The Rise of Otaku - ตอนที่ 160
บทที่ 160 การต่อสู้ที่น่ารังเกียจและการป้องกัน
ผู้หญิงที่ถูกวางยาพิษโดยผงสโนไวท์จะตกหลุมรักกับใครก็ตามที่เธอเห็นครั้งแรกเมื่อลืมตา และเธอจะรักคนนั้นไปจนกว่าเธอจะตายไป
มู่ลี่มีศักยภาพที่จะเป็นดาราหน้าใหม่ที่ดีที่สุดในโลกของ ACG เธอเป็นเหมือนดวงดาวที่ค่อยๆลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า อาจกล่าวได้ว่าอนาคตของเธอนั้นไร้ขีดจํากัด อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอกับถูกโจมตีโดยแฟนคลับเดนตายของตัวเอง โดยที่อีกฝ่ายได้ใช่วิธีสละชีพตเองและยังได้ใช้ยาที่หน้ารังเกียจอีกด้วย และเธอได้หมดสติไปห ลังจากการโจมตีนั้น เมื่อเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง บุคคลแรกที่ตกอยู่ในสายตาของเธอจะเป็นคนที่เธอตกหลุมรัก
สําหรับพวกแฟนคลับแล้วนี่เป็นโอกาสทองที่หายากมาก!
ทีมสนับสนุนกลุ่มที่ 37 ดอกไม้ของมู่ลี่ เป็นทีมเดียวที่รับผิดชอบต่อการโจมตีครั้งนี้ ในขณะนี้ดวงตาของสมาชิกในทีมทุกคนต่างก็เปิดเผยแสงสีแดงออกมาอย่างไม่ปิดบัง และพวกเขาเองก็เริ่มหายใจหนักขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้เหลืออีกก้าวเดียวก็จะประสบความสําเร็จ จะมีพวกเขาหนึ่งคนที่จะมีความสุขไปตลอดชีวิตของตัวเอง ใครก็ตามที่มู่ลี่เห็นเป็นคนแรกเมื่อเธอตื่นขึ้นมา บุคคลนั้นจะชนะความรักของเธอ
แต่มีอุปสรรคอยู่สองข้างหน้าในตอนนี้ หนึ่งคือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมในโลก ACG ตลอดมาทางโรงแรมได้รักษาความเป็นกลางเอาไว้ตลอดเวลา แต่พวกเขาไม่คิดว่าในช่วงเทศกาลที่ถูกจัดขึ้นนี้จะทําให้สถานะเป็นกลางที่พวกเขาพยายามรักษามาตลอดต้องหายไป อีกหนึ่งคือบอดี้การ์ดส่วนตัวของมู่ลี่เอง ตราบใดที่พวกเขาฝ่าฟันอุปสรรคทั้งสองนี้ไปได้ชัยชนะก็จะปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา!
ไม่จําเป็นที่หัวหน้าของทีมที่ 37 ต้องพูดสร้างขวัญกําลังใจของสมาชิกในทีมอีก เขาทําเพียงสั่นดื่มกระทิงแดง, สูบบุหรี่, ต่อหน้าสมาชิกในทีมทุกคน ก่อนที่จะแสดงสีหน้าอย่างลิงบาบูนตัวผู้ตัวหนึ่งที่พร้อมที่จะพุ่งเข้าหาโรงแรมได้ตลอดเวลา
ห้อง 1703 อยู่ที่ชั้น 17 นั่นคือชั่นที่พวกโจวหยูอาศัยอยู่
สมาชิกทั้งหมดของทีมที่ 37 ต่างก็รู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นพวกเขาจึงได้มารวมตัวกันที่ทางเข้าโรงแรมและกลุ่มคนที่ต่อสู้กันในงานเทศกาลด้านหน้าของโรงแรมเองก็ถูกกันออกไปหมดแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงคนของตัวเองเท่านั้น หัวหน้าทีมเป็นคนอ้วนที่กําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ซีดานซึ่งถูกยกขึ้นโดยสมาชิกในทีมแปดคน ขณะเดี่ยวกันก็กําลังเคี้ยวเอฟซีซีเต็มปาก
“ เวลาใกล้เข้ามาแล้ว และอีกไม่นานเจ้าหญิงของเราก็จะตื่นขึ้นมา ข้าคงไม่ต้องพูดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเจ้าคงรู้กันดีอยู่แล้ว ดังนั้นข้าขออวยพรให้พวกเจ้าโชคดี
ในขณะเดียวกันเขาได้โบกมือล้วนๆของตัวเองไปหมา และนั้นถือว่าเป็นสัญญาณให้เริ่มบุกได้
เจ้าของโรงแรมในโลก ACG เป็นของเมืองสตาร์ไลน์ เดิมเขาก็ไม่ชอบพลเมืองของเมืองแบล็กสตาร์อยู่แล้ว แต่เขาก็ยังรักษาความเป็นมืออาชีพเอาไว้ได้ ดังนั้นเขาจึงได้สร้างเขตปลอดสงครามขึ้นในโรงแรมแห่งนี้ และเขาสามารถรักษาสถานะนี้เอาไว้ได้เป็นเวลานาน ก่อนที่จะเกิดเรื่องของมู่ลี่ขึ้น มันทําให้สถานะที่เขาพยายามรักษาเอาไว้ได้ถูกทําลาย
“พวกมันไม่รู้ว่าตัวเองกําลังยุ่งอยู่กับใครกัน! เรนเจอร์เตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้!”
ในขณะที่เขาออกคําสั่ง ยามของโรงแรมก็พุ่งเข้าใส่พร้อมปะทะกับแฟนๆ ในฉากนี้เต็มไปด้วยเสียงร้องของการต่อสู้และความเจ็บปวด พวกมันได้ดังไปทั่วบริเวณหน้าโรงแรมทันที
ต้องยอมรับว่าฉากการต่อสู้ครั้งนี้มีความงดงามราวกับภาพยนตร์สงครามมหากาพย์ฟรอมยักเลยที่เดียว
อย่างไรก็ตามผู้คนจากโลกแห่งความเป็นจริงไม่สามารถมองเห็น สงคราม’ ที่เกิดขึ้นภายใต้เท้าของพวกเขาได้ พวกเขายังคงเข้าหรือออกจากโรงแรมโดยไม่ได้รับผลกระทบจากมัน มีเพียงโจวหยุผู้ซึ่งอยู่ชั้นบนเท่านั้นที่ได้ใช้กล้อง ‘ครอสความจริง’ เพื่อซูมเข้าไปบันทึกการต่อสู้ทั้งหมดบนพื้นดิน
เมื่อเห็นว่ามีบางคนได้บุกเข้าไปในโรงแรมได้ โจวหยุเกิดควมกังวลขึ้นมาอย่างยิ่ง “นั่นไม่ดีแล้ว! แม้ว่ายามพวกนั้นจะมีพลังมากกว่าก็ตาม แต่จํานวนอีกฝ่ายมีมากกว่า ทําให้พวกนั้นบางส่อนหลุดมาถึงที่นี้ได้หิ่งห้อย! พ่อหวังว่ากับดักของเธอจะได้ผล? “
หิ่งห้อยเป็นนักล่าเงินรางวัล ดังนั้นทักษะการวางกับดักจึงเป็นหนึ่งในทักษะที่เธอใช้บ่อยครั้งและนักล่าเงินรางวัลทุกคนต่างก็มีมัน อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นผู้คนมากมายในตอนนี้ใบหน้าของเธอก็เกิดความไม่แน่ใจเหมือนกัน “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ฉันทําได้แค่พยายามอย่างดีที่สุดเท่านั้น แล้วตอนนี้พี่หยวนก กาก้า และ เบ็นเท็น ไปขอความช่วยเหลือจากห้องอื่นกลับมายัง?”
แม้ว่าหิงห้อยจะมีความมั่นใจในความสามารถของตัวเองอยู่เสมอ แต่เมื่อความสามารถครั้งนี้เดิมพันถึงความสุขตลอดชีวิตของน้องสาวของตัวเอง เธอก็เกิดความลังเลขึ้นมา ดังนั้นเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เธอจึงได้บอกให้พี่น้องคนอื่นไปขอความช่วยเหลือจาก บริษัทจัดการไอดอลคนอื่นๆ แต่ในมุมมองของโจวหยูมองว่า เรื่องนี้มีความสําเร็จเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้
เหตุผลเหรอ? นั้นง่ายมาก! ทําไมพวกเขาต้องช่วยเหลือเราด้วย? หากมีบางอย่างเกิดขึ้นกับมู่ลี่มันกับเป็นการสร้างโอกาสให้กับไอดอลของพวกเขา นอกจากนี้ทุกคนยังต้องการหลีกเลี่ยงพวกแฟนๆเหล่านี้เช่นกัน ดังนั้นในตอนนี้สิ่งที่โจวหยูคิดได้คือการรวบรวมบอดี้การ์ดทั้งหมดในห้องและตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถบุกผ่านทางเข้าของห้องนั้นได้ ในแง่ของความช่วยเหลืออื่นๆ เขาสามารถพึ่งได้เพียงโชคเท่านั้น
เมื่อโจวหยูคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็รวบรวมความคิดทั้งหมดไปกับการปกป้องทันที เขายังได้เตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้ขั้นสุดท้ายเอาไว้ด้วย ถ้าเขาไม่สามารถป้องกันห้องนี้ได้จริงๆ เขาก็จะพามู่ลี่วิ่งหนีออกไปข้างนอก อย่างน้อยเขาก็ยังหาที่ซ่อนตัวหรืออาจจะเดินทางกลับไปที่หมู่บ้านได้
ตอนนี้คนในห้องสามารถได้ยินเสียงคํารามของแฟนๆที่อยู่ข้างนอกได้ ซึ่งบ่งบอกว่าพวกนั้นใกล้เข้ามามากแล้ว แม้ว่าผู้คุมในทุกชั้นกําลังพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องพื้นที่ของตัวเอง แต่จํานวนแฟนคลับที่มีมากเกินไป ทําให้มีพวกนั้นบางคนที่หลุดออกมาได้
หลังจากเข้าสู่ชั้นที่สิบเจ็ดกับดักต่างๆก็เริ่มมีผล ลูกธนูพุ่งออกมาจากกําแพงและเครื่องกีดขวาง เห็นได้ชัดว่าหิงห้อยได้ใช้ทักษะทั้งหมดที่เธอมี หลังจากที่เธอใช้มานาหมดแล้วในตอนนี้เธอจึงสามารถทําได้เพียงพึ่งพาการต่อสู้ระยะใกล้เพื่อป้องกันประตูได้เท่านั้น
โจวหยูเองก็เข้าร่วมด้วยด้วยเช่นกัน ด้วยขนาดตัวที่สูงและมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง มันทําให้ตัวของเขาเหมือนกับรถถังชั้นยอมที่สามารถบดทําลายล้างศัตรูได้ทุกทิศ หากเขาไม่ยอมใช้ประโยชน์ในจุดนี้ เขาคงเป็นคนที่โง่เป็นอย่างมาก
ระหว่างนั้นเอง โจวหยูสังเกตเห็นว่ามู่ลี่กําลังจะตื่นขึ้นมา ด้วยภาวะมึนงงเล็กน้อยก่อนที่จะตื่นเต็มที่ เขาได้พูดเบาๆว่า “เด็กดี! หนูอย่าพึ่งลืมดวงตาของหนูนะ! พ่อขอให้หนูเชื่อพ่อและทําตามที่พ่อบอก ถ้าสถานการณ์ที่นี้ได้จัดการเรียบร้อยแล้ว พ่อจะอธิบายเรื่องพวกนี้ให้หนูรู้เอง ดังนั้นในตอนนี้หนูกลับไปนอนในกระเป๋าของพ่อก่อนโอเคไหม? “
