The Great Merchant in the Cataclysm - ตอนที่ 174

ตอนที่ 174: ถูกล่าหัว

ขณะเดียวกัน เจ้าหมาป่ากลายพันธุ์ยังคงอยู่ในความมืด ขณะที่มันจ้องมองไปที่สุนัขจิ้งจอกสีขาวที่กําลังนอนอยู่บนพื้นอันว่างเปล่า มันกําลังสงสัยว่ามันควรอยู่หรือหนีไปก่อน

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ลิงชิมแปนซีที่ถูกขู่โดยหมาป่ากลายพันธุ์ก่อนหน้านี้ กําลังวิ่งไปยังทิศทางของพวกมันด้วยท่าทางที่บ้าคลั่งในตอนนี้ มองดูภาพตอนนี้ เจ้าหมาป่ากลายพันธุ์รีบถอยกลับอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน งูหลามสีทองออกจากสถานที่นั้นอย่างเงียบ ๆ เรียบร้อยแล้ว ลิงชิมแปนซีส่วนหนึ่งอยู่รอบ ๆ สุนัขจิ้งจอกขาว ขณะที่ลิ้งแปนซีนับโหลที่เหลือไล่ล่าหมาป่ากลายพันธุ์ และงูหลามสีทองอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าหมาป่ากลายพันธุ์จะมีพลังที่แท้จริงที่แข็งแกร่งขนาดไหน

เพราะนั่นคือหลานรักของผู้นําที่ยิ่งใหญ่!

ลิงชิมแปนซีเหล่านี้รู้ว่ามันถึงวาระในคราวนี้ ก่อนที่ผู้นําที่ยิ่งใหญ่จะมาถึง หากพวกมันสามารถฆ่าสัตว์สองตัวนี้ลงได้ ก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้นําที่ยิ่งใหญ่จะไม่ตัดสินโทษเผ่าพันธุ์ของพวกมัน ดังนั้น พวกมันจึงใช้พลังเต็มที่ในทันที โดยหวังว่าจะจับสัตว์สองตัวนี้ และฉีกพวกมันออกเป็นชิ้น ๆ ในทันที

หมาป่ากลายพันธุ์มีความมั่นใจในความเร็วในการวิ่งของมันเพียงชั่วพริบตา มันก็วิ่งแซงงูหลามสีทองที่กําลังเลื้อยอยู่บนพื้น และกระโดดข้ามร่างกายของมัน

โอ้เจ้าหมาตัวนี้ วิ่งเร็วจนน่าตกใจ!

ช่วงเวลาที่งูเหลือมสีทองตกตะลึง มันก็พบว่าลิงชิมแปนซักลายพันธุ์ได้ตามทัน แม้ว่าพวกมันจะมีความเร็วเท่ากันก่อนหน้านี้ก็ตาม

มือที่แข็งแกร่งจับหางของมันไว้แน่น และมีพลังมหาศาลท่วมทั้งร่างกายมัน

งูหลามสีทองเกือบจะดิ้นหลุดจากมือด้วยพลังทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานมันก็เป็นอัมพาต

เนื่องจากร่างกายของมันถูกยกขึ้น และควบคุมโดยลิงชิมแปนซีนับโหลอยู่กลางอากาศ

มองไปที่ภาพนั้น หมาป่ากลายพันธุ์ได้แต่ตกตะลึง ระหว่างนั้น มันกําลังครุ่นคิดว่าควรหนีไปหรือว่าช่วยเจ้างูหลามสีทองดี

อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา มันก็ทิ้งความคิดที่เพิ่งเกิดขึ้น และรีบหนีออกจากที่เกิดเหตุทันที

ลิงชิมแปนซีแต่ละตัวจับส่วนของงูหลามสีทองไว้แน่น ขณะเดียวกันลิงชิมแปนซีตัวที่แข็งแกร่งที่สุดจับส่วนหัวของงูหลามสีทอง ตอนนี้ งูหลามสีทองไม่สามารถเปิดกรามล่าง และใช้อาวุธที่ทรงพลังที่สุดของมันได้ ซึ่งก็ คือ พิษของมัน

ราวกับว่าพวกมันทั้งหมดได้รับค่าสั่งมาแล้ว ลิงชิมแปนซียกงูหลามสีทองไว้บนหน้าอกของพวกมัน และ สาเหตุที่ทําให้หมาป่ากลายพันธุ์หนีออกจากที่เกิดเหตุทันทีก็คือ พวกมันทั้งหมดอ้าปากใหญ่พร้อมกัน และใช้เขี้ยวขนาดใหญ่ฉีกเนื้อของงูหลามสีทอง ในขณะที่มันยังมีชีวิตอยู่

ปากขนาดมหึมาหลายสิบตัวลงไปในเวลาเดียวกันทันที ทันใดนั้น งูหลามสีทองก็สูญเสียเนื้อไปครึ่งตัวเพียงจินตนาการเล็กน้อย ก็คงจินตนาการได้ว่าเป็นเหตุการณ์เลือดนองขนาดไหน

งูหลามสีทองดิ้นอย่างบ้าคลั่ง อย่างไรก็ตาม ทุกตารางนิ้วของร่างกายมันตรึงไว้อย่างแน่นหนา พร้อมกับการขาดเลือด และเนื้อ ยิ่งมันดิ้นเท่าไร มันก็ยิ่งหมดพลังเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น เพราะว่ามันเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ดังนั้น มันจึงไม่ตายในครั้งเดียว และมันยังคงดิ้นไม่หยุด

หมาป่ากลายพันธุ์คงจะเป็นหมาโง่ หากมันไม่หนีไปในตอนนี้ ด้วยความคิดที่จะช่วยเหลืองหลามสีทองนั้น ไม่ได้เกิดจากความใจดีของมัน มันเพียงแค่กลัวว่าจางมู่จะตําหนิว่ามันส่งผลต่อแผนการในภายหลังของเขา

แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ไม่จะไม่หนีได้อย่างไร? วิ่งราวกับลม มันรู้สึกราวกับว่ามันไม่ใช่สัตว์กลายพันธุ์ธาตุดินในช่วงเวลานี้ แต่เป็นธาตุลมราวกับเจ้าด้วงออบซิเดียนแทน มันหวังว่าขาทั้งคู่ของมันจะแข็งแกร่งพอที่จะหลีกเลี่ยงการถูกกินเช่นเดียวกับงูหลามสีทองในตอนนี้

แม้ว่ามันจะไม่เพียงพอสําหรับลิงชิมแปนซีที่จะระบายความโกรธ พวกมันก็หยุดกินต่อ เพราะเจ้าของที่แท้จริงของเมือง และผู้นําที่ยิ่งใหญ่ของเหล่าสัตว์กลายพันธุ์มาถึงข้างหลานของมันแล้วอย่างเงียบ ๆ

สัตว์กลายพันธุ์ทั้งหมดตรงนั้นไม่กล้าที่จะส่งเสียงแม้แต่น้อย ขณะที่พวกมันมองมาที่ผู้นําที่ยิ่งใหญ่ด้วยความเงียบ

แสงสีขาวบริสุทธิ์เปล่งออกมาจากร่างของจิ้งจอกขาวเฒ่า และมันค่อย ๆ อบอวลไปบนบาดแผลของจิ้งจอกขาวตัวน้อย ทันใดนั้น จิ้งจอกน้อยก็หยุดดิ้นอยู่กับพื้น และบริเวณที่มันถูกพิษสาดใส่ เริ่มที่จะฟื้นฟู

หากจางมู่เห็นภาพนี้ เขาคงจะสามารถเข้าใจได้ว่าสุนัขจิ้งจอกขาวเฒ่านั้นมีพลังเช่นเดียวกับหยวนรุย

สุนัขจิ้งจอกขาวเฒ่านั้น เป็นสัตว์กลายพันธุ์ประเภทรักษาที่มีค่า!

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีพลังในการรักษาที่ทรงพลังเช่นนี้ ลูกตาที่เสียไปก็ไม่สามารถฟื้นฟูได้อีกต่อไป

มองไปที่เบ้าตาที่ว่างเปล่าของหลานชาย ดวงตาของจิ้งจอกขาวเฒ่าก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาอีกครั้ง มันมองไปที่ลิงชิมแปนซีหลายสิบตัวที่ยืนอยู่ด้านข้างโดยไร้อารมณ์ใด ๆ

แม้ว่าร่างกายของพวกมันจะใหญ่ และสูงกว่าสุนัขจิ้งจอกขาวเฒ่ามาก ลิงชิมแปนซีเหล่านี้ไม่กล้าที่จะคิดทรยศ เมื่อสุนัขจิ้งจอกขาวจ้องมองมาที่พวกมัน พวกมันทั้งหมดก็คุกเข่า และเริ่มคํานับเลียนแบบมนุษย์ เคาะศีรษะของพวกมันลงกับพื้น

แม้ว่าพวกมันจะใช้แรงอย่างมาก และแม้ว่าพื้นจะเต็มไปด้วยเลือด พวกมันก็ไม่กล้าที่จะลดความเร็วในการคำนับลง

หนึ่งในลิงชิมแปนซีที่อยู่ข้าง ๆ สุนัขจิ้งจอกขาว เคลื่อนย้ายศพของงูหลามสีทอง และวางตรงหน้าของมัน มันถอยกลับอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่กล้าที่จะโกรธผู้นําที่ยิ่งใหญ่ของพวกมัน

เสียงทุ้มลึกดังออกมาจากปากของจิ้งจอกขาวเฒ่า และสุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยตอบกลับอย่างเด็ดขาด หลังจากนั้น มันตามตามกลิ่นของงูหลามสีทอง และค่อย ๆ เดินเข้ามา มันเปิดปาก และก้มลง

แม้ว่ามันจะเสียดวงตาไป แต่สุนัขจิ้งจอกสีขาวก็กินงูหลามสีทองบนพื้นในไม่กี่วินาที ยิ่งไปกว่านั้น โครงกระดูกงูยาวนั้นยังกลายเป็นผุยผงโดยดาบลมของสุนัขจิ้งจอกขาว

อย่างไรก็ตาม สุนัขจิ้งจอกขาวตัวนี้ดูเหมือนจะไม่ได้สืบทอดความสามารถของผู้นําที่ยิ่งใหญ่ และเป็นเพียงสัตว์กลายพันธุ์ประเภทลมธรรมดา ในระหว่างนั้น ลิงชิมแปนซีตัวหนึ่งกําลังชี้ไปยังทิศทางที่หมาป่ากลายพันธุ์หลบหนี เพื่อรายงานให้ผู้นําที่ยิ่งใหญ่ทราบ

แสดงว่ามีผู้กระทําผิดหลบหนีไปได้?

ด้วยแสงแวววาวในดวงตาของมัน แสงสีขาวบนร่างของจิ้งจอกขาวเฒ่าก็กลายเป็นหมอกสีดําสนิททันที และมันก็โอบรอบลิงชิมแปนซีหลายสิบตัวที่อยู่บนพื้น

เมื่อหมอกสีดําสลายไป ชิมแปนซีทั้งหมดก็สูญเสียพลังของพวกมัน ราวกับว่าวิญญาณของพวกมันถูกพรากไปในทันที เหลือเพียงท่าทางก่อนหน้านี้ สิ่งที่เหลืออยู่ เป็นเพียงเปลือกนอกของร่างกายพวกมัน

มองไปที่สุนัขจิ้งจอกขาวเฒ่าที่กําลังวิ่งเข้าหาร่างของลิงชิมแปนซี เพื่อกินไส้สัตว์เดรัจฉานของพวกมัน ไม่มีสัตว์กลายพันธุ์ตัวใดสงสัยในสายตาของพวกมัน ขณะเดียวกัน ลิงชิมแปนซีไม่กี่ตัวที่เหลือก็ยิ่งกลัวสุนัขจิ้งจอกขาวเฒ่ามากขึ้น

สุนัขจิ้งจอกขาวเฒ่าค่อย ๆ เงยศีรษะ และจ้องไปที่ทิศทางที่หมาป่ากลายพันธุ์หลบหนี หลังจากนั้น มันก็เลี้ยว และจากไปทันที่ราวกับว่ามันจดจํากลิ่นได้อย่างลึกซึ่งในใจ