cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 290

  1. Home
  2. All Mangas
  3. Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร
  4. ตอนที่ 290
Prev
Next

TXV – 290 เผชิญหน้ากองกำลังติดอาวุธ !

 

        เมื่อออกจากหมู่บ้านแล้ว ตอนนี้มีรถเพิ่มขึ้นมาสองคันจากรถฟอร์ดของเซี่ยเหล่ย ถ่างหยู่เหยี่ยและเจ้าหน้าที่โดยรถที่เพิ่มมานั้นเป็นรถกระบะที่มีปืนกลหนักติดตั้งอยู่โดยคันหนึ่งขับนำขบวนและอีกคันหนึ่งขับท้ายขบวนโดยมีรถของเซี่ยเหล่ย ถ่างหยู่เหยี่ยและเจ้าหน้าที่อยู่ตรงกลาง

 

        โดยตลอดทางที่ขับผ่านมา พวกเขาเจอจุดตรวจของเผ่าไบซีหลายแห่งแต่ด้วยการนำขบวนทำให้สามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ทำให้การเดินทางของพวกเขาเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วแต่ก็เป็นเฉพาะแค่ช่วงเช้าที่สามารถทำความเร็วแบบนี้เพราะเมื่อช่วงบ่ายความเร็วก็ต้องลดลงเพราะพวกเขาได้ออกจากเขตของเผ่าไบซีแล้ว

 

        หลังจากขับไปไกลอีกกว่า 100 กิโลเมตรพวกเขาก็เจอกับหุบเขาที่ซับซ้อนและสูงชันนั่นจะทำให้การนำทางเป็นไปได้ยากและต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นด้วยเป็นเหตุให้พวกเขาจึงลดความเร็วลง

 

        “เราไปตามทางจะดีที่สุดหลังผ่านไปได้คิดว่าเราน่าจะถึงภูเขาบาเมียนในตอนค่ำ” คาบูพูดผ่านเครื่องสื่อสารขนาดเล็ก

 

        ถ่างหยู่เหยี่ยก็ถามผ่านเครื่องสื่อสารเหมือนกันว่า “เร็วกว่านี้อีกได้มั้ย?”

 

        คาบูตอบกลับมาว่า “ไม่ได้ ที่นี่เป็นเขตการดูแลของพวกเซ้นไอดร้าถ้าเราเร่งมากกว่านี้อาจจะทำให้ถูกเจอตัวได้ นั่นจะทำให้เราลำบากมากกว่าเดิม”

 

        “เราขอผ่านทางจากพวกเขาไม่ได้อย่างนั้นเหรอ” ถ่างหยู่เหยี่ยถาม

 

        คาบูได้ยิ้มกับตัวเองก่อนที่จะพูดออกมาว่า “คุณต้องเข้าใจพวกเขาก่อนว่า พวกเขาเห็นคนทั้งหมดบนโลกเป็นศัตรู”

 

        ทั้งคู่ยังคงใช้ภาษาพาสโตในการพูดคุยแม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะสามารถจำคำศัพท์ได้มากขึ้นแล้วแต่ก็ยังไม่มากพอที่จะฟังแล้วเข้าใจทั้งหมดได้ด้วยความสามารถของเขาทำให้เขาสามารถเรียนรู้ภาษาใหม่ได้อย่างรวดเร็วกว่าคนทั่วไป

 

        ในขณะที่ถ่างหยู่เหยี่ยและคาบูคุยกันนั้น เซี่ยเหล่ยเองก็ยังคงระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เขาใช้สายตาของเขาสาดส่ายไปทั่วทั้งสองข้างทางโดยที่ทั้งสองข้างทางในตอนนี้เป็นยอดเขาที่มีความสูงถึงสองกิโลเมตร นั่นทำให้ที่นี่ดูอันตรายมากยิ่งขึ้น และเนื่องจากมันสูงมากขนาดนั้นจึงทำให้แสงส่องลงมายังพื้นถนนได้น้อยมาก ทำให้บรรยากาศรอบๆค่อนข้างมืดมัว…..

 

        จากการระมัดระวังตัวของเซี่ยเหล่ย ทำให้เขาหันไปเห็นชายคนหนึ่งที่สวมผ้าคลุมหัวและปิดหน้าด้วยผ้าสีดำที่กำลังถือกล้องส่องทางไกลและกำลังมองมาที่เซี่ยเหล่ยอยู่เหมือนกัน เขาอยู่ตรงทิศสิบนาฬิกาจากเซี่ยเหล่ยพอดี ที่ไหล่ของชายคนนั้นมีปืน AK-47 สะพายอยู่ที่ไหล่ด้วย

 

        เมื่อเป็นแบบนี้เซี่ยเหล่ยก็ตะโกนผ่านเครื่องสื่อสารขนาดเล็กไปทันทีว่า “เซ้นไอดร้า! เซ้นไอดร้า! หยุดรถก่อน!”

 

        ภาษาที่เขาพูดในตอนนี้คือภาษาพาสโตเขาพูดออกมาเองโดยไม่จำเป็นที่จะต้องให้ถ่างหยู่เหยี่ยหรือคาบูแปลให้

 

        “อยู่ที่ไหนหล่ะ?” ถ่างอยู่เหยี่ยถามออกมาด้วยความตระหนกและเครียดในเวลาเดียวกัน

 

        เซี่ยเหล่ยยังคงมองไปยังที่เดิมพร้อมพูดอีกครั้งว่า “ทิศ10นาฬิกา”

 

        ในความเป็นจริงการที่เขามองผ่านกล้องส่องทางไกลนั้นมีประสิทธิภาพน้อยกว่าการที่เขามองด้วยตาของเขาเองเพราะมันเห็นได้ชัดเจนมากกว่า

 

        รถทุกคันหยุดอยู่กับที่ ด้านเจ้าหน้าที่เมื่อลงจากรถแล้วก็เตรียมตัวทุกอย่างให้พร้อมเพื่อเตรียมที่จะเข้าสู่สภาพพร้อมรบ

 

        ถ่างหยู่เหยี่ย เซี่ยเหล่ย และคาบูพร้อมกับคนของเขาก็ลงจากรถเช่นกัน เมื่อลงจากรถแล้วถ่างหยู่เหยี่ยและเซี่ยเหล่ยก็เดินเข้าไปด้านข้างคาบูในขณะนี้ คาบูเองก็กำลังส่องกล้องส่องทางไกลอยู่เหมือนกันจากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “นอกจากนี้ยังมีอีกที่ทิศสองนาฬิกา”

 

        ในจังหวะนี้ถ่างหยู่เหยี่ยได้คว้ากล้องส่องทางไกลมาจากมือของเซี่ยเหล่ย เซี่ยเหล่ยเองก็ไม่สนใจแต่เขากลับเดินไปที่รถฟอร์ดคันที่เขานั่งมาแทน

 

        เมื่อไปถึงที่รถเขาก็เดินไปด้านหลังจากนั้นก็หยิบปืนไรเฟิลที่เขาใช้ขึ้นมาพร้อมกับกระสุนสำรองจำนวนหลายนัด ในขณะนี้เขาได้เตรียมแผนการทั้งหมดไว้แล้ว……

 

        คาบูมองไปที่เซี่ยเหล่ยจากนั้นก็รีบพูดทันทีว่า “ไม่…อย่าใช้มันทำร้ายพวกเขา บางทีเราอาจจะผ่านไปได้โดยไม่ต้องใช้กำลัง ผมจะไปลองส่งคนเจรจากับพวกเขาดูก่อน “

 

        ถ่างหยู่เหยี่ยแปลคำพูดของคาบูให้เซี่ยเหล่ยฟัง

 

        เซี่ยเหล่ยพูดว่า “พวกเขาจะให้เราผ่านงั้นเหรอ?

 

        ถ่างหยู่เหยี่ยตอบว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันให้คาบูจัดการก่อนก็แล้วกันส่วนตอนนี้คุณอย่าทำอะไรวู่วามจะดีกว่า”

 

        เซี่ยเหล่ยพยักหน้าแต่ความคิดของเขายังคงเหมือนเดิม เขาพยายามที่จะมองไปทั้งด้านซ้ายและด้านขวาเพื่อที่จะหาจุดซุ่มยิงที่ดีและเหมาะสมที่สุดจากภูมิประเทศตรงนี้

 

        หลังจากที่คาบูบอกเซี่ยเหล่ยหมดทุกอย่างแล้ว เขาก็ส่งลูกน้องของเขาออกไป

 

        ไกลจากจุดที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ตรงบริเวณถนนเส้นเดียวกันก็ได้มีชายผูกผ้าที่หัวและคลุมหน้าหลายคนกำลังขี่ม้าอยู่ พวกเขาติดอาวุธด้วยทุกคน

 

        คาบู ส่งลูกน้องของเขาออกไปเพื่อให้เดินยังพวกกองกำลังเซ้นไอดร้าที่อยู่ข้างหน้าเมื่อเดินใกล้เข้าไปมากแล้วแต่พวกเขาก็ไม่ได้ยกอาวุธขึ้นมาต่อสู้

 

        เมื่อคาบูเห็นว่าลูกน้องของเขาเข้าไปใกล้ขนาดนั้นแล้วยังปลอดภัยอยู่ เขาก็พูดขึ้นว่า “ผมคิดว่าพวกเขาคงต้องการเงินดังนั้นผมจึงส่งลูกน้องออกไปเพื่อต่อรอง ผมคิดว่าน่าจะต้องใช้เงินราวๆหมื่นเหรียญเพื่อเป็นการผ่านทาง คุณคิดว่ายังไงบ้าง? “

 

        ถ่างหยู่เหยี่ยตอบไปว่า “ไม่มีปัญหาอะไรเลย” เพราะด้วยเงินแค่นี้เธอสามารถจ่ายได้แต่ถ้าเป็นเงินล้านเหรียญดอลล่าแบบค่าจ้างก่อนหน้านี้ คงจะหาไม่ได้พวกเขาไม่ได้

 

        “เยี่ยม” คาบูดูเหมือนจะผ่อนคลายมากขึ้นจากนั้นก็พูดต่อว่า “ที่นี่ในบางครั้งก็สามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้”

 

        ตอนนี้เซี่ยเหล่ยเดินขึ้นไปบนเนินเขาด้านขวาพร้อมกับปืนไรเฟิลและกระสุนที่เขาเตรียมไว้

 

        ถ่างหยู่เหยี่ยที่เห็นเซี่ยเหล่ยเดินออกไปก็ถามไปว่า “คุณจะไปที่ไหน? คุณจะทำอะไรหน่ะ? “

 

        เซี่ยเหล่ยพูดไปโดยที่ไม่ได้หันหลังกลับ “ผมจะไปตรงนั้น คุณจะไปด้วยมั้ย?”

 

        ถ่างหยู่เหยี่ย “…… “

 

        บนถนนที่ไกลออกไป กลุ่มชายหลายคนที่ติดอาวุธอยู่บนหลังม้ามีคนหนึ่งได้ลงจากม้าและตรงไปปลดอาวุธของลูกน้องของคาบูที่ถูกส่งออกไปเพื่อเจรจา

 

        นั่นทำให้คาบูพูดผ่านเครื่องสื่อสารขนาดเล็กว่า “บอกกับพวกเขาว่าเราคือเผ่า ไบซี พร้อมแสดงหลักฐานด้วยหล่ะ แล้วบอกไปอีกว่าเราไม่ต้องการที่จะต่อสู้แล้วค่อยเสนอเงินให้พวกเขาไปหมื่นเหรียญเพื่อปล่อยให้พวกเราผ่านไป”

 

        คนของเซ้นไอดร้าได้รับรู้ถึงสิ่งที่ลูกน้องของคาบูบอกไปแล้ว เขาหันไปคุยกับคนของเขาที่อยู่บนหลังม้าอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ได้มีชายอีกคนลงมาจากหลังม้าพร้อมอาวุธเดินมาด้านข้างจากนั้นก็จับลูกน้องของคาบูให้นอนลงกับพื้นพร้อมหยิบมีดออกมาแทงตรงบริเวณเอว

 

        ฝ่ายเซ้นไอดร้าคนแรกที่มาปลดอาวุธก็ได้หยิบดาบขึ้นมาพร้อมกับฟันไปที่บริเวณคอของลูกน้องของคาบูด้วยเช่นกัน

 

        นั่นทำให้หัวของลูกน้องของคาบูที่ถูกส่งออกไปเจรจาหลุดออกมาทันทีพร้อมกับเลือดที่สาดกระเด็นออกมาแบบไม่มีหยุด

 

        “ไอเวนนี่!” คาบูตะโกนออกมาด้วยความโกรธพร้อมพูดต่อว่า “ทำบ้าอะไรหน่ะ?!”

 

        คนของกลุ่มเซ้นไอดร้าได้หยิบเรื่องสื่อสารขนาดเล็กขึ้นมาพร้อมพูดออกไปว่า “คนเผ่าไบซีพวกคุณนั้นมีชาติกำเนิดแตกต่างจากพวกเรา คุณต้องถูกลงโทษจากเทพเจ้า พวกคุณพร้อมกับคนที่พามาด้วยจะต้องตายทั้งหมดที่นี่! “

 

        “เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้!” ทั้งถ่างหยู่เหยี่ยและคาบูสั่งออกมาเกือบจะพร้อมกันเพียงแต่คนละภาษาก็เท่านั้น

 

        กองกำลังของเซ้นไอดร้าที่ได้ตัดหัวไปก่อนหน้านี้ได้ยกหัวแม่มือขึ้นพร้อมกับพลิกคว่ำลงนี่เป็นสัญญาณที่ส่งไปให้พวกเดียวกัน

 

        ปัง !!! กระสุนปืนถูกยิงออกมา

 

        ในตอนนี้ชายที่เพิ่งฟันคอลูกน้องของคาบูก็มีรูขนาดใหญ่ที่หน้าอก กระสุนได้ทะลุผ่านหัวใจของเขาไปเมื่อครู่นี้เขาเพิ่งจะเป็นคนที่ฆ่าคนของเผ่าไบซีแต่ตอนนี้กลับถูกฆ่าเสียเอง

 

        หลังจากกระสุนทะลุผ่านหัวใจไป เขาก็ล้มลงกับพื้นทันทีทำให้พวกนักรบของ เซ้นไอดร้ารู้สึกไม่พอใจเช่นกัน พวกเขาตะโกนโห่ร้องออกมานั่นทำให้กำลังเสริมของพวกเขากำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ไกลราว 1500 เมตรทำให้ไม่สามารถที่จะยิงได้แต่ถ้าระยะ70-80พวกเขาจะสามารถยิงได้แน่นอนและด้วยพื้นที่ที่พวกเขาคุ้นเคยก็จะทำให้พวกเขาขยับเข้ามาใกล้ได้ภายในเวลาไม่นาน

 

        กลุ่มเซ้นไอดร้าที่กำลังขี่ม้าเข้ามาหานั้นได้ใช้มือหนึ่งบังคับม้าและใช้อีกมือหนึ่งหยิบ AK-47 ขึ้นมายิง เขากราดออกไปทั่วโดยไม่กลัวความตาย

 

        ปัง!! กระสุนปืนตรงไปที่หัวของเขาและทะลุผ่านไปนั่นทำให้เขาล้มลงจากหลังม้าทันที

 

        หลังจากล้มลงจากม้าแล้ว ม้าก็ได้วิ่งพล่านไปทั่วเนื่องจากไม่มีคนบังคับและศพที่ตกลงมามีเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ

 

        หลังจากนั้นอีกหนึ่งวินาทีนักรบเซ้นไอดร้าก็ตกจากหลังม้าเพิ่มอีกคน

 

        นักรบเซ้นไอดร้าที่อยู่บนหลังม้าที่เหลือเมื่อเห็นว่าเพื่อนของพวกเขาโดนยิงจนตกม้าไปหลายคนแล้วก็หยุดม้าลงด้วยความตกใจ

 

        แม้ว่าจะเป็นนักรบของเซ้นไอดร้าที่เลื่องลือแต่การที่พวกเขาหยุดม้าไว้แบบนี้ก็เพราะพวกเขาเองก็กลัวความตายเช่นกัน

 

        ปัง! ปัง! กระสุนอีกสองนัดถูกยิงออกมาพร้อมกันนั่นทำให้นักรบของเซ้นไอดร้า อีกสองคนถูกยิงจนตกหลังม้าทันที

 

        “เพื่อนของคุณน่าทึ่งจริงๆ!” คาบูพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นและถามต่อว่า “เขาทำงานเป็นนักฆ่ามืออาชีพงั้นเหรอ?”

 

        ถ่างหยู่เหยี่ยตอบว่า “ไม่เลย…เขาก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นสามีของฉัน”

 

        “หืมม?” คาบูส่งเสียงในลำคออย่างประหลาดใจ

 

        ปังปังปังปังปัง!! เสียงปืนได้ดังขัดจังหวะการพูดคุยระหว่างทั้งคู่ พลทหารปืนกลได้ยิงปืนกลหนักที่ติดตั้งอยู่ที่รถกระบะด้วย เขากลาดยิงออกไปจนทั่ว

 

        เสียงปลอกกระสุนที่ถูกยิงจนหล่นลงพื้นจนดังกริ๊งๆๆตลอดเวลา

 

        แต่ไม่นานหลังจากที่เขาไปยืนกราดยิงปืนกลหนักที่ติดตั้งไว้กับรถกระบะ เขาก็ถูกยิงด้วยปืนไรเฟิลเหมือนกัน กระสุนตรงเข้าที่หัวของเขาและทะลุผ่านไปนั่นเป็นสาเหตุทำให้เขาล้มลงทันที

 

        ด้วยระยะการยิงของปืนไรเฟิลที่มีระยะหวังผลมากกว่าระยะยิงของปืนกลหนักและเขาเองก็อยู่กับที่ในที่ที่สามารถมองเห็นได้ง่าย นั่นจึงทำให้เขาเป็นเป้าสายตาจากศัตรู

 

        “มีสไนเปอร์ซ่อนตัวอยู่!” ถ่างหยู่เหยี่ยรีบตะโกนเตือนให้ทุกคนรับรู้และตัวเธอเองก็รีบวิ่งไปหลบซ่อนอยู่ที่หลังหินก้อนหนึ่ง

 

        เหล่าเจ้าหน้าที่เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน พวกเขาก็ได้รีบหากำบังของตัวเองด้วยเหมือนกันด้านลูกน้องของคาบูบางคนที่เชื่องช้าก็หากำบังไม่ทันก็มีถูกยิงล้มไปบางส่วน

 

        เมื่อเทียบกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานลับ 101 แล้วนักรบของเผ่าไบซีมีศักยภาพน้อยกว่าอยู่หลายขุม

 

        “เหล่ย หาว่าสไนเปอร์อยู่ที่ไหนแล้วฆ่าเขาทิ้งซะ!” ถ่างหยู่เหยี่ยรีบพูดผ่านเครื่องสื่อสารขนาดเล็ก

 

        เซี่ยเหล่ยตอบกลับผ่านเครื่องสื่อสารไปว่า “ขอเวลาผมหนึ่งนาที”

 

        ‘หนึ่งนาทีงั้นเหรอ? จะใช้เวลาเพียงหนึ่งนาทีในการค้นหาสไนเปอร์ของศัตรูและจัดการฆ่าเขางั้นเหรอ?’ ถ่างหยู่เหยี่ยพูดกับตัวเองอย่างประหลาดใจ

 

ติดตามตอนต่อไป……..

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

images-5
Trash of the Count’s family
1 พฤศจิกายน 2022
130069302
เพลิงพิโรธสวรรค์ (Fury towards the burning heaven)
28 มิถุนายน 2022
0
จอมเวทอหังการ
28 มิถุนายน 2022
42643191._SX318_7165eecf2ec0bfd5
ศิษย์ข้า เจ้าตายอีกแล้ว
18 พฤษภาคม 2021
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 290"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved