The Legendary Mechanic - ตอนที่ 351
การแยกเป็นเรื่องแน่นอน ฝ่ายอิสรภาพได้ตัดสินใจแล้ว ฝ่ายผู้พิทักษ์รู้สึกตกใจและโกรธ พวกเขาสามารถป้องกันเผ่าพันธ์ได้ด้วยกัน แต่ตอนนี้กลับมีคนทรยศและคิดจากไป นอกจากนี้ พวกเขายังได้ทำลายสิ่งที่เคยปกป้อง ฝ่ายผู้พิทักษะถามเสียงดัง
“พวกนายก็เป็นชาวซันนิลเหมือนกัน ในช่วงวิกฤติของเผ่า นายจะละทิ้งเผ่าพันธ์ได้ยังไง?”
เฟอร์นัสไร้อารมณ์”เผ่าพันธ์ของฉัน รูปร่างฉัน ปัจจัยเหล่านี้ได้ถูกตัดสินตั้งแต่ที่ฉันเกิด ฉันได้ทำมามากพอแล้วและตอนนี้ก็อยากมีชีวิตใหม่”
ฝ่ายผู้พิทักษ์ยังอยากถามคำถามพวกเขา แต่ก็เห็นว่าหน้าของฝ่ายอิสรภาพไม่มีร่องรอยของความเสียใจหรือความอับอายเลย คำพูดกลายเป็นอัดแน่นในลำคอพวกเขา คนที่กำลังเผชิญหน้าอยู่คือพี่น้องที่ร่วมรบกันมา พวกเขาหลั่งเลือดและเหงื่อมาด้วยกัน พวกเขาไม่ใช่ศัตรู แค่เพื่อนร่วมทางที่เลือกแยกทางกัน พวกเขาไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะกล่าวทษได้ ทุกคนล้วนมีความต้องการของตน
เฟอร์นัสผลักคนของเขาและเดินออกไป ทหารซันนิลและอีกฝ่ายจ้องมองแผ่นหลังพวกเขางียบๆ
ครั้งนี้ ชาวซันนิลดูเหมือนจะเห็นแค่อนาคตดำมืด เสียงร้องไห้เริ่มังขึ้น และแม้แต่ทหารที่ไม่กลัวความตายก็ยังร้องไห้ นี่คือการล่มสลายของเสาในใจ ตลอดหลายปี ยอดซันนิลคือสัญลักษณ์ในใจพวกเขาและเป็นแรงบันดาลใจของชาวซันนิล
บางครั้ง การล่มสลายของเสาหลักทางใจก็อาจทำให้เกิดความรุนแรงยิ่งกว่าภัยพิบัติภายนอกกลุ่ม
หานเซี่ยวส่ายหัว พวกซันนิลเป็นเหมือนคนพิการไป และร่างกายก็แข็งค้าง เขายังคงมุ่งมั่น จิตใจเขาหนักแน่น แต่เมื่อความเชื่อพังทลาย เขาจึงกลายเป็นคนที่สูญเสียกำลังก้าวไปข้างหน้า
ดังนั้น ผลกระทบของการแตกแยกจึงไม่ใช่แค่การลดจำนวนยอดซันนิล มันยังทำให้เกิดผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อผู้คนและคุณภาพของเผ่าพันธ์
วิธีที่เฮอลัสกลายเป็นตัวละครหลักคือตอนที่เฟอร์นัสและยอดซันนิลคนอื่นถอยหนีไป และเบื้องงบนก็ทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษคนใหม่และสร้างแรงบันดาลใจ บางบอกว่ายังมีคนคอยปกป้องอยู่
ในชีวิตก่อนหน้าเขา ตำแหน่งในอนาคตของเฮอลัสใหญ่โตยิ่งกว่าเฟอร์นัส หากเฟอร์นัสเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงจากความเมตตาเป็นความเย็นชา และเลอเด็นเป็นตัวแทนของการไถ่บาป เฮอลัสก็จะเป็นตัวแทนของคนที่เคยหลีกเลี่ยงความจริง จนกระทั่งถูกปลุกความรับผิดชอบขึ้น หลังชาวซันนิลผ่านหายนะ ความคิดของเผ่าก็ค่อยๆเปลี่ยนไป ความเชื่อได้ล่มสลายตั้งแต่การแตกแยก และการปรากฏของเฮอลัสก็คือการสร้างเสาค้ำฟ้าใหม่ ประสบการณ์และการกระทำเขาช่วยมอบเหตุผลการดำรงอยู่ให้พวกเขา แต่ก็ยังเดินไปข้างหน้า ความขัดแย้งในใจเขาเป็นการสะท้อนถึงเผ่าพันธ์ทั้งหมด
ไม่เหมือนกับเบนเน็ต ผู้สร้างเขตอนุรักษ์บนอความารีนและพัฒนาความเชื่อมายาวนาน เฮอลัสคือตัวละครหลักที่ยังเติบโต
เมื่อคิดถึงเส้นทางทั้งหมดนี้ในชีวิตก่อนหน้าเขา ช่างกลหานก็ถอนหายใจ น่าเศร้าที่น้ำสามารถพาเรือลอยแต่ก็ยังจมเรือได้…เมื่อเฮอลัสตายในสนามรบ ชาวซันนิลก็ยอมแพ้และกระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของโกโดร่า
….
ฝ่ายอิสรออกจากแนวป้องกันและเข้าป่าไป พวกเขากำลังหาสถานที่และติดต่อกับตัวแทนท่องอวกาศ ไม่คิดกลับมาอีก ทันใดนั้น คนๆหนึ่งก็ปรากฏตรงหน้าพวกเขา มันคือนักรบเกราะลึกลับ
เฟอร์นัสและคนอื่นหยุด
เฮอลัสถอดหมวกเขาและกล่าวด้วยสีหน้าซับซ้อน”ทำไม?นายมาพบฉันก่อนจากไปเพราะนายอยากให้ฉันมาแทนที่นายเพื่อปกป้องเผ่าพันธ์งั้นหรอ แต่ทำไมนายถึงทำลายความเชื่อของเผ่าพันธ์?”
เฟอร์นัสมองเขาอย่างเย็นชา ส่ายหัวและกล่าว”หากฉันไม่ไป…นายจะมาแทนที่ฉันได้ยังไง?”
ความโกรธปรากฏในดวงตาเฮอลัส”เพราะเหตุผลที่น่าเบื่อเช่นนั้นงั้นหรอ?”
“ฉันดูถูกนายจริงๆ นายมีพลังที่แข็งแกร่ง แต่ก็หลบอยู่แนวหลังอย่างสบายใจ นายไม่อยู่ในตำแหน่งจะมาพูดคุยกับฉัน”สีหน้าเฟอร์นัสเปลี่ยนไป”ตอนนี้ นายแสดงพลังนายและเปิดเผยชุกเกราะ เผ่าพันธ์ย่อมควานหาตัวนายสุดความสามารถ นายไม่อาจย้อนกลับได้อีกแล้ว”
เฮอลัสพลันตระหนัก”นายใช้ฉัน…”
“อย่าประเมินตัวสูงไป!”ดวงตาของเฟอร์นัสหนักแน่น”ทุกคนผ่านเรื่องมามาก ทำไมเราถึงต้องเปลี่ยนใจเพราะตัวละครอย่างนาย?การออกไปเพื่อผลประโยชน์เรา ก็เหมือนพี่น้องที่เลือกอยู่ ต่อให้การแยกทางของเราจะเกิดผลด้านลบ ความโง่เขลาของพวกเขาก็จะไม่สั่นคลอน”
“ฉันจะพูดเหมือนเดิม การมีชีวิตอยู่คือสิ่งสำคัญ ฉันอยากให้ทั้งเผ่าพันธ์ไม่มีความปราถนาที่จะยึดมั่นอย่างนี้ การต่อสู้ที่ไร้ความหมายนี้ต้องจบลง ยอมรับความช่วยเหลือจากโกโดร่าอย่างเต็มใจ และไม่มีใครจะต้องหลั่งเลือดและสู้อีก พวกซันนิลทุกคนจะได้รับชีวิตที่สงบสุขและมั่นคง..เส้นทางนี้เป็นวิธีแท้จริงในการปกป้องเผ่าพันธ์”
เฮอลัสเปิดปาก และหน้าของหานเซี่ยวก็ปรากฏในหัวอีกครั้ เขาเคยบอกเฟอร์นัสถึงอนาคตของการยอมรับความช่วยเหลือไปแล้ว แต่เฟอร์นัสก็ยังแสดงความคิดเห็นและไม่สั่นคลอน เขารู้สึกว่าเขามองผิด
โดยไม่พูดอะไร ฝ่ายอิสรภาพเลือกจากไป
เฮอลัสลังเลสักพัก จากนั้นก็ค่อยๆตัดสินใจ เขาออกป่าและก้าวไปทางแนวป้องกัน
กองทัพยังคงสั่นสะเทือน เมื่อพวกเขาเห็นนักรบลึกลับปรากฏ พวกเขาก็จำคำสั่งจากเบื้องบนได้ พวกเขาระงับอารมณ์และตัดลับสำคัญเพื่อล้อมรอบเขา
ต่อหน้าทหารนับไม่ถ้วน เฮอลัสค่อยๆถอดหมวก เหลือบมองพร้อมสูดหายใจ”ชื่อของฉันคือเฮอลัส….”
…
สำหรับเผ่าซันนิล หายนะครั้งนี้เต็มไปด้วยการพลิกผัน ผู้พิทักษ์แยกตัวกัน แต่เกราะชั้นบัญชาการในตำนานกลับปรากฏอีกครั้งเมื่อยอดซันนิลลึกลับนามเฮอลัสยืนหยัดขึ้นเพื่อปกป้องเผ่าพันธ์ หลังได้รับบทบาทใหม่ สื่อก็กระจายเรื่องของเฮอลัสไปทั่ว สร้างเขาให้เป็นวีรบุรุษจำเป็น มันยังรายงานว่าห้องวิจัยได้รับเงินทุนเพิ่มเติมหลังได้รับเกราะชั้นบัญชาการ หวังว่าเผ่าพันธ์จะได้รับเทคโนโลยีกลับคืนมาสักวัน ดังนั้น พวกเขาจึงใช้เฮอลัสเป็นสัญลักษณ์
ด้วยกองัทพและเหล่าผู้นำที่ทำงานร่วมกัน ชื่อของเฮอลัสจึงกระจายไปทั่วดาว ค่อยๆกลายเป็นแบบอย่างใหม่สำหรับเผ่าพันธ์
พวกซันนิลจ่ายค่าจ้าง และทหารรับจ้างก็ออกไปทีละคน ในช่วงเวลาการต่อสู้กัน หานเซี่ยวได้รู้จักคนไปมาก พวกเขาคุยกันดี และทหารรับจ้างคนอื่นก็มีความประทับใจต่อกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร
ทหารรับจ้างอยากรู้จักคนในสายเดียวกัน เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาอาจได้สู้เคียงข้างกันอีก
ผู้เล่นกลับมา และทหารซันนิลก็แสดงความขอบคุณต่อกลุ่มแบล็คสตาร์ก่อนจะให้รางวัล ผู้เล่นแต่ละคนได้รับเงิน12000อีนาส เพิ่มกำลังซื้อส่วนใหญ่พวกเขา ในฐานะผู้นำ หานเซี่ยวก็ได้รับเงินเหมือนกัน และพร้อมกับงานซ่อมแซม ช่างกลหานจึงทำเงินได้16000อีนาส พอให้สู้ความรู้ขั้นกลางขึ้น