The Legendary Mechanic - ตอนที่ 338
หายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นสร้างความหวาดกลัวให้จิตใจผู้คน แต่ผู้คบนถนนกลับมีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าราวกับวีรบุรุษได้ขับไล่ความกลัวออกไป
“ภายใต้กฏ ฉันต้องพานายเข้าเมืองด้วยตัวเอง”เลอเด็นกล่าว
“ดูเหมือนว่าอารยธรรมของนายจะบูชาพวกพิเศษนะ”หานเซี่ยวแสดงความคิดเห็น
“มันเรียกว่าการขอบคุณมากกว่าการบูชา”เลอเด็นตอบ”หลังเผ่าพันธ์เราเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันและอพยพมาดาวนี้ เรายังไม่มีพลังพอจะยืนหยัดด้วยตัวเอง การรวบรวมทรัพยากรช้าไปสำหรับเรา และเราก็ต้องซื้อวัสดุจากดาวอื่น ดังนั้น ค่าใช้จ่ายเราจึงสูงกว่าการผลิตเรา”
“เพื่อให้เราอยู่รอด พวกพิเศษที่มีพลังพอจึงต้องเข้าสู่อวกาศและกลายเป็นทหารรับจ้าง รางวัลส่วนใหญ่จะถูกส่งมาบ้าน และมันก็คือรายได้หลักของเรา ไม่มีทางที่อารยธรรมนี้จะสร้างอาวุธได้พอสู้กับหายนะ”
หานเซี่ยวมีความเข้าใจถึงสถานการณ์ดี พวกซันนิลเป็นอารยธรรมที่อยู่ในช่วงวิกฤต พวกเขาทำได้แค่พึ่งพาคนแข็งแกร่งเช่นพวกพิเศษ เพื่อสนับสนุนรายได้หลักของเผ่าพันธ์ นั่นทำให้ผู้คนปฏิบัติต่อพวกพิเศษเหมือนวีรบุรุษ และคนก็จะได้รับเกียรติสูงหากเป็นพวกพิเศษ
หานเซี่ยวยังจำได้ว่าเลอเด็นเป็นพวกขี้เหนียวมาก ในความเป็นจริง เลอเด็นกลับมอบเงินเขาให้เผ่าทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงพยายามใช้จ่ายให้น้อยที่สุด
“มันจะนำมาซึ่งความหายนะหากอารยธรรมนี้ยังคงพึ่งพาพวกพิเศษ”
เลอเด็นพยักหน้า”นั่นก็จริง แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ท้ายที่สุด มันเป็นเพราะหายนะ ซึ่งชะลอการฟื้นฟูเรา เราต้องแยกส่วนสำคัญของเงินทุนเราเพื่อสร้างอาวุธและอุปกรณ์ทหารมาป้องกันหายนะ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมเราถูกระงับไว้เพราะค่าใช้จ่ายพิเศษทั้งหมดที่ไม่อาจช่วยเหลือเศรษฐกิจได้”
“หากเราไม่อาจแก้ไขหายนะได้ เราก็ไม่อาจทำลายวงจรอุบาทว์นี้ได้ และอารยธรรมเราก็จะต้องทนทุกข์ทรมาน”
“เราพยายามหาทางแก้มากมาย และก็ยังพิจารณาเรื่องการฆ่าสัตว์ทั้งหมด แต่นั่นเป็นตัวเลือกที่เลวร้ายสุด ไม่เพียงแต่มันจะเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อห่วงโซ่อาหารถูกทำลาย ทั่วดาวก็ต้องเผชิญกับความตาย ดังนั้น เราจึงต้องเลือกทางอื่น พยายามขุดศิลาพยากรณ์และรับมือกับสาเหตุของหายนะ โครงการดำเนินมาหลายปีและเราก็กวาดศิลาทีละนิด วันหนึ่ง กระแสจิตจะหายไป และเผ่าพันธ์จะไม่ต้องเผชิญกับหายนะอีก..”
ใบหน้าของเลอเนให้ความรู้สึกสิ้นหวัง”มักมีแสงสว่างอยู่ปลายอุโมงค์เสมอ”
หานเซี่ยวสร้างความประทับใจต่อชาวซันนิล พวกเขาพึ่งพาพวกพิเศษและพวกพิเศษก็มีความรับผิดชอบต่ออารยธรรมมาก
ช่างน่าสงสาร…หานเซี่ยวถอนหายใจเมื่อนึกถึงชะตากรรมของชาวซันนิลในชีวิตก่อนหน้าเขา
พวกพิเศษกระจายไปทั่วหลังเข้าเมืองและตรงไปบ้านตนเอง ฝูงชนค่อยๆกระจัดกระจาย
หานเซี่ยวใช้ความทรงจำอันบิดเบี้ยวเขาและในที่สุดก็มาถึงทางเดินหลังวนหา เขาหยุดตรงหน้าประตูแคบสีดำ และมีแก้วไวน์แขวนอยู่บนป้าย
“บาร์?คนที่นายอยากมาหาอยู่ที่นี่?”เลอเด็นขมวดคิ้ว
“นายมีปัญหางั้นหรอ?”
“..ไม่”
สีหน้าเลอเด็นยังไม่เปลี่ยน เขาดูถูกคนที่ใช้เงินเพื่อพักผ่อนเพราะคิดว่ามันเป็นการสิ้นเปลืองเงิน
เหนือสิ่งอื่นใด เขาเสียสิทธิ์ที่จะเพลิดเพลินกับชีวิตไปแล้ว
พวกเขาผลักประตูและเดินไปในบาร์ บาร์มืดและไม่มีลูกค้าเลย เมืองนี้อยู่ในสถานะฉุกเฉิน มันจึงไม่มีใครกล้าพอจะมาเพลิดเพลินในนี้ หานเซี่ยวเดินไป และเสียงกรนเบาๆก็ดังจากด้านหลังเคาน์เตอร์
ช่างกลหานมองดูและเห็นชายคนหนึ่งกำลังนอนพาดเคาน์เตอร์ เขาหลับสนิทพร้อมกับขวดเปล่ากองหนึ่ง
ปัง!
หานเวี่ยวทุบเคาน์เตอร์อย่างแรงและตะโกน”ลูกค้ามา!ตื่น!”
นิ้วของชายคนนั้นขยับ และเขาก็ถอนหายใจยาว จากนั้นก็ยืนขึ้นพร้อมกลิ่นเหม็นเหล้า ดวงตาเขาไร้ชีวิตชีวา ลูเหมือนตื่นครึ่งหนึ่ง”ต้องการอะไร?”
“สองแก้ว”
“หนึ่งก็พอ”เลอเด็นแทรก
ชายคนนั้นหาว”จ่ายก่อน”
หานเซี่ยวหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาและเตรียมจ่าย ชายคนนั้นพลันหัวเราะลั่นและกล่าว”ลูกค้าที่รัก คุณคงไม่ได้คิดจ่ายด้วยอีนาสใช่ไหม?นี่เป็นธุรกิจเล็กๆ เรารับแค่สกุลเงินท้องถิ่น”
เลอเด็นขมวดคิ้ว เขามักใช้เวลาอยู่ในกาแล็กซี่ ดังนั้นสกุลเงินซันนิลจึงไม่คุ้มกับเขานัก เขาล้วงกระเป๋าและอยากจ่ายให้หานเซี่ยว แต่ในเวลาเดียวกัน หานเซี่ยวก็หัวเราะ”ผมไม่มีสกุลเงินซันนิล ผมสามารถจ่ายด้วยวิธีอื่นได้ไหม?”
ชายคนนั้นมองหานเซี่ยวและเอื้อมไปหาอีกขวด”เช่นอะไรละ?”
“ชื่อ”
ชายคนนั้นขมวดคิ้ว เขาจ้องหานเซี่ยวและตอบ”ผมไม่มีเวลามาเล่นเกม ออกไปซะหากไม่จ่าย”
“เดลวิส”หานเซี่ยวกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ แต่มันกลับดังเหมือนฟ้าร้องในหูชายคนนั้น
เขาแข็งค้างพยายามจิบน้ำจากขวด บรรยากาศผ่อนคลายสลายตัวและเขาก็กลายเป็นไร้อารมณ์ ราวกับเขาไม่ได้เมาเลย ความวิงเวียนในดวงตาเขาหายไป
เขาวางขวดลงและกล่าว”รอเดี๋ยว ผมต้องล้างหน้า”
ชายคนนั้นเดินออกไปและเข้าห้องน้ำ
มีเพียงหานเซี่ยวและเลอเด็นที่ยืนอยู่และเลอเด็นก็กล่าว”นายไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ งั้นนายก็ไม่ได้มาเยี่ยมคนที่นายรู้จักมาก่อน”
“ฉันรู้จักพี่ชายเขา นั่นทำให้ฉันตัดสินใจมาเยี่ยมเขา”หานเซี่ยวอธิบาย
ชายเมาคือเฮอลัส และเดลวิสก็คือพี่ชายเขา สายอาชีพย่อยที่หานเซี่ยวสนใจเรียกว่า[นายช่างอาวุธ] สำหรับผู้เล่น สายอาชีพนี้หาได้ยาก และก็มีวิธีการเปลี่ยนสายอาชีพในเผ่าซันนิล ของสำหรับการกระตุ้นคือ[บันทึกของเดลวิส]
เดลวิสเป็นนายช่างอาวุธชื่อดังก่อนเผ่าซันนิลจะถูกโจมตี เขาสร้างสิ่งประดิษฐ์มากมายสำหรับอาวุธทหาร และก็เขียนความคิดเขาทั้งหมดในบันทึกเขา หลังดาราทมิฬโจมตี เดลวิสก็ตายในการต่อสู้ และบันทึกก็อยู่ในมือเฮอลัส
หานเซี่ยวอยากยืมบันทึกจากเฮอลัสเพื่อเปลี่ยนสายอาชีพ
หลังจากนั้นไม่นาน เฮอลัสก็กลับมาพร้อมหัวเปียกชื้น เขาเป็นชายวัยกลางคน ผิวเขาเป็นสีฟ้า และมีรอยย่นเล็กน้อยบนหน้าผาก เขาคงมีอายุประมาณร้อยห้าสิบปี นอกจากนั้น เขาเกือบจะเหมือนพวกพิเศษ
เฮอลัสเปิดขวดและส่งให้หานเซี่ยว”ผมไม่รู้ว่าคุณหาตัวผมพบได้ไง แต่ชื่อพี่ชายผมคู่ควรกับขวดนี้ ผมทำมันด้วยตัวเอง”
ขวดเต็มไปด้วยควันขาวและกลิ่นแอลกอฮอล์ก็ทะลุจมูกพวกเขา เครื่องดื่มที่ทำโดยซันนิลมักทำจากใบของต้นไม้ซึ่งมีรสขม หลังจิบ หานเซี่ยวรู้สึกได้ถึงความเผ็ดร้อนที่แตะลิ้น
“ผมเป็นแค่ช่างกล ผมเคยได้ยินถึงชื่อพี่ชายคุณ และอยากยืมบันทึกเขา.
“แค่นั้น?”เฮอลัสเลิกคิ้วและพยายามหาข้อมูลเพิ่ม
“ตอนนี้ก็มีแค่นั้นแหละ”หานซี่ยวหัวเราะและมองเลอเด็น”คุณคิดว่าผมมีจุดประสงค์อื่นงั้นหรอ?”
เฮอลัสได้ยินคำตอบคลุมเครือและถามเสียงเย็น”ไม่คิดว่านี่เป็นการข่มขู่งั้นหรอ?”
“ไม่ ไม่ ผมเป็นมิตร”หานเซี่ยวยิ้ม”แต่สำหรับคนดีอย่างคุณ คุณคงไม่ปฏิเสธคำขอเล็กๆน้อยๆนี่ใช่ไหม?”
อีกด้าน เลอเด็นไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น พวกเขายังคงคุยด้วยภาษาซันนิล?ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจเลย?
เฮอลัสลังเลสักพัก แต่ก็เผยสีหน้ายอมแพ้ เขาตรงเข้าบ้านและออกมาพร้อมบันทึกในมือ เขาฟาดมันลงบนโต๊ะและกล่าว”ออกไปเมื่อคุณอ่านเสร็จแล้ว”
หานเซี่ยวแตะบันทึก และหน้าต่างสถานะก็ผุดขึ้น
ท่านได้รับ[บันทึกของเดลวิส]
ในที่สุดเขาก็ได้รับมัน!หานเซี่ยวระงับความตื่นเต้นไว้พลางเปิดบันทึก เขาทำตัวเหมือนเข้าใจทุกอย่าง แต่บันทึกเขียนด้วยภาษาซันนิล ซึ่งดูเหมือนจะเป็นภาษาอังกฤษ แต่ทว่า มันไม่สำคัญว่าเขาจะอ่านออกไหม หน้าต่างสถานะได้แสดงความคืบหน้า และตราบเท่าที่เขาอ่านหนังสือจบ เขาก็จะสามารถเปลี่ยนสายอาชีพได้
ผ่านภารกิจทั่วไป คนต้องโชคดีเป็นพิเศษเพื่อให้ได้รับบันทึก ขั้นตอนการได้รับบันทึกซับซ้อน เนื่องจากไม่มีใครรู้ถึงตัวตนของเฮอลัส คนสาวนใหญ่จึงไม่คิดว่าคนแปลกๆในบาร์จะเป็นชายคนนั้น ส่วนใหญ่ ผู้เล่นจะพบเกี่ยวกับบันทึกโดยการเป็นเพื่อนกับเฮอลัสและดื่มกับเขา จากนั้นเฮอลัสจึงค่อยเริ่มพูดถึงเรื่องพี่ชายเขาตอนเมา
อย่างไรก็ตาม หานเซี่ยวรู้ข้อมูลแล้ว ดังนั้นเขาจึงตัดไปยังตอนจบโดยไม่ต้องทำตามขั้นตอนซับซ้อน
เลอเด็นรู้สึกประหลาดใจและถาม”นายอ่านภาษาซันนิลได้?”
หานเซี่ยวปิดหนังสือและกล่าว”ไม่”
“งั้นนายจะอ่านมันทำไม?!”เฮอลัสจ้องหานเซี่ยวด้วยตาเบิกกว้าง
“แค่คิดว่ามันคือการแสดงความเคารพต่อพี่ชายนายก็พอ ขอบคุณสำหรับเครื่องดื่มนะ”
หานเซี่ยววางบันทึกลงและยิ้ม
“เป็นคนที่แปลกจริงๆ อย่ามากวนฉันอีก!”เฮอลัสตะโกนไล่ตาม
“อาจจะนะ”หานเซี่ยวมองกลับมาอย่างขี้เล่น
หลังเดินออกบาร์ไป หานเซี่ยวก็เปิดหน้าต่างสถานะและดูคำใบ้ใหม่ เขาอารมณ์ดี ในที่สุดเขาก็ได้รับสายอาชีพรองและสามารถใช้ค่าประสบการณ์ที่สะสมไว้ได้!
ท่านได้รับสายอาชีพ[นายช่างอาวุธ]