cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - ตอนที่ 84

  1. Home
  2. All Mangas
  3. The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ
  4. ตอนที่ 84
Prev
Next

บทที่ 84 หลังจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

 

ตามที่คาดไว้ หลังจากที่พวกเขาเดินออกจากประตูโรงเรียนไม่ถึง 10 นาที ถงเล่ยและจี้เฟิงก็เห็นผู้ชายผมสีแดงพร้อมกับนักเลงอีกสองคนเดินออกมาจากด้านข้าง

 

“จี้เฟิงนายต้องระวังตัวให้ดี อย่าเผลอไปทะเลาะกับพวกนั้นเข้าจริงๆ ล่ะ!” ถงเล่ยเตือนด้วยความกังวล

 

“ไม่ต้องห่วงฉันจะพยายามไม่ทำอะไร” จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อย อันที่จริงเขาไม่ได้รู้สึกกลัวนักเลงพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย แม้เขาจะไม่เคยลองต่อสู้ของจริงด้วยตัวเองมาก่อน แต่เขานั้นฝึกฝนกับผู้ฝึกสอนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนในระบบฝึก จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงฝึกซ้อมทุกวันวันละสองหน มันยังคงเป็นหลักสูตรที่ขาดไม่ได้ และแน่นอนว่าทักษะของเขานั้นไม่เลวเลยทีเดียว

 

อย่างไรก็ตามแผนของวันนี้ไม่จำเป็นต้องให้จี้เฟิงลงมือแต่อย่างใด  แต่มันก็ไม่สามารถบอกได้เมื่อถึงเวลานั้น

 

เมื่อเห็นพวกนักเลงผมแดงเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ถงเล่ยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย มันออกจะน่าอายนิดหน่อย ที่จะให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องตะโกนคำว่า ‘อนาจาร’ กลางถนนแบบนี้

 

ในขณะเดียวกัน ที่มุมของถนนซอยหนึ่ง มีเด็กผู้ชายสองคนกำลังแอบดูสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บนถนน ถ้าจี้เฟิงอยู่ที่นี่ เขาจะจำเด็กผู้ชายสองคนนี้ได้ในทันที หนึ่งในสองคนนี้คือคู่ปรับตลอดกาลของเขา ซูหม่า และเด็กผู้ชายอีกคนก็คือ จ้าวเหยา ผู้ติดตามของซูหม่าซึ่งเปรียบเสมือนสุนัขผู้ซื่อสัตย์

 

“พี่หม่า ลูกพี่โทรเรียกตำรวจมาหรือยัง ถ้าพวกเขาต่อสู้กันตอนนี้ตำรวจอาจจะมาไม่ทันเห็นเหตุการณ์ก็ได้นะ!”  จ้าวเหยาที่แสดงอาการตื่นเต้นจนออกนอกหน้าเขาถามพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าของซูหม่า

 

“เผี๊ยะ!!”

“ไอ้โง่!”

 

ซูหม่าด่าพร้อมกับตบหัวจ้าวเหยา “แน่นอน ฉันก็ต้องโทรหาตำรวจไว้แล้วสิวะ แล้วตำรวจก็กำลังมาแล้ว ตอนนี้เราแค่รอให้ไอ้จี้เฟิงมันต่อสู้กับนักเลงพวกนั้น”  แต่ซูหม่าก็อดเป็นกังวลไม่ได้ “ไม่รู้ว่าไอ้นักเลงสองสามคนนั้นจะเชื่อถือได้แค่ไหน หากพวกมันรู้ว่าฉันอยู่เบื้องหลัง..”

 

จ้าวเหยาลูบหัวของเขา ความไม่พอใจแสดงออกบนสีหน้าของเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มกว้างและหันไปพูดกับซูหม่าอย่างประจบประแจงว่า “ไม่ต้องกังวลไปหรอกพี่หม่า เงินเพียงห้าสิบหยวนก็มีค่ามากสำหรับนักเลงพวกนั้น ถ้าพี่หม่าไม่ออกไปให้มันเห็น พวกมันก็ไม่มีทางรู้ว่าพี่หม่าอยู่เบื้องหลัง!”

 

“ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น!”  ซูหม่าพยักหน้าด้วยความพอใจ

 

จ้าวเหยาถามอย่างไม่เข้าใจ “พี่หม่า พ่อของพี่เป็นถึงรองผู้บริหารประจำเขต แม้ว่าจี้เฟิงมันจะรู้ว่าเป็นฝีมือพี่หม่าที่สั่งนักเลงพวกนั้นไปจัดการมัน แล้วมันจะทำอะไรพี่ได้ ทำไมพี่ต้องกลัวมันรู้ด้วย?”

 

“ไม่รู้อะไรก็หุบปากซะ!”  ซูหม่าตะคอก  “ฉันไม่ได้กลัวไอ้จี้เฟิงมันแม้แต่นิดเดียว ฉันแค่กังวลว่าถ้าจางเล่ยและถงเล่ยรู้เข้าว่าเป็นฝีมือฉัน เรื่องมันอาจจะเดือดร้อนไปถึงพ่อของฉันได้!”

 

“เข้าใจแล้ว!”  จ้าวเหยารีบพยักหน้าและพูดว่า “เอ๊ะ พี่หม่าดูนั่นๆๆ พวกมันกำลังจะสู้กันแล้ว!”

 

………

 

นักเลงผมแดงและพวกเดินออกมาขวางทางจี้เฟิงและถงเล่ย

 

“โอ้วว น้องสาวคนนี้ทำไมถึงสวยขนาดนี้?” นักเลงผมแดงถามด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “พอดีพวกพี่ยังไม่ได้กินอะไรกันเลย น้องสาวพอจะไปเป็นเพื่อนพวกพี่หาอะไรกินด้วยกันซักหน่อยได้มั้ย?”

 

“ฝันไปเถอะ!”  ถงเล่ยโกรธขึ้นมาทันใด ถึงแม้ว่าเธอจะบอกว่าเป็นการแกล้งทำ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธขึ้นมาจริงๆ เมื่อได้ยินคำพูดและน้ำเสียงที่ไม่สุภาพของกลุ่มนักเลงผมแดง

 

“ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะขอโทษเธอดีๆ” จี้เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “อย่าทำให้ตัวเองลำบากเลย”

 

“ให้ตายเถอะ เป็นแค่เด็กนักเรียนตัวน้อย แต่ดันปากดีกล้ามาสั่งสอนรุ่นพี่!”  หัวหน้านักเลงที่มีผมสีแดงตะคอกอย่างดุดัน เขาหันไปหาเพื่อนนักเลงอีกสองคน “เฮ้ย! สั่งสอนบทเรียนให้ไอ้เด็กเวรนี่มันรู้เสียหน่อยว่าใครเป็นใคร!”

 

“มีคนลวนลาม~!!”

 

ทันทีที่เสียงของนักเลงผมแดงสิ้นสุดลง ถงเล่ยก็ตะโกนขึ้นทันที เสียงตะโกนที่เหมือนเสียงกรีดร้อง แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความคมชัดและน่าฟัง

 

“ลวนลาม?” พวกนักเลงผมแดงผงะ ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ทำอะไร ทันใดนั้นชายร่างใหญ่สี่ถึงห้าคนก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ พวกเขาอย่างรวดเร็ว ชายสี่ห้าคนนั้นผลักพวกนักเลงและกดลงกับพื้นทันทีพร้อมกับเอามือไพล่หลังและใส่กุญแจมือ

 

“เห้ย! พวกแกเป็นใคร แล้วจะทำอะไร!”  นักเลงผมแดงดิ้นอย่างแรงและถามด้วยความตื่นตระหนก

 

“อยู่เฉยๆ!” ทันทีที่นักเลงผมแดงดิ้น เขาก็ถูกเตะเข้าที่ก้นอย่างแรง หลังจากนั้นนักเลงผมแดงก็ว่าง่ายขึ้นมาทันที

 

“นักเรียนสองคนไม่ต้องตกใจไป พวกเราเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ พวกเราได้รับรายงานมาว่า บนถนนสายนี้มักจะมีคนร้ายดักทำร้ายผู้หญิงบ่อยครั้ง พวกเราจึงมาซุ่มอยู่ที่นี่  ในที่สุดวันนี้เราก็จับตัวคนร้ายได้เสียที พวกเธอปลอดภัยแล้ว!”  ชายร่างใหญ่ในชุดธรรมดาเดินเข้ามาหาถงเล่ยและจี้เฟิงพร้อมกับอธิบายเสียงดัง

 

“ห๊ะ?!!”

เมื่อได้ยินดังนั้น นักเลงผมแดงที่ถูกจับนอนอยู่กับพื้นถึงกับตะลึง มันจะไม่โชคร้ายเกินไปหน่อยเหรอ มันจะพอดีอะไรขนาดนั้น? ไอ้พวกนั้นที่มักจะดักทำอนาจารผู้หญิงบนถนนเส้นนี้ ทำไมมันต้องมาทำให้เขากลายเป็นแพะรับความซวยแทนมันด้วยวะ?

 

“คุณตำรวจคุณตำรวจ พี่ชายเรายังไม่ทันได้ลวนลามอะไรเธอเลย จู่ๆ เธอก็ตะโกนใส่เรา!”  นักเลงผมแดงพาลตกใจ เพราะปกติเขามักจะลวนลามผู้หญิงด้วยคำพูดเสียส่วนใหญ่ ถ้าเขาถูกจับก็มักจะโดนกักขังเพียงสองสามวันหรือบางทีก็แค่ถูกสั่งให้ไปรับการอบรม

 

อย่างไรก็ตามหากเขาถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผู้กระทำอนาจาร เขาอาจจะต้องติดคุกจริงๆ

 

นักเลงผมแดงหรือจะมีความกล้าหาญ ทันใดนั้นเขาก็ร้องไห้ขอความเมตตา

 

“หุบปาก!” ตำรวจนายหนึ่งตะคอกอย่างเย็นชา “เราเห็นอย่างชัดเจนคุณจะยอมรับผิดไหม?”

 

“คุณตำรวจคะ นักเลงพวกนี้อยู่ดีๆ ก็ออกมาขวางทางพวกเรา พวกเขาต้องดักรอเพื่อทำอนาจารผู้หญิงอยู่แน่ๆ คุณตำรวจต้องช่วยจัดการนะคะ!” ถงเล่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงชัดเจนและเรียบง่าย

 

อย่างไรก็ตาม จี้เฟิงมองไปที่ตำรวจชุดธรรมดาที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดและอดไม่ได้ที่จะแอบยิ้ม ตำรวจคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้กองหยานของหน่วยตำรวจอาชญากรรม ที่ช่วยพวกเขาไว้ถึงสองครั้ง นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ จี้เฟิงไปส่งถงเล่ยที่บ้านแล้วพวกเขาก็ถูกดักปล้น จี้เฟิงรู้ว่าผู้กองหยานคนนี้น่าจะเป็นคนของพ่อถงเล่ย

 

จี้เฟิงกล่าวเห็นด้วยกับถงเล่ย “ใช่แล้วครับคุณตำรวจ คุณอย่าปล่อยให้คนเลวพวกนี้หลุดรอดไปได้นะครับ!”

 

“ไม่ต้องห่วง เราจะจัดการคดีนี้อย่างจริงจัง!” ผู้กองหยานตอบอย่างขึงขังและทำเหมือนว่าเขานั้นไม่ได้รู้จักถงเล่ยกับจี้เฟิง แต่เมื่อพูดจบเขากลับแอบขยิบตาให้ถงเล่ยและจี้เฟิง

………

 

“เอ๊ะ! ทำไมตำรวจพวกนั้นถึงใส่ชุดธรรมดา?”  ที่มุมหนึ่งของถนน ซูหม่าที่กำลังดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของถงเล่ยและจี้เฟิงอยู่ เขาก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย และทันใดนั้นเขาก็เบิกตากว้าง

 

“ไม่ใช่แล้ว! ตำรวจพวกนั้นไม่ใช่พวกที่ฉันเรียกมา นั่นมันผู้กองหยาน!”

