The Legendary Mechanic - ตอนที่ 343
ขณะที่เขากำลังซ่อมแซม หานเซี่ยวก็มองยานอวกาศเหนือเมือง”ทำไมยานถึงยังไม่เข้าร่วมการต่อสู้?”
“มันเป็นม่านพลังของเมืองจาดฟ้า และยังเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งสุดดด ไม่จำเป็นต้องใช้มันกับสัตว์ตัวเล็กๆเหล่านี้”เนวิลล์ตอบ
หานเซี่ยวพลันเปลี่ยนน้ำเสียง”ผมได้ยินข่าวลือถึงไพ่ตายที่พวกคุณเรียกว่าเกราะชั้นผู้บัญชาการ ซึ่งทรงพลังกว่าเกราะชั้นสิบเอกมาก ทำไมพวกคุณถึงไม่ใช้มัน?”
“เกราะชั้นผู้บัญชาการสูญหายไปนานแล้ว ต้อนเราถูกโจมตีบนดาวบ้านเกิดเรา”เนวิลล์ตอบพร้อมถอนหายใจ”เราเสียเทคโนโลยีทำเกราะไป ตอนนี้ เรามีชุดเกราะชั้นบัญชาการที่เสียหายหนักแค่สี่ชุดในคลังเรา และทั้งหมดก็เสียหายไป70%ดังนั้น เราจึงไม่อาจทำวิศวกรรมย้อนกลับได้”
“ถึงแม้ใครก็สามารถสวมเกราะชั้นบัญชาการได้ แต่ก็มีเพียงพวกพิเศษถึงดึงประสิทธิภาพออกมาได้สูงสุด เมื่อดาวบ้านเราถูกโจมตี เราก็ส่งเกราะชั้นบัญชาการทั้งหมที่มีไป และก็พังไปทีละอัน ส่วนทหารที่สวมเกราะก็เสียสละชีวิตตน โดยปราศจากพวกเขา ผู้รอดชีวิตจึงเหลือแค่ครึ่งเดียว ท้ายที่สุด เราก็ได้รับชุดเกราะเสียหายคืนมาแค่สี่ชิ้น ทั้งสี่ชุดคือกุญแจสู่ความอยู่รอดเรา เราเก็บมันไว้ภายใต้การบำรุงรักษา”
เกราะชั้นบัญชาการมีระดับแตกต่างกับเกราะที่เหลือโดยสิ้นเชิง เกราะชั้นพลทหารและสิบเอกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่เกราะบัญชาการคืออุปกรณ์ชั้นสูงสุดและอยู่ในระดับเดียวกับอุปกรณ์ของพวกพิเศษ วัสดุที่ต้องใช้ผลิตเกราะชุดหนึ่งสามารถนำมาผลิตเกราะพลทหารได้สอง-สามร้อยชุด
การเสียเกราะชั้นบัญชาการไปหมายถึงการล่มสลายของอารยธรรม หากพวกเขายังมีเทคโนโลยีของเกราะชั้นบัญชาการ งัน้พวกเขาก็สามารถสู้กับสัตว์ร้ายได้สบายๆ และภัยคุกคามของหายนะก็จะลดลง
บูม!
พื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และทหารเกราะสองคนก็ถูกกระแทกไปข้างๆ เนวิลล์เห็นบางอย่างหลังหานเซี่ยวและตะโกน”หลบ!”
สัตว์เปลือกแข็งใต้ดินที่มีขนาดเท่ากระทิงกระแทกทหารขึ้นอากาศและชนหานเซี่ยว มีสัตว์ใต้ดินมากมาย และพวกมันก็เป็นประเภทพุ่งชนเป้าหมาย สถานะป้องกันพวกมันสูงพร้อมเกราะสีดำเข้มที่แข็งเหมือนเหล็ก มันสามารถป้องกันกระสุนได้ ดังนั้นมันจึงรับมือได้ยาก
หานเซี่ยวหันกลับและหยิบบอลทองคำออกมา บอลขยายเป็นความโกรธของกาเร็ตและโดยไม่รีรอ เขาเปิดใช้เจตจำนงค์แห่งเพลิงกับทักษะสร้างความเสียหายสำคัญพร้อมกระตุ้นความเสียหายจริง
ลำแสงสว่างพลันยิงทะลุอากาศและเจาะเกราะสัตว์ร้ายโดยตรง มีเพียงรอยไหม้บนตัวมันเท่านั้น
กองทหารป้องกันต้องใช้เวลากว่าสิบวินาทีเพื่อล้มมัน แต่หานเซี่ยวกลับทำได้ในการโจมตีเดียว ด้วยโมเมนตัมมัน ศพค่อยๆเลื่อนตัวไปข้างๆเท้าหานเซี่ยวพร้อมของเหลวที่รั่วไหล
“ไม่ต้องแปลกใจ ผมแข็งแกร่งกว่าพวกคุณทุกคน”หานเซี่ยวเก็บอาวุธและทำการซ่อมแซมต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“..ผมลืมไป”ปากของเนวิลล์เบิกก้วาง เขาคิดว่าหานเซี่ยวก็แค่คนงานด้านโลจิสติกส์ที่ไม่มีพลังรบใดๆ และเขาก็จำได้ว่าหานเซี่ยวเป็นพวกพิเศษ
ภายในไม่กี่นาที หานเซี่ยววางเครื่องมือเขาลงและพูด”มันเสร็จแล้ว”
เกราะทำงานได้อีกครั้ง เนวิลล์ยืนขึ้น ตรวจสอบอีกครั้งว่าเสร็จแล้ว และวิ่งตรงกลับไปสนามรบ ตะโกนบอกให้คนเขาออกจากตำแหน่ง
ถึงแม้พวกเขาจะถูกตะโกนใส่ ทหารก็ไม่บ่น พวกเขามีความสุขที่ช่วยชีวิตหัวหน้าได้
เนวิลล์หยุดตะคอกทหารและจดจ่อการรบ เขายังคงตะโกนออกคำสั่ง
เพียงเมื่อหานเซี่ยวเตรียมพร้อมย้ายไปจุดถัดไป สัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นจากฐาน หานเซี่ยวหยุดและหันไปมอง
การเตือนระดับสอง หายนะอยู่ในขั้นกลางแล้ว
บรรยากาศลึกลับกระจายออกมา และกลุ่มเงาดำก็บินออกจากป่า พวกมันปกคลุมด้วยหมอกดำและบินข้ามทุ่งมา พวกมันหลบทุ่นระเบิดได้ง่ายๆและหลบการโจมตีส่วนใหญ่อย่างคล่องแคล่ว
ในไม่ช้า แสงสว่างก็ส่องกระทบสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ พวกมันมีเนื้อสีเทาเข้มไร้ขน พวกมันสูงอย่างน้อยสามหรือสี่เมตรและไม่มีลักษณะใบหน้าใด พวกมันมีหนวดสองเส้นบนหัวเพื่อสัมผัสสภาพแวดล้อม กรงเล็บยาวสี่ข้างยื่นออกจากร่างพวกมัน และพวกมันก็มีขาแข็งแกร่งและปีกค้างคาวสีดำคู่หนึ่ง นอกจากนี้ พวกมันยังมีหางคล้ายแส้สามหางที่เต็มไปด้วยหนามแหลม
“ผีเสื้อรัตติกาล!”หานเวี่วยจำมันได้จากการบรรยายเบื้องต้น การปรากฏของพวกมันหมายความว่าหายนะได้ผ่านระยะแรกแล้ว และระยะต่อมาก็จะอันตรายกว่าเดิมเป็นสิบเท่า ความตายและความเสียหายย่อมเพิ่มขึ้น
คำสั่งถอยถูกส่งผ่านหูฟัง”เจ้าหน้าที่บำรุงรักษาทุกคน ถอยกลับมาแนวป้องกันที่ห้าและเข้าฐานเดี๋ยวนี้!’
หานเซี่ยวทำตามคำสั่งและตรงกลับฐานเหล็ก ประตูและหน้าต่างปิดแน่นและไม่พบทางออก มันเป็นมาตรการความปลอดภัย ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงสามารถดูการต่อสู้ได้นอกหน้าต่าง
พรึบ!
ทันใดนั้น แนวป้องกันก็เปิดไฟเต็มกำลังและส่องฟ้า กลางคืนกลายเป็นกลางวัน ผีเสื้อรัตติกาลพากันแผดเสียงร้องเมื่อแสงส่องกระทบพวกมัน และก็สูญเสียความรู้สึกด้านทิศทางจนชนกัน กลิ้งไปมาบนพื้นเหมือนพวกมันเมา จากนั้น ผีเสื้อรัตติกาลจำนวนหนึ่งก็ตกลงบนเขตทุ่นระเบิดและถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ
หนวดของผีเสื้อรัตติดาลไวต่อแสง ดังนั้นพวกมันจึงเคลื่อนที่ได้แค่ในความมืด
พวกซันนิลเตรียมแผนเฉพาะสำหรับสัตว์บางประเภท หลังเข้าสู่ระยะกลางของหายนะ ภารกิจก็ไม่ง่ายอย่างการยิงกระสุน ตอนนี้ กองทัพได้ใช้กลยุทธ์เฉพาะเพื่อรับมือกับพวกมัน กลยุทธ์ได้รับมาจากการเสียเลือดเนื้อของหายนะครั้งก่อน และพวกเขาก็ลดความเสียหายได้
ท้ายที่สุด มันก็มีศัตรูที่ยากจะรับมือ ตัวอย่างเช่นแมลงพิษ สิ่งเหล่านี้อยู่ในระยะสุดท้าย
ผีเสื้อรัตติกาลทุกตัวมีระดับเดียวกัน พวกมันคือพวกพิเศษเกรดD พวกมันมีความว่องไวมาก และหางพวกมันก็ง่ายต่อการแทงทะลุเกราะ เพราะเหตุนั้น ป้อมปืนจำนวนมากจึงถูกทำลาย และกองทหารป้องกันและทหารรับจ้างก็ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
…
การต่อสู้ดุเดือดลากไปจนถึงรุ่งเช้า ในที่สุดผีเสื้อรัตติกาลก็ถอยออกไป และสนามรบก็สงบสุขชั่วคราว ทหารอย่างน้อยพัคนตายในคืนเดียว มันเป็นการต่อสู้ที่อันตรายมาก
ศพจำนวนนับไม่ถ้วนถูกยัดใส่ถังศพและส่งกลับไปแนวหลัง สมาชิกครอบครัวของทหารอาศัยอยู่ในเมือง การเสียสละพวกเขาไม่เพียงแต่จะเป็นความภาคภูมิเท่านั้น แต่ยังเพื่อครอบครัว ศพพวกเขาจะต้องถูกครอบครัวระบุศพ และค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดก็สะท้อนจากเมือง
ทหารเหล่านั้นกลับตายในค่ำคืนเดียว ขวัญและกำลังใจทหารตกลง ทหารเหนื่อยล้ามาก พวกเขาไม่อาจถอดชุดเกราะได้ในกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นพวกเขาจึงกระจัดกระจายและนั่งลงแหงนมองฟ้า
เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของครอบคัว ทหารก็ตระหนักว่าพวกเขาอาจเป็นหนึ่งในนั้น
ในบรรยากาศเช่นนี้ ทหารรับจ้างทำได้แค่เงียบและเตรียมอุปกรณ์
ฉากนี้ทำให้หานเซี่ยวนึกถึงอความารีน ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนในจักรวาล ความทุกข์ทรมานที่เกิดจากสงครามก็เหมือนๆกัน
ทันใดนั้น มันก็มีการเคลื่อนไหวด้านข้าง กลุ่มสอดแนมกลุ่มใหญ่กลับมาฐาน พวกเขาได้รับการเคารพอย่างมาก ทหารจำนวนมากจ้องพวกเขา และบางคนก็ทำท่าเคารพ
หน่วยลาดตระเวนมีกำหนดงาน มันมักมีทหารมาแทนที่ทีมพวกเขาเพื่อให้พวกเขากลับมาพัก ผู้เล่นก็ถูกส่งออกไปแทนทีมนี้
หานเซี่ยวนึกถึงตอนคุยกับเลอเด็น เลอเด็นบอกว่ามีทหารที่แข็งแกร่งสองคนผู้เป็นระดับB พวกเขาทำงานเป็นทหารรับจ้างในกาแล็กซี่และทุกๆปี พวกเขาจะได้รับเงินก้อนโต พวกเขาถือเป็นไอดอลของชาวซันนิล
ผู้นำของหน่วยสอดดแนมที่กลับมาก็คือหนึ่งในสองคนนั้น เฟอร์นัส
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกองทัพทั้งหมดปรากฏตัวและต้อนรับทหารที่กลับมา
เฟอร์นัสโบกมือ”เราเสียพี่น้องไปมาก เราพยายามนำศพพวกเขากลับมาให้ได้มากที่สุด”
ฝูงชนกระจายออกไปและวางถุงศพ20กว่าใบลงบนพื้น พวกเขาคือยอดซันนิล ฟูเมย์ก็เป็นหนึ่งในนั้น
หานเซี่ยวกวาดตามองและไม่เห็นศพของเลอเน เขามองไปในฝูงชนและยังเห็นเลอเด็นในนั้น แม้เขาจะเสียขาข้างหนึ่งและแขนสองข้าง อย่างน้อยเขาก็ยังมีชีวิต
“พวกเขาเป็นวีรบุรุษ”ทหารกล่าว”เราจะจัดการที่เหลือเอง”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”เฟอร์นัสตอบ
ยอดซันนิลทุกคนมองศพสหายร่วมรบและแสดงสีหน้าโศกเศร้า
บรรยากาศสลดลงอีกครั้ง
หานเซี่ยวยังคงเฝ้าสังเกตสีหน้าพวกเขา และก็พบกลุ่มหนึ่ง รวมถึงเลอเด็นที่แสดงความสิ้นหวังและความเสียใจต่อการสูญเสีย
สำหรับกลุ่มอื่น นอกจากความโศกเศร้า พวกเขายังแสดงความโกรธแค้นค