The King of the Battlefield - ตอนที่ 229
บทที่ 229: อัลโนวา (3)
“ ว่าไงนะ…”
เบซองมินจริงจัง
ลูกสาว?
จากความทรงจำที่คลุมเครือ เอลเดอร์ลิชอย่างเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีความผูกพันกับสิ่งมีชีวิตอื่นอีกนอกจากมูยอง
และยิ่งเป็นความผูกพันที่ไม่ธรรมดานี่อีก เพราะเธอเป็นถึงลูกสาวของเขา?
“ ฉันไม่มีเวลาอธิบายมาก แต่ซูจีเป็นลูกสาวของนาย”
มูยองมองขึ้นไปที่ ‘ปราสาท’
ปราสาทที่หลุดจากผลกระทบของสนามแรงโน้มถ่วงกำลังลอยขึ้นอีกครั้ง นอกจากนั้นยังมีปีศาจปรากฏเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก และปิดกั้นการล่าถอยของพวกเขา
เบซองมินตกใจ
เนื่องจากมูยองไม่มีเหตุผลที่จะโกหก เขามักพูดความจริงเสมอ หรืออย่างน้อยเขาก็ไม่เคยโกหกเบซองมิน
และหากคำพูดของมูยองเป็นจริง
คิดได้ดังนั้นท้องฟ้าของซองมินก็ราวกับจะถล่มคลืนลงมา
“ ถ้างั้น…สิ่งที่ผมตามหาตลอดมาก็คือ”
เบซองมินรู้สึกเจ็บปวดเสมอ
เขารู้สึกเหมือนสูญเสียสิ่งสำคัญตลอดเวลา
มักจะมีแรงกดดันให้เขาต้องตามหาอะไรซักอย่าง
แต่เขาไม่เคยจินตนาการว่าบางสิ่งนั้นเป็นลูกสาวของตัวเอง
“ ฉันไม่ต้องการทำให้นายสับสน จริงๆแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าควรตัดสินใจยังไงกับเรื่องของนายเหมือนกัน ”
ถูกตัอง มูยองไม่สามารถตัดสินเรื่องนี้ได้
นั่นเป็นเหตุผลที่ดี แต่ก็เป็นข้อแก้ตัวเช่นกัน
เขาไม่สามารถตัดสินได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด
เบซองมิเสียชีวิตไปแล้ว และกลายเป็นลิชผู้สูญเสียความทรงจำส่วนใหญ่ในอดีต
มูยองไม่รู้ว่าการที่เขาทราบเรื่องลูกตัวเองจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเก็บเรื่องนี้ไว้… แต่เขาคิดว่าควรบอกความจริงเมื่อทั้งสองฝ่ายได้พบกัน
มันไม่ใช่สิ่งที่สามารถหลบเลี่ยงได้ตลอดไป
“ เบซูจี เด็กคนนั้นเป็นลูกสาวของผมจริงๆเหรอ…?”
“ ฉันจะเคารพการเลือกของนาย”
เขาปล่อยให้มันเป็นการตัดสินใจของเบซองมิน
เบซองมินกลายเป็นตัวตนใหม่หลังจากที่เสียชีวิต หมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องสนใจความทรงจำครั้งเมื่อยังมีชีวิตอยู่
แต่หากเขาเลือกที่จะคว้าอดีตของตนไว้ มูยองก็เคารพการตัดสินใจของซองมิน
เบซองมินรู้สึกสับสนอย่างมากในตอนนี้
เขาเป็นคนขับเบซูจีให้ไปยืนอยู่ที่ปากเหวของความตาย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนอยากไปเองก็ตาม เขาไม่รู้สึกผิดสักนิดสำหรับการตัดสินใจครั้งนั้น แต่เขาจะทำแบบเดียวกันหรือเปล่า หากรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของเขา?
เบซองมินตกอยู่ในพะวง เดิมทีลิชเป็นตัวตนที่ไร้ซึ่งหัวใจ แต่ตอนนี้มันกลับรู้สึกอยากปฏิเสธตัวตนของตัวเอง
‘ทำไมฉันถึงจำอะไรไม่ได้เลย ทำไม!’
เบซองมินประสบปัญหากับอารมณ์ที่ไม่มั่นคงเป็นอย่างมาก
แม้จะทราบความจริงแล้ว แต่เขาก็จำอะไรไม่ได้เลย
เขาจะคว้าทุกอย่างไว้ทันทีถ้าความทรงจำทั้งหมดปรากฏขึ้น
“ นายท่าน เด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า?”
“ เธอยังไม่ตาย แต่ดูเหมือนว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่”
มูยองและเบซูจีเชื่อมต่อกันอยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรู้เห็นทุกอย่าง อย่างไรก็ตามสิ่งที่แน่ๆคือสัญญาณชีวิตของเธอกำลังอ่อนลงเรื่อยๆ
เบซองมินพยักหน้า
“ ผมจะไปหาเธอ ผมอยากมองเด็กคนนั้นชัดๆสักครั้ง”
ตอนเบซองมินเห็นเบซูจีครั้งแรก เขาก็คิดว่าเธอเป็นแค่ ‘หนู’ ตัวเล็กๆเท่านั้น และไม่เคยพยายามสนใจเธอเลยหลังจากนั้น
ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น?
เป็นเพราะการเห็นเธอทำให้อารมณ์ของเขาแปรปรวนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนนี้อย่างน้อยเขาก็อยากเผชิญหน้ากับเธอดีๆสักครั้ง
‘ฉันต้องการพบเธอ ต้องการมองเธอไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีภาพที่ชัดเจนปรากฏขึ้นในหัวของฉัน ‘
มันยังไม่สายหากได้เผชิญหน้า และสนทนากันเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อหาข้อสรุป
ยังไงก็ตามตอนนี้เขาต้องช่วยเบซูจีก่อน ภารกิจช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดินไปสู่ความตาย นั่นเป็นสิ่งที่ดูไม่เข้ากับลิชเอาซะเลย
มูยองเผยรอยยิ้มจางๆ
“ ฉันจะเปิดทางให้นายเอง”
เส้นทางหลบหนีของพวกเขาถูกปิดกั้น พวกเขาไม่สามารถทำอะไรกับปีศาจนับหมื่นที่ถูกเสริมความแข็งแกร่ง ด้วยจำนวนกำลังพลเพียงเท่านี้
ฟูม!
เปลวเพลิงลุกไหม้โหมกระหน่ำขึ้น
ปีกทั้งหกของมูยองกลายเป็นปีกแห่งเปลวเพลิงขนาดใหญ่โต
จากนั้นมูยองก็หลับตาลงแล้วพูดบางอย่าง
“ ในทุกสรรพสิ่ง ย่อมมีแสงส่องถึงเสมอ”
ฟว๊างง!
บนท้องฟ้าถูกลำแสงเจาะทะลุกลายเป็นหลุมกว้างใหญ่
และผืนดินก็ถูกปกคลุมไปด้วยความสว่างไสว
“อ๊ากกก!”
“ซะช่วยข้าด้วย! เจ็บเหลือเกิน!”
“ม้ายย! อ๊าก!”
ปีศาจที่ถูกลำแสงสัมผัส ร้องด้วยความเจ็บปวด
พลังเทวะของมูยองได้รับการเสริมความแข็งแกร่งด้วยบทสวดของอัลโนวา
อัลโนวาเป็นคัมภีร์ที่รวบรวมคำสอนหรือบทสวดสั้นๆเอาไว้
หากคุณเข้าถึงความศักดิ์สิทธิ์นั้น คุณก็สามารถแสดงความแข็งแกร่งนี้ได้เพียงแค่ท่องบทสวด
ทว่าแม้แต่มูยองก็ไม่สามารถเข้าใจบทสวดทั้งหมด เขาสามารถจดจำบทสวดที่แข็งแกร่งได้บางบทเท่านั้น
“ จงแผดเผาให้เหมือนเปลวเพลิง และซัดใส่ดั่งคลื่นแห่งท้องทะเล”
วูม!
ปีกของมูยองขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมก่อนจะกลืนปีศาจทั้งหมดในระยะโจมตี
ปีศาจมากกว่าหนึ่งแสนตัวเสียชีวิตด้วยการโจมตีเพียงสองครั้ง
แม้จะยังเหลืออยู่จำนวนอีกมาก แต่พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะตกใจกับสิ่งที่จู่ๆก็เกิดขึ้น
วูบ!
ร่างของมูยองดูซวนเซ
‘บทสวดของอัลโนวาเปลืองแรงค่อนข้างมาก’
อย่างมากที่สุดสามครั้ง นั่นคือจำนวนบทสวดที่มูยองสามารถท่องได้ ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวเองคงไม่สามารถทนได้มากกว่านั้น
ชิ้ง!
มูยองดึงความโกรธเกรี้ยวออกมา
เขานำความโกลาหลมาสู่ศัตรู และเปิดเส้นทางให้แก่พวกพ้องขึ้นสำเร็จแล้ว และซองมินไม่ควรพลาดโอกาสนี้
“ ยังไม่สายถ้านายจะไปตอนนี้”
หลังจากพูดจบ มูยองก็ชูดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวขึ้นสูง
เหล่าวิญญาณทุกตน, อันเดธ, โอการ์และทาร์แคนมองไปที่มูยอง
“ตามฉันมา ถึงเวลาทำลายศัตรูของเราแล้ว”
* * *
“แกเป็นใคร?”
ปัง!
เอนโรธกระแทกไม้เท้าใส่พื้น
ในเวลาเดียวกันระยางสีดำเมื่อมก็พุ่งขึ้นไปปกคลุมร่างของผู้บุกรุก
มันไม่คิดว่าจะมีใครสามารถล้มปีศาจนับไม่ถ้วนจนมาถึงศูนย์กลางของปราสาทเช่นนี้ได้
ทุกคนนอกจากเอนโรธถูกสังหารจนหมด แต่ของมันแน่อยู่แล้วที่เอนโรธยังมีชีวิตอยู่
ผู้บุกรุกปิดปากของเธอแน่น ถึงแม้จะมีเลือดไหลซึมออกมาจากร่างกาย แต่เธอก็ยังไม่ตาย ยังไงก็ตามชัดเจนว่าเธอคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
เอนโรธส่ายหัวขณะมองไปที่ผู้บุกรุก
“ ข้าคงถามผิดไป ให้ข้าถามอีกครั้ง เขาคือใคร’?”
เอนโรธมองเบซูจีแล้วก็รู้สึกได้ว่ายังมีบางคนที่เหนือกว่าเธออยู่
เขาไม่ได้ฆ่าซูจีทันที เพราะรู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวของผู้ที่แข็งแกร่ง
ผู้หนึ่งที่คอยชักใยเรื่องทั้งหมดให้เกิดขึ้น และบางทีนั่นอาจเป็นตัวจริงของผู้ที่สังหารชาร์ซาซ่า
เขาไม่กังวลเรื่องเบซูจีหรือว่าลิช แต่เป็นใครอีกคนที่อยู่เหนือกว่านั้นมากกว่า
“ หรือว่ามันจะเป็นเทพปีศาจ? เป็นตัวตนที่มาจากอีกโลกหนึ่งเหมือนเดียโบลงั้นหรือ?”
เบซูจีนั้นมีความเชื่อมโยงกับ ‘ใครบางคน’
เอนโรธสัมผัสได้ถึงช่องว่างที่มันไม่รู้ และช่องว่างที่ยิ่งใหญ่นี้…ไม่ได้อยู่ในระดับระหว่างราชาปีศาจ มันเป็นช่องว่างที่มันสามารถรู้ได้จากตัวตนเหนือธรรมชาติหรือไม่ก็เทพปีศาจ แต่มีบางอย่างที่แตกต่าง มันไม่เคยรู้สึกถึงช่องว่างแบบนี้
เบซูจียิ้มเล็กน้อย
นั่นก็ถือเป็นคำตอบที่เพียงพอแล้ว
“ เป็นประเภทที่ไม่ชอบให้พูดจาดีๆสินะ”
เอนโรธอยากรู้อยากเห็น มันรู้สึกอยากตายเพราะความอยากรู้อยากเห็นนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่มันพยายามควบคุมจิตใจของเบซูจี
การย้ายจิตสำนึกเป็นความสามารถพิเศษของเอนโรธ การเล่นกับจิตสำนึกที่ศัตรูอดกลั้นไว้อย่างสมบูรณ์นั้นเป็นสิ่งที่มันชอบ
มันกางมือออกไปดึงผมของเบซูจี จากนั้นก็เขียนอักษรรูนบางอย่างลงบนไม้เท้า
“ ข้าะถามเจ้าอีกครั้ง เขาเป็นใคร’? บอกตัวตนที่เชื่อมโยงอยู่กับเจ้ามา”
มันใช้เวลาไม่นาน
ยังไงก็ตามเบซูจียังไม่ตอบคำถาม
เธอแค่หัวเราะออกมาแปลก ๆ
จากนั้นเธอก็เป็นลม
มันไม่สำคัญว่าเธอจะหมดสติหรือไม่ถ้าการควบคุมจิตใจทำงานได้อย่างถูกต้อง หากเป็นปกติเบซูซี่น่าจะต้องตอบคำถามของเอนโรธไปแล้ว
มีเพียงกรณีเดียวเท่านั้นถ้าเธอไม่ตอบ
‘การควบคุมจิตใจของข้าไม่ได้ผล’
มันแทบไม่อยากเชื่อที่พลังของตัวเองไม่ได้ผล!
ราชาปีศาจเหล็กเอนโรธ พลังที่แท้จริงของมันคือการควบคุมและครอบงำ
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้มันสามารถเสริมกำลังปีศาจหลายแสนตนในเวลาเดียวกันได้
แต่เห็นได้ชัดว่าพลังของเอนโรธไม่ได้ผล
เมื่อมูยองออกจากอารามสีคราม เขาได้ถ่าย ‘กลไกการป้องกันตัวเอง’ ไว้บนตัวเบซูจี
มันเป็นมาตรการที่จะไม่บอกให้คนอื่นรู้ถึงการดำรงอยู่ของมูยอง กลไกดังกล่าวมี ‘การป้องกันทางจิต’ ที่แข็งแกร่ง
การล้างสมอง ‘หวังซุงหลิน’ อยู่ในระดับท๊อบคลาส บางรายละเอียดมันยังยอดเยี่ยมกว่าของเอนโรธเสียอีก
เมื่อเปรียบเทียบกับเอนโรธที่ผลักดันมันด้วยพลังเวท หวังซุงหลินนั้นได้เข้าไปจัดการจิตใจของเหยื่ออย่างเป็นระบบ
มูยองเตรียมการพวกนี้ไว้สำหรับหวังซุงหลิน ดังนั้นจึงไม่มีทางที่มันจะถูกเจาะทะลวงได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นสีหน้าของเอนโรธก็เปลี่ยนไป
“ ข้าติดกับของศัตรูหรือนี่…!”
ฟูว!
ในขณะนั้นเสาเพลิงขนาดใหญ่ก็ลุกขึ้นบนปราสาท และเพลิงที่ลุกโชติช่วงก็ห้อมล้อมไปทั่วบริเวณ ทำให้บาเรียที่ปกป้องปราสาทละลายลงทันที
เมื่อตกอยู่สถาวะไร้การป้องกันปราสาทก็เริ่มดิ่งร่วง
มันเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวที่แม้แต่เอนโรธก็ไม่สามารถเลียนแบบได้
จากพลังนี้มันมั่นใจได้เลยว่า บางคนที่มันต้องการรู้ ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว
ฮ่า!
เอนโรธส่งเสียงคำรามออกมา
ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ
ผู้นั้นสังหารเหล่าปีศาจ และปรากฏตัวขึ้นเองราวกับว่ากำลังรอช่วงเวลานี้
หรือบางที
มันอาจจะตกเป็นผู้ที่ถูกล่อลวง นับตั้งแต่การตายของชาร์ซาซ่าแล้วก็เป็นได้
มันอาจเกิดมาเพื่อล่า แต่มันก็เป็นผู้หนึ่งที่ถูกล่าเช่นกัน
“ ข้าคือเอนโรธ ราชาปีศาจแห่งเหล็กผู้ยิ่งใหญ่! เจ้าคิดว่าข้าจะพ่ายแพ้อย่างง่ายดายงั้นหรือ!”
มันไม่สามารถยอมรับได้
มันเป็นคนที่วางกับดัก การล่าเป็นตำแหน่งที่คู่ควรกับมันเท่านั้น
เอนโรธปฏิเสธความจริงที่ว่าตนเป็นผู้หนึ่งที่ตกหลุมพราง
บูม!
บูม!
บูม!
ยังไม่จบแค่นั้น มีบางอย่างกำลังมา
แต่พลังนี้ไม่ได้เป็นของ ‘ผู้นั้น’
ใครบางคนกำลังเจาะทะลวงปราสาทอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากไม่มีบาเรียปกป้องปราสาทอีกต่อไป
ด้วยพลังเวทที่น่ากลัว เขากำลังเจาะปราสาทโดยใช้เทคนิคขยายพลังเวท
เอนโรธหันหลังกลับ
และในเวลาเดียวกันมันก็กล่าวขึ้น
“ เอลเดอร์ลิช…!”
เอลเดอร์ลิชปรากฏตัวอยู่กลางห้อง
มันดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่
เพราะ ‘ผู้นั้น’ สามารถปรากฏตัวได้ตลอดเวลา แต่คนที่มากลับเป็นลิช?
เอนโรธยอมรับศักยภาพของลิชตนนี้ แถมยังคิดที่จะเอามาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย แต่มันเปลี่ยนใจแล้ว
หากทั้งหมดนี้เป็น ‘แผน’ ของผู้นั้น เอนโรธตัดสินใจสังหารลิชและผู้หญิงตรงหน้าเพื่อทำลายแผนการของผู้นั้นดีกว่า
“ เจ้าคิดว่าจะเอาชนะข้าได้หรือ!”
“ ฉันไม่ได้มาเพื่อเอาชนะแก”
เบซองมินเหลือบมองไปยังจุดหนึ่ง
เบซูจียังมีชีวิตอยู่ เธออยู่ในสภาพที่แย่มาก แต่สิ่งสำคัญคือเธอยังมีชีวิตอยู่
ดูเหมือนว่าเธอจะแค่หมดสติไป
เบซองมินตัวสั่นเทิ้มเมื่อเห็นเบซูจี ถ้าเขามีดวงตาดั่งเช่นมนุษย์ คงเห็นแววตาที่สั่นไหวระเรื่อไปแล้ว
เบซองมินดึงสายตาไปยังเอนโรธอีกครั้ง
และพูดด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
“ ฉันแค่มาที่นี่…เพราะไม่อยากให้ตัวเองต้องเสียใจ”
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame