The Legendary Mechanic - ตอนที่ 342
ตกดึก ในป่าห่างจากเมืองสองร้อยกิโลเมตร ทีมสอดแนมดูเหมือนกำลังวิ่งหนี พวกเขาดูตื่นตระหนกและยังคงมองย้อนหลัง ดูเหมือนมีบางสิ่งน่ากลัวกำลังไล่ตามมา เสียงใบไม้ถูกันดังจากป่าด้านหลัง มันดูเหมือนเสียงยังคงใกล้เข้ามา และความมืดสนิทก็ไล่ตามมา
ทีมนี้ประกอบไปด้วยสามคน เป็นยอดซันนิลทั้งหมด กัปตันฟูเมย์กล่าวด้วยตัวสั่นสะท้าน”อย่าหยุดเด็ดขาด ผีเสื้อรัตติกาลอยู่ด้านหลังเรา+.
ตามสัตว์ต่างๆที่ปรากฏขึ้นในเวลาต่างกัน หายนะแบ่งเป็นหลายขั้น การปรากฏของผีเสื้อรัตติกาลเป็นสัญญาณว่าหายนะเข้าสู่ขั้นกลางแล้ว สัตว์เหล่านี้จะออกล่าตอนกลางคืนและเมื่อพวกมันปรากฏตัวกันเป็นฝูง มันก็หมายถึงค่ำคืนแสนอันตราย
คลื่นพลังจิตทำให้สัตว์ทุกตัวบนดาวอาละวาด และเมืองป่าก็แค่ส่วนหนึ่ง มีสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนเข่นฆ่ากันในพื้นที่ต่างๆ ไม่มีที่ใดปลอดภัย หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เกิดฝูงสัตว์ร้ายเพราะสัตว์ที่อ่อนแอจะถูกแรงกดดันจากสัตว์ชั้นบนของห่วงโซ่ ดังนั้นพวกมันจึงออกจากอาณาเขตของสัตว์ที่แข็งแกร่งกว่าและมุ่งหน้ามายังเมืองป่า เมื่อสัตว์ถูกฆ่าตายในจำนวนมาก มันก็จะดึงดูดสัตว์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เป้าหมายการสอดแนมคือการหาสายพันธ์ของสัตว์ร้ายและเตือนเมือง นี่เป็นงานที่อันตรายมาก แทบหมายถึงความตาย ทีมสอดแนมป่านี้ได้ส่งข้อความกลับไปแล้ว และตอนนี้ พวกเขาก็กำลังวิ่งเอาชีวิตรอด
เมื่อรู้สึกถึงความเย็นและความมืดที่อยู่ห่างไม่กี่นิ้ว ทั้งสามก็หน้าซีด
ฟูเมย์กัดฟัน เต็มไปด้วยความเสียใจ
“มันเป็นแบบนี้อีกแล้ว…นี่ไม่ใช่ครั้งแรก!”
เขาเจอหายนะมาสามครั้ง และทุกครั้ง เขาก็จะเลือกทีมสอดแนมป่า เขาเดินเข้าใกล้ประตูแห่งความตายมานับไม่ถ้วนและรอยแผลเป็นบนร่างเขาก็ยังให้ความรู้สึกเจ็บอยู่
ขณะที่เขาออกวิ่ง เขาก็อดคิดถึงชีวิตเขาไม่ได้
ย้อนกลับไปตอนเกิดหายนะครั้งแรก พวกพิเศษได้กลับจากกาแล็กซี่เพื่อปกป้องเผ่าพันธ์ และฟูเมย์ก็ด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขากลับรู้สึกเหนื่อยกับการต่อต้าน เลือดเดือดย่อมเย็นลงในไม่ช้า เขาเอาแต่ให้แต่ไม่เคยได้รับอะไรตอบแทน หลังผ่านมาหลายปี ความอดทนของฟูเมย์ก็หมดลง เขารักบ้านเขาจริงๆ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเผ่าพันธ์จะสามารถใช้เขาได้ตามใจชอบและเห็นพวกเขาเป็นเครื่องมือ เหตุผลเพื่อรักษาเผ่าพันธ์กลายเป็นข้อแก้ตัวที่ฟูเมย์รู้สึกรำคาญ
มันไม่ยุติธรรม!ความอดทนเขามาถึงขีดจำกัด เขายอมมอบรางวัลของทหารรับจ้างให้เผ่าพันธ์ และก็ยอมมอบชีวิตให้ อะไรที่ทำให้เผ่าพันธ์มีสิทธิ์ร้องขอกับเขามากมายขนาดนี้?
เพียงเพราะมันเป็นเผ่าพันธ์เขา เขาถึงไม่ได้รับอะไรตอบแทน?!
อะไรที่ทำให้พวกเขามีสิทธิ์ทำให้คนที่แข็งแกร่งอย่างเขาต้องรับผิดชอบมากขนาดนี้!
งานทหารรับจ้างของฟูเมย์ในกาแล็กซี่ได้ขยายความรู้เขา และเขาก็รู้สึกต่อต้านการมอบชีวิตให้เผ่าพันธ์มากขึ้น ชีวิตมีค่ามาก
นักรบหลายคนแน่วแน่ แต่ก็ยังมีหลายคนที่มีความคิดเหมือนเขา หลังให้เผ่าพันธ์มากเกินไป เขาก็รู้สึกว่านั่นเกินพอแล้ว
หากฉันรอดชีวิตในครั้งนี้ ฉันจะไม่มีทางกลับมาที่นี่อีก!ฟูเมย์กัดฟัน
ทันใดนั้น หางก็ยิงออกจากป่าเหมือนแส้ ปลายหางคือกระดูกแหลม มันเจาะใส่ท้องของหน่วยสอดแนม ผู้สอดแนมร้องโหยหวนและเพลิงนักสู้ก็ปรากฏทั่วร่างเขา เขาฉีกหางและของเหลวดำก็กระเด็นใส่หน้าเขา
การโต้ตอบทำให้คนๆนี้ล้าหลังคนอื่นไปชั่วขณะ และนั่นก็หมายถึงชีวิตเขา
ซวบ!
มีหางนับสิบยิงออกมาจากความมืดและพัวพันนักสู้ผู้คนี้ ลากเขาไปในป่าทันที ฟูเมย์หันไปและเห็นไฟของเขาสว่างไปทั่วไป แสดงให้เห็นถึงพลังของนักสู้เกรดC
อย่างไรก็ตาม ไฟนี้กินเวลาอยู่แค่ครึ่งวินาทีก่อนจะระเบิดและแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกับร่างคน
ฟูเมย์รู้สึกถึงความอบอุ่นบนใบหน้า หลังลูบคลำ เขาก็ยืนยันว่ามันเป็นเลือดอุ่นของสหายเขา
ในเวลาไม่ถึงวินาที นักสู้เกรดCก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ!
เสียงคำรามของผีเสื้อรัตติกาลดังไปทั่วป่า ไม่ใช่แค่จากด้านหลัง แต่ยังเป็นข้างหน้าด้วย โอบล้อมอีกสองคนไว้ เงาแส้นับพันปรากฏขึ้นในป่ามืด
…
ตึก ตึก ตึก!
เสียงระเบิดยาวนานจากปืนใหญ่ทำให้ท้องฟ้าสว่างไสว คลื่นสัตว์ประหลาดนี้กินเวลานานถึงห้าชั่วโมง การต่อสู้มาถึงช่วงร้อนระอุ และแนวป้องกันที่สามก็เต็มไปด้วยซากศพ ทีมป้องกันเหล็กต่อสู้มานานและต้องเปลี่ยนกะ เกราะของทุกคนได้รับความเสียหายกันถ้วนหน้า
มันเป็นกลางคืน และหานเซี่ยวก็ถือกล่องเครื่องมือและเดินไปทั่วแนวป้องกัน ซ่อมเกราะของทีมป้องกันทีละคน เวลาขาดแคลน และภารกิจก็สำคัญ พวกเขาต้องกลับไปสู้ทันทีหลังการซ่อมแซมเสร็จ
นอกจากนี้ยังมีทีมซ่อมแซมสนามรบ แต่ทักษะหานเซี่ยวดีสุด ชื่อของเขากระจายไปทั่วแนวป้องกันแล้วและทุกทีมก็หวังจะได้พบหานเซี่ยวในช่วงการซ่อมแซม มีเพียงตอนนั้นความปลอดภัยพวกเขาถึงได้รับการรับประกัน
การเชื่อมแผ่นเหล็ก ซ่อมวงจร รีเซ็ตระบบ การซ่อมของหานเซี่ยวไหลเหมือนน้ำ ทีมซ่อมแซมสนามรบมอบอุปกรณ์สื่อสารภายในให้เขาเพื่อให้ภารกิจง่ายขึ้น เมื่อเขาซ่อมทีมหนึ่งเสร็จ คำสั่งใหม่ก็ดังขึ้น”ทีมป้องกันB12กำลังร้องขอการซ่อมแซมด่วน!”
B12คือทีมของเนวิลล์ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงรีบรุดไป ทีมเนวิลล์ไม่ได้เปลี่ยนกะเพื่อพักเลย พวกเขายังคงสู้ และการซ่อมในช่วงต่อสู้ก็เสี่ยงมาก ทหารคนหนึ่งเห็นหานเซี่ยวและพูดอย่างเร่งรีบ”เร็วเข้า ทางนี้!”
หานเซี่ยวรีบวิ่งไปหาเนวิลล์ที่นอนอยู่บนพื้น รอยกรงเล็บของสัตว์ร้ายได้เจาะเกราะระหว่างหน้าอกและท้องเขา ทำให้เกิดดไฟฟ้าลัดวงจร ท่อแตกเผยให้เห็นอุปกรณ์พลังงานที่ดับลง เนวิลล์ไม่อาจลุกขึ้นได้ ดังนั้นทหารกลุ่มหนึ่งจึงโอบล้อมเขาไว้ตรงกลาง
“บัดซบ สมาชิกใหม่ทุกคน ออกไปจากที่นี่ซะ!พวกคุณไม่ได้รับอนุญาติให้ออกจากตำแหน่ง!”เนวิลล์ตะโกน แต่ทหารก็ไม่ฟัง ยังคงปกป้องเขา
เนื่องจากขบวนพวกเขา มันจึงทำให้เกิดช่องโหว่ในค่ายนี้ และคลื่นสัตว์เล็กๆก็ฝ่าเข้ามา สถานการณืเช่นนี้จำต้องมีทีมโต้ตอบเร็วมาสนับสนุน กำลังหนุนกำลังเดินทางมา ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ มันเป็นกระบวนการปกติ
แต่ทว่า ในสายตาเนวิลล์ นี่คือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ดังนั้นเขาจึงดิ้นรนจะยืนขึ้น
“อย่าขยับ”หานเซี่ยวกดเนวิลล์ลง นำวัสดุและอุปกรณ์ออกมา
เนวิลล์รู้สึกว่ามือของหานเซี่ยวเหมือนภูเขาที่กดทับร่างเขา เขาไม่อาจขยับตัวได้เลย ท้ายที่สุด เขาก็ทำได้แค่กัดฟันและยอมแพ้”เร็วเข้า!”
“หุบปาก”หานเซี่ยวกล่าวอย่างไร้อารมณ์
[ซันนิล-เกราะป้องกันชั้นสิบเอก ความคืบหน้า : 27%]
เขาได้ซ่อมแซมเกราะชั้นพลทหารมามากในช่วงหลายวันนี้และเขาก็ได้ใช้ค่าประสบการณ์ไปหลายล้านเพื่อดึงพิมพ์เขียว แต่ทว่า มีโอกาสน้อยมากที่จะซ่อมเกราะชั้นสิบเอก ดังนั้น เขาจึงมีเพียง27% เขายังเดาว่าเกราะชั้นสิบเอกต้องการา[การดัดแปลงเครื่องจักรหนัก]เป็นข้อกำหนดเบื้องต้น ดังนั้นความคืบหน้าจึงค้างอยู่
นอกจากเกราะ เขายังโชคดีพอจะซ่อมยานพาหนะและแบตเตอรี่ และยังได้รับพิมพ์เขียวป้อมปืนลอยฟ้า
แม้เนวิลล์จะรีบกลับไปสนามรบ เขาก็ทำได้แค่รอให้หานเวี่ยวซ่อม และแม้เขาจะเร่ง ความเร็วหานเซี่ยวก็ทำให้เขารู้สึกโล่งใจ มันคงใช้เวลาไม่นานก่อนเขาจะกลับไปต่อสู้ได้อีก