The Legendary Mechanic - ตอนที่ 337
เนวิลล์เงียบตลอดทาง ทหารซันนิลไม่รู้จักคำพูดพวกเขา และทุกคนก็มีสีหน้าจริงจัง ราวกับพวกเขาไม่มีเวลาจะคุยเรื่องไร้สาระ พวกเขาจดจ่อกับภารกิจตน กลิ่นเหล็กของชุดเกราะทหารเต็มอากาศ พร้อมกับความเงียบ เสียงเดียวที่ได้ยินคือเสียงรถถังขับผ่านเป็นครั้งคราว
พวกซันนิลเคยเป็นที่รู้จักในฐานะอารยธรรมที่ยอมรับชีวิต คนของพวกเขารักงานศิลปะและวัฒนธรรม แต่ทว่า ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อเกิดภัยพิบัติ ผู้รอดชีวิตถูกบังคับให้ต้องทิ้งตัวตนเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างที่พวกเขาสร้างขึ้น อาคารเหล็กรูปร่างคล้ายป้อมปราการเรียงรายอยู่ข้างถนนที่พวกเขาเดิน
ด้วยการมีเนวิลล์นำทาง กลุ่มของหานเซี่ยวก็มาถึงเขตพักผ่อน ที่ทหารรับจ้างกลุ่มใหญ่รวมตัวกันทำให้เกิดเสียงดัง
ก่อนคลื่นหายนะจะเกิดขึ้น ทหารรับจ้างทุกคนต้องได้รับการสรุป
เนวิลล์ก้าวขึ้นไปบนแท่นและอธิบายด้วยเสียงหนักแน่น”หน่วยลาดตระเวนได้พบสัญญาณที่เพิ่มขึ้นของสัตว์ร้าย พวกคุณมาที่นี่ในฐานะทหารรับจ้างของเรา และเราหวังว่าคุณจะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้เราผ่านอุปสรรคนี้ไปได้”
หลังพูดสั้นๆ เนวิลล์ก็ตรงเข้าเรื่องหลัก”ใต้พิภพของดาวดวงนี้เต็มไปด้วยศิลาพยากรณ์ ศิลาพยากรณ์สามารถทำลายวิญญาณรอบๆพวกมันได้ และหินแร่ทั่วดาวนี้ก็ถูกเปลี่ยนแปลงโดยมัน นี่คือเหตุผลเบื้องหลังการคลุ้มคลังของสัตว์และความก้าวร้าวของธรรมชาติ แต่ทว่า นี่ไม่ใช่ปัญหาหลักของหายนะ พลังงานที่ปกคลุมภายในศิลาพยากรณ์จะปลดปล่อยออกมาปีละครั้งในรูปแบบ’คลื่น’ นี่คือปัญหารากที่หยั่งลึกเบื้องหลังการระบาดของสัตว์”
“ด้วยเหตุผลบางอย่าง คลื่นของปีนี้มาถึงก่อนกำหนดครึ่งปี แผนกสังเกตการณ์พิเศษเราคาดการณ์ว่าคลื่นหายนะจะระเบิดเต็มกำลังในเวลาประมาณ7-13วัน ศัตรูเราคือสัตว์ทุกตัวบนดาวนี้ ในอดีต เราทำได้แค่รับมือกับสัตว์ตัวเล็กๆในช่วง3-6วันแรก จากนั้น เมื่อมันถึงวันที่10 ความถี่และความหนาแน่นของพวกมันจะเพิ่มขึ้น ห้าวันสุดท้ายจะเป็นช่วงที่อันตรายสุด จากนั้น ยานพาหนะส่วนใหญ่และกองกำลังเราก็ได้รับความเสียหายมาก สัตว์ร้ายที่เราเผชิญจะแข็งแกร่งสุดในเวลานั้น ซึ่งถูกดึงดูดจากความหนาแน่นของกลิ่นเลือด…”
ในเวลานี้ ทหารรับจ้างกล่าวขัดเขา”คุณมีรถถัง เครื่องบิน และแม้กระทั่งยานรบ ไม่ใช่ว่าการฆ่าสัตว์เหล่านี้ก็เหมือนกับการเข่นฆ่างั้นหรอ?”
เนวิลล์ส่งสายตาเย็นชา”คุณจะเข้าใจเมื่อคลื่นมาถึง”
ไม่นาน เนวิลล์ก็เปิดภาพฉายและเริ่มแนะนำสัตว์ทีละตัว หลังมองดูไม่กี่นาที หานเซี่ยวก็สามารถบอกได้ว่าสัตว์บนดาวซันนิลนั้นแข็งแกร่งกว่าอความารีนมาก ศิลาพยากรณ์อยู่บนดาวนี้มาหลายปีแล้วและพลังงที่พวกมันสะสมก็พอจะทำให้พวกสัตว์วิวัฒนาการ สัตว์บนดาวซันนิลมีความกระหายเลือดผิดปกติ และพวกมันก็ผลักดัน’กฏของผู้แข็งแกร่ง’ออกมา
จันทราเมเปิ้ลอยากรู้”ในเมื่อสัตว์เป็นศัตรู ทำไมเราถึงไม่ฆ่าพวกมันก่อนพวกมันจะแข็งแกร่งจากหายนะละ?”
“บางทีมันอาจคงไว้ซึ่งระบบนิเวศ”ดาบคลั่งตอบอย่างลังเล
แต่ขนมปังสุนัขกลับส่ายหัวไม่เห็นด้วย.”แต่นี่จะคุกคามแม้กระทั่งชีวิตของคน ทำไมพวกเขาต้องสนใจถึงระบบนิเวศด้วย?”
ผู้เล่นเริ่มถกเถียงกัน แต่ละคนมีความคิดเห็นของตนต่อวิกฤติของซันนิล
หลังฉายรูปสัตว์กว่าร้อยชนิด เนวิลล์ก็ส่งข้อมูลนี้ให้ทหารรับจ้างแต่ละคน จากนั้นพวกเขาก็ได้รับมอบหมายบทบาทต่อสู้ขึ้นอยู่กับงานที่รับไว้ล่วงหน้า
ซันนิลยังคงขุดเหมืองและทรัพยากรอื่นเพื่อสะสมไว้ อย่างไรก็ตาม คนของศซันนิลทั้งหมดจะละทิ้งสถานที่เหล่านั้นและกลับเมืองในช่วงหายนะ พวกเขาจะรวมกำลังทั้งหมดในจุดเดียวเพื่อลดโอกาสการถูกสัตว์ลอบโจมตี
ด้วยเมืองหลักที่เป็นกำแพงสุดท้าย เมืองป่าจึงมีห้ากำแพงล้อมรอบเมือง หานเซี่ยวและคนอื่นประจำการที่กำแพงสุดท้ายและได้รับมอบหมายให้ปกป้องเครื่องบินสอดแนมและยานรบจากพื้น พวกเขายังทำหน้าที่เป็นกลุ่มสนับสนุนรวดเร็วให้แนวหน้า
เมืองป่าถูกตกแต่งด้วยโครงสร้างป้องกันและการสร้างทุกอย่างรอบเมืองหลักก็เพื่อการรบเท่านั้น มันไม่ได้เป็นที่มั่นสุดท้ายเพราะใต้เมืองเต็มไปด้วยอุมงค์หลบหนี ชาวซันนิลสามารถหนีผ่านอุโมงค์ไปได้หรือแม้กระทั่งอพยพทางอากาศ และนี่ก็หมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเสียเมืองหลัก อย่างไรก็ตาม สัตว์ร้ายก็มีจำนวนมากทั้งบนฟ้าและใต้ดิน ดังนั้นนี่จึงถือเป็นที่พึ่งสุดท้าย
งานที่อันตรายสุดคือหน่วยลาดตระเวนและกองกำลังแนวหน้า ซันนิลเป็นดาวที่เต็มไปด้วยป่าหนาทึบ ทำให้มีจุดบอดมากมายที่ไม่อาจสำรวจผ่านอากาศ ซึ่งทำให้การลาดตระเวนบนพื้นมีความสำคัญ แต่ทว่า อันตรายของการเดินทางนอกเมืองในช่วงหายนะก็เห็นได้ชัด ในทางกลับกัน งานของกองทหารแนวหน้าคือการฆ่าหรือทำให้สัตว์ร้ายบาดเจ็บให้ได้มากที่สุดก่อนจะถึงกำแพงเมือง อัตราการรอดชีวิตพวกเขาเกือบเป็น0
นั่นทำให้สองงานไม่เคยถูกรับดยทหารรับจ้าง งานต่อสู้แนวหน้าจะเป็นของนักรบซันนิล
ทหารรับจ้างแต่ละคนจะถูกเจ้าหน้าที่นำไปประจำตำแหน่ง เนวิลล์พากลุ่มของหานเวี่ยวไปตามทางเพื่อทำความคุ้นเคยกับการป้องกัน
เวลาผ่านไป และในไม่ช้ามันก็ถึงเวลาค่ำ
ทหารรับจ้างได้รับที่พักในฐานทหาร แต่ทว่า หานเซี่ยวต้องเข้าเมืองเพื่อทำข้อกำหนดสายอาชีพรองให้เสร็จ เขาไปหาเนวิลล์ด้วยตัวเองและกล่าว”ผมอยากลงทะเบียนเข้าเมือง”
“ทำไมคุณถึงอยากเข้าเมือง?”เนวิลล์เลิกคิ้ว
“ผมมีเรื่องส่วนตัวต้องจัดการ ผมมีเพื่อนในเมือง”
“ไม่”เนวิลล์ปฏิเสธ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่พึงประสงค์ ทหารรับจ้างไม่เคยได้รับอนุญาติให้เข้าเมือง
“คุณไม่อาจใช้เหตุผลนี้เพื่อเข้าเมืองได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อนคุณสามารถออกมาเยี่ยมคุณได้”
หานเซี่ยวไม่มั่นใจว่าต้องทำยังไง ตัวละครหเนื้อเรื่องที่เขาอยากพบไม่รู้จักเขาเลย ไม่มีทางที่เขาจะออกมาเยี่ยมเขา
เขาต้องแอบเข้าไปงั้นหรอ?
เขามีอุปกรณ์ปลอมใบหน้าและสายอาชีพนักย่องเบา โอกาสลอบเข้าค่อนข้างสูง..ใช่ไหม?
หวือ!
ทันใดนั้น ลมแรงก็พัดลงมาจากฟ้า และลำแสงหลายสายก็ยิงลงมา มียานลอยอยู่กลางอากาศและปล่อยบันไดวนลงมา ยอดซันนิลดินลงมาจากยาน พวกเขาคือทหารรับจ้างซันนิลทั้งหมดและได้กลับมาป้องกันบ้านพวกเขา
ทหารซันนิลบนพื้นเงยหน้าและมองนักรบที่กลับมาด้วยความเคารพ พวกเขายังมีสีหน้ายินดี
ทุกครั้งที่นักรบซันนิลกลับบ้าน พวกเขาจะได้รับการต้อนรับและการปฏิบัติเหมือนวีรบุรุษ
หานเซี่ยวหรี่ตาและเห็นใบหน้าคุ้นเคย จากนั้นเขาก็ตะโกน”เห้!เลอเด็น!”
อัศวินเขียวเลอเด็นคือหนึ่ฝนนั้น และเขาก็หันมาหลังได้ยินคนเรียกชื่อเขา เขานึกสักพัก แต่ก็จำได้ ด้วยร่างเขาที่ได้รับการสนับสนุนกลางอากาศด้วยไฟสีฟ้าตรงเท้า เขาลอยมาหยุดตรงหน้าหานเซี่ยวและถามอย่างสงสัย
“แบล็คสตาร์เป็นหนึ่งในทหารรับจ้างที่เราจ้างมาครับ”เนวิลล์ยินดีและรีบตอบแทนหานเซี่ยว
“งั้น นายก็เป็นทหารรับจ้างเหมือนกัน”เลอเด็นพลันตระหนักถึงความจริง
“ใช่แล้ว ฉันเพิ่งลงทะเบียน ฉันรีบมาเมื่อได้ยินว่าคนของนายกำลังเผชิญกับวิกฤติ ไม่คิดเลยว่าจะได้สู้เคียงข้างนาย”หานเซี่ยวคว้าโอกาส”ฉันมีเพื่อนในเมืองที่อยากไปเยี่ยม นยช่วยฉันได้ไหม?”
“หากเขาเป็นเพื่อนคุณ งั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร”เนวิลล์กล่าวเสริม
เลอเด็นคิดว่าในเมื่อพวกเขาจะได้สู้เคียงข้างกัน แม้เขาจะไม่รู้จักหานเซี่ยวจริงๆ เขาก็รู้สึกว่าหานเซี่ยวไม่ใช่คนเลว นอกจากนี้ เขายังทรงพลังอีกด้วย ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรที่จะผูกมิตรกับเขา”ได้ ฉันจะพานายเข้าเมือง”
“ขอบคุณ”หานเซี่ยวยิ้ม การพบคนคุ้นเคยช่างเป็นเรื่องดี แค่ประโยคเดียวก็สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว
…
พวกเขาไม่เจอกันสักพักแล้ว และร่างกายที่เสียหายของเลอเด็นก็ได้รับการซ่อมแซม หานเซี่ยวเดินผ่านสถานีรักษาความปลอดภัยไปกับเลอเด็น พร้อมด้วยยอดซันนิลคนอื่นที่อยากกลับเมืองหลังกลับดาว หานเซี่ยวและเลอเด็นเดินตามคนกลุ่มนี้ไป
เฮ!
ทันใดนั้น เสียงร้องก็ระเบิจากทั้งสองฝั่งถนน มีโปสเตอร์พวกยอดซันนิลที่ประดับตามกำแพงเมือง และชาวซันนิลก็รีบวิ่งออกมาต้อนรับวีรบุรุษ