The Legendary Mechanic - ตอนที่ 346
อีกด้านหนึ่ง ชายเมาได้หมุนขวดเหล้าเล่น เขาตะโกนเสียงดังอย่างมีอารมณ์”งั้นเราก็จะอ้อนวอนโกโดร่า!เกียรติสามาราถทำอะไรได้?การมีชีวิตถึงสำคัญ!หัวของผู้นำเหล่านี้เต็มไปด้วยความระยำ หลายคนตายทุกครั้ง น้องชายสองคนของฉันตายในกองทัพ!ทั้งหมดนี่สูญเปล่า เราควรขอความช่วยเหลือจากโกโดร่า ทำไมเราต้องทำให้ตัวเองลำบาก!พวกพิเศษเหล่านี้ไร้ประโยชน์ หากพวกเขาแข็งแกร่งจริง หายนะคงหมดไปนานแล้ว!”
ชายเมาพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกและดูหมิ่นพวกพิเศษและทหาร ตำหนิและบ่นด้วยภาษาหยาบคายขึ้น การกระทำนี้ทำให้ลูกค้ารายอื่นโกรธ พวกพิเศษและทหารถือเป็นวีรบุรุษของประชาชนส่วนใหญ่ ความสงสัยหรือการดูหมิ่นย่อมทำให้เกิดการไม่พอใจ
“ที่แกใช้ชีวิตมาได้จนถึงตอนนี้ก็เพราะพวกเขาที่สู้เพื่อเรา แกคิดว่าแกเป็นใครกัน!”
ชายเมาหัวเราะและกล่าว”นี่คือสิ่งที่พวกมันควรทำ ความสามารถมาพร้อมกับความรับผิดชอบ หากไม่ใช่เพราะการฝึกฝนของเผ่าพันธ์ พวกมันก็ควรเป็นคนธรรมดาอย่างฉัน”
“คนอย่างแกไม่ควรอยู่ในเมืองนี้!”
ชายเมาหัวเราะอีกครั้ง”ต่อให้การป้องกันเมืองจะพัง ฉันก็ยังเป็นประชากรที่ได้รับการอพยพ ฉันจะไม่เป็นคนที่ตาย”
“แกไม่สมควรได้รับการคุ้มครอง!”ฝูงชนเริ่มโกรธ
การโต้เถียงเริ่มเร่าร้อน เลอเด็นนั่งตรงเคาน์เตอร์ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย เขาไม่แม้แต่จะหันไปดู
ครั้งนี้ ชายหนุ่มคนหนึ่งกระโจนใส่ชายเมาอย่างดุเดือดและเริ่มสู้ตรงๆ เขากดชายเมาลงกับพื้นและชกใส่หน้าเขาถี่ยิบ เลือดกระจายไปทั่วพื้น คนอื่นเห็นว่ามีเลือดและพยายามรีบดึงเขาออกไป
“ลาน่า ใจเย็นๆ!”
“หยุดต่อยเขาได้แล้ว เขากำลังจะตาย+ง
ลาน่าชกอีกสองสามหมัดก่อนยืนขึ้นด้วยความเกลียดชังและถูกดึงออกไป ชายเมาเลือดไหลออกจากปากและจมูก ไม่อาจลุกขึ้นยืนได้หลังถูกทุบตี คนอื่นเข้าไปตรวจสอบและโชคดี ชายเมาแค่บาดเจ็บ จากนั้นคนก็ตำหนิลาน่าว่าใช้กำลังมากไป หลายคนที่นี่เป็นเพื่อนบ้านเขา และลาน่าก็เป็นชายหนุ่มที่หวังเข้ากองทัพ เขาแข็งแรงและมีกล้ามเป็นมัด
“พวกแกสองคน ไสหัวออกไปจากร้านฉันซะ”เฮอลัสตะโกน”กลับบ้านไปและสงบสติลง!”
ลาน่าออกไปอย่างไม่มีความสุข และชายเมาก็ถูกพาตัวไป ดังนั้น เรื่องทะเลาะจึงจบลง
หานเซี่ยวหันมา มองเฮอลัสและกล่าว”ฉันคือแบล็คสตาร์ หากนายสนใจสิ่งที่ฉันพูด ก็มาหาฉัน ฉันสามารถแก้ปัญหานี้ได้”
จากนั้น หานเซี่ยวก็โทรหาเลอเด็นและทั้งสองก็ออกจากบาร์
สีหน้าไร้ความกังวลหายไปจากหน้าเฮอลัส เปลี่ยนเป็นจริงจังเล็กน้อย ดวงตาเขาเป็นประกายและไม่เหมือนท่าทางเขา เขาไม่ได้ไม่สนใจอนาคตของเผ่าพันธ์
เขาไม่รู้ว่าทหารรับจ้างที่เรียกตัวเองว่าแบล็คสตาร์เป็นผู้พยากรณ์จริงไหม ถึงแม้ว่าเขาจะเป็น มันก็เป็นไปได้ที่เขาจะโกหกถึงอนาคตเพื่อหลอกเขา เขาต้องมีแรงจูงใจ แต่เฮอลัสไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ประตูบาร์เปิดอีกครั้ง และชายสูงในชุดฮู้ดก็เดินมา”ขอเบียร์แก้ว”
ชายคนนั้นเงยหน้าและแสดงใบหน้าเขา
เฟอนาส!
เฮอลัสประหลาดใจ”นายไม่ดื่มนี่”
“ถือซะว่าเป็นการเฉลิมฉลองที่ฉันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง”เฟอร์นาสรับแก้วมาลื่ม ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสนิทกันมาก หากคนอื่นรู้ว่ายอดซันนิลระดับBของเผ่าพันธ์สนิทกับเจ้าของบาร์เล็กๆ พวกเขาคงตกใจ
พวกเขาเป็นเพื่อนเล่นกันแต่เด็ก เฮอลัสจึงคุ้นเคยกับเขา เฟอนาสทั้งกล้าหาญ ซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบและอื่นๆมากมาย หลังหายนะครั้งแรกของซันนิล เฟอร์นาสกลายเป็นทหารรับจ้างเพื่อช่วยเหลือเผ่าพันธ์ เฮอลัสมักอิจฉาเฟอร์นาส ตั้งแต่เด็ก พี่ชายอายุสั้นเขามักพูดถึงเฟอร์นาสอย่างนั้น เฟอร์นาสอย่างนี้ ในสายตาเขา เฟอร์นาสคือ’เด็กข้างบ้าน’
แม้เขาจะอิจฉาอยู่บ้าง เฮอลัสก็เคารพเฟอร์นาส เขารู้ว่าเขาไม่อาจทำได้อย่างเฟอร์นาส หลังพี่ชายเขาตาย เฮอลัสก็ใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมาย รอคอยความตาย ไม่ได้กังวลถึงเผ่าพันธ์เลย เขารู้ว่าเขาเป็นคนขี้เกียจ เมื่อพี่ชายเขามีชีวิต เขามักถูกดุเสมอ หลายคนรู้สึกว่าเขามีพรสวรรค์พอๆกับเฟอร์นาสแต่ใช้ชีวิตสิ้นเปลือง ตอนนี้ เฟอร์นาสได้รับความเคารพจากคนทั่วเผ่าพันธ์
เขารู้จักเฟอร์นาส เขาเป็นคนมีวินัยและจะไม่ทำผิดกฏเด็ดขาด ดังนั้น เฮอลัสจึงขมวดคิ้วและถาม”เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“น้องชาย ฉันไม่อาจทนได้อีกแล้ว ฉันกำลังจะออกไป”เฟอร์นาสส่งรอยยิ้มขมขื่นออกไป เฮอลัสไม่เคยเห็นสีหน้าเช่นนี้มาก่อน
ออกไป?เฮอลัสตกใจ
“จักรวาลมีความเป็นไปได้ไม่รู้จบ”เฟอร์นาสกล่าว”เมื่ออดีตถูกคัดขาด ฉันก็ไม่อยากถูกฉุดรั้งด้วยเผ่าพันธ์อีก มีนักรบมากมายที่คิดเหมือนฉัน ดังนั้นเราจะไม่กลับมาหลังหายนะครั้งนี้”
“เราได้ปกป้องเผ่าพันธ์มานานเกินพอแล้ว เพื่อนหลายคนเสียสละตัวเอง และบางคนก็อ้อนวอนให้เราคุ้มครอง นี่ไม่ใช่ข้อผูกมัดเรา และไม่จำเป็นต้องทำต่อไป เราทำมามากเกินพอแล้ว บางทีเผ่าพันธ์ควรยอมรับความช่วยเหลือจากโกโดร่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องมีใครตายอีก”
“แม้แต่นายก็ยอมแพ้?!”เฮอลัสตกใจ ทันใดนั้น คำพูดของหานเซี่ยวก็ผุดขึ้นในหัว นี่คือการแตกแยกที่เขาทำนายไว้?งั้นเผ่าพันธ์เราก็คงมีอนาคตอย่างที่เขาว่า กลายเป็นดาวภายใต้โกโดร่าและเสียมรดก?
เฮอลัสจัดเรียงข้อมูล จากนั้นก็บอกเฟอร์นาสถึงคำทำนายของหานเวี่ยวถึงจุดจบหลังซันนิลยอมรับความช่วยเหลือจากโกโดร่า เฟอร์นาสส่ายหัวหลังได้ยิน โดยไม่มีความเปลี่ยนแปลง เขายังคงกล่าว”การมีชีวิตย่อมสำคัญสุด ตราบเท่าที่คนเรายังมีชีวิต อุดมคติก็จะไม่ตายจาก”
จะเป็นอย่างนั้นจริงๆ?
แต่เฟอร์นาสที่เขารู้จักย่อมไม่ละทิ้งเผ่าพันธ์
นายมีชีวิต แต่นายเปลี่ยนไป…
เฮอลัสเห็นหน้าเฟอร์นาสและรู้ว่าเขาตัดสินใจแล้ว เมื่อเห็นว่าเฟอร์นาสเป็นเพื่อนที่ดีสุดของเขา อารมณ์เขาจึงวุ่นวาย ตอนนี้ เขาไม่เคยมองเขาแบบเดิม มันเหมือนคนแปลกหน้า
“งั้นทำไมนายถึงมาบอกฉัน?”เฮอลัสถาม
เฟอร์นาสเขย่าขวดและกล่าว”พูดตรงๆ ฉันไม่ชอบนาย นายมีแข็งแกร่งยิ่งกว่าฉัน แต่ก็ปิดซ่อนและยอมรับการคุ้มครองจากเรา…ช่างเถอะ อย่าไปพูดถึงมัน ฉันแค่มาบอกนายเฉยๆ มันขึ้นอยู่กับนายว่าจะหลีกเลี่ยงต่อหรือยืนหยัดขึ้น”
เฟอร์นาสดึงฮู้ดขึ้นและทิ้งเฮอลัสไว้กับความคิดนั้น
…
เนื่องจากเมล็ดได้ถูกหว่านไปแล้ว หานเซี่ยวจึงไม่เข้าเมืองอีก เขาเลือกอยู่นอกเมืองและซ่อมแซมสนามรบ เขาจึงอยู่นอกเมืองและทำการซ่อมแซมต่อ เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางของหายนะ สนามรบจึงยิ่งร้อนระอุขึ้น สัตว์ประหลาดน่ากลัวทุกชนิดพุ่งมาทีละตัว และเขาก็ไม่อาจวิ่งข้ามสนามรบได้ด้วยร่างกายเพียวๆ เขาสวมชุดจักรกล บางครั้ง เมื่อสถานที่ที่เขาซ่อมมีช่องโหว่ เขาจะกลายเป็นตัวสำรองเพื่อเติมเต็มช่องโหว่นั้นด้วย ท่ามกลางทหารรับจ้าง พลังเขาไม่ถือว่าโดดเด่นเกินไป และเหลุผลเดียวที่ทหารรับจ้างคนอื่นจำเขาได้ก็เพราะกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์นั้นรับภารกิจเสี่ยงตาย ทหารรับจ้างหลายคนรู้สึกว่าหานเซี่ยวเสียสติ
ทหารจำนวนมากตายทุกวัน และศพที่ไม่สมบูรณ์ก็ถูกส่งกลับไปแนวหลังทีละศพเพื่อระบุตัว ค่ายป้องกันยังมีอาวุธและเครื่องบินที่ได้รับความเสียหาย ดังนั้นการป้องกันจึงกลายเป็นยากขึ้นเรื่อยๆ มียานรบเพียงเก้าลำในท้องฟ้าที่ยังไม่เคยยิง พวกซันนิลมีทรัพยากรจำกัด และพลังงานยานรบก็หายาก เฉพาะเมื่อสัตว์ที่แข็งแกร่งมากปรากฏตัว ยานถึงเริ่มยิง นอกจากนี้ ยานรบของพวกซันนิลยังบินรอบดาวได้แค่3-4วันอย่างมาก นอกจากการพิทักษ์น่านฟ้า การใช้งานสำคัญของยานทั้ง9ก็เพื่อทำให้แน่ใจว่าจะขนส่งพลเรือนออกไปได้หากสถานการณ์พ้นมือ ละทิ้งเมืองเพื่อหลบหนี มันเป็นเส้นทางหลบหนีฉุกเฉิน
8วันต่อมา เมืองเงียบสงบอย่างแปลกประหลาด สัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงช่วงท้ายของหายนะดังขึ้น และครั้งนี้ ทุกคนก็ได้รับหน้ากากหายใจ ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ด้านโลจิสติกส์ แม้แต่พวกพิเศษบางคนยังเข้ามาในสถานที่ลี้ภัย
ฮูม!
ปีกแมลงส่งเสียงดัง และเมฆหนาสีดำก็คืบคลานมา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแมลงขนาดเล็กที่มีความก้าวร้าวเหมือนคลื่น