มู่ลี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็ยังเลือกที่จะกลับเข้าไปนอนต่อในกระเป๋าของพ่อตัวเองอย่างเชื่อฟังและเริ่มนับแกะอย่างประหม่า
หลังจากนั้นไม่นานแฟนๆจํานวนมากก็เริ่มปรากฏตัวในโรงแรมอย่างต่อเนื่อง แต่พวกนั้นก็ถูกหยุดด้วยยามของโรงแรมและกับดักที่หิงห้อยเตรียมเอาไว้
แต่พวกเขาก็ประเมินความบ้าของแฟนที่บ้าคลั่งพวกนี้น้อยเกินไป ไม่เพียงแต่พวกนั้นจะหยุดโจมตีเมื่อเห็นเพื่อนของตัวเองถูกกับดับ แต่พวกนั้นกับยิ่งบ้าคลั่งขึ้นมามากกว่าเดิมเสียอีก
เพียงตอนที่โจวหยูกําลังยุ่งอยู่กับการปกป้องห้องอยู่นั้น เลขาอย่างหลินวานก็ได้ออกมาจากห้องข้างๆ
หลังจากเปิดประตูหลินวานก็ตกใจกลัวจนแทบตายเพราะสิ่งที่เธอเห็นตอนนี้ เจ้านายของเธอกําลังปิดกั้นทางเข้าประตูราวกับว่าเขากําลังพยายามปกป้องบางสิ่งอยู่ เธอรู้สึกว่าควรเรียกรถพยาบาลมาที่นี้ทันที มีความเป็นไปได้ว่าโรคของเจ้านายอาจจะกําเริบขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้อยู่ในระดับที่สูงเป็นอย่างมาก มันจะดีกว่าถ้าเขาจะอยู่ในมือของแพทย์โดยเร็วที่สุด
“อย่าเพิ่งยืนอยู่ตรงนั้น! ตอนนี้ฉันยุ่งมาก! ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไรแต่ตอนนี้ฉันไม่มีเวลา ถ้าเธอจะพูดอะไรค่อยเอาไว้พูดหลังจากนี้!”
โจวหยูไม่สามารถละทิ้งสมาธิออกมาได้ และเขายิ่งไม่เข้าใจว่าทําไมเลขาคนใหม่คนนี้ของเขาถึงได้ออกมาเห็นแต่สถานกาณณ์ช่วงที่สําคัญที่สุดเสมอ? และทําไมเธอถึงปรากฏตัวเสมอในขณะที่เขายุ่งอยู่กับการทําอะไรบางอย่าง?
หลินวานที่ได้ฟังแบบนั้นก็เดินไปปิดประตูห้องของตัวเองอย่างไม่เต็มใจแล้วรีบโทรหาผู้จัดการฟู พร้อมกับอธิบายถึงพฤติกรรมของเจ้านายที่ผิดปกตินี้ทันที เธอรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นความเจ็บป่วยทางจิตที่รุนแรงมาก ดังนั้นมันจะเป็นการดีกว่าถ้าเขาจะไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
โจวฟูที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดเองก็รู้สึกงงเช่นกัน แม้ว่าโจวหยูจะชอบทําตัวแปลกๆอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็ยังไม่ถึงระดับที่คนอื่นจะพูดว่าเขาป่วยเป็นโรคจิต แล้วทําไมการเดินทางระยะไกลครั้งนี้ถึงทําให้เขาดูเหมือนว่าเขาต้องถูกส่งไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด?