The simple life of the emperor - ตอนที่ 113
เลขาไป๋ที่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปพักนึงก่อนจะหันไปปรึกษากับนายพลหลิน หลังจากนั้นเลขาไป๋ก็พูดกับเทียนหลางผ่านหูฟังว่า
[ ในนั้นพอจะมีข้อมูลอะไรบ้างไหม ? ]
”ไม่มีเลย มันบอกเพียงแค่เป็นเซรุ่นพิเศษเกี่ยวกับทางทหารเท่านั้น”
[ งั้นถ้ามีอะไรคืบหน้ารายงานฉันด้วยนะ ]
”เข้าใจแล้ว”
หลังจากพูดคุยกันเสร็จเทียนหลางก็เดินต่อไปเรื่อยๆสภาพในศูนย์วิจัยนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยของการต่อสู้และศพ เรียกได้ว่ามีรอยกระสุนอยู่บนกำแพงแทบทุกที่และยิ่งเทียนหลางเดินลึกเข้าไปในศูนย์วิจัยเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าการต่อสู้เริ่มจะหนักและโหดร้ายขึ้นทุกที
จนกระทั้งเทียนหลางมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของประตูบานใหญ่ เทียนหลางคาดว่าประตูนี้คงจะเป็นประตูแบ่งเขตหรือชั้นต่างๆของศูนย์วิจัย
เทียนหลางจ้องมองประตูเหล็กกล้าบานใหญ่ตรงหน้าอยู่สักพักก่อนจะใช้มือสัมผัสมันเบาๆเพื่อตรวจสอบเล็กน้อยก่อนจะเกร็งมือเล็กน้อย
ตึง !!!
เสียงของประตูเหล็กกล้าที่หนาหลายเซนติเมตรได้แตกออกเกิดเป็นช่องว่างขนาดเท่ากับคนหนึ่งคน หลังจากทำลายประตูเป็นช่องที่พอจะให้ตัวเองเข้าไปได้แล้วเขาก็พบว่าประตูบานที่เขาพึ่งทำลายไปนั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วยวิธีที่พิเศษ
มันถูกเคลือบบางๆอะไรสารอะไรบางอย่างทำให้มันมีความเหนียวและหนากว่าประตูเหล็กกล้าปกติ แต่สิ่งที่เทียนหลางสนใจไม่ใช่สารนั้นแต่เป็นวิธีและส่วนผสมของมันต่างหาก
เพราะมันถูกสร้างขึ้นด้วยกรรมวิธีที่พิเศษโดยการผสมแร่ธาตุมากมายเข้าด้วยกันและการสังเคราะห์สสารใหม่ทำให้เกิดเป็นแร่ธาตุชนิดพิเศษซึ่งแน่นอนว่าวิทยาการในปัจจุบันเป็นเรื่องยากที่จะทำได้เพราะถ้าหากไม่ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจริงๆก็จำเป็นจะต้องใช้วิธีที่เหนือธรรมชาติอย่างหนึ่งในเทคนิคปรุงยาอย่างการหล่อหลอมแก่นสารเท่านั้น และดูเหมือนว่าเจ้าสารที่ใช้เคลือบประตูนี้จะถูกสร้างมาโดยวิธีที่คล้ายกัน
แต่จากที่เขาคาด เขาคิดว่าในโลกนี้คงจะไม่มีคนที่รู้จักวิธีหล่อหลอมแก่นสารอย่างแน่นอนเพราะมันเป็นเทคนิคขั้นสูงในการปรุงยามันเป็นเรื่องยากที่จะมีคนรู้เทคนิคนี้
หลังจากคิดไปคิดมาสักพักเทียนหลางก็เลิกคิดถึงมันเพราะต่อให้เขาคิดให้หัวระเบิดก็คิดไม่ออกอยู่ดีดังนั้นเขาจึงสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเสียจะดีกว่า
เทียนหลางเดินลึกเข้าไปในศูนย์วิจัยเรื่อยๆพร้อมกับพังประตูเหล่านั้นไปด้วย จนมาถึงโซนB5ที่อยู่ในแผนที่ในแฟ้มที่เลขาไป๋ได้มอบให้และดูเหมือนว่าโซนนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางเสียด้วย
เมื่อเข้ามาด้านในเทียนหลางก็ต้องแปลกใจเล็กน้อยเพราะในพื้นที่ส่วนกลางนั้นเต็มไปด้วยซากศพนักวิจัยและทหารกับเหล่ายามนับหลายร้อยชีวิตแต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจไม่ใช่การเจอศพแต่เป็นสภาพของศพต่างหาก
เพราะสภาพศพแต่ละศพนั้นต่างถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและแผลฉกรรจ์จากการถูกโจมตีด้วยแรงอันมหาศาลแตกต่างจากเหล่าศพก่อนหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผลถูกยิงเพียงเท่านั้น
”น่าแปลก…”
เทียนหลางลูบคางพร้อมกับครุ่นคิด ทางด้านเลขาไป๋ที่กำลังรอรายงานอยู่นั้นก็ถามออกมาด้วยความสงสัย
[ อะไรน่าแปลกงั้นเหรอ ? ]
”ก็ก่อนหน้านี้ศพที่ผมเจอที่นี้ต่างตายเพราะถูกยิงเท่านั้นซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลจากการปะทะกันของยามและผู้บุกรุก แต่หลังจากที่ผมเข้ามาในโซนB5ศพทุกศพต่างตายด้วยวิธีการชก เตะ ดึง และกัด ดูเหมือนว่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่มีพลังมหาศาลเข้าจู่โจมพวกเขา”
เมื่อเลขาไป๋ได้ยินแบบนั้นก็ตกใจก่อนจะถามกับเทียนหลางว่า
[ เธอได้เห็นลักษณะของมันหรือเปล่า ? ]
”ไม่เลย แต่อาจจะไม่นานนัก”
เป็นไปตามที่เทียนหลางว่าไม่นานนักหลังจากที่เขาวางสายจากเลขาไป๋เทียนหลางก็พบเจอกับร่างๆหนึ่งมันคล้ายคลึงกับมนุษย์เทียนหลางคาดว่ามันมีต้นแบบมาจากมนุษย์หรืออาจเคยเป็น แต่ร่างกายของมันกลับไม่เหมือนมนุษย์เลยสักนิด
ร่างกายของมันเต็มไปด้วยเกล็ดหนาตรงใบหน้าและส่วนหัวมีเขางอกออกมา เทียนหลางมองสิ่งมีชีวิตตรงหน้าพร้อมกับพิจารณาก่อนจะสังเกตุเห็นว่ามันปลดปล่อยออร่าด้านลบออกมาเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว
เทียนหลางมองมันอย่างใจเย็นก่อนจะคิดว่าสิ่งมีชีวิตตรงหน้านั้นมีออร่าด้านลบมากแบบนี้ได้ยังไง โดยปกติแล้วออร่าด้านลบนั้นจะเกิดขึ้นจากสิ่งต่างด้านลบตามชื่อของมัน ไม่ว่าจะเป็นความคิดด้านลบ นิสัย อารมณ์ หรือแม้แต่การกระทำยิ่งคนผู้นั้นมีพฤติกรรมด้านลบมากเท่าไหร่ออร่าด้านลบของพวกเขาก็จะยิ่งมากขึ้น
ส่วนมากเราจะพบออร่าด้านลบจากพวกคนที่ทำผิดกฏหมาย หรือพวกฆาตกรที่มีประสบการณ์โชกโชนพวกนี้มักมีออร่าด้านลบเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าคนปกติไม่สามารถมองเห็นออร่าด้านลบเหล่านี้ได้แต่นอกเสียจากผู้ที่มีการบ่มเพาะอยู่ในขอบเขตระดับสูง หรือคนที่มีทักษะพิเศษบางอย่าง หรือพวกที่เคยเรียนด้านฮวงจุ้ยหรือการทำนายพวกนี้จะสามารถมองเห็นออร่าด้านลบได้อ่อนๆ
และแน่นอนว่าหากคนผู้นั้นมีออร่าด้านลบสะสมอยู่ในร่างกายเป็นจำนวนมากความคิดและทัศนคติของคนเหล่านั้นจะเปลี่ยนไป
แต่ที่เทียนหลางกำลังสับสนอยู่นั้นก็เพราะว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตตรงหน้าของเขานั้นมีออร่าด้านลบมากจนมันสามารถเปลี่ยนลักษณะรูปร่างของสิ่งมีชีวิตได้ ในอดีตเทียนหลางได้เจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆเขาเลยชินกับมันแต่นี่มันบนโลกมนุษย์ที่การบ่มเพาะแทบจะตำนานลี้ลับการที่จะพบเจอเหตุการณ์แบบนี้เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์หนึ่งในล้านหรือล้านล้านเลยทีเดียว
นอกเสียจากจะมีสิ่งที่ช่วยในการกักเก็บออร่าด้านลบจากบุคคลอื่นและสามารถถ่ายทอดให้กับอีกคนได้ แต่สิ่งของเหล่านั้นหายากเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ในจังหวะนั้นเทียนหลางก็นึกอะไรบางอย่างออกเกี่ยวกับเจ้าสารที่เคลือบประตูนั่นทั้งสองอย่างน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกัน
แต่เรื่องนั้นคงจะต้องพักเอาไว้ก่อนเพราะดูเหมือนว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตตรงหน้าของเทียนหลางนั้นจะอารมณ์ไม่ค่อยสักเท่าไหร่ ไม่ต้องคิดมากนักมันพุ่งเข้าใส่เทียนหลางทันที เทียนหลางถอนหายใจออกมาก่อนจะสบัดมือเล็กน้อยร่างของมันก็ขาดออกเป็นสองส่วนพร้อมกับเลือดที่สาดกระจาย
เทียนหลางมองซากของมันก่อนจะคิดเล็กน้อย
”เจ้านี่ดูเหมือนจะอยู่เพียงในระยะแรกเท่านั้น…”
เทียนหลางตัดสินใจเดินลึกเข้าไปในโซนB5เรื่อยๆและยิ่งเทียนหลางเดินลึกเข้าไปเขาก็ยิ่งพบเจอพวกมันมากขึ้นแต่ถึงอย่างงั้นเจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรเทียนหลางได้
หลังจากเดินมาได้ระยะหนึ่งเทียนหลางก็มาถึงห้องที่คาดว่าจะเป็นห้องทดลองของโปรเจคอะไรสักอย่าง เทียนหลางเปิดประตูเข้าไปอย่างง่ายๆก่อนจะพบกับศพจำนวนหนึ่งซึ่งมีลักษณะการตายเหมือนกับศพก่อนหน้านี้
เมื่อเทียนหลางมองไปรอบๆห้องทดลองเขาก็ต้องถึงกับขมวดคิ้วเพราะสิ่งที่เทียนหลางเห็นอยู่ในตู้ทดลองนั้นคือก้อนอำพันสีแดงสดด้านบนมีสัญลักษณ์โบราณที่ถูกสลักไว้มันปลดปล่อยออร่าด้านลบออกมาจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว เทียนหลางมองมันก่อนจะพึมพำชื่อของสิ่งนั้นออกมา
”อำพันปีศาจ…”
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame