The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 624
The Dark King – Chapter 624 ภารกิจล้มเหลว
“นายท่านครับ ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว” นิโคลัสยังไม่ทันสวมรองเท้า เขารีบวิ่งลงบันไดมาด้วยความตื่นเต้น
เทียนมองเขาที่รีบวิ่งลงมาและพยักหน้า เขาหันไปและเห็นนอยซ์เดินลงมาที่นี่จึงถามว่า “นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เมื่อนอยซ์ได้ยิน ดวงตาของเขาก็เริ่มเปียกชื้นขึ้นมาเล็กน้อยและความตื่นเต้นในใจของเขาก็หายไปทันที เขารู้ดีว่าทําไมเทียนถึงทักทายแบบนี้ ในตอนที่เทียนหายไปจากโบสถ์แห่งความมืด นับจากวันนั้นชีวิตของเขาก็ได้พบแต่ความเลวร้ายมาโดยตลอด เขาแอบได้ยินการสนทนาระหว่างฮอว์กอายและขุนนางคนอื่นๆเป็นจํานวนมากและเรียนรู้ว่าเทียนต้องการทําอะไร
ในตอนนั้นเขาตกตะลึงมากที่เห็นกองอัศวินจํานวนมากกําลังตามล่าตนเอง เขาต้องรีบหนีออกมาจากโบสถ์แห่งความมืดในตอนกลางคืนและกลับมาที่ปราสาทแห่งนี้
หน้ากากที่เคยใช้เป็นตัวตนของนอยซ์ก็ต้องถูกซ่อนไว้ภายในปราสาทแห่งนี้แม้แต่โบสถ์แห่งความมืดก็ยังไม่รับรู้เรื่องนี้ แต่ทุกๆวันของเขาต้องดําเนินไปด้วยความหวาดกลัว เขารู้ดีว่าเมื่อโบสถ์แห่งความมืดรู้เรื่องนี้สิ่งเดียวที่รอคอยเขาอยู่ต้องเลวร้ายยิ่งกว่าความตายมากแน่นอน ชีวิตในคุกหนามดอกไม้อาจจะเป็นเหมือนสรวงสวรรค์ขึ้นมาเลยก็ได้
” ผมสบายดีครับ” นอยซ์รีบตอบกลับมาว่า “นายท่านครับ คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แต่คุณห้ามกลับไปที่โบสถ์แห่งความมืด พวกเขากําลังตามล่าตัวคุณ แม้แต่ผู้ส่งสารแห่งพระเจ้าก็ได้ออกหมายจับคุณและโบสถ์แห่งความมืดทั้ง 12 พื้นที่ก็ออกมา…”
เซอร์กี้ยิ้มและพูดกับเขาว่า “นายช้าไปแล้ว”
นอยซ์มองมาที่เขาและถอนหายใจออกมา
“รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามาจากที่ไหนกัน?” เซอร์กี้ยิ้มเงื่อนๆออกมา
“อืม…. หรือว่าพวกนายมาจากโบสถ์แห่งความมืด?” ดวงตาของนอยซ์เบิกกว้างขึ้นมาทันที เขาถอนหายใจออกมาแล้วพูดขึ้นมาว่า “โชคดีที่คุณยังไม่ถูกพบตัว ไม่อย่างนั้นแล้วเราก็…”
เซอร์กี้หัวเราะออกมา “ฉันจะบอกอะไรให้นะ ก่อนหน้านี้ฉันตามนายท่านเข้าไปในห้องประชุมใหญ่ ภายในนั้นมีสมาชิกสภาหลายคนกําลังนั่งประชุมกันอยู่”
นอยซ์ตกตะลึงไปทันที
เทียนไม่อยากให้ทั้งสองคนพูดคุยกันและเสียเวลาอีกต่อไปจึงพูดออกมาอย่างเฉยเมยว่า “จําได้ว่าเมื่อ 6 เดือนที่แล้วฉันได้มอบภารกิจให้กับพวกนายไป ผ่านมา 6 เดือนแล้วเป็นยังไงบ้าง?”
ดวงตาของนิโคลัสเบิกกว้างออกมาทันที่และเขารีบตอบกลับมาว่า ”นายท่านครับ ในตอนแรกคุณบอกว่าให้พวกเราทําตามภารกิจที่ได้รับไปก่อนและรอคอยโอกาสถ้าคุณกลับมา ก็อาจจะถึงเวลา…”
เทียนพยักหน้าเบาๆและพูดว่า “ตอนนี้ถึงเวลาที่ฉันกลับมาแล้ว ฉันจะรวมพื้นที่ของกําแพงชั้นนอกเข้าด้วยกันในเวลาครึ่งเดือน ทุกๆสมาคม ทุกๆกองกําลัง จะต้องอยู่ภายใต้คําสั่งของฉันเพียงคนเดียว!
เมื่อได้ยินคําพูดของเกล็น นิโคลัส นอยซ์ และคนอื่นต่างก็ต้องตกตะลึงและคิดไม่ออกว่าเขาจะทํายังไง
เทียนไม่ปล่อยให้พวกเขาสงสัยอีกและพูดต่อไปว่า “สงครามที่กําลังจะเกิดขึ้นนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เตรียมพร้อมเอาไว้หมดแล้ว พวกนายไม่ต้องกังวลไปนี่มันแค่การเริ่มต้นเท่านั้น พวกนายต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องทุกๆวันในเวลาครึ่งเดือนนี้ พลังคือสิ่งที่จําเป็นมากที่สุด วันพรุ่งนี้ฉันจะนําเรือนร่างแห่งพระเจ้ามาให้พวกนายจํานวนหนึ่ง มันสามารถทําให้นักล่าดับสูงสามารถก้าวข้ามขีดจํากัดร่างกายของตนเองขึ้นไปได้อีก แต่ก่อนหน้านั้นพวกนายทุกคนต้องเตรียมร่างกายของตนเองให้พร้อม!”
ทุกๆคนต่างก็มองหน้ากันด้วยความกังวลใจ
เมื่อเกว็นเน็ทได้ยินคําว่า “เรือนร่างแห่งพระเจ้า” จิตใจที่เงียบสงบของเธอก็ตกตะลึงขี้ นมาทันที เธอจ้องมองไปที่เทียนและกํากําหมัดเอาไว้แน่น
เทียนเห็นสายตาของเกว็นเน็ทมา จึงพูดขึ้นมาช้าๆว่า “เกว็นเน็ท เร็วๆนี้เธอจะได้ทําในสิ่งที่เธออยากจะทํา”
สายตาของทุกๆคนหันไปมองเกว็นเน็ททันที
ทุกคนรับรู้จากปากของเซอร์กี้ว่าหญิงสาวคนนี้มาจากกําแพงชั้นในและต้องการแก้แค้นคนที่อยู่ในกําแพงชั้นในที่เคยใส่ร้ายเธอ
“ขอบคุณมากค่ะ นายท่าน!” เกว็นเน็ทก้มศีรษะของตนเองลงทันที เมื่อได้ยินเทียนพูดคําว่า “เรือนร่างแห่งพระเจ้า” เธอก็รู้ว่าเทียนไม่ใช่แค่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เธอเคยรู้จักกันอีกต่อไป
เทียนพยักหน้าเบาๆและนึกถึงพวกทหารที่ลาดตะเวนอยู่หน้าปราสาทของเขา เขาพูดออกมาว่า ” ทําไมพวกทหารถึงมาจับตามองเรา?”
” คุณเองก็ทราบเรื่องนี้แล้วหรอ?” เกล็นถอนหายใจออกมา เธอไม่คิดว่าเทียนจะรับรู้เรื่องนี้ ด้วยเช่นกันจึงรีบพูดออกมาว่า ”ตามข้อมูลที่ฉันได้รับมาดูเหมือนว่าทหารพวกนี้จะจับตามองเรา เพราะตระกูลเมล?”
” ตระกูลเมล?” เทียนหรี่ตาลงทันที
เกล็นพูดต่อไปว่า “หัวหน้าของทหารพวกนี้เป็นคนของตระกูลเมลและในตอนนี้ดูเหมือนว่า ตระกูลเมลได้ย้ายไปอยู่ที่ฝั่งตะวันตกของย่านการค้า ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังพยายามกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”
“ดูเหมือนว่าตอนที่ฉันไม่อยู่ที่นี่หลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนไปมาก” เทียนพยักหน้า สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา
นิโคลัสก็พูดออกมาว่า “นายท่านครับ ผมผิดเองโปรดลงโทษผมได้เลย!” เมื่อกล่าวจบเขาก็รีบก้มศีรษะลงทันที
เทียนขมวดคิ้วขึ้นมา “ว่ามา”
นิโคลัสตอบกลับมาว่า “นายท่านครับ ภารกิจที่คุณสั่งให้ผมทําก่อนหน้านี้ ผมกลัวว่ามันยากเกินไปที่จะสําเร็จได้ ผมได้ปลูกต้นไม้ต่างๆตามที่นายท่านสั่งไว้แล้วแต่เมื่อ 2 เดือนก่อนหน้านี้ ที่ดินที่ผมได้ปลูกต้นไม้เหล่านั้นเอาไว้ถูกซื้อไปโดยคนกลุ่มหนึ่งและพวกเจ้าหน้าที่ก็เห็นชอบด้วย ดังนั้นผมจึงไม่สามารถทําอะไรได้เลย”
เทียนถามกลับมาด้วยน้ําเสียงที่เย็นชาว่า “ตระกูลเมลอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือเปล่า?”
นิโคลัสรู้สึกได้ถึงความโกรธของเทียนและตอบกลับมาด้วยความกังวล ” ผมได้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้วครับและมันเกี่ยวข้องกับตระกูลเมล”
เทียนมองมาที่เขาและพูดด้วยน้ําเสียงที่เย็นชาว่า “ไม่ได้ขอให้ผู้อาวุโสฟูรินช่วยเหลือเรื่องนี้หรอ?”
นิโคลัสรู้สึกว่าเหงื่อของตนเองกําลังไหลออกมาทั่วร่างกายและตอบกลับมาว่า ”นายท่านครับ ผมได้ร้องขอเรื่องนี้ไปแล้วครับแต่ในตอนนั้นผู้อาวุโสฟูรินกําลังป่วยและปฏิเสธไม่ให้ผมเข้าพบ ผมไม่รู้…”
สีหน้าของเทียนเต็มไปด้วยความผิดหวังและรีบถามออกมาว่า ”ป่วยจริงๆหรือว่าแค่เสแสร้ง?”
นิโคลัสก็รีบตอบกลับมาว่า “ดูเหมือนว่าจะป่วยจริงๆครับ หลังจากนั้นผมได้ไปตรวจสอบกับหมอที่เป็นผู้รักษาผู้อาวุโสฟูริน หมอคนนั้นบอกว่าผู้อาวุโสฟูรินเป็นโรคชนิดหนึ่งและกําลังจะตายในอีกไม่นานนี้”
สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของเทียนหายไปทันที เขาพยักหน้าเบาๆและเงียบอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดออกมาว่า “เรื่องนี้นายถือว่ามีความผิด”
นิโคลัสรีบคุกเข่าลงทันที “โปรดลงโทษผมมาได้เลยครับ!”
“ฉันจะมอบโอกาสให้นายไปทําภารกิจอีกครั้งเพื่อทดแทนความผิดของตนเอง” เทียนพูดออกมาอย่างเฉยเมย “ที่ดินที่ถูกขายไปนั้นยังมีต้นไม้ที่ฉันให้นายปลูกอยู่หรือเปล่า?”
“ยังอยู่ครับ” นิโคลัสรีบตอบกลับมา ”ตระกูลเมลไม่รู้ว่าพวกเรากําลังทําอะไรแค่รู้ว่าเรากําลังปลูกต้นไม้จํานวนมากเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่ได้ทําลายต้นไม้เหล่านั้นครับ แต่ต้นไม้ที่ปลูกไว้ก็ถูกทิ้งเอาไว้และไม่มีใครเข้าไปดูแลครับ”
“ก็ยังดี” เทียนรู้สึกโล่งใจและพูดต่อไปว่า “ถ้าเป็นแบบนั้นนายก็ไปเอามันกลับมาซะ”
“ตอนนี้เลยหรอครับ?” นิโคลัสรู้สึกตกตะลึง
เทียนจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาและพูดออกมาว่า “มีปัญหาอะไร?”