The King of the Battlefield - ตอนที่ 230
บทที่ 230: อัลโนวา (สิ้นสุด)
ความตายหมายถึงจุดจบ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนไม่อยากจะตายโดยทั้งที่ยังมีเรื่องค้างคาให้ต้องรู้สึกเสียใจ
อย่างไรก็ตามมันไม่น่าเกิดขึ้นกับตัวตนอย่างลิช ทว่าเบซองมินไม่ใช่ลิชปกติ จนกระทั่งถึงตอนนี้เขาก็ยังคงประสบกับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
และไม่ใช่แค่เบซองมิน อันที่จริงความจริงแล้วอันเดธรอบๆตัวเขากำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
อันเดธที่มูยองสร้างขึ้นนั้นล้วนเป็นตัวตนที่พิเศษ และเบซองมินนั้นยิ่งพิเศษกว่าใคร
เบซองมินเหลียวมองเบซูจีอีกครั้ง เขารู้สึกถึงความอ่อนแอของตนเอง ไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาต้องการที่จะวางมือบนแก้มของเธอและบอกเธอว่าทุกอย่างโอเคแล้ว
เบซองมินไม่รู้ว่าอารมณ์แบบนี้คืออะไร เขารู้เพียงว่าการพาเธอออกไปจากที่นี่จะทำให้เขาไม่ต้องเสียใจ
“ ลิชพูดถึงความรู้สึกเสียใจ? น่าขำจริงๆ”
บูม!
เอนโรธกระแทกไม้เท้าลงกับพื้น
รยางค์ค์สีดำและเงาปีศาจระเบิดตัวขึ้น พวกมันหมุนตัวกันเป็นเกลียวรอบๆเบซองมิน
ในขณะนั้นเบซองก็มินระเบิดพลังเวททั้งหมดออกมาอย่างไม่เสียดาย อำนาจพลังที่แข็งแกร่งจนสามารถทำลายร่างของผู้ใช้ได้ และตอนนี้พลังเวทของเขาก็ทะลุ 700 หน่วยในชั่วพริบตา
“ พลังเวทเทียบเท่าระดับเหนือธรรมชาติงั้นรึ! แต่เจ้าจะทนได้สักแค่ไหนเชียว”
แม้แต่เอนโรธก็ยังอดกังวลใจไม่ได้ เพราะอย่างน้อยในชั่วขณะนี้พลังของเบซองมินก็ไม่ต่างกับตัวมันเอง
แต่ปัญหาของซองมินคือเวลา ใช่แล้วเบซองมินไม่สามารถรักษาสถานะนั้นไว้ได้เป็นเวลานาน
ไม่เกิน 3 นาที หากยังทำแบบนี้ ร่างกายของเขาจะต้องแตกสลาย
“แค่นั้นก็พอแล้ว… อะมาดิอุส”
เวทอัญเชิญแม่มด
แต่เดิมซองมินใช้หัวของไฮดราเป็นเครื่องสังเวย แต่ด้วยพลังเวทอันล้นพ้นเขาไม่ต้องทำเช่นนั้นแล้ว นี่เป็นการสังเวยที่ดีกว่าหัวหนึ่งของไฮดราเสียอีก
กรี๊ด!
แม่มดเบียทริซที่ก้าวออกมาจากประตูดูตัวเล็กกว่าเดิม แต่ออร่าแห่งความมืดที่หมุนรอบตัวเธอกลับเพิ่มมากขึ้น จากนั้นก็พุ่งตัวไปกำจัดเงาและรยางค์สีดำด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
ในขณะเดียวกันเบซองมินก็เตรียมเวทอื่นๆ
เบียทริซที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมออกไปกวาดล้างศัตรูอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่รู้ว่าเธอจะสู้กับเอนโรธได้นานแค่ไหน
“ไร้ประโยชน์”
เอนโรธเหวี่ยงไม้เท้าวาดบนอากาศ
ชิ้ง! ชิ้งง… ชิ้ง!
เมื่อสัญลักษณ์ดาวห้าแฉกปรากฏขึ้นนักธนูเงาปีศาจก็เริ่มก้าวออกมา ลูกศรของนักธนูเงาปีศาจสามารถทำให้ทุกสิ่งกลับคืนสู่ความมืดได้ อีกนัยหนึ่งก็คือมันสามารถส่งคำสาปให้กับทุกสิ่งที่มันสัมผัส
กว่าจำนวน 300 ตน พวกมันยืนอยู่ทั้งบนพื้น กลางอากาศ หรือแม้แต่เกาะตามผนังกำแพงจากนั้นก็ยิงลูกศรออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยมีเป้าหมายคือศัตรูด้านหน้า
กรี๊ด!
แม้แต่เบียทริซที่รวดเร็วก็ไม่สามารถหลบลูกศรเหล่านั้นได้ทั้งหมด
แต่นั่นก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งเบียทริซได้ เธอสังหารนักธนูเงาที่ขวางทาง และมุ่งหน้าไปยังเอนโรธ
“ ดูมไนท์”
จู่ๆเหล่านักธนูเงาที่แตกสลายก็รวมตัวกันแล้วก่อร่างเป็นอัศวินตัวใหญ่
ดูมไนท์! สิ่งมีชีวิตที่มีระดับเหนือกว่าเดธไนท์!
รูปแบบสุดท้ายของอัศวินอันเดธที่ได้ยินในตำนานเท่านั้น
เช้ง!
กรงเล็บของเบียทริซและดาบของดูมไนท์ปะทะกัน แต่มีเพียงร่างกายของเบียทริซเท่านั้นที่ปรากฎบาดแผล
ตำนานกล่าวว่า ดูมไนท์กำเนิดขึ้นหลังจากเหล่าวีรบุรุษผู้มีชื่อเสียงได้ตายกลายเป็นอันเดธ อย่างไรก็ตามพลังของมันยอดเยี่ยมมากจนสามารถสังหารมังกรได้
ทุกคนต่างรู้ว่าราชาแห่งความตายสามารถสั่งการกองทัพดูมไนท์ได้ แต่ไม่มีใครบอกว่าเอนโรธเองก็สามารถควบคุมดูมไนท์ได้เช่นกัน
เบซองมินตกอยู่ในความเงียบ เพราะมอนสเตอร์แข็งแกร่งที่สุดที่เขาสามารถอัญเชิญได้ในขณะนี้คือเบียทริซ แต่ตัวที่เอนโรธอัญเชิญออกมานั้นแข็งแกร่งจนทำให้เบียทริซพ่ายแพ้ได้
ยิ่งไปกว่านั้นความสามารถของเอนโรธไม่ได้มีแค่การอัญเชิญ
“ เวทมนตร์ของข้ายิ่งใหญ่ที่สุด ”
เอนโรธโบกไม้เท้าแกว่งเป็นวงกลม และดวงตาจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นในทุกที่
‘ดวงตาแห่งความตาย’
เวทคำสาปอันแข็งแกร่ง ทักษะที่สามารถลดทอนความสามารถทุกอย่างของคู่ต่อสู้ที่มองมัน
โชคดีที่เบซองมินร่ายเวทของตนจบพอดี
‘อเวจี’
ขุมนรกถูกเปิด
ประตูทุกบานของเบซองมินเปิดออก ภูมิประเทศโดยรอบเปลี่ยนไป และอันเดธตัวใหญ่ยักษ์ก็เริ่มปรากฏให้เห็นจากใต้พื้นดิน
มันเป็นเวทมนตร์จาก’เรียลลิตี้มาเบิ้ล’เดียวที่เบซองมินใช้ได้
เอนโรธเผชิญหน้ากับศัตรูที่พุ่งขึ้นมาจากใต้พื้นดินอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และนั่นทำให้มันดูประหลาดใจไม่น้อย
มันคิดว่ามองศัตรูออกทะลุปลุโปร่งหมดแล้ว แต่ลิชยังซ่อนคาถาแบบนี้เอาไว้อีก!
ทว่านอกจากความสนใจ ก็ไม่มีความสับสนหรือความกลัวบนใบหน้าของมัน
“ ช่างโชคร้าย โชคร้ายจริงๆ”
เอนโรธบ่นพึมพำ
คุณสามารถพูดได้ว่าศักยภาพในการเติบโตของลิชที่รู้วิธีใช้เรียลลิตี้มาเบิ้ลนั้นไม่จำกัด อย่างไรก็ตามการดำรงอยู่ของตัวตนเบื้องหลังลิชรบกวนเอนโรธ มันต้องจึงกำจัดลิชอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เอนโรธเหวี่ยงไม้เท้ากว้าง
วูม! วูม!
เมื่อไม้เท้าถูกเหวี่ยง กรงเล็บของสัตว์ร้ายตัวใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในอากาศ และตัดพื้นที่ของเรียลลิตี้มาเบิ้ลออกจากกัน
“ เวทมนตร์ทุกชนิดที่อยู่ต่อหน้าข้าล้วนไร้ประโยชน์”
พื้นที่ของอเวจีพังในทันที
เบซองมินยิ้มอย่างปลดปลง คู่ต่อสู้ที่เบียทริซและแม้แต่อเวจียังทำอะไรไม่ได้!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง เอนโรธเป็นนักเวทที่แข็งแกร่งคนหนึ่งสำหรับนักเวทคนอื่นๆ
‘เวทที่เหลืออยู่ … ‘
เขาคำนวณเวททั้งหมดที่เขามีอยู่ เขาคิดเกี่ยวกับความน่าจะเป็นที่จะได้รับชัยชนะ และก็พบว่ามันต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ สู้กับเอนโรธแล้วยังคิดเกี่ยวกับการชนะนั้นดูไร้สาระมาก
‘ฉันไม่ได้คิดว่าจะชนะตั้งแต่แรกแล้ว’
เขาคิดถึงจุดประสงค์ดั้งเดิมของตัวเอง
และนั่นคือ การช่วยเบซูจี
กระดูกของเบซองมินดูแลใกล้สลาย เป็นเพราะการหลั่งไหลของพลังเวทย์มนตร์ที่ท่วมท้นกำลังส่งผลเสียต่อร่างกายเขา
ถ้าเขายังฝืนต่อไปต้องตายแน่ๆ มันเป็นการทำลายตนเอง
เบซองมินมองไปที่เบซูจีอีกครั้ง ก่อนจะแอบมอบคำสั่งให้กับเบียทริซ
กรี๊ด!
เบียทริซเริ่มหลั่งน้ำตาสีเลือดและเข้าสู่โหมดบ้าคลั่ง
โหมดบ้าคลั่ง วิธีต่อสู้ที่ไม่คำนึงถึงผลลัพธ์เช่นเดียวกับที่ซองมินจะทำตอนนี้
ดูมไนท์เริ่มถูกดันกลับในขณะที่เบซองมินปักคฑาลงบนพื้น ส่วนเอนโรธก็พยายามร่ายเวทบางอย่าง
พลังเวทมนตร์ทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ที่ปลายคฑาของซองมิน
“ อย่าบอกนะว่า…!”
เอนโรธตระหนักได้ถึงสิ่งที่เบซองมินกำลังทำ
เวททำลายตัวเอง!
จะไม่มีอะไรเหลืออยู่โดยรอบ หากพลังเวทระดับนั้นระเบิด
แต่เบซองมินสามารถควบคุมการระเบิดได้ มันเพียงพอให้เอนโรธตายไปกับเขาเท่านั้น ความสามารถในการควบคุมเวทมนตร์อันอยู่นอกขอบเขต ของลิชทั่วไป
“ฮึ ไร้ประโยชน์”
เอนโรธย่อตัวลงกระแทกไม้เท้ากับพื้นอีกครั้ง
พลังเวทสีดำไหลออกมาปกคลุมร่างของเอนโรธเอาไว้
และเป็นระหว่างเดียวกันกับที่เบียทริซกำลังพาเบซูจีหนี เธอออกจากปราสาทในขณะที่ใช้ปากคาบเบซูจีไว้
“ แกพูดว่าไม่มีเวทไหนทำอะไรแกได้ ถ้างั้นลองหยุดนี่ดู”
เบซองมินชูคฑาขึ้น
พลังเวทอันไม่สามารถจินตนาการได้ ปะทะเข้ากับเอนโรธเกิดเป็นการระเบิดครั้งใหญ่
บูมมมมมมมมมมม!
มูยองเงยหน้าขึ้น
มีสัตว์ตัวหนึ่งทะยานตัวออกมาจากปราสาท และพลังระเบิดที่น่าเหลือเชื่อก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณนั้น
“ เบซองมิน…”
มูยองขมวดคิ้ว
สัตว์ร้ายตัวดังกล่าวมุ่งตรงมาที่ด้านหน้าของมูยองในขณะที่คาบเบซูจีไว้ จากนั้นปราสาทก็ระเบิดตัวและพังทลายลงอย่างรวดเร็ว
‘เขาระเบิดตนเอง’
แต่สิ่งที่เบซองมินทำลายนั้นเป็นเพียงแค่ ‘เปลือกนอก’
ลิชทุกตนล้วนมี ‘ภาชนะแห่งชีวิต’ เก็บแยกไว้ต่างหาก
มูยองรู้ว่านั่นหมายความว่าอะไร เขาสามารถฟื้นคืนชีพเบซองมินได้ตราบเท่าที่มีภาชนะแห่งชีวิต
ปัญหาคือ…เอนโรธยังไม่ตาย
การต่อสู้กำลังจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
มูยองเงยหน้าขึ้น
เอนโรธ มันลอยอยู่กลางอากาศในขณะที่กำลังโมโห
“ เป็นแค่ลิชแท้ๆ! กล้าดียังไง!”
อาจเป็นเพราะเจอกับเหตุการณ์ระเบิดอันไม่คาดคิด เอนโรธที่ถูกกล่าวว่าเป็นราชาปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นจึงค่อนข้างอยู่ในสภาพปั่นป่วน
เอนโรธเหวี่ยงไม้เท้าจากนั้นเปลวไฟสีดำก็เริ่มตกลงมาจากท้องฟ้าเหมือนห่าฝน
“ ไม่มีใครสามารถเอาชนะข้าเอนโรธผู้นี้ได้!”
แม้ว่าจะดูเหมือนใจเย็นลงแล้ว แต่ปีศาจก็ยังเป็นปีศาจ ไม่ว่าจะตื่นเต้น หรือรุ่มร้อนอาการของพวกมันก็เหมือนกันมาก
มูยองมองดูเปลวไฟสีดำที่กำลังตกลงมาจากท้องฟ้า
พวกมันกระจายไปทั่วบริเวณ และดูเหมือนว่าต้องการทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางหน้า
เป็นเปลวไฟอันน่ารังเกียจที่มูยองไม่คิดกลืนกิน
จากนั้นมูยองก็พูดขึ้น
“ ท่านจักอยู่ที่นั่นเสมอ”
หนึ่งในสามบทสวดที่มูยองเห็นในคัมภีร์อัลโนวา
เปลวเพลิงทั้งหมดหายไปจนสิ้น เมื่อคำพูดเหล่านั้นออกมาจากปากของเขา มันหายไปอย่างหมดจดราวกับว่าไม่เคยเกิดอะไรขึ้น
“การยกเลิกเวท… ! แต่มันทำได้ขนาดนั้นได้ยังไง”
ความหวาดหวั่นปรากฏขึ้นในจิตใจของเอนโรธ
มีวิธีการมากมายในการทำให้เวทเป็นโมฆะ แต่พวกมันล้วนทำได้เพียงระยะแคบๆ มันไม่สามารถลบล้างเวทระยะกว้างเช่นนี้ได้
มูยองกางปีกทะยานร่างตรงไปยังเอนโรธ
เกิดอาการสั่นไหวในแววตาของมันทันที
มันมั่นใจว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้า คือตัวตนที่เหนือกว่าลิชผู้นั้น
“ เป็นเจ้านี่เอง มันผู้นั้นคือเจ้า!”
มันรู้สึกถึงพลังเทวะอันศักดิ์สิทธิ์
ถึงจะไม่เทียบเท่าเทพปีศาจ แต่มันก็เป็นระดับที่ราชาปีศาจไม่อาจสู้ได้
เขาไม่ใช่หนึ่งในสี่ตัวตนเหนือธรรมชาติ
แล้วสัตว์ประหลาดเช่นนี้มาจากไหน?
“ แต่ข้าคือเอนโรธ ราชาปีศาจผู้ที่ขับเคลื่อนความตายและความสิ้นหวังมาแล้วนับไม่ถ้วน!”
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
อากาศแปรปวนกลายเป็นสายฟ้าสีดำฟาดเข้าใส่มูยอง
แต่…พลังโจมตีของมันไม่เพียงพอให้มูยองอยากเกาด้วยซ้ำ
เอนโรธเสียพลังเวทไปแล้วครึ่งหนึ่ง มันใช้พลังเวทส่วนใหญ่ไปกับการป้องกันระเบิดของเบซองมิน แต่สิ่งนี้ก็คงไม่เปลี่ยนแปลงแม้มันจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
ด้วยพลังของลูซิเฟอร์ มันจะปฏิเสธการโจมตีจากตัวตนที่อ่อนแอกว่า
ไม่เพียงแค่นั้น
ผิวหนังของผู้อมตะยังมีความต้านทานในระดับสูง เรียกได้ว่าเกือบลบล้างพลังเวทได้เลยทีเดียว
ดังนั้นคุณสามารถพูดได้ว่า ‘เวทมนตร์’ ไร้ประโยชน์ต่อหน้ามูยอง เขาเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของเหล่านักเวท
“ยัง ยังไม่หมดแค่นี้!”
เอนโรธพยายามดิ้นรน
มือและรยางค์ค์สีดำเมื่อมพุ่งไปหมายคลุมร่างมูยอง แต่ทว่ามันกลับไม่สามารถสัมผัสร่างเขาได้
นี่คือพลังของกาเบรียล พลังที่ปฏิเสธการเสื่อมถอย มันไม่อนุญาตุให้ทุกพลังานเชิงลบแตะต้องตัวเขาได้อย่างง่ายดาย
ทักษะทั้งหมดของเอนโรธล้วนไม่ได้ผล
เอนโรธตกใจเป็นที่สุด
“ เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่! แค่คนๆเดียวมีพลังทั้งหมดนี้ได้ยังไง!”
พอเอนโรธเริ่มเห็นพลังของมูยอง สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็มีแค่ความสิ้นหวัง
พลังหลายอย่างที่อาศัยอยู่ในตัวมูยอง พวกมันไม่ใช่สิ่งที่จะมีอยู่ภายในคนๆเดียวได้
เอนโรธก้าวถอยหลังทันทีที่มูยองขยับเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น
มันสร้างพลังเวทสีดำปกคลุมตัวเองเอาไว้ นั่นเป็นพลังที่สามารถป้องกันกระทั้งแรงระเบิดที่เกิดจากการทำลายตัวเองของเบซองมิน
มูยองยังคงพุ่งไปขณะที่เขาเริ่มงอกขึ้นบนหน้าผาก
ฉัวะ!
ด้วยความเร็ว 64 เท่า เขาฟันดาบไปที่บาเรียของแอนโรธ
แคร๊ก!
พลังที่ซึ่งบาเรียดังกล่าวไม่สามารถป้องกันได้
“ แค่นั้นแหละ ”
คลืน! บาเรียพังทลาย
“ มันไม่ควรเกิดเรื่องเช่นนี้ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร! สำหรับผู้ที่ข้ายังไม่มีรู้แม้แต่ตัวตนของมัน…!”
“ นี่เป็นแค่การเริ่มต้น”
ร่างกายของเอนโรธเริ่มสลาย มันพึ่งตระหนักว่าไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้นี้ได้
แต่…
“ ท่านจักอยู่ที่นั่นเสมอ”
บทสวดของอัลโนวาดังขึ้น
และด้วยบทสวดนี้ทุกอย่างก็เป็นโมฆะ
การสลายร่างของเอนโรธหยุดลง
เอนโรธตกตะลึง
แต่มันไม่สามารถกรีดร้องได้ในครั้งนี้ มันเต็มไปด้วยความประหลาดใจ มันไม่เคยคิดเลยว่ามูยองจะสามารถหยุดการทำลายตนเองได้ นี่เป็นเรื่องที่มันไม่สามารถจินตนาการ
มูยองยิ้มเยาะและพูดว่า
“ แกจะต้องกลายมาเป็นอันเดธของฉัน ”
แล้วมูยองก็ยื่นมือออกไป ในขณะที่ร่างของเอนโรธไหวเอน
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame