The Defeated Dragon - ตอนที่ 160
ท่ามกลางหุบเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของเหมืองแร่เหล็กของเขาลิ่วซุ่ย มันเป็นเรื่องยากที่วัชพืชจะเติบโตในภูมิประเทศที่แห้งแล้งและถูกเหยียบย่ำ
เมื่อเดินทางได้ระยะสั้น ๆ ก็มีบ้านไม้ที่ไม่มีรั้วไม้ล้อมรอบหลายหลัง
เชลยที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าที่น่าจะถูกปล่อยตัวก่อนหน้านี้หลังจากทำงานในเหมืองเป็นเวลาหลายปี มักจะไม่มีใครหลบหนี และทหารยามก็ไม่ได้เข้มงวดเช่นกัน
เหยินปาเชียนมาที่นี่ได้สองวันแล้ว เขาใช้ผ้าผูกเป็นหน้ากากไว้บนหน้าแล้วเดินไปยังทุกหนทุกแห่ง
ในหุบเขามีฝุ่นเยอะมาก ซึ่งฝุ่นนั้นโชยออกมาจากเหมือง เมื่อตื่นจากการนอนหลับในคืนหนึ่ง ก็มักจะพบว่าบริเวณโดยรอบเป็นสีเทา
แร่เหล็กที่นี่มีคุณภาพปานกลาง แต่ง่ายต่อการขุดและเป็นเหมืองที่ผลิตได้มากที่สุดในต้าเย่า ถึงแม้ว่าจะไม่มากนักเมื่อเทียบกับเหมืองบนดาวโลกก็ตาม
เหยินปาเชียนกำลังพิจารณาว่าจะทำให้การขนส่งเข้าออกจากสถานที่แห่งนี้ให้ง่ายขึ้นได้อย่างไร
ตราบใดที่การขนส่งเสบียงเข้ามาและการขนส่งแร่เหล็กสมดุลกัน กำลังการผลิตของเหมืองก็จะเพิ่มขึ้นอย่างง่ายดายเพียงไม่กี่ครั้ง
ทั้งสามด้านของหุบเขาเป็นหน้าผา ถนนแคบ ๆ ด้านหนึ่งเป็นที่ซึ่งเสบียงขาเข้าและแร่เหล็กขาออกต้องผ่าน
อีกด้านหนึ่งเป็นหุบเขาลึกมากไปตามลำธารที่ไหลอยู่ใต้ดินหลังจากระยะทางสั้น ๆ
ส่วนอีกสองด้านนั้นนำไปสู่ภูเขาหกหมื่น นอกจากนี้ เส้นทางนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาเส้นทาง และการเปิดถนนที่นี่ก็ทำไม่ได้จริง
แรกเริ่มเดิมที เหยินปาเชียนพิจารณาถึงการใช้สายเคเบิลในการขนส่งสิ่งของ แต่ถ้าต้าเย่ามีเหล็กเพียงพอที่จะทำสายเคเบิลล่ะก็ พวกเขาก็คงจะใช้ทำอาวุธแทนตั้งนานแล้ว
นอกจากนี้ วัสดุที่จำเป็นในการสร้างระบบเคเบิลจะใช้เวลาต้าเย่าหลายปีในการผลิต ยิ่งไปกว่านั้น ระบบสนับสนุนที่จำเป็นก็ยากที่จะสร้างขึ้นในโลกนี้
ไม่มีจุดประสงค์ที่จะคิดเกี่ยวกับการใช้เชือกเพราะพวกเขาใช้จนชำรุดเร็วมาก และการใช้ขนส่งแร่เหล็กก็ใช้การไม่ได้จริง
นอกจากนี้ เหยินปาเชียนยังพิจารณาถึงการใช้ลูกโป่งลมร้อน แต่ทว่า เมื่อพบว่ากระบวนการผลิตและการจัดหาเชื้อเพลิงสำหรับบอลลูนลมร้อนนั้นยากมาก การใช้บอลลูนลมร้อนสองหรือสามลูกอาจไม่ได้เร็วไปกว่าการใช้มนุษย์ขนแร่เหล็กอย่างในตอนนี้
ไม่ต้องพูดถึงการไหลเวียนของลมรอบหุบเขา เดิมทีบอลลูนลมร้อนนั้นก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการขนส่งอยู่แล้ว
ในความเป็นจริง หลังจากที่พิจารณาตัวเลือกทั้งหมดแล้ว การสร้างอุโมงค์เป็นวิธีที่ปฏิบัติได้มากกว่า
“พวกเจ้าคิดว่าจะขุดหลุมโดยตรงจากภูเขาลูกนี้เพื่อเชื่อมไปยังฝั่งตรงข้ามได้มั้ย ?” เหยินปาเชียนชี้ไปที่ภูเขาฝั่งตรงข้ามแล้วพูดกับเถาจี้หยวน
“ชู่ว..ใต้เท้าเหยิน ท่านทำได้แค่คิด แต่อย่าได้พูดออกมาเด็ดขาด” เถาจี้หยวนพูดอย่างประหม่า
“ทำไมถึงพูดไม่ได้ล่ะ ?” เหยินปาเชียนประหลาดใจ
“ว่ากันว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์บางอย่างอยู่ในภูเขา ก่อนหน้านี้ แคว้นเฮ่าคิดที่จะขุดอุโมงค์ผ่านเหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่พวกเค้าขุดได้ประมาณ 3 เมตร หลุมก็จะพังทลาย พวกเค้าลองทั้งหมดสามครั้ง และครั้งที่สามพวกเค้าก็ทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในภูเขาโกรธ ไม่เพียงแต่คนงานเหมืองทั้งหมดเสียชีวิต แม้แต่ทหาร 2,000 นายที่อยู่ด้านนอกก็ตายหมู่และไม่มีใครรอดชีวิตได้ ตั้งแต่ครั้งนั้นมา แคว้นเฮ่าก็ไม่เคยคิดที่จะทำหลุมบนภูเขาอีกเลย”
เหยินปาเชียนมองเถาจี้หยวนด้วยความคลางแคลงใจ มันร้ายแรงมากเลยเหรอ ?
“มันเกิดขึ้นกี่ปีแล้วล่ะ ? เรื่องจริงหรอนั่นน่ะ ?” เหยินปาเชียนพบว่ามันไม่น่าเชื่อ
“มันเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว และก็ยังคงไม่มีใครกล้าสัมผัสภูเขาลูกนี้” เถาจี้หยวนยิ้มด้วยความขมขื่น
เหยินปาเชียนคิดถึงกิเลนที่เขาเห็นมาก่อนหน้านี้ โลกนี้แตกต่างจากดาวโลกในหลาย ๆ ด้าน และมีสิ่งลึกลับมากมาย และด้วยเหตุนี้ สิ่งที่เถาจี้หยวนพูดอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้
“พวกเราสามารถขยายถนนบนภูเขาได้มั้ย ?” เหยินปาเชียนถามอีกครั้งหลังจากทิ้งคำถามข้อแรกไป เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถผ่านอุโมงค์ไปได้ ถ้าหากพวกเขาขยายถนนเป็น 3 เมตร อย่างน้อยที่สุด มันจะดีทีเดียวถ้าหากวัวเขาง่ามและสัตว์อื่น ๆ สามารถผ่านไปได้
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ เหมืองเหล็กก็เป็นรากฐานที่ชาวบ้านไม่สามารถทำได้แม้ว่าจะไม่ได้มีค่าใช้จ่ายมากกว่าก็ตาม ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าฟังไม่ขึ้น
นอกจากนี้ เขาก็สามารถใช้วัตถุระเบิดเพื่อระเบิดหินโดยตรงจากผนังภูเขาได้ด้วย
เถาจี้หยวนดูค่อนข้างแปลกไป “ถนนสายนี้ทำให้กว้างได้แค่นี้แหละ ไม่ว่าท่านจะขุดข้างบนมากเท่าไหร่ ถนนก็จะพังทลายลงมามากเท่านั้น มันถึงได้กว้างขนาดนี้มาตลอด”
เหยินปาเชียนเงยหน้าขึ้นมองภูเขาตรงหน้า ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้เกี่ยวกับเหตุผลแบบนั้น
ไม่สามารถขุดหรือสัมผัสได้
นี่พยายามเล่นตลกกับเรารึยังไง ?
จริง ๆ แล้วมีอะไรอยู่ในภูเขาลูกนี้นะ ?
ถ้ามีโอกาสล่ะก็ อยากจะขุดไปค้นหาลึก ๆ จริง ๆ
แต่ทว่า เขาทำได้แค่คิดคร่าว ๆ เท่านั้น เหยินปาเชียนไม่ใช่คนที่จะเอาชีวิตไปเสี่ยง
“ถ้าอย่างนี้ พวกเราอยู่ที่นี่ไปก็ไม่มีประโยชน์ พรุ่งนี้กลับกันเถอะ” เหยินปาเชียนถอนหายใจ
“ข้าอยู่ที่นี่เพื่อติดตามใต้เท้าเหยินมาดูเท่านั้น” เถาจี้หยวนเริ่มหัวเราะ ถ้าหากไม่ใช่เพราะเหยินปาเชียนอยากจะดู เขาก็คงจะไม่อยู่ที่นี่
“แต่มันดีแล้วใช่มั้ยที่ทำเหมืองตรงนี้น่ะ ?” เหยินปาเชียนถามอีกครั้ง
“ในเมื่อเราขุดตรงนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเหมืองก็ไม่สนใจหรอก” เถาจี้หยวนตอบกลับไป “แต่ข้าก็ยังไม่ชอบที่นี่อยู่ดี”
เหยินปาเชียนพยักหน้า เมื่อได้ยินเช่นนี้จึงทำให้เขาขนหัวลุก
อย่างไรก็ตาม มีแผนการในเขาต้าหมัวแล้ว และสถานที่แห่งนั้นก็เข้าถึงได้ง่ายด้วย พวกเขาเพียงต้องการที่จะหลอมละลายภูเขาเหล็กด้วยเตาแสงอาทิตย์ และน่าจะได้รับแร่เหล็กเพียงพอในเวลาอันสั้น จากนั้นเขาก็จะบรรลุเป้าหมายสำหรับการเดินทางครั้งนี้
สำหรับเขาลิ่วซุ่ยแห่งนี้ เขาจะสำรวจในภายหลังหากมีโอกาส
ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงนั้นเพื่อรอสักพักจนกว่าเหยินปาเชียนจะตัดสินใจกลับไปพักผ่อนสักคืนก่อนออกเดินทาง
ระหว่างทางกลับ เขาเห็นทหารยามพาวัวหลังค่อมสองตัวไปยังทางไปภูเขาหกหมื่น และพวกเขาก็ขึ้นไปข้างบน
เหยินปาเชียนได้เห็นพวกเขาฆ่าวัวหลังค่อมหลายครั้งในช่วงสองวันนี้ แต่พวกมันไม่เคยถูกพาขึ้นไปจนถึงตอนนี้ และดังนั้นเขาจึงสงสัย “พวกเค้ากำลังทำอะไรน่ะ ?”
เถาจี้หยวนคิดถึงเรื่องนั้นและเรียกทหารยามมาไต่ถาม
“ปี๋ชื่อกำลังลงมาจากภูเขา วัวหลังค่อมทั้งสองตัวนี้เตรียมพร้อมสำหรับมันแล้วขอรับ หลังจากที่กินวัวหลังค่อมทั้งสองนี้ มันจะไม่ลงมากินอะไรอีกแล้วล่ะขอรับ” ทหารยามอธิบายให้พวกเขาสองคนฟัง
“ปี๋ชื่อคืออะไรอ่ะ ?” เหยินปาเชียนถามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ภาพจำของเขาที่มีต่อชนเผ่าคือพวกเขาเพิ่งเอามีดออกตัดทุกสิ่งที่พวกเขาเผชิญ พวกเขายอมทำกิจกรรมทางไสยศาสตร์แบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เถาจี้หยวนตอบรับ “โอ้ว..สรุปว่ามันคือปี๋ชื่อนี่เอง”
เขาหันไปหาเหยินปาเชียนแล้วพูดออกมา “ท่ามกลางภูเขาหกหมื่น ที่นั่นมีสัตว์ป่าดุร้ายซึ่งดูเหมือนหนูภูเขา มีปีก และสามารถวิ่งและบินได้ มันรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ และแม้แต่นักล่าที่มีประสบการณ์ก็พบว่ามันยากที่จะฆ่ามันได้ ในทางตรงกันข้าม มันจะหาโอกาสจู่โจมตอบโต้พวกเค้า”
“สิ่งที่ใต้เท้าพูดน่ะถูกต้องแล้ว ปี๋ชื่อจะลงมาปีละสองครั้งในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง และถ้ามันไม่สามารถหาอาหารได้ มันก็จะจู่โจมวัวตัวอื่น และไล่กัดพวกมันทุกตัวจนตาย ถ้าท่านตีมัน มันจะหาโอกาสตอบโต้กลับ เพราะงั้นพวกเราก็เลยพาวัวสองตัวขึ้นไปบนภูเขาเพื่อให้อาหารมันอย่างสม่ำเมอเพื่อไม่ให้มันลงมาขอรับ” ทหารยามตอบกลับไป
แรกเริ่มเดิมที เหยินปาเชียนคิดว่ามันเป็นค้างคาว แต่ต่อมาก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสัตว์ป่าพิเศษในโลกนี้
ลักษณะของการแก้แค้นคล้ายคลึงกับเพียงพอน มันคือเพียงพอนที่มีปีกยาวสินะ ?
“พวกเราสามารถหาที่ซ่อนแล้วเฝ้าดูได้มั้ย ?” เหยินปาเชียนถามด้วยความอยากรู้ เขาค่อนข้างสนใจสัตว์ประหลาดแบบนี้ในโลกนี้
“ใต้เท้า..ไม่เห็นมันจะดีกว่านะ ว่ากันว่าการได้เห็นปี๋ชื่อจะนำความหายนะมาสู่ผู้สังเกตการณ์ และคำทำนายนี้ค่อนข้างแม่นยำเลยล่ะ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ ช่างมันละกัน” เหยินปาเชียนทำตามคำแนะนำโดยทันที