The Legendary Mechanic - ตอนที่ 340
เลอเด็นออกไปเข้าร่วมกองกำลังลาดตระเวน และหานเซี่ยวก็แค่นั่งและรอในฐาน อย่างไรก็ตาม เขาได้บรรลุวัตถุประสงค์ของสายอาชีพรองแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเข้าเมืองอีก
เมื่อวันแห่งหายนะใกล้เข้ามา ผลของคลื่นก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เสียงพร่ามัวจะดังจากจิตใจของผู้คน เสียงนั้นฟังดูคุ้นเคย แต่ทว่า เมื่อใดก็ตามที่มีคนพยายามจะทำความเข้าใจ มันก็จะหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่
เมื่อความถี่ของเสียงกระซิบวิญญาณเริ่มจับคู่กับความยาวคลื่นสมองของสิ่งมีชีวิต มันจะทำให้เกิดอารมณ์กระเพื่อมผ่านจิตใจ ทหารรับจ้างไม่มีข้อยกเว้นและทุกคนก็มีอาการเหมือนกัน ในทางกลับกัน ทหารซันนิลเจอแบบนี้มาทุกวันอยู่แล้วและทำงานด้วยความมุ่งมั่นตามปกติ
นั่นเป็นการรบกวนจิตใจของศิลพยากรณ์ สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญามากจะมีโอกาสข่มมันได้และไม่ได้รับผลมากนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่คลืน่ระเบิด ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้น และทุกคนก็จะสามารถกับสิ่งที่สัตว์ร้ายพบเจอทุกวัน การใช้ชีวิตในสภาพเช่นนี้ไปตลอดหมายความว่าแรงผลักเล็กน้อยก็เกินพอจะผลักดันสิ่งหนึ่งได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ‘“คลื่น’เป็นประกายไฟที่นำมาซึ่งหายนะ
หวอ!หวอ!
วันนั้น เสียงแหลมของไซเรนดังขึ้นทั่วฐาน ทุกคนคุ้นชินกับเสียงนั้นดี มันหมายความว่าศัตรูมาแล้ว!
บรรยากาศในฐานตึงเครียด ทหารซันนิลวิ่งกลับไปยังตำแหน่งตน และทหารรับจ้างก็สามารถหาทางกลับกลุ่มตนได้อย่างงรวดเร็วเพราะการฝึกวันก่อนๆ
รถถังและรถหุ้มเกราะต่างๆออกปฏิบัติการ และป้อมปืนต้านแรงโน้มถ่วงจำนวนมากก็ลอยขึ้นในอากาศ
ฮืม!
ยานรบประจัญบานทั้งเก้าค่อยๆลอยขึ้น ทำให้ระลอกลมและทรายกวาดทั่ว พวกมันเปรียบเสมือนป้อมปราการทั้งเก้าในอากาศเหนือเมือง แต่ละอันจะหันไปในทิศแตกต่างกัน
หานเซี่ยวก้มหัวลง เห็นหินก้อนเล็กมากมายเริ่มเด้งขึ้นจากพื้น
พื้นสั่นสะเทือนเล็กน้อยในตอนแรก แต่มันก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ท้ายที่สุด เสียงฝีเท้าจำนวนมากก็ดังไปทั่วฐาน ใครๆก็ได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้ายรอบๆป่า
ต้นไม้ถูกแยกโดยฝูงสัตว์ร้ายราวกับว่าอสรพิษยักษ์กำลังเลื้อยมาหา และพวกมันก็กำลังจะมาถึงชายแดนของที่ราบรอบเมือง
บางสิ่งกำลังออกมา คนจำนวนนับไม่ถ้วนรู้สึกประหม่า เหงื่อพวกเขาหยดเต็มหน้าผาก
“โฮก!”
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายเหมือนเสียงฟ้าร้อง และต้นไม้ก็โค่นลงมาเผยให้เห็นฝูงสัตว์ร้ายจำนวนมหาศาล!
พวกมันเหยียบย่ำกันเองราวกับพวกมันคลุ้มคลั่ง มันราวกับว่ากระแสความมืดได้กวาดหาพวกมัน
เพียงแค่ภาพตรงหน้าก็ทำให้หัวใจของหลายคนเต็มไปด้วยความกลัว
“ยิงได้!”เจ้าหน้าที่ตะโกนอย่างท้อแท้
บูม!
อึดใจต่อมา ปืนใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนรอบแนวป้องกันก็เปิดฉากยิงทันที ทำให้แก้วหูของหลายคนดับ
หายนะมาถึงแล้ว!
…
เมืองป่ามีกำแพงป้องกันหลักห้าแห่ง แห่งแรกประกอบไปด้วยทุ่นระเบิดและป้อมปืนอัตโนมัติจำนวนมาก ตามแผนรบ ส่วนนี้จะประสานงานกับการยิงสนับสนุนจากแนวหลังเพื่อสลายฝูงสัตว์ประหลาด แห่งสองจะประกอบไปด้วยป้อมปราการ คูน้ำ กับดักและกำแพงไฟฟ้า ชะลอการเคลื่อนไหวของสัตว์ ช่วยให้ป้อมปืนต้านแรงโน้มถ่วง รวมถึงยานรบสร้างความเสียหายได้
กำแพงที่สามคือแนวป้องกันเหล็ก ฝูงบินจะไล่ตามรถหุ้มเกราะและทีมป้องกัน เมื่อสัตว์ร้ายเข้าสู่ส่วนนี้ การรบจะเข้าสู่ระยะประชิด และทีมป้องกันก็จะปลดปล่อยความเกรี้ยวกราดของอาวุธโลหะใส่สัตว์ร้ายทีนี่ นี่ยังเป็นจุดที่เนวิลล์ประจำการ
สองส่วนสุดท้ายเต็มไปด้วยปืนใหญ่ จุดประสงค์เพื่อสนับสนุนแนวหน้า กองทัพโต้ตอบเร็วและกำลังเสริมอื่นยังประจำการที่สองส่วนสุดท้าย ในช่วงเวลาที่สงบของหายนะ คนจากส่วนสุดท้ายจะทำการซ่อมแซมและทำการรักษาทหาร
กลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ประจำอยู่ที่สองส่วนสุดท้าย พวกเขาได้รับมอบหมายให้อยู่ในฝ่ายรถหุ้มเกราะหนักระยะยาวชื่อรหัสG7 รถถังหลักสามคันจะทำหน้าที่เป็นอาวุธหลักของขบวน รถถังเหล่านี้สามารถเกาะติดพื้นและแปลงเป็นป้อมปืนขนาดมหึมาได้ พวกเขายังติดตั้งป้อมปืนอัตโนมัติ18อันและกองกำลังภาคพื้นดินจำนวนหนึ่งรอบรถถัง
ในฐานะช่างกล งานของหานเซี่ยวคือการควบคุมปืนใหญ่เหล่านี้ เขามีแค่ภารกิจเดียว ยิงปืนใหญ่!คนส่วนใหญ่ที่มีสายช่างกลล้วนได้รับงานเดียวกัน ด้วยความสัมพันธ์พิเศษและความสามารถเกี่ยวกับกลไก พวกเขาจึงสามารถเพิ่มความเสียหายของอาวุธเหล่านี้ได้ ด้วยระดับวิกฤติของหายนะ มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่คนๆเดียวจะมีอิทธิพลต่อสนามรบ
บูม!
กระสุนปืนใหญ่ยิงเป็นเส้นโค้งและคลุมท้องฟ้าก่อนจะตกใส่ฝูงสัตว์ ทำให้หมอกสีแดงบานสะพรั่งไปทั่ว เนื้อและกระดูกสัตว์ปลิวว่อน ทำให้เกิดภาพน่ากลัว
คลื่นสัตว์หยุดชะงักชั่วคราว อย่างไรก็ตาม สัตว์ด้านหลังกลับไม่เกรงกลัวเลยและพุ่งข้ามศพพวกมัน ฝืนวิ่งผ่านพายุกระสุนปืนใหญ่และระเบิด
กลิ่นดินปืนและเลือดผสมเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดลมร้อนแรงเพราะการระเบิดหลายครั้ง
บูม!บูม!บูม!
หานเซี่ยวสามารถรู้สึกได้ถึงการหดตัวครั้งใหญ่ทุกครั้งที่เขาเปิดฉากยิงด้วยปืนใหญ่ เขายิงทีละนัดพลางเฝ้าดูกระสุนตกใส่ใจกลางฝูงสัตว์ ระเบิดเหมือนดอกไม้สีส้ม
เขาเริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับการยิงปืนใหญ่นี้มาก!
แถวและแถวการแจ้งเตือนผุดไม่หยุด แจ้งเตือนว่าหานเซี่ยวกำลังได้รับค่าประสบการณ์ แม้จะเป็นการหยิบยืมอาวุธของพวกซันนิลจะทำให้ค่าประสบการณ์ถูกหัก หานเซี่ยวก็ทำเช่นนี้เพื่อคำนวณว่าผู้เล่นจะได้รับค่าประสบการณ์มากแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้น การมีส่วนร่วมในสงครามระดับนี้ย่อมทำให้ผู้เล่นตื่นเต้น มันทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ และพวกเขาก็พยายามมีส่วนร่วมที่สุด
คลื่นดำหยุดสั้นๆ เปลวไฟจากด้านหลังปกคลุมทุกตารางนิ้ว และพวกมันก็แทบไม่อาจก้าวมาข้างหน้าได้โดยไม่ทิ้งเลือดเนื้อ
ทหารรับจ้างหน้าใหม่ผู้กำลังยิบปืนใหญ่ข้างหานเซี่ยวกล่าว”งั้น หายนะก็ไม่ใช้เรื่องใหญ่ พวกมันเข้ามาไม่ได้เลย”
หานเซี่ยวเหลือบมอง แต่ก็ไม่พูดอะไร พวกกระจอกนี่ไม่ได้สนอะไรมากตอนพวกซันนิลบรรยายถึงฝูงสัตว์ นี่แค่ระลอกแรกและถือว่าเป็นสัตว์ขนาดเล็กสุด ขนาดใหญ่สุดตรงหน้ายังสูงไม่ถึงสิบเมตร ตามข้อมูล สัตว์เหล่านี้ก็แค่อาหารเรียกน้ำย่อย ฝันร้ายยังมาไม่ถึง
การระดมยิงด้วยปืนใหญ่กินเวลากว่าสี่ชั่วโมงก่อนชะลอลง กองกำลังสนับสนุนรีบวิ่งผ่านสนามรบอย่างรวดเร็วเพื่อเติมกำลังพล หน่วยเครื่องยิงไฟยังถูกส่งออกไปเผ่าเลือดและคราบเพื่อป้องกันโรคระบาด ทหารยังถูกแทนที่ใหม่ตลอด แต่ละตำแหน่งมีวงจรกะที่กำหนดไว้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ทหารคนจะผ่านการต่อสู้ดุเดือดเช่นนี้ได้โดยไม่พัก
เมื่อหานเซี่ยวเดินออกจากแท่นปืนใหญ่ไปพัก เครื่องยนต์ก็ดังขึ้นเหนือหัวเขา ฝูงบินลาดตระเวนลำใหม่ได้บินขึ้น อันตรายที่แนวหน้าเผชิญสูงกว่ากองกำลังป้องกันรอบเมืองมาก และปฏิบัติการพวกเขาก็ล้วนอยู่ภายใต้ความตาย พวกเขาเหมือนเรือลำเล็กที่ลอยอยู่บนมหาสมุทรตอนเกิดพายุ
ไม่นาน กองลาดตระเวนแนวหน้าก็ส่งข้อมูลมา สัตว์คลื่นใหม่กำลังจะมาถึง การเปลี่ยนแปลงใหม่ของทหารได้เตรียมรอศัตรูแล้ว
ฉากก่อนหน้าฉายซ้ำ แต่ทว่า คลื่นสัตว์สามารถเข้ามาใกล้ได้มากขึ้น จากนั้น เครื่องบินขับไล่ก็บินออกไปพร้อมปูพราม ไฟและระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้ง เครื่องบินขับไล่ซันนิลมีขนาดเล็กและว่องไว ปีกนั้นมีการออกแบบคล้ายชุดจักรกลเขา หานเซี่ยวสามารถบอกได้ว่าเครื่องบินเหล่านี้เหมาะกับการต่อสู้ทางอากาศด้วยความเร็ว
ศัตรูยังอยู่ไกล และแม้ว่ามันจะดูเหมือนจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทหารก็ยังไม่กลัว ระยะห่างระหว่างพวกเขาและสัตว์นั้นมีป้อมปราการเหล็กขวางกั้น
แต่ทหารซันนิลกลับเต็มไปด้วยความกังวล
ในเวลานั้น จุดสีดำก็ปรกาฏเหนือขอบฟ้าเล็กน้อย อสูรบินกำลังใกล้เข้ามา มันมีขนาดเล็กยาวไม่ถึงเมตรรวมถึงขนาดกลางที่มีปีกยาวหลายเมตร พวกมันดูดุร้ายและไม่เหมือนอะไรที่ทหารรับจ้างเคยเห็น บางตัวยังดูเหมือนแมลงสาบยักษ์
ข้อมูลที่พวกเขาให้เราบอกว่าสัตว์บินจะไม่ปรากฏจนกว่าวันที่สาม แต่ดูเหมือนพวกมันจะมาถึงก่อนเวลา
เมื่อความคิดนี้เกิดขึ้น ผู้บัญชาการG7ก็ตะโกนออกคำสั่งใหม่
“เปลี่ยนเป็นกระสุนระเบิดและปรับเป้า ยิงขึ้นฟ้า!”
กองทหารปืนใหญ่ปฏิบัติตามคำสั่งและระเบิดท้องฟ้าทันที ทำให้ร่างกายชุ่มเลือดตกลงมา
เครื่องบินขับไล่บินสูงขึ้นเพื่อหาจุดยิงใส่พวกมัน
เครื่องบินขับไล่ติดต่อม่านพลังงานง่ายๆ สัตว์อากาศชุดแรกก็แค่ใช้กรงเล็บแหลมพวกมันและฟัน พวกมันไม่อาจทำอะไรได้มากนอกจากสร้างเสียงแหลม เครื่องบินขับไล่พุ่งเข้าและออกฝูงสัตว์ ดดูเหมือนอัศวินยุคกลางที่พุ่งแหวกผ่านทหารราบ
การต่อสู้นี้นับเป็นการต่อสู้ระดับสูงแล้ว เวลาดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางการต่อสู้ดุเดือด
ตอนแรก ทหารรับจ้างสู้อย่างผ่อนคลาย แต่ทว่า หลังผ่านไปสามวันสั้น เมื่อสัตว์เพิ่มจำนวนและขนาดขึ้น พวกเขาก็ไม่อาจหัวเราะได้อีก การต่อสู้อย่างต่อเนื่องเริ่มดึงความเหนื่อยล้าจากทุกคน
หานเซี่ยวทำตามหน้าที่อย่างดี
วันที่4 ศัตรูสามารถคุกคามเขตปลอดดภัยด้านในได้
พื้นผิวสั่นสะเทือนราวกับคลื่น กลุ่มสัตว์ร้ายที่สามารถขุดและเคลื่อนไหวใต้ดินได้ชนกับกำแพงเหล็กของส่วนที่สามและพุ่งออกมา นี่คือครั้งแรกที่กองทัพด้านหลังได้เห็นสัตว์ร้ายในระยะใกล้
การปรากฏของสัตว์ใต้ดินเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระยะใกล้ พวกพิเศษที่รออยู่ด้านหลังเขตสามสามารถแสดงพลังพวกเขาได้แล้ว
กำแพงเหล็กและเครื่องจักรบนเขตสามพลันปลดปล่อยความเกรี้ยวกราด