 

“จบแล้ว!” “ซวยแล้วกู!” สีหน้าของซูหม่าเปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันที

 

“พี่หม่ามีอะไรเหรอ” จ้าวเหยาถามอย่างงงงวย

 

ทันใดนั้นซูหม่าก็มองไปที่เขาและพูดว่า “นายเฝ้าดูอยู่ที่นี่ให้ฉันก่อน เดี๋ยวฉันโทรหาแล้วจะรีบกลับมา!”

 

จ้าวเหยารีบตอบรับทันที “ไม่ต้องห่วงพี่หม่า ผมจะช่วยพี่สังเกตการณ์อยู่ตรงนี้ให้เอง!”

 

“ดีมาก เดี๋ยวไว้ฉันพานายไปเลี้ยงข้าวเย็น!”  ซูหม่ายิ้มอย่างไม่เต็มใจ แล้วรีบหันไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ออกจากซอยไป

………

 

“มีอะไรกัน! เกิดอะไรขึ้น?!”  ในขณะนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากคนสองสามคน สักพักก็ปรากฎร่างของผู้ชายในเครื่องแบบตำรวจสองสามนายกำลังรีบวิ่งมายังที่เกิดเหตุ

 

จี้เฟิงและถงเล่ยต่างมองหน้ากัน ทั้งสองคนต่างก็เห็นแววตาแห่งความสุขของกันและกัน

 

จี้เฟิงถึงกับพูดในใจ “เกือบไปแล้ว ถ้าเกิดว่าตำรวจที่เป็นพรรคพวกของซูหม่ามาถึงก่อน เกรงว่าคนที่ถูกจับอยู่ตอนนี้คงจะเป็นเขาอย่างแน่นอน!”

 

“ทีมตำรวจจัดการคดี…”  ผู้กองหยานเพียงแค่เหลือบมองไปที่หน่วยตำรวจลาดตระเวนที่เพิ่งมาถึงในขณะเดียวกันก็มองไปที่ป้ายและยศของพวกเขา “เจ้าหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมด ออกไปได้แล้ว!”

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจลาดตระเวนที่ถูกเรียกโดยซูหม่าถึงกับผงะไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็พวกเขาก็รีบพูดว่า “ผู้กองหยาน พวกเราต้องขอโทษด้วย ไม่รู้ว่าคุณกำลังจัดการคดีนี้อยู่!”

 

หลังจากพูดจบพวกเขาก็รีบออกไปด้วยความตื่นตระหนก พวกเขาถึงกับคร่ำครวญอยู่ในใจ ว่ามาเจอผู้กองหยานที่แสนเข้มงวดที่นี่ได้อย่างไร

 

และในขณะนั้นเอง จางเล่ยและหวังตง ที่ติดตามอยู่ไม่ห่างก็รีบเดินมาหาอย่างรวดเร็ว

 

จางเล่ยกระซิบกับผู้กองหยานว่า  “ผู้กองหยาน ช่วยส่งคนไปตรวจ ตรงซอยสามฝั่งตรงกันข้ามเร็ว!”

 

ผู้กองหยานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ฉันส่งคงไปเรียบร้อยแล้ว!”

 

แน่นอนว่าในเวลาเพียงชั่วอึดใจ ตำรวจที่สวมชุดธรรมดาสองนายก็เดินมาพร้อมกับเด็กนักเรียนชายคนหนึ่ง

 

“จ้าวเหยา?” จี้เฟิงขมวดคิ้ว

 

“จ้าวเหยา ไอ้คนนี้มันเป็นลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของไอ้ซูหม่านี่นา  เมื่อก่อนมันชอบรีดไถเงินนักเรียนคนอื่นเป็นประจำ คนไหนไม่ให้มันดีๆ มันก็ตบตี จนถึงขนาดบางคนทนไม่ได้จนต้องลาออกและเลิกเรียนไปเลย!” จางเล่ยพูดด้วยน้ำเสียงดุดันและเย็นชา

 

“รายงานครับผู้กองหยาน! ตอนที่พวกเราไปตรวจตามคำสั่ง พวกเราพบแค่เพียงนักเรียนชายคนนี้คนเดียวและไม่พบคนอื่นอีกครับ!” ตำรวจชุดธรรมดาพูดขึ้น

 

จางเล่ยขมวดคิ้วถามทันที “จ้าวเหยา ไอ้ซูหม่ามันหายหัวไปไหนแล้ว?”  เมื่อจ้าวเหยาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า เขาก็เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ทันที ซูหม่าตกหลุมพลางของจี้เฟิง และก็กลายเป็นเขาที่ต้องมารับเคราะห์แทนซูหม่าอีกทีสินะ

 

เขารีบพูดโดยเร็ว “คุณตำรวจครับ ซูหม่าเพิ่งไปเมื่อกี๊นี้เอง เขาบอกว่าเขาจะรีบกลับมา แต่ผมว่าพวกคุณควรรีบตามไปจับเขาก่อนดีกว่าครับ!”

 

จางเล่ยมองไปที่ผู้กองหยาน แต่ผู้กองหยานกลับส่ายหัวและพูดว่า “ถ้าซูหม่า ได้กลับถึงบ้านไปเรียบร้อยแล้ว มันจะเป็นเรื่องยากทันที เพราะการที่จะไปบ้านของรองผู้บริหารเขตเพื่อที่จะจับกุมใครสักคน เราต้องมีหลักฐานอย่างแน่นหนา ที่ไม่ใช่แค่เพียงคำให้การของพยาน!”

 

จางเล่ยกล่าวว่า “ฉันจะโทรศัพท์!”

 

เขากดเบอร์ที่บ้านและพูดเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว

 

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กดวางสายแล้วส่ายหัว “คนที่บ้านฉันก็พูดไม่ต่างจากผู้กองหยาน เขาว่าฉันควรทำตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอเราจึงไม่สามารถจับกุมคนตามอำเภอใจได้ และมันอาจจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีเท่าไหร่!”

 

ผู้กองหยานพยักหน้าและพูดว่า “งั้นก็แยกย้าย!”

………

 

หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว จางเล่ยก็พูดกับจี้เฟิงว่า “ไอ้น้องชาย ฉันต้องขอโทษที่ช่วยนายไม่สำเร็จ ฉันจับไอ้ชั่วซูหม่ามาให้นายไม่ได้!”

 

จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “ฉันจะโทษนายได้ยังไง คนที่ฉันจะโทษก็มีแต่ไอ้ซูหม่าเท่านั้นแหละ แต่ครั้งนี้นายก็ทำให้มันถึงกับทิ้งลูกน้องผู้ซื่อสัตย์แล้ววิ่งหนีหางจุกตูดไปเลย ฮ่าฮ่าฮ่า~!  หลังจากนี้ฉันเชื่อว่าไอ้ซูหม่ามันคงไม่กล้ามายุ่งหรือทำอะไรฉันได้ง่ายๆ แล้วล่ะ หรือต่อให้มันจะทำจริงๆ ก็คงยังไม่มีโอกาสจนกว่าการสอบเข้ามหาลัยจะเสร็จสิ้น และเมื่อถึงตอนนั้น ฉันจะไม่รอให้มันเป็นฝ่ายมาหาฉัน แต่ฉันนี่แหละจะเป็นฝ่ายไปตามหามันเอง!”

 

ในประโยคสุดท้ายมีแสงเย็นวาบขึ้นในดวงตาของเขา หลังจากที่ซูหม่าหาเรื่องเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จี้เฟิงก็ไม่อยากทนอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นสาเหตุที่เขากล้าพูดเช่นนี้เพราะเขาเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเอง

 

แม้ว่าซูหม่าจะมีผู้ติดตามคอยช่วยเหลือเขาอีกสักสองสามคน มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับจี้เฟิงในเวลานี้อย่างแน่นอน!

 

“โอเค งั้นวันนี้เรากลับกันเถอะ ไว้ค่อยคุยกันหลังการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จสิ้น!”  จี้เฟิงยิ้มและหันไปหาถงเล่ย “ถงเล่ยขอบคุณมากนะ สำหรับเรื่องของวันนี้”

 

จี้เฟิงรู้ดีว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะยอมเสี่ยงต่อเรื่องที่อาจจะทำให้เธอต้องเสียชื่อเสียง เพื่อมาช่วยเขานั้น มันเป็นความรักที่ลึกซึ้งมากแค่ไหน

 

ถงเล่ยเม้มปากของเธอและยิ้มออกมาอย่างสดใส  เป็นรอยยิ้มที่สวยงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

 

ถ้าไม่มีคนอื่นยืนอยู่ที่ถนนแห่งนี้  เกรงว่าจี้เฟิงคงจะวิ่งเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขนและแสดงความรักต่อเธอไปแล้ว

 

แต่สุดท้ายทุกคนก็ได้แค่เพียงแยกย้ายกันกลับบ้าน

………

 

เมื่อถึงวันสอบเข้ามหาวิทยาลัย เซียวซูเหม่ย ไม่ได้ไปขายผักเหมือนทุกๆวัน แต่เธอขี่รถสามล้อถีบเพื่อมาส่งลูกชายของเธอที่โรงเรียน

 

ถึงเซียวซูเหม่ยแม่ของจี้เฟิงจะมีอาชีพขายผัก เขาก็ไม่ได้รู้สึกอายคนอื่นเลยแม้แต่น้อย เพราะถ้าไม่มีแม่ก็คงไม่มีเขาในวันนี้  ไม่ว่าใครคนไหนที่คิดว่าแม่ของตัวเองขี้เหร่ควรอยู่แต่บ้านหรือเกลียดแม่ของตัวเอง คนนั้นก็ไม่สมควรเรียกตัวเองว่าคน!

 

“แม่ ผมจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง ให้ได้!” จี้เฟิงยิ้มและเดินเข้าไปในโรงเรียน ภายใต้ความคาดหวังของแม่ของเขา

 

คำถามในเอกสารทดสอบนั้นไม่ยากนักเมื่อเทียบกับคำถามที่ถงเล่ยเคยสอนจี้เฟิงแล้วคำถามนั้นก็ค่อนข้างง่าย อย่างไรก็ถามคำถามบางอย่างในข้อสอบภาษาจีน ทำให้จี้เฟิงเกิดความลังเล โดยเฉพาะข้อที่ต้องตอบโดยการเขียนบรรยาย เขาจึงไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถทำได้คะแนนสูงพอ

 

ในท้ายที่สุด จี้เฟิงก็สามารถเขียนเรียงความที่เขาคิดว่าดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้แล้ว หลังจากนี้เขาจะได้คะแนนเท่าไหร่ก็คงต้องปล่อยไปตามยถากรรม

 

โชคดีที่ตอนนี้สามารถตรวจสอบคะแนนก่อนที่จะเลือกสมัครเข้าเรียนได้ ดังนั้นจี้เฟิงจึงไม่รีบร้อน อย่างน้อยเขาก็ค่อนข้างมั่นใจในวิชาอื่นๆ

 

เขามองไปที่จางเล่ยซึ่งอยู่ห่างจากเขาไปเพียงไม่กี่แถวที่นั่ง ผู้ชายคนนี้กำลังขะมักเขม้นเขียนคำตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้มีปัญหาใดๆ กับการสอบครั้งนี้

 

จี้เฟิงตั้งใจเอาไว้แล้วว่า หากจางเล่ยประสบปัญหาในการทำข้อสอบจริงๆ เขาจะต้องหาทางช่วยอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเขาจะมีพ่อเป็นถึงเลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำเขต  แต่เขาอาจไม่มีอิทธิพลต่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพราะมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในจีนที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอำนาจของเลขาธิการพรรคประจำเขต

 

และถึงแม้เขาจะมีอำนาจมาก แต่ก็อาจไม่ได้มีอิทธิพลต่อคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยเหล่านั้น เพราะฉะนั้นทำไมพวกเขาถึงต้องให้ความช่วยเหลือซึ่งเสี่ยงต่อการทำผิดกฎของมหาวิทยาลัย

 

ดังนั้นถ้าจางเล่ย เกิดต้องเสียชื่อเสียงจากเรื่องการใช้อิทธิพลจริงๆ มันจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายสำหรับเขามาก

 

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า จางเล่ยจะไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ อีกแล้ว ผู้ชายคนนี้กำลังเขียนคำตอบด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา และแน่นอนว่าเขาต้องทำได้ดีในการทดสอบนี้

 

การสอบวันแรกผ่านไปอย่างเรียบง่าย  หลังจากที่จี้เฟิงออกมาจากห้องสอบ เซียวซูเหม่ยไม่ได้ถามจี้เฟิงว่าเขาเป็นอย่างไรบ้างในการทำข้อสอบ เธอทำเพียงแค่พาลูกชายกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม

 

เนื่องจากวันแรกเขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับคะแนนวิชาภาษาจีน จี้เฟิงจึงใช้ความสามารถทั้งหมดของเขาในการสอบสามครั้งถัดไป แต่คำถามทั้งหมดที่เขาเจอ เขาสามารถตอบมันได้อย่างเสร็จสมบูรณ์โดยไม่ต้องหยุดพักเลย

 

หลังจากการสอบเสร็จสิ้น จี้เฟิงถึงกับโยนปากกาที่อยู่ในมือของเขาลงบนโต๊ะ และรู้สึกโล่งทันที!

 

“เจ้าบ้า การสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่โหดเหี้ยมที่สุดก็จบสิ้นลงเสียที แล้วนายจะทำอะไรต่อไป!” จางเล่ยถามด้วยท่าทีสบายสุดๆ

 

จี้เฟิงส่ายหัวและพูดว่า “ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนี้จริงจัง แต่ถ้าระหว่างนี้ไม่ได้มีเรื่องอะไร ฉันก็ว่าจะไปเจียงโจว”

 

“ไปเจียงโจว?” จางเล่ยตกใจ  “นายจะไปทำอะไรที่นั่น ไปเดินเที่ยวชมมหาลัย?”

 

“ฉันจะไปสำรวจอะไรนิดหน่อย!” จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “ตั้งแต่ที่ฉันตั้งใจว่าจะสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในเจียงโจว ฉันก็คิดว่าฉันคงต้องรู้อะไรเกี่ยวกับเจียงโจวมากกว่านี้สักหน่อยก่อน นายก็รู้สถานการณ์ครอบครัวของฉันดี ฉันจะไปเจียงโจวเพื่อจะลองหางานพาร์ทไทม์ดูว่าพอจะมีอะไรที่ฉันทำได้หรือเปล่า แล้วก็ดูเรื่องบ้านที่ฉันจะต้องใช้เป็นที่อยู่ของฉันกับแม่ในอนาคตด้วย ฉันคงปล่อยให้แม่อยู่ที่หมางซือนี้คนเดียวไม่ได้ เพราะฉันคงจะไปเรียนที่เจียงโจวด้วยความไม่สบายใจแน่นอน!”

 

“ดีๆ!” ดวงตาของจางเล่ยสว่างขึ้น “เจ้าบ้า เพื่อนรัก ฉันจะไปเจียงโจวเป็นเพื่อนนายเอง นายไม่ต้องเป็นกังวลไปนะ แต่ก่อนอื่น พรุ่งนี้นายพอจะว่างมาที่บ้านฉันสักหน่อยได้มั้ย คือ..ถ้านายพอจะใจดีมาช่วยพูดกับพ่อฉันให้หน่อย เราสองคนก็จะได้ไปเจียงโจวด้วยกันไง!”

………จบบทที่ 84~❤️

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

รูป-1 (1)
Blood Warlock: Succubus Partner in the Apocalypse วอร์ล็อคแห่งเลือด
24 ตุลาคม 2022
รูปหน้าปก-225×300
HxH: Researcher
26 มิถุนายน 2022
หวังเต็ง
Complete Martial Arts Attributes – คุณสมบัติแห่งนักสู้
24 ตุลาคม 2022
FlyingLines.54542
(One Useless Rebirth) เกิดใหม่อีกครั้งอย่างไร้ [Yaoi]
25 กันยายน 2021
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 84"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF