล่วงก็เท่านั้น”
เซี่ยเหลี่ยตอบกลับไปว่า “อืม ผมรู้แล้วว่าจะต้องทําอย่างไร”
“คุณต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกมั้ย ตราบที่มันยังเกี่ยวข้องกับหน้าที่ ผมจะจัดเตรียมให้คุณจนกว่าคุณจะพอใจ” ฉือโบเหยียนพูด
เซี่ยเหลี่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบไปว่า “ถ้าต้องการให้ภารกิจสําเร็จลุล่วงและเป็นไปได้ด้วยดี คุณจะต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชนเผ่าเฮปตาไลท์และเพื่อการนี้ผมจะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กขึ้นที่ชนเผ่าเฮปตาไลท์และยังมีอุปกรณ์ยิบย่อยอีกหลายอย่างซึ่งเรื่องนี้ผมได้จัดการซื้อไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่การขนส่งมันเป็นเรื่องที่ยากลําบาก คุณสามารถช่วยผมจัดการเรื่องนี้ได้หรือไม่?”
ฉือโบเหยียนตอบว่า “เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ผมจะจัดการให้เอง”
แต่เซี่ยเหล่ยพูดอย่างเป็นกังวลต่อว่า “น่านฟ้าของอัฟกานิสถานเกือบทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมและดูแลจากกองทัพสหรัฐ มันจะไม่มีปัญหาในการขนส่งใช่มั้ย?”
“กองกําลังสหรัฐไม่ใช่ทุกอย่างบนโลกใบนี้ ดังนั้นคุณไม่จําเป็นจะต้องกังวลไป” ฉือโบเหยียนตอบ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกโล่งและแอบถอนหายใจเบาๆ จริงๆเหตุผลหลักเลย ก็คือเรื่องค่าใช้จ่ายในการขนส่งและจะใช้เวลานานขนาดไหนหากให้เอกชนเป็นผู้จัดส่ง แต่ถ้ามีคําสั่งของรัฐบาลโดยตรง ก็คงจะช่วยได้ไม่น้อย
พวกเขายังคงคุยรายละเอียดกันต่อไป
เครื่องบินขนส่งทางทหารลงจอดในฐานทัพของชายแดน
ในฐานทัพทหาร ถ่างปั่วฉ่วนได้จัดเสื้อผ้าให้กับเซี่ยเหล่ย ทีน่า และแคนลามี่ ทั้งสามคนก็ได้จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเอง ทุกคนได้รับการแต่งหน้าให้เหมือนกับคนในอัฟกานิสถาน เซี่ยเหล่ยถูกทาผิวให้เป็นสีเหลืองพร้อมกับติดหนวดเคราและผูกผ้าที่หัว ตอนนี้เขากลายเป็นคนของอัฟกานิสถานอย่างชัดเจน
ที่น่าและแคนลามี่เองก็ได้รับการแต่งหน้า ช่างแต่งหน้าได้แต่งหน้าให้พวกเขาดูน่าเกลียดมากขึ้น หลังจากแต่งหน้าเสร็จพวกเธอก็ได้ใส่เสื้อผ้าแบบผู้หญิงชาวอัฟกานิสถาน ตรงหัวก็ต้องใส่ผ้าคลุมหน้าซึ่งมีเพียงแค่ดวงตาเท่านั้นที่คนภายนอกจะมองเห็นพวกเธอ
ตอนนี้ปืนของที่น่าและแคนลามี่ได้กลับมาอยู่ในมือของพวกเธอเหมือนเดิมแล้ว เพราะถ่างปั่วฉ่วนจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย
เซี่ยเหล่ยเองก็ได้อาวุธและอุปกรณ์ต่างๆด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นปืนไรเฟิลของเขา อุปกรณ์สําหรับลาดตระเวนและการลอบสังหาร โทรศัพท์ดาวเดียม อุปกรณ์การสื่อสาร กล้องสําหรับมองในเวลากลางคืน แบตสํารองและอื่นๆอีกมากมาย ด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ทําให้พวกเขาไม่ต้องกังวลแม้ว่าชนเผ่าเฮปตาไลท์จะไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสัญญาณมือถือในการโทรก็ตาม
ทุกอย่างถูกเตรียมการเรียบร้อยหมดแล้ว………..
จังหวะนี้หลงบึงก็ได้เรียกเซี่ยเหล่ยพร้อมพูดกับเขาว่า “ถึงแม้ว่าเราจะเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว แต่คุณก็ต้องระมัดระวังอยู่ดีเพราะหลังจากที่ถ่างหยู่เหยี่ยนตัวนักวิจัยออกมาได้แล้ว คุณจะต้องดูแลตัวเองในชนเผ่าที่นั่นเราไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้”
เซี่ยเหลี่ยพยักหน้าพร้อมพูดว่า “อืม…คุณเองก็ดูแลตัวเองด้วย อย่าเป็นอะไรไปซะก่อนหล่ะ”
หลงบึงยิ้มเล็กน้อยแต่แค่ชั่วพริบตาเท่านั้น เธอก็กลับมาทําหน้าปกติแล้วพูดว่า “ฉันมีบางเรื่องที่เกี่ยวกับเฉินตูเทียนหยินจะบอกคุณ คุณต้องการจะรู้หรือไม่?”
เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “เรื่อง…”
“เธอกลับมาประเทศจีนแล้ว แต่เธอและบริษัทก็อดโดเมนยังคงร่วมมือกันทางธุรกิจอยู่ มันไม่ถูกยกเลิกตามที่พูดไว้แถมหลังจากกลับมาแล้วเธอยังโทรหาคุณอีกสามครั้งด้วย แต่คุณไม่ได้รับสาย”
“อื้ม ผมจะไปพบเธอในภายหลังและจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น” เซี่ยเหลี่ยพูดพร้อมแสดงท่าทางลําบากใจเพราะเหมือนกับเขาหลอกใช้เฉินตูเทียนหยินในการขโมยดาบอาทิสล่า
หลงบึงพูดว่า “คุณจะให้ฉันเป็นคนบอกเธอก่อนหรือไม่?”
เซี่ยเหลี่ยสายหัวพร้อมพูดทันทีว่า “ไม่ ผมจะเป็นคนบอกเอง”
“โอเค คุณไปได้แล้ว” หลงบึงพูด
ในขณะเซี่ยเหลี่ยเดินออกไป ดูเหมือนว่าหลงบึงต้องการจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดออกไป
หลังจากนั้นไม่นานก็มีม้าสามตัววิ่งออกจากฐานทัพในเขตชายแดนของประเทศจีนโดยมีเป้าหมายอยู่ที่เวิคส์ฮาน คอร์เด่อของอัฟกานิสถาน
ในความเป็นจริงเซี่ยเหล่ยได้เสนอแผนให้บินข้ามประเทศไปยังอัฟกานิสถานโดยตรงแต่แผนการได้ถูกฉ้อโบเหยียนหยุดเอาไว้ นั่นก็เพราะอัฟกานิสถานถูกกองทัพของสหรัฐควบคุมไว้ทั้งหมด หากจะเสี่ยงเดินทางไปก็ได้แต่เมื่อคิดถึงผลที่จะตามมามันได้ไม่คุ้มเสีย พวกเขาจึงต้องใช้ม้าในการเคลื่อนที่แม้ว่าจะเพิ่มระยะเวลาในการเดินทางแต่มันค่อนข้างที่จะปลอดภัย
ส่วนเรื่องอุปกรณ์สําหรับการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กนั้น การขนส่งก็ดู จะเป็นไปอย่างยากลําบาก เหตุผลเดียวกันก็คือมีกองทัพสหรัฐเป็นผู้ดูแลและควบคุมน่านฟ้า
หลังจากออกเดินทางได้ไม่นาน ที่น่าเป็นคนนําขบวน แคนลามี่ได้หันไปมองเซี่ยเหล่ยที่ควบม้าอยู่ท้ายขบวนเธอพูดกับเขาไปว่า “เซี่ยเหลี่ยมาแข่งกันดีกว่า! ถ้าคุณแพ้ฉัน ฉันจะเป็นผู้หญิงของคุณ! “
เซี่ยเหล่ยส่ายหัว
“ถ้างั้นถ้าฉันตามคุณทัน คุณจะเป็นผู้ชายของฉันไหม?” แคนลามี่ถาม
เซี่ยเหล่ย “…”
จังหวะนี้ที่น่าเองก็ชะรอความเร็วและหันไปพูดกับเซี่ยเหล่ยว่า “เซี่ยเหลี่ย ชายบนเครื่องบินคนนั้นคือใคร?”
เซี่ยเหลี่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบไปว่า “สิ่งที่ผมจะบอกคุณได้ก็คือเขามีฐานะเหมือนกับหัวหน้าของเหล่า CIA ผมพูดแบบนี้แล้วคุณเข้าใจหรือไม่?”
“อื้ม…แล้วบนเครื่องบินสิ่งที่คุณกับเขาพูดกันคือ?” ที่น่าถามต่อ
เซี่ยเหล่ยพยายามเลี่ยงตอบความจริงทั้งหมดทําให้เขาตอบเธอไปว่า “ก็ไม่มีอะไรมาก มันก็คือเรื่องที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กให้กับพวกคุณนั่นแหละ และก็ยังมีพวกเรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมอย่างเช่น เครื่องทําน้ำอุ่นหรือทีวีอะไรพวกนี้”
“ว้าวว!” แคนลามี่อุทานอย่างดีใจและพูดต่อว่า “เซี่ยเหล่ย คุณจะนํามาให้พวกเราจริงๆใช่ไหม? งั้นฉันจะตอบแทนคุณโดยการเป็นผู้หญิงของคุณก็แล้วกัน”
เซี่ยเหลี่ยได้ยินที่เธอพูดก็ตกใจเล็กน้อย นั่นทําให้เขาเสียหลักและเกือบที่จะตกม้า
ติดตามตอนต่อไป…