The simple life of the emperor - ตอนที่ 105
เทียนหลางพุ่งผ่านท้องฟ้าไปด้วยความเร็วที่เหนือเกินคำบรรยาย สีหน้าของเขากลายเป็นเย็นชาไร้ความรู้สึกก่อนที่เทียนหลางจะจ้องมองดวงไฟสีหน้าที่กำลังลอยอยู่ตรงหน้าของเขา
ดวงไฟสีฟ้าตรงหน้าของเทียนหลางนั้นคือเสี้ยวหนึ่งของจิตวิญญาณมนุษย์ที่ถูกเทียนหลางแบ่งออกมาเก็บไว้เพื่อเอาไว้ใช้สำหรับติดตามคนผู้นั้น ซึ่งโดยปกติแล้วจิตวิญญาณจะไม่สามารถที่จะล่องลอยอยู่ในสภาวะปกติได้นานนักอย่างมากก็เพียงหนึ่งหรือสองชั่วโมงเท่านั้นก่อนจะกลับไปสู่ร่างต้นของมัน หรือสลายหายไป
ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีแผ่นหยกเพื่อไว้สำหรับกักเก็บจิตวิญญาณเอาไว้
และแผ่นหยกที่ว่านั้นก็คือป้ายหยกที่เทียนหลางพึ่งจะบีบจนแตกละเอียดไปก่อนหน้านี้ และเจ้าของเศษเสี้ยววิญญาณที่ว่านั้นก็คือแม่หนูน้อยหลินหลินนั่นเอง
ก่อนหน้านี้เทียนหลางได้ทำการแอบแบ่งจิตวิญญาณของหลินหลินออกมาเสี้ยวหนึ่งเพื่อนำมาเก็บเอาไว้ในป้ายหยกเพื่อที่จะได้เอาไว้สามารถจับตาหลินหลินได้จากระยะไกล
เนื่องด้วยที่แผ่นป้ายหยกที่ถูกบรรจุจิตวิญญาณเอาไว้จึงทำให้แผ่นป้ายหยกนั้นเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของร่างกายของหลินหลิน ดังนั้นเมื่อหลินหลินบาดเจ็บไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนแผ่นป้ายหยกก็จะแสดงอาการด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นก็คือการร้าวหรือการแตกหักของป้ายหยก
ดังนั้นเมื่อเทียนหลางเห็นว่าป้ายหยกเกิดรอยร้าวและเริ่มที่จะแตกหักเขาจึงรู้ได้ทันทีเลยว่ากำลังเกิดอันตรายกับหลินหลินอย่างแน่นอน
โดยปกติแล้วนั้นเทียนหลางมักจะไม่ค่อยได้สนใจเรื่องของลูกศิษย์มากนักหากไม่ใช่ปัญหาใหญ่จริงๆเพราะเขาเชื่อว่าศิษย์แต่ละคนของเขานั้นสามารถป้องกันตัวเองได้ แต่นั่นไม่ใช่กับหลินหลินแม้เธอจะพึ่งเริ่มบ่มเพาะและมีความแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปแต่เธอก็ยังคงเป็นเด็กหญิงอายุเพียงแค่แปดขวบ
แต่ใครกันละที่กล้าที่จะทำร้ายเด็กผู้หญิงอายุแปดขวบตัวเล็กๆ
เทียนหลางคิดเล็กน้อยก่อนจะเลิกสนใจเพราะไม่ว่ามันจะเป็นใครหรือใหญ่โตมาจากไหนแต่ในตอนนี้มันได้เข้าไปยุ่งกับสิ่งที่ไม่ควรยุ่งเข้าเสียแล้ว
เทียนหลางพุ่งผ่านเมืองไปยังเขตอุตสาหกรรมร้าง เขตอุตสาหกรรมร้างนั้นเป็นเขตพื้นที่เปล่าที่ทางรัฐบาลจะมักจะปล่อยให้เหล่าเศรษฐีมาประมูลซื้อมันเอาไว้นำไปพัฒนาซึ่งแน่นอนว่ารัฐจะได้เงินมากมายจะตรงส่วนนี้
เมื่อเทียนหลางตามดวงไฟจิตวิญญาณมาถึงที่หมายก็พบกับรถตู้สีดำคันหนึ่งกำลังจอดอยู่ เทียนหลางมองไปก็พบกับคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีสมาชิกอยู่ประมาณ 5 – 6 คนอย่างใจเย็นก่อนจะลงมาที่พื้นและเดินเข้าไป
เมื่อกลุ่มคนตรงนั้นสังเกตุเห็นเทียนหลางพวกเขาก็เอ่ยถามขึ้นทันที
”เจ้าหนู แกมาแถวนี้ทำไมออกไปได้แล้วไป !!”
เทียนหลางได้ยินแบบนั้นก็เอ่ยขึ้นทันที
”พวกแกเอาบางสิ่งของฉันไป และฉันมาตามมาเอาคืน”
เมื่อพวกเขาได้ยินก็ต่างมองหน้ากันพร้อมกับหัวเราะออกมา
”เจ้าหนูดูเหมือนสมองแกจะมีปัญหาแล้วนะ ถ้างั้นเรามาเล่นเกมตอบคำถามกันเถอะ”
เทียนหลางที่ได้ยินก็พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นชายคนนั้นก็ได้พูดว่า
”ฉันขอถามก่อนฉันอยากรู้ว่าพวกฉันเอาอะไรของแกมา”
เทียนหลางเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะขยับนิ้วไปมาเบาๆ
ฉัวะ !!
ก่อนที่ใครจะได้รู้สึกตัวกองเลือดกองหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้น พวกเขามองไปตามเสียงก็พบว่าหนึ่งในพวกของเขานั้นได้กลายเป็นกองเลือดไปเสียแล้ว พวกเขาตกใจเป็นอย่างมากก่อนจะขวักปืนออกมาพร้อมกับจ่อไปที่เทียนหลาง
เทียนหลางเดินเข้าไปอย่างช้าๆพร้อมกับพูดขึ้น
”ได้สิ ดูเหมือนแกจะจับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาฉันจะมารับตัวเธอ”
เมื่อพูดจบเทียนหลางก็ขยับนิ้วอีกครั้งพร้อมกับกองเลือดอีกกองหนึ่งที่ปรากฏขึ้น พวกเขาเริ่มมองไปที่เทียนหลางด้วยความหวาดกลัวปืนในมือของพวกเขาเริ่มสั่น เทียนหลางยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น
”คราวนี้ตาฉันถาม ใครสั่งพวกแกมา ?”
เมื่อพวกเขาได้ยินคำถามก็ส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไปว่า
”ฉะ… ฉันไม่รู้ !!”
โพล๊ะ !!
กองเลือดอีกกองปรากฏขึ้นทันทีพร้อมกับเสียงของเทียนหลางที่ลอยตามมา
”แก เลือกคำตอบผิดทีนี้พวกแกที่เหลือจงตอบคำถามมาซะ”
พวกที่เหลือนั้นส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเริ่มพูดอะไรบางอย่าง
”พวกเราไม่รู้จริงๆเมื่อ 2-3 วันก่อนมีชายคนหนึ่งมาที่อ๊อฟฟิตของพวกเราพร้อมกับจ้างงานพวกเราให้มาลักพาตัวเด็กสาวคนหนึ่งและไปส่งที่สำนักของเขา”
เมื่อเทียนหลางได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะสะบัดนิ้วอีกครั้งและฆ่าทุกคนเหลือไว้เพียงชายคนนั้นเพราะเขาต้องการที่ตั้งของสำนักนั่น ก่อนจะเปิดประตูของรถตู้และพบกับหลินหลินที่เนื้อตัวไปด้วยรอยขีดข่วน เทียนหลางจ้องมองเธออยู่สักพักก่อนจะมีควันสีดำทมิฬลอยออกมาจากร่างกายของเขาและโอบล้อมร่างของหลินหลินเอาไว้
ทันทีที่มันเข้าไปปลกคลุมตัวของหลินหลินรอยแผลเล็กน้อยของเธอก็ค่อยๆหายไป และกลับสู่ปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากนั้นมันก็พยุงร่างของหลินหลินขึ้นมา
เทียนหลางมองไปที่มันเล็กพร้อมกับเอ่ยขึ้น
”พาเธอกลับไปหาราชินี”
ก่อนจะสะบัดมือเบาๆพร้อมกับอากาศบริเวณรอบข้างค่อยๆแยกตัวออก จากนั้นเจ้าควันทมิฬนั่นก็ได้พาร่างของหลินหลินที่กำลังหลับอยู่หายเข้าไปในรอยแยก
หลังจากที่รอยแยกนั้นได้ปิดตัวลง เทียนหลางก็หันมามองผู้ร้ายลักพาตัวที่เหลือก่อนจะเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้าๆ
เมื่อชายคนนั้นเห็นท่าทีของเทียนหลางก็เตรียมจะวิ่งหนีทันทีแต่ความกลัวของเขาก็ทำให้ขาของเขานั้นก้าวไม่ออก
”กะ… แกต้องการอะไร !!”
เทียนหลางไม่พูดอะไรพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้เขาก่อนจะวางมือไปที่หัวของเขาพร้อมกับถ่ายลมปราณอ่อนๆเข้าไป จากนั้นภาพในหัวของชายคนนั้นก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเทียนหลางเป็นความทรงย้อนไปในช่วงที่ชายคนนั้นได้พบกับผู้จ้างวาน
เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วเทียนหลางก็จัดการฆ่าเขาทันทีก่อนจะหายไปจากตรงนั้นอย่างไร้ร่องรอย
เทียนหลางมาโผล่ที่ยอดเขาด้านหน้าประตูทางเข้าสถานที่หนึ่งซึ่งป้ายด้านหน้าเขียนเอาไว้ว่า ‘สำนักไร้ลักษณ์’
เทียนหลางมองป้ายหน้าสำนักอย่างใจเย็นก่อนจะสะบัดมือเล็กน้อย ทำให้เกิดลมกรรโชกและพัดทั้งประตูหน้าและป้ายสำนักปลิวหายไปทันที
ด้วยเสียงการทำลายล้างอันดันสนั่นทำให้คนของสำนักไร้ลักษณ์ต่างวิ่งออกมาดูด้านนอก เมื่อพวกเขาเห็นสภาพของประตูสำนักตนเองก็ถึงกับตกตะลึงไปทันทีและต่างก็มองไปที่เทียนหลางที่กำลังยืนอย่างสบายๆอยู่ตรงหน้าทางเข้า
พวกเขามองเทียนหลางก่อนจะมีหนึ่งในศิษย์พวกนั้นตะโกนออกมา
”แกเป็นใครถึงกล้ามาทำลายทางเข้าของสำนักเราแบบนี้ !!”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันเย็นเชียบ
”จงไปเรียกเฉียนกุ่ยออกมาเดียวนี้ !!”
